ถึง เด็กจบใหม่ Creative, Designer, ไฟลุกโชติโชน กับ มุมมองการทำงานที่อยากให้อ่าน

HELOO CIAOOOO !! อยากมาเเชร์และอยากมาเม้า ให้เป็นสาระหน่อยๆ หวังว่ากระทู้นี้จะเป็นอีกมุมมองนึง หรือเป็นอีกความเห็นนึงที่อยากจะแชร์นะคะ
ผิดพลาดประการใดขออภัยด้วยนะคะ ยิ้ม


ว่ากันว่าเรื่องของไฟแรง Creative  มุ่งมั่น และต้องการโชว์ของ!
แหมมมม  จบดีไซน์มาทั้งที เรียนมาเหนื่อยก็เหนื่อย แพงก็แพง ก็อยากโชว์ปะคะ???
แต่ Wake Up ค่ะ  ! จบจาก มหาวิทยาลัยแล้ว คุณครูคนใหม่ในสนามรบจริง ก็คือ ลูกค้ากับเจ้านายนี่แหละค่ะ ยิ้ม

ต้องบอกก่อนเลยว่าสมัยนี้เป็นอีก Generation นึงที่เด็กไทย คนไทยยุคนี้ จบด้านดีไซน์ Creative ต่าง ๆ นาๆ ออกมากันเกลื่อนเมืองจนแถบจะเรียกได้ว่า ล้นยิ่งกว่าลำไยที่ทะลักมาจากสวน ยังไม่นับ ที่จบมาจากเมืองนอกเมืองนามาเป็นอีกกระบุง คนอยากเป็นเจ้านายตัวเอง หรือมีธุรกิจของตัวเองก็มากมาย
แต่ก็นะ ประสบการณ์ก็ต้องมี เพราะฉะนั้น การทำงานในบริษัทเล็กใหญ่จึงเป็นเรื่องที่ต้องพิจารณาก่อนที่จะกระโจนควักตังของตัวเอง...

และก็ต้องยอมรับเลยค่ะว่า QUALITY มัก สำคัญกว่า QUANTITY  
จบมาเยอะจริง ก็หวานตลาดค่ะ เพราะ ว่ามีตัวเลือกให้เยอะเชียวแหละ พอถึงจุดนี้แล้ว พรสวรรค์หายไปก่อน เพราะพรแสวง จะ Restart ทุกสิ่งให้ว่างเปล่า

นี่ยังไม่รวมอีกว่า  คนที่เพิ่งจบใหม่Position ของตัวเองก็ยังไม่เคลียร์ไปอีกว่า เอ๊ะ สรุปคือ ชั้นคือ Artist หรือ Designer หรือกูเป็น Creative วะ หรือยังไง คืองงไปหมด  แต่เอาล่ะ ประเด็นของการเข้าไปเป็นตัวเลือกที่ดีของตลาดไอเดีย คือ จุดประสงค์ของการทำงานมากกว่าค่ะ
ว่าทำอะไร  ทำเพื่อใคร และ ทำไปทำไม! และ นั้นแหละค่ะ เป็นที่มาของการพิจารณาเงินเดือน หรือ ค่าตอบแทน ที่ใครๆก็ต่างมองว่า หูยยย น้อยมาก สำหรับการเริ่มต้น !

เอาหล่ะ กระทู้นี้ ดิชั้นอยากจะมายกตัวอย่างกันให้เข้าใจ เห็นภาพกันชัดๆ ว่า ทำไมคนที่เป็น Creative ใน เลเวลเริ่มต้นแบบยังไม่เปลี่ยนอาชีพ จาก นักเวทย์ เป็น จอมยุทธ์เวทย์ ยังคงหางานยาก ! เงินน้อย หรือได้รับเศษการ APPRECIATE ที่ด้อยราคากว่าในสายอาชีพ อื่นๆ ผ่านบทสนทนาที่เกิดขึ้นบนรถระหว่างทางกลับออฟฟิศ ใช่ค่ะ ออฟฟิศสุดที่รักของเราที่หลายคนคุ้นเคย.

เจ้ต้อง    : เมิงงงง คือชั้นไปนั่ง-เหล้ากับแก๊ง PR ที่เคยทำงานให้เราเว่ย คือแมร่งก็แบบเอาจริงๆมีปัญหาทุกที่ทำงานแหละ
              ซึ่งงงง ออฟฟิศนางก็มี ปัญหา...
ดิชั้น       : ปัญหาไรวะEเจ้ คือ ออฟฟิศนางคน คือ น้อยมากนะคะ พอดีทีมตะกร้อเว่อ..
เจ้ต้อง    : Eน้องเด็กใหม่แก ฮ่าๆ คือนางแบบค่อนข้างอีโก้ ไฟแรง แต่แมร่งไม่รู้ตัวเองว่ะ
ดิชั้น            : ยังไงวะ
เจ้ต้อง    :คือนางเสนอโปรเจคให้ลูกค้าไม่ตรงเลยเว่ยยยยยย แต่งานที่นางคิดคือดีมากเลยนะ เป็นโปรเจคการ PR ที่สวยและแบบหาที่ติไม่ได้ แม้
                  กระทั่งลูกค้าคือยังอึ้งเลย
ดิชั้น            : แล้วที่ไม่ผ่านคือ E ลูกค้าเรื่องมาก?
เจ้ต้อง    : เปล่าค่ะ ลูกค้ามีงบ ล้านนึง นางคิดโปรเจค 10 ล้าน ถึงสิ้นปี 2019 E-DOK ซึ่งแบบถ้าลูกค้าทำตามที่นางบอกก็โอเคนะ ก็อาจจะดี แต่
                  วัดผลไม่ได้ แต่ท้ายที่สุดคือ ไม่ใช่แค่เรื่อง งบไง เกทปะ คือมันทั้ง Positioning หรือแม้แต่คอนเซป นางก็คิดต่อ คิดเติม ไง.
ดิชั้น       :E-DOkk kk  งั้นนางก็แค่อยากโชว์ของ หนูว่า ว่าแบบเออ ชั้นมีPotential นั้นโน้นนี่.... นางเพิ่งจบปะ?
เจ้ต้อง    : เออ E DOk 555
ดิชั้น       : ว่าละ  ไฟแรงจัดไง อยากโชว์ ความสามารถสุดๆ แต่ลืมนึกถึง Reality และ Objective ของงานว่ะ
              ต้องใช้เวลา ของแบบนี้...แล้วE หัวหน้าคือไม่สแนก่อนเสนอลูกค้าหรอวะ
เจ้ต้อง    : คือด้วยว่าคนมันน้อยไง แล้วทุกคนยุ่ง คือการที่หล่อนโฆษณาว่าหล่อนคือมืออาชีพ ทำโน้นนี่นั้นได้ ขายตัวเองให้ชาวบ้านไว้ใจ E Do k เค้า
                  ก็ต้องคาดหวังว่า งานมันเป็นไปตามที่เค้าต้องการตามที่เคยมุ้งมิ้งกันปะเมิง.
ดิชั้น            : พยักหน้างึกๆ
เจ้ต้อง    : คราวนี้พวกนางเลยเอาน้องใหม่มานั่งประกบตัวต่อตัวเลยจ่ะ เดี๋ยวนางหลงไฟอีก

จากเรื่องนี้
เอาจริงๆดิชั้นผ่านจุดนั้นมาก่อนค่ะ เราอยากโชว์แหละ ว่าเราสามารถทำอะไรได้บ้างให้เจ้านายหรือลูกค้าเห็น แต่สุดท้ายแล้วมันคือธุรกิจค่ะ
ที่เราดีไซน์เนอร์ ครีเอทีฟต้องทำความเข้าใจและมองมันในมุมที่กว้างๆ ว่าเมิ๊งงงงง.
ทำอะไร
เพื่อใคร
อีกทีคือ ทำไปทำไม!!!!!


เราเสมือนกับมือปืนรับจ้างค่ะ ที่ทุกนักลงทุนต้องการ !!! ไม่งั้นมันไม่มีการเรียนการสอนกันอย่างบ้าคลั่งเเละเป็นทางการหรอกค่ะ
ซึ่งในมุมมองของนักธุรกิจ เค้าไม่ได้มองแค่ว่ามันสวยหรือไม่ เค้ามองว่ามันตรงกับคนที่เค้ากำลังจะขายของด้วยหรือเปล่าต่างหาก

ทริค ง่ายๆค่ะ ศึกษา คนที่เราคุยด้วยเยอะๆค่ะ ว่าเค้าต้องการจะขายใคร แล้วไป ศึกษาคนกลุ่มที่เค้าจะไปขาย ให้อย่างลึกซึ้ง เท่าที่จะทำได้ค่ะ แล้วที่สำคัญ ของแบบนี้อย่าไฟลุกใจร้อนเป็นเด็ดขาด ต้องถาม ต้องให้คนโน้นดู คนนี้อ่าน พูดกับตัวเอง หรือ ฝึกพูดกับเพื่อนๆ หรือ เจ้านายก็ได้ เป็นการแชร์ เราจะได้มุมมองใหม่ๆ แล้วสุดท้ายเราจะได้ยินเสียงตัวเองที่มันตะโกน พร้อมตบบ้องหูว่า " E-DOK มันไม่ MAKE SENSE!!!!!!!!!!!!!!"
แล้วสุดท้ายเราจะยอมลดอีโก้เราลง และค่อยๆคิดทบทวนพร้อมแก้ไขไปใหม่ แล้วงานเราจะนิ่ง ไม่เผาไหม้เป็นไฟ แล้วน้องๆจะได้ถูกเพิ่งเล็งพิจารณาให้ได้ค่าตอบแทนที่ดีขึ้น ยกเว้นแต่ เจ้านายหล่อนไม่เกทค่ะ 😊

เอาใหม่ !  มองทุกอย่างจากมุมกว้าง  // แล้วค่อยๆ มาจัดงานย่อยๆ ในรายละเอียดนะคะ  ที่สำคัญ รำลึกไว้เสมอค่ะ ว่าธุรกิจคือธุรกิจค่ะ เราต้องทำไปตาม Flow ที่เค้าวางไว้ หลังจากนั้น ความสวยงามที่ตามมา มันจะเป็นอะไรที่ลงตัวในแบบเฉพาะของมันเอง  ตรสบใจ ที่ชื่อบริษัทยังไม่ใช่ชื่อคุณน่ะ  อย่าไปปล่อยของเยอะค่ะ   เดี๋ยวเค้าก็บอกให้แม่บ้านมากวาดทิ้ง


รักนะคะ <3
อยากให้ความคิดสร้างสรรค์อยู่ในที่ๆถูกและควร


เอาไว้มาเเชร์อีกหลายๆเรื่องนะจ๊ะ ยิ้ม

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่