ตอนแรกทำสัญญาจ้างทำผ้าม่าน ผู้รับทำก็สัญญาว่าจะมาทำให้ ในราคา 3หมื่นบาทโดยไม่ลงรายละเอียดงาน เพียงแต่ขอเงินมัดจำและทำเอกสารว่าได้ตกลงผ้าม่านกันในราคา3หมื่น แต่ขอมัดจำเงิน 5พันบาท โดยให้เหตุผลว่าจะเอาไปซื้อรางแล้วนำมาติดให้ในวันต่อมา แต่ทางผู้ว่าจ้างว่ามันเยอะเกินไป เลยขอมัดจำแค่ 2500บาท พอเวลาผ่านไป1วัน ทางผู้ว่าจ้างสอบถามไปว่าจะเข้ามาติดรางเมื่อไหร่ ผู้รับจ้างบอกว่าขอเงินอีก 2500บาท เพราะได้เอาเงิน 2500แรกไปมัดจำผ้า แล้ว จะต้องใช้เงินอีก 2500 ผู้ว่าจ้างเห็นว่าไม่ตรงกับที่แจ้งไว้ เลยไม่ให้เงินในส่วนที่เหลือ โดยตกลงกันว่าให้มาติดรางให้เสร็จก่อนจะให้เงินมัดจำในส่วนที่เหลือ ผ่านไป เกือบ1อาทิตย์ ผู้รับจ้างถึงจะเข้ามาติดตั้งรางให้ ก็มีการชำระเงินกันจนครบ5พัน และได้ตกลงกันว่า ถ้าสถานที่พร้อมจะต้องมาติดให้ภายใน7วัน เมื่อเวลาผ่านไป 15วัน ทางผู้ว่าจ้าง ได้แจ้งให้เข้ามาติดตั้งตามตกลง ผู้รับจ้างก็ขอเลื่อนไปอีก 15วัน (เลยจากเวลาที่ตกลงไป 8วัน) ในวันที่ 13 ผู้ว่าจ้าง ได้โทรไปเช็คว่ารูปแบบการเย็บผ้าม่านไปตามที่ตกลงกันมั้ย ผู้รับจ้างเข้าใจผิดกัน แจ้งว่าได้จัดทำอีกแบบนึง ถ้าจะเอาแบบที่ผู้ว่าจ้างต้องการ ต้องเพิ่มเงินอีก 2หมื่นบาท ทางผู้ว่าจ้างก็ตกลง แต่ผู้รับจ้างก็ได้เรียกร้องให้โอนเงินไปก่อน 5พันบาท เพื่อเป็นการแก้ไขงานแรก ทั้งที่ผู้ว่าจ้างได้ตรวจสอบกับร้านอื่นแล้วว่า ราคาในการทำของแบบแรกกับแบบที่ตกลงกันใหม่ ราคามันเท่ากันไม่ต่างกัน ผู้ว่าจ้างรู้ดังนั้น ก็ได้ให้ผู้รับจ้างได้ให้สัญญาว่าจะต้องมาติดตั้งให้แล้วเสร็จภายใน20วันจากวันที่ตกลงกันครั้งที่2 (จำนวนวันผู้รับจ้างเป็นคนกำหนดขึ้นก่อน) เมื่อใกล้ถึงเวลาดังกล่าว ผู้รับจ้างได้โทรมาแจ้งว่าขอเลื่อนไปอีก15วัน โดยให้เหตุผลว่าผ้าหมดสต็อคต้องรอ  เมื่อเวลาผ่านไป14วันก่อนถึงเวลาที่ขอพลัดผ่อน1วัน ผู้ว่าจ้างได้โทรไปถามว่าพรุ่งนี้พร้อมติดตั้งมั้ย ผู้รับจ้างแจ้งว่าพร้อมติดตั้งอุปกรณ์พร้อม พอวันต่อมาถึงวันที่กำหนด ทางผู้รับจ้างได้แจ้งว่าขอเลื่อนเนื่องจากรางที่สั่งไปใหม่ยังไม่มาและขอไม่กำหนดเวลาส่งงาน และเร่งทำงานกับแฟน2คนจะทำให้อย่างสวยงานและได้มาตรฐาน ทางผู้ว่าจ้างก็รออีก7วัน จึงทวงถามไปใหม่ ผู้รับจ้างก็ได้ขอเวลาอีก 7วัน เมื่อผ่านไป6วัน ผู้ว่าจ้างได้โทรไปถามเหมือนเดิมว่าพร้อมติดตั้งมั้ย ผู้รับจ้างก็แจ้งว่าพร้อมติดตั้ง บอกว่าทุกอย่างทำเสร็จเรียบร้อยแล้ว วันรุ่งขึ้นครบกำหนดส่งงาน ผู้รับจ้างก็ไม่เข้ามาทำงาน โดยให้เหตุผลว่าไม่มีคนงาน แต่ผู้ว่าจ้างไม่ไหวจะรอแล้วเลยตัดสินใจแจ้งความ แฟนของผู้รับจ้างก็ได้บอกว่า จริงๆ ยังไม่ได้ทำงานให้เลย เพราะไม่รู้เรื่อง รู้แต่ว่าได้รับเงินมา 2500 บาท ผู้รับจ้างบอกกับผู้ว่าจ้างว่า ที่ไม่ได้ทำให้ เพราะยังติดเงินบริษัทผ้าที่ทางผู้ว่าจ้างแจ้งเปลี่ยนงานใหม่ เลยไม่มีเงินไปจ่าย แต่ทางผู้ว่าจ้างได้ทวงทามไปถึงงานอื่นที่ไม่มีการแก้ไขงาน กลับบอกว่าได้งานอื่นไปขายหมดแล้ว เพราะคิดว่าผู้ว่าจ้างจะยกเลิกสัญญา ผู้ว่าจ้างเลยสันนิษฐานได้ว่าผู้รับจ้างไม่ได้ทำงานให้ตั้งแต่แรก แต่ยังหลอกเอาเงินอีก 5พันว่าเป็นการแก้ไขงาน
แบบนี้เป็นคดีอาญาได้มั้ยคับ