ลุยเดี่ยว ปีนดอย Semeru เขาพระสุเมรุ แห่ง เกาะชวา เดือน สิงหาคม

วันที่ 1  -
1.1 เริ่มต้นที่ตัวเมือง  Malang  รร Griyo Sultan Agung หน้าสถานีรถไฟ  ตอนเช้า ๆ(ย้ำ) ให้เจ้าของ รร เรียก Grab Taxi ไปส่งที่ ท่าคิวรถ Tumpang-ตุมปัง ระยะทางประมาณ 13 กม.

1.2 ต่อแชร์รถ Jeep ไปหมู่บ้าน Ranu-Pani  -- รานูปานี  ค่าแชร์รถ Jeep จ่ายไป 100K Rp./คน หรือแล้วแต่ต่อรอง ขึ้นดอยอีก 30 กว่ากม

1.3 ถึงหมู่บ้าน Ranu Pani ตอนเที่ยง-บ่าย  คืนนี้ พักที่ Pak Tasrip Homestay  ชอบมาก ๆ  เจ้าของน้ำใจดี สื่อสารอังกฤษได้ ราคา 120K  ไม่หรู อยู่สบาย มีน้ำอุ่น พร้อมอาหารเช้า-ข้าวผัดไข่เจียวอร่อย   ที่นี่เป็นร้านขายของชำ สามารถซื้อน้ำ,เสบียงอาหารตุนได้  มี Tent  ถุงนอน ไม้เท้า ให้เช่า ราคาไม่แพง  รองเท้า Trekkking มีจำหน่าย  จะสั่งอาหารกินก้อสั่งที่นี่ได้เลย

1.4 เตรียมกระเป๋าเป้ ข้าวของ เครื่องใช้ สำหรับ Trekking 2 วัน 1 คืน  
***  ไฟฉาย ต้องเอาแบบที่คาดหัว  , ไม้เท้า ต้องใช้ 2 อัน(อันเดียวไม่พอ) , ที่ปิดปากกันฝุ่น , แว่นตากันฝุ่น รองเท้าบู้ท Trekking, ผ้าหุ้มข้อกันหินทรายฝุ่นเข้ารองเท้า

วันที่ 2 -

2.1  8 โมงเช้า เดินแบกเป้ 1/2 กม. ไปลงทะเบียนที่ Office  พร้อมจ่ายค่าเข้า 2 วัน ราคา 420K (ประมาณ1พันบาท (2*210K/วัน)) ถ้าไม่อยากแบกเป้เอง ค่าลูกหาบ Porter 500K/คน/ทริป2วัน(1,100 บาท)

2.2  8:30-9:00  เริ่ม Trekking การเดินวันนี้ จะมี 2 ช่วง คือ....
2.2.1 ช่วงแรก จากหมู่บ้าน Ranu-pani ==> ทะเลสาบ Ranu Kumbolo  ระยะทาง 10 กม. ใช้เวลาประมาณ 3.5 - 4 ชม
2.2.2 ช่วงที่ 2 จากทะเลสาบ Ranu Kumbolo ==> Kalimati Base camp ระยะทาง 5 กม. ใช้เวลาประมาณ 3 - 3.5 ชม.

สภาพทาง ค่อนข้างดี  ไม่ชันมาก เดิน Trekking สบาย ๆ  
คิดง่าย  ระดับความสูงASL ที่ ranu pani 2100 M  , ที่ Kalimati 2700 M
ความสูงต่างกัน 600 เมตร กับระยะทาง 15 กม ถือว่าไม่ชัน  
แต่แดดค่อนข้างแรง  ควรมีผ้าคลุม, ใส่หมวก กันแดด
ตลอดทางมีแตงโม 2 ชิ้น  เต้าหู้ทอด เทปเป้ทอด ขาย 2 ชิ้น 5000 Rp (12 บาท) กินแก้กระหาย แก้หิว นม มาม่า อื่น ๆ ก็มีแต่ราคาก็แพงหน่อย
***อย่าลืม จะกินอะไรก็พอควร  เพราะระหว่างทางไม่มีห้องน้ำ  มีที่เดียวที่ทะเลสาบ Ranu Kumbolo

2.3 บ่าย 4-5 โมงเย็น มาถึง  Kalimati Base camp ระดับความสุง 2700 เมตร เหนื่อยมาก เพลียแล้ว อากาศเย็น ค่อนข้างหนาว
ขี้เกียจเดินไป แหล่งน้ำ อีก 1  ชม ไปกลับ  เลยซื้อน้ำ 1 ขวดใหญ่-ราคา15K  ที่ร้านขาย ทำการล้างหน้า เช็ดตัวแขนขา พอแล้ว
เหงื่อออกมาทั้งวัน ไม่มีการอาบน้ำใด ๆ ทั้งนั้น   ห้องน้ำไม่มี  
ที่ Kalimati base camp มีนม ขนม มาม่าต้ม น้ำร้อน  ขาย  รีบซื้อกินให้เรียบร้อย เร็ว ๆ  
จากนั้นรีบกางเต็นท์  แล้วรีบซุกต้วเข้าถุงนอน นอนหลับตอน 5-6 โมงเย็นนั่นเลย
เพราะ 5 ทุ่ม กว่าคืนนี้  ต้องตื่นมาเพือเริ่ม  Trekkking + Climbing สุดโหดในช่วงสุดท้าย

วันที่ 3  เวลา 00:00 น  ตื่นขึ้นมา แยกของใส่ แบกเป้อันเล็ก  ของส่วนใหญ่ทิ้งไว้ที่เต็นท์
เอาเฉพาะของที่จำเป็น  อาหารแห้ง นม น้ำ  ไม้เท้า 2 อัน(ย้ำ)  ผ้าปิดปากกันฝุ่น
จากนี้ไป เราจะฝ่าความมืด มีการ trekking  ประมาณ 1.5 - 2 ชม  แล้วจะต่อด้วย Climbing  อีก 4 -5 ชม.
เพื่อไปถึง Summit

3.1 ช่วงแรก จะเป็นการ trekking 1-2 ชม.  ผ่านแนวป่า Step เกาะแนวต้นไม้ ขึ้นไปเรื่อย  ๆ เหนื่อยพอทน

3.2 ช่วงที่ 2 อันนี้เหนื่อยโหดของจริงครับ  ท่านผุู้ชม ใช้เวลา 4-5 ชม. ทางชัน 45 องศา โล่งงง... ไม่มีต้นไม้ให้เกาะเกี่ยวใด ๆ
พื้นเป็นกรวดละอียด ก้าวเดินไม่ติด 1 ก้าวที่เดิน ลื่นลง ครึ่งก้าว  ต่างคนต่างตะกายปีน  ฝุ่นคลุ้งไปหมด  
ดังนั้น  ***  ไฟฉาย ต้องเอาแบบที่คาดหัว  , ไม้เท้า ต้องใช้ 2 อัน(อันเดียวไม่พอ) , ที่ปิดปากกันฝุ่น , แว่นตากันฝุ่น
รองเท้าบู้ท Trekking, ผ้าหุ้มข้อกันหินทรายฝุ่นเข้ารองเท้า
ปีนไปเรื่อยชักหมดแรงหิว ใจหวิว จะเป็นลม  ต้องเอาเสบียง ขนม นม น้ำ  ออกมากินประทัง....

3.3  เวลา 07:00 น.   ถึง Summit  ครับท่าน   เหนื่อยมาก  พระอาทิตย์ ขึ้นไปเรียบร้อย  แต่ก็ยังสวยมาก ๆ แสงสีทอง  พาโนรามาวิว 360
เพราะเป็นยอดที่สูงที่สุด เขาพระสุเมรุพ่นควันออกมาเป็นระยะ ๆ 15-20 นาที สามารถมองเห็น โบรโม่ ที่ไปมาแล้วหลายครั้ง
ช่างงามประทับใจมาก  บรรยากาศได้แรงบันดาลใจ ได้ถ่ายรูปกับป้าย Summit เก่า ๆ ด้วยความอิ่มเอมใจ

**** ความจริง น่าจะไปถึงเร็วกว่านี้  แต่ที่ช้าเพราะ....  
- มีไม้เท้าอันเดียว จากที่ควรจะมี 2 อัน ไม่สามารถตะกาย Climbing เต็มที่ทำได้เพียง Trekking
- ไฟฉายเป็นแบบมือถือ น่าจะเป็นแบบที่คาดหัว เพื่อที่จะสามารถใช้ ไม้เท้าได้ 2 ข้าง
- รองเท้าวิ่ง ธรรมดา หัวแหลม  เกาะพื้นไม่ดี น่าจะเป็นบูทแบบ trekking และก้อนหินเข้าเท้าเดินไม่เต็มที่ ต้องหยุดถอดรองเท้าเป็นระยะ ๆ
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่