วันนี้พี่หมีพาน้องหมีมาเปิดโลกของซูชิ แบบ Premium กับการทานคอร์ส Omakase ครั้งแรกในชีวิต เราตัดสินใจเลือกร้าน Kanda ทองหล่อ ซ.5 เพราะสามารถเลือกทาน Omakase แบบ A La Carte ได้และเรามีเพื่อนร่วมทานกับเราอีก 2 คน คือพี่มะลิ กับ พี่หงวน ^^
สำหรับท่านที่ยังไม่เคยทางอาหารญี่ปุ่นแบบ โอมากาเสะ แนะนำให้จัดเป็นคอร์สที่ทางร้านเตรียมให้ก่อนนะ
(สำหรับท่านที่ไม่ทราบว่าการทานอาหารญี่ปุ่นแบบ Omakase เป็นอย่างไร พี่หมีขออธิบายสั้นๆตามความเข้าใจของพี่หมี การทานอาหารญี่ปุ่นแบบโอมากาเสะ คือ การที่เราไปทานอาหารที่เชฟได้เลือกมาแล้วว่าในแต่ละวัน วันนี้อาหารชนิดนี้ได้ มีวัตถุดิบแบบชั้นยอดเยี่ยมพร้อมที่จะปรุงสดๆให้ทานได้ ก็จะจัดเมนูให้ทางลูกค้า อาจจะมีซ้ำหรือไม่ซ้ำกันในแต่ละวัน บางชนิดจะมีเป็นฤดูการเท่านั้น สามารถบอกได้ว่าทานอะไรไม่ทานอะไร แพ้อะไร เชฟจะเลี่ยงอาหารเหล่านั้น เชฟที่ปั่นข้าวให้ทานจะเป็นหัวหน้าเชฟที่มีประสบการณ์สูง และเชฟจะมีการการเล่าเรื่องราวของอาหารที่ทานไปด้วยจะเพิ่มอรรถรสอีกมาก )
เราได้โทรจองกับทางร้านไว้ 1 ทุ่ม (ก่อนจะไปทาน อย่าลืมโทรไปจองล่วงหน้าก่อนนะค่ะ เดี๋ยวจะไม่ได้ทาน) ^^ บอกเลยว่า ไปถึงร้านเค้าจะมีทั้งหมด 3 ร้านนะค่ะ ร้านที่เราจะทานอยู่ชั้น 2 นะ เดินขึ้นไปเลยจร้า
หน้าร้านก็จะเป็นประมานนี้……
เข้าไปก็เลือกที่นั่งเลยจร้า นั่งบาร์แบบใกล้ชิดเชฟสุดๆๆ แต่ไม่ต้องกลัวนะว่าจะคุยกับเชฟไม่รู้ เค้ามีเชฟคนไทยคอยแปล คอยบอกเราว่าต้องทำยังไงบ้าง ^^ อันนี้จะเพิ่มรสชาติอาหารขึ้นอีกมากเมื่อได้ทราบว่าเรากำลังทานอะไร และอาหารชนิดนี้พิเศษอย่างไร
เริ่มที่คำแรกกันก่อนเลย Chutoro น้อยหมีปกติไม่ทานปลาแดง ถึงกับบอกว่าอร่อยย ส่วนพี่หมีเคยทานมาหลายร้าน แต่บอกเลยว่าเป็นคำแรกที่ประทับใจและชอบมากๆ
คำที่ 2 ปลาขาวไม่รู้อะไร อร่อยดี ใครทราบบอกที
คำที่ 3 ถามแล้วจำไมไ่ด้ อร่อยดี ใครทราบบอกที
คำที่ 4 กุ้ง อร่อยหวานมาก เนื้อนุ่มหนึบ
คำนี้เป็นเอ็นปลาทูน่า (เชฟ แถม) เซฟบอกว่าสินสดไม่ได้เหนียว แต่เชฟเอาไปย่างไฟนิดหน่อย หนึบ นุ่มๆ อร่อยเลย
คำที่ 5 ไข่หอยเม่นหนามยาวปั่นวางบนข้าวด้วย (อันนี้ปั้นยาก แถมข้าวร้อนด้วย) สดมาก หวาน มัน ไม่มีกลิ่นคาวเลย เคยกินสดๆ แต่หลายที่ ทำคาวมากๆ
คำที่ 6 ปลาคอดำ Nodoguro รู้สึกว่าเนื้อปลาเผ็ดๆ
คำที่ 7 ข้าวไข่ปลาสด ใส่ผิวส้มโซยุ ราดซอยหน่อย กลบกลิ่นคาว ไข่ปลาหวานมัน พี่หมีก็ว่าอร่อยดี แต่น้องหมีบอกไม่ชอบเท่าไหร่
คำที่ 8 ปลาหางเหลืองตัวเล็ก แบบเดียวกับฮามาจิ แต่หายากกว่า เนื้อจะแน่นๆ กว่า อร่อยมาก ชื่อ ชิมะฮาจิ ( CR. หงวน)
คำที่ 9 ปลากะพง เนื้อแน่นอร่อยดี กลิ่นส้มกลบกลินคาวหมด
อธิบาย เทคนิคโดย หงวน : เชฟใช้เทคนิค เอาวาซิบิป้ายไว้บนข้าว+เอาเกลือกดไว้นิดหน่อย ก่อนจะปั้น เพื่อให้ลดกลิ่นของปลากะพง ส่วนเกลือนี่จะทำให้เรารับรู้รสของผิวส้มได้มากขึ้น จะได้สดชื้นเวลากิน(แบบเดียวกับที่คนไทนเอามะเขือเทศลูกเล็กๆจิ้มเกลือก่อนกินมะเขือเทศจะหนาวมากขึ้นไม่ใช่เพราะเกลือทำให้หวานแต่เป็นเพราะเกลือไปเปิดทางประสาทรับรสที่ลิ้นของเรา) เป็นเทคนิคที่ฉลาดมาก
คำที่ 10 คำนี้หอยสดมาก ยังไม่ตายเลย จำไม่ได้ว่าหอยอะไร แต่เชฟบอก ต้องกินตอนยังไม่ตาย ถ้าตายแล้วไม่หวาน ทานไม่ได้ พอทานไป รู้สึกถึง กล้ามเนื้อเลยว่า เวลาสิ่งมีชิตยังไม่ตายแล้วกล้ามเนื้อยังทำงานอยู่มันเป็นอย่างไร กรึ๊บกรุ๊บๆ อร่อยมาก แต่โหดไปหน่อย
คำที่ 11 ไม่แน่ใจว่าปลาอะไร หอมหนังที่ย่างมา อร่อยดี
และคำสุดท้าย เราสั่งเป็น ไข่หอยเม่นชนิดพิเศษแบบหนามสั้น อาศัยอยู่แถบ ฮอกไกโด บอกเลยคำนี้เจ็บมาก
คำละ 1,200.-
ที่เรากินไปเป็นไข่หอยเม่นแบบหนามยาวคำที่ 5 จะอยู่ทาง ซ้าย กล่องที่ถูกใช้ไปบ้างแล้ว ส่วนคำที่สุดท้ายที่เรากินคือ ไข่หอยเม่นชนิดพิเศษแบบหนามสั้น กล่องทางขวามือ ยังไม่ถูกนำมาปรุงเลย จากความเห็น 4 คนที่ไปด้วยกัน พี่หมีชอบ แบบหนามยาวธรรมดา จะหวานน้อยหว่า แต่น้องหมี สงวน และมะลิ ชอบแบบพิเศษ เพราะหวานและมันส์กว่าจ้า
ครบและ มาดูค่าเสียหายกันดีกว่าของรอบนี้
สรุป คอร์สที่เราเลือกทาน เป็นคอร์สราคา 3,700 ++ ต่อคน + สั่งเพิ่มไข่หอยเม่น 2 คำ
ความคิดเห็นของน้องหมี : สำหรับน้องหมี ใครยังไม่เคยลอง ต้องมาลองสักครั้งนะในชีวิต แต่ร้านไหนก็ได้เราที่เพื่อนสนใจ แต่ถ้าคิดไม่ออก เราแนะนำร้านนี้เชฟใจดี และที่สำคัญ สามารถเลือกทานแบบเป็นคำๆได้ด้วยนะ (น้องหมีได้ยินว่า ร้านแบบ Omakase ส่วนใหญ่จะไม่ค่อยให้ทานเป็นคำๆ)
ความคิดเห็นของพี่หมี : สำหรับพี่หมี ต้องบอกว่าถ้าพูดถึงราคาก่อนเราจะว่าสูง พี่หมีก็คิดว่าราคาสูงเพราะเราสามารถหาซูชิทานจนอิ่มได้ในราคาที่ถูกกว่านี้มาก แต่พี่ก็ตัดสินใจว่าจะลองสักครั้งหนึ่งเพราะพี่หมีเป็นคนที่ไม่ได้ชอบทานอาหารญี่ปุ่นเป็นพิเศษ แต่เพื่อให้แน่ใจว่าเราอาจจะไม่ได้ชอบอาหารญี่ปุ่นหรือปลาดิบแล้วจริงๆ แม้ก่อนหน้านี้เราจะไปกินอาหารญี่ปุ่นแบบบุฟเฟ่หัวละหลักพันกันหลายครั้ง และพี่หมีก็ไม่คาดหวังว่าคุณภาพอาหารของร้าน โอมากาเสะ จะแตกต่างกันมากนักกับร้านบุฟเฟ่ที่ราคาหลักพัน แต่ผลปรากฎว่าหลังจากที่ได้ทดลองทานอาหารญี่ปุ่นที่ร้านนี้แล้วทำให้พี่หมีได้เข้าใจคำว่า อาหารญี่ปุ่นคุณภาพชั้นเลิศ เป็นอย่างไร และอาหารญี่ปุ่น อร่อยมากครับ
ความพิเศษของร้าน Kanda โดยคุณสงวนเพื่อนพี่หมี :
1. . ร้านนี้มีความพิเศษที่ข้าวนั้นเป็นพันธ์พิเศษที่ พรีเมี่ยมมากๆ ในญี่ปุ่น ข้าว พันธ์ โคชิฮิคาริ (Koshihikari) ข้าวพันธุ์นี้ถูกเปรียบว่าเป็นมงกุฎเพชรพลอยของข้าวเมล็ดสั้น ข้าวมีรสออกหวาน กลิ่นหอมคล้ายถั่วและมีความเหนียวเล็กน้อย โดยส่วนใหญ่แล้วมักนิยมทำเป็นข้าวสำหรับทำซูชิ แหล่งที่ปลูกข้าวพันธุ์นี้ได้อร่อยที่สุดคือที่ เมือง Uonuma จังหวัด Niigata
(ข้อมูลจาก anngle.org )
2. น้ำส้มสายชูที่ใช้ก็ไม่ใช่ของธรรมดา หมักด้วยวิธีธรรมชาติ มา 5 ปี ก่อนจะเอามากรองกาก แล้วก็กลั่นด้วยวิธีโบราณ(ใช้เตาถ่านกับก้อนหิน) เทุกขั้นตอนทำที่ญี่ปุ่นแล้วก็เอาใส่ขวดส่งมาพร้อม ปลาสดๆ
3. ปลาที่นี่ก็เข้ามาอาทิตย์ละ 3 วัน เป็นการส่งแบบ direct ไม่ได้ผ่านตัวแทน เมื่อก่อนเชฟแกต้องบินไป เดือนละหนเพื่อไปสร้างสัมพันธ์กับแพปลาที่คัดของให้แกอีกทีนึง วัตถุดิบเลยคุณภาพดีและสดมาก
4. ข้าวร้านนี้ปั้นทั้งที่ข้าวยังอุ่นๆ ซึ้งปั้นยากกว่าข้าวที่เย็นมาก
5. ฝีมือการปั่นของเซฟ สามารถปั้นไข่หอยเม่นโดยไม่ต้องใช้สาหร่ายมาช่วยในการห่อ ซึ้งต้องใช้ประสบการณ์สูงมาก
จบแล้วจ้า ขอบคุณมากที่ติดตามอ่าน
bearspacker.com/2018/08/18/omakase-sushi-kanda-once-in-life-time/
www.facebook.com/bearspackerbywebear
[CR] OMAKASE ครั้งหนึ่งในชีวิต กับร้าน KANDA ในราคาที่จับต้องได้ 3,700.-/คน by Bearspacker
สำหรับท่านที่ยังไม่เคยทางอาหารญี่ปุ่นแบบ โอมากาเสะ แนะนำให้จัดเป็นคอร์สที่ทางร้านเตรียมให้ก่อนนะ
(สำหรับท่านที่ไม่ทราบว่าการทานอาหารญี่ปุ่นแบบ Omakase เป็นอย่างไร พี่หมีขออธิบายสั้นๆตามความเข้าใจของพี่หมี การทานอาหารญี่ปุ่นแบบโอมากาเสะ คือ การที่เราไปทานอาหารที่เชฟได้เลือกมาแล้วว่าในแต่ละวัน วันนี้อาหารชนิดนี้ได้ มีวัตถุดิบแบบชั้นยอดเยี่ยมพร้อมที่จะปรุงสดๆให้ทานได้ ก็จะจัดเมนูให้ทางลูกค้า อาจจะมีซ้ำหรือไม่ซ้ำกันในแต่ละวัน บางชนิดจะมีเป็นฤดูการเท่านั้น สามารถบอกได้ว่าทานอะไรไม่ทานอะไร แพ้อะไร เชฟจะเลี่ยงอาหารเหล่านั้น เชฟที่ปั่นข้าวให้ทานจะเป็นหัวหน้าเชฟที่มีประสบการณ์สูง และเชฟจะมีการการเล่าเรื่องราวของอาหารที่ทานไปด้วยจะเพิ่มอรรถรสอีกมาก )
เราได้โทรจองกับทางร้านไว้ 1 ทุ่ม (ก่อนจะไปทาน อย่าลืมโทรไปจองล่วงหน้าก่อนนะค่ะ เดี๋ยวจะไม่ได้ทาน) ^^ บอกเลยว่า ไปถึงร้านเค้าจะมีทั้งหมด 3 ร้านนะค่ะ ร้านที่เราจะทานอยู่ชั้น 2 นะ เดินขึ้นไปเลยจร้า
หน้าร้านก็จะเป็นประมานนี้……
เข้าไปก็เลือกที่นั่งเลยจร้า นั่งบาร์แบบใกล้ชิดเชฟสุดๆๆ แต่ไม่ต้องกลัวนะว่าจะคุยกับเชฟไม่รู้ เค้ามีเชฟคนไทยคอยแปล คอยบอกเราว่าต้องทำยังไงบ้าง ^^ อันนี้จะเพิ่มรสชาติอาหารขึ้นอีกมากเมื่อได้ทราบว่าเรากำลังทานอะไร และอาหารชนิดนี้พิเศษอย่างไร
เริ่มที่คำแรกกันก่อนเลย Chutoro น้อยหมีปกติไม่ทานปลาแดง ถึงกับบอกว่าอร่อยย ส่วนพี่หมีเคยทานมาหลายร้าน แต่บอกเลยว่าเป็นคำแรกที่ประทับใจและชอบมากๆ
คำที่ 2 ปลาขาวไม่รู้อะไร อร่อยดี ใครทราบบอกที
คำที่ 3 ถามแล้วจำไมไ่ด้ อร่อยดี ใครทราบบอกที
คำที่ 4 กุ้ง อร่อยหวานมาก เนื้อนุ่มหนึบ
คำนี้เป็นเอ็นปลาทูน่า (เชฟ แถม) เซฟบอกว่าสินสดไม่ได้เหนียว แต่เชฟเอาไปย่างไฟนิดหน่อย หนึบ นุ่มๆ อร่อยเลย
คำที่ 5 ไข่หอยเม่นหนามยาวปั่นวางบนข้าวด้วย (อันนี้ปั้นยาก แถมข้าวร้อนด้วย) สดมาก หวาน มัน ไม่มีกลิ่นคาวเลย เคยกินสดๆ แต่หลายที่ ทำคาวมากๆ
คำที่ 6 ปลาคอดำ Nodoguro รู้สึกว่าเนื้อปลาเผ็ดๆ
คำที่ 7 ข้าวไข่ปลาสด ใส่ผิวส้มโซยุ ราดซอยหน่อย กลบกลิ่นคาว ไข่ปลาหวานมัน พี่หมีก็ว่าอร่อยดี แต่น้องหมีบอกไม่ชอบเท่าไหร่
คำที่ 8 ปลาหางเหลืองตัวเล็ก แบบเดียวกับฮามาจิ แต่หายากกว่า เนื้อจะแน่นๆ กว่า อร่อยมาก ชื่อ ชิมะฮาจิ ( CR. หงวน)
คำที่ 9 ปลากะพง เนื้อแน่นอร่อยดี กลิ่นส้มกลบกลินคาวหมด
อธิบาย เทคนิคโดย หงวน : เชฟใช้เทคนิค เอาวาซิบิป้ายไว้บนข้าว+เอาเกลือกดไว้นิดหน่อย ก่อนจะปั้น เพื่อให้ลดกลิ่นของปลากะพง ส่วนเกลือนี่จะทำให้เรารับรู้รสของผิวส้มได้มากขึ้น จะได้สดชื้นเวลากิน(แบบเดียวกับที่คนไทนเอามะเขือเทศลูกเล็กๆจิ้มเกลือก่อนกินมะเขือเทศจะหนาวมากขึ้นไม่ใช่เพราะเกลือทำให้หวานแต่เป็นเพราะเกลือไปเปิดทางประสาทรับรสที่ลิ้นของเรา) เป็นเทคนิคที่ฉลาดมาก
คำที่ 10 คำนี้หอยสดมาก ยังไม่ตายเลย จำไม่ได้ว่าหอยอะไร แต่เชฟบอก ต้องกินตอนยังไม่ตาย ถ้าตายแล้วไม่หวาน ทานไม่ได้ พอทานไป รู้สึกถึง กล้ามเนื้อเลยว่า เวลาสิ่งมีชิตยังไม่ตายแล้วกล้ามเนื้อยังทำงานอยู่มันเป็นอย่างไร กรึ๊บกรุ๊บๆ อร่อยมาก แต่โหดไปหน่อย
คำที่ 11 ไม่แน่ใจว่าปลาอะไร หอมหนังที่ย่างมา อร่อยดี
และคำสุดท้าย เราสั่งเป็น ไข่หอยเม่นชนิดพิเศษแบบหนามสั้น อาศัยอยู่แถบ ฮอกไกโด บอกเลยคำนี้เจ็บมาก
คำละ 1,200.-
ที่เรากินไปเป็นไข่หอยเม่นแบบหนามยาวคำที่ 5 จะอยู่ทาง ซ้าย กล่องที่ถูกใช้ไปบ้างแล้ว ส่วนคำที่สุดท้ายที่เรากินคือ ไข่หอยเม่นชนิดพิเศษแบบหนามสั้น กล่องทางขวามือ ยังไม่ถูกนำมาปรุงเลย จากความเห็น 4 คนที่ไปด้วยกัน พี่หมีชอบ แบบหนามยาวธรรมดา จะหวานน้อยหว่า แต่น้องหมี สงวน และมะลิ ชอบแบบพิเศษ เพราะหวานและมันส์กว่าจ้า
ครบและ มาดูค่าเสียหายกันดีกว่าของรอบนี้
สรุป คอร์สที่เราเลือกทาน เป็นคอร์สราคา 3,700 ++ ต่อคน + สั่งเพิ่มไข่หอยเม่น 2 คำ
ความคิดเห็นของน้องหมี : สำหรับน้องหมี ใครยังไม่เคยลอง ต้องมาลองสักครั้งนะในชีวิต แต่ร้านไหนก็ได้เราที่เพื่อนสนใจ แต่ถ้าคิดไม่ออก เราแนะนำร้านนี้เชฟใจดี และที่สำคัญ สามารถเลือกทานแบบเป็นคำๆได้ด้วยนะ (น้องหมีได้ยินว่า ร้านแบบ Omakase ส่วนใหญ่จะไม่ค่อยให้ทานเป็นคำๆ)
ความคิดเห็นของพี่หมี : สำหรับพี่หมี ต้องบอกว่าถ้าพูดถึงราคาก่อนเราจะว่าสูง พี่หมีก็คิดว่าราคาสูงเพราะเราสามารถหาซูชิทานจนอิ่มได้ในราคาที่ถูกกว่านี้มาก แต่พี่ก็ตัดสินใจว่าจะลองสักครั้งหนึ่งเพราะพี่หมีเป็นคนที่ไม่ได้ชอบทานอาหารญี่ปุ่นเป็นพิเศษ แต่เพื่อให้แน่ใจว่าเราอาจจะไม่ได้ชอบอาหารญี่ปุ่นหรือปลาดิบแล้วจริงๆ แม้ก่อนหน้านี้เราจะไปกินอาหารญี่ปุ่นแบบบุฟเฟ่หัวละหลักพันกันหลายครั้ง และพี่หมีก็ไม่คาดหวังว่าคุณภาพอาหารของร้าน โอมากาเสะ จะแตกต่างกันมากนักกับร้านบุฟเฟ่ที่ราคาหลักพัน แต่ผลปรากฎว่าหลังจากที่ได้ทดลองทานอาหารญี่ปุ่นที่ร้านนี้แล้วทำให้พี่หมีได้เข้าใจคำว่า อาหารญี่ปุ่นคุณภาพชั้นเลิศ เป็นอย่างไร และอาหารญี่ปุ่น อร่อยมากครับ
ความพิเศษของร้าน Kanda โดยคุณสงวนเพื่อนพี่หมี :
1. . ร้านนี้มีความพิเศษที่ข้าวนั้นเป็นพันธ์พิเศษที่ พรีเมี่ยมมากๆ ในญี่ปุ่น ข้าว พันธ์ โคชิฮิคาริ (Koshihikari) ข้าวพันธุ์นี้ถูกเปรียบว่าเป็นมงกุฎเพชรพลอยของข้าวเมล็ดสั้น ข้าวมีรสออกหวาน กลิ่นหอมคล้ายถั่วและมีความเหนียวเล็กน้อย โดยส่วนใหญ่แล้วมักนิยมทำเป็นข้าวสำหรับทำซูชิ แหล่งที่ปลูกข้าวพันธุ์นี้ได้อร่อยที่สุดคือที่ เมือง Uonuma จังหวัด Niigata
(ข้อมูลจาก anngle.org )
2. น้ำส้มสายชูที่ใช้ก็ไม่ใช่ของธรรมดา หมักด้วยวิธีธรรมชาติ มา 5 ปี ก่อนจะเอามากรองกาก แล้วก็กลั่นด้วยวิธีโบราณ(ใช้เตาถ่านกับก้อนหิน) เทุกขั้นตอนทำที่ญี่ปุ่นแล้วก็เอาใส่ขวดส่งมาพร้อม ปลาสดๆ
3. ปลาที่นี่ก็เข้ามาอาทิตย์ละ 3 วัน เป็นการส่งแบบ direct ไม่ได้ผ่านตัวแทน เมื่อก่อนเชฟแกต้องบินไป เดือนละหนเพื่อไปสร้างสัมพันธ์กับแพปลาที่คัดของให้แกอีกทีนึง วัตถุดิบเลยคุณภาพดีและสดมาก
4. ข้าวร้านนี้ปั้นทั้งที่ข้าวยังอุ่นๆ ซึ้งปั้นยากกว่าข้าวที่เย็นมาก
5. ฝีมือการปั่นของเซฟ สามารถปั้นไข่หอยเม่นโดยไม่ต้องใช้สาหร่ายมาช่วยในการห่อ ซึ้งต้องใช้ประสบการณ์สูงมาก
จบแล้วจ้า ขอบคุณมากที่ติดตามอ่าน
bearspacker.com/2018/08/18/omakase-sushi-kanda-once-in-life-time/
www.facebook.com/bearspackerbywebear
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น