ท่านคิดเห็นว่า 3 ประเด็นหลักๆที่กล่าวมาข้างต้นท่านอยากเห็นการปฏิรูปหน่วยงานหรือองค์กรใดเป็นสำคัญ
1. ปฏิรูปตุลาการ ท่านเห็นว่าควรปฏิรูปด้านใดมากที่สุด เช่นระบบการพิจารณาคดี ระบบการประเมินคุณภาพขององค์กรตุลาการ การใช้งบประมาณ ความไม่เป็นธรรมจากการตัดสินคดีความ รูปแบบในการต่อสู้คดีความบนชั้นศาลที่อาจนำมาสู่ประเด็นความขัดแย้งเช่นคนรวยมีโอกาสชนะคดีความมากกว่าคนจนเป็นต้น
2.ปฏิรูปอัยการ เช่นการส่งเสริมให้เกิดการมีบทบาทสำคัญในด้านต่างๆมากยิ่งขึ้น
และมีอำนาจทางกฎหมายในการป้องปรามการกระทำความผิดได้มากยิ่งขึ้น
เช่น การทำสัญญาไกล่เกลี่ยประนีประนอมบนชั้นอัยการควรจะมีผลบังคับใช้ตามกฎหมาย ในระดับหนึ่ง
และสามารถนำไปประกอบการพิจารณาคดีบนชั้นศาลในการกระทำความผิด หากไม่เป็นไปตามสัญญาไกล่เกลี่ยประนีประนอมบนชั้นอัยการได้จริง
สนับสนุนกิจการของอัยการในการพิทักษ์สิทธิเด็กคุ้มครองสิทธิเด็กเยาวชนและเป็นการประนีประนอมในเรื่องของความขัดแย้งในครอบครัวให้สามารถแก้ไขปัญหาก่อนที่จะนำสู่คดีความไปสู่การฟ้องร้องกันบนชั้นศาล เช่น
ในเรื่องสิทธิการปกครองบุตร การอุปการะเลี้ยงดูบุตร คุณธรรมในการอบรมจริยธรรมให้กับบุตร การคำนึงถึงความเป็นจริงว่าบุตรนั้นก็เป็นบุตรของทั้งสองฝ่าย การทำสัญญาไกล่เกลี่ยประนีประนอมกันบนชั้นอัยการนั้น
ควรมีน้ำหนักและมีหลักประกันโดยมีทีมสหวิชาชีพในการพิสูจน์ข้อเท็จจริงของทั้งสองฝ่ายในการเลี้ยงดูบุตรและที่สำคัญกว่านั้น นั่นก็คือ เด็กและเยาวชนสมัยนี้สามารถโกหกได้ไม่ใช่เด็กโกหกไม่เป็นอย่างนั้น การขับเคลื่อนด้วยการส่งเสริมอำนาจให้กับอัยการเพื่อนำทีมสหวิชาชีพเข้าสู่การพิสูจน์ข้อเท็จจริงจึงต้องลงในรายละเอียดดังนี้
การปฏิรูปวงการทางการแพทย์โดยเฉพาะด้านจิตวิทยาให้มีศักยภาพและมีตัวชี้วัดทางด้านวิทยาศาสตร์มากกว่าการโน้มเอียงโดยการใช้ดุลพินิจของแพทย์ ซึ่งทำให้ผู้ป่วยที่ไม่จำเป็นต้องรับยา หรือเด็กที่โกหกกลายเป็นผู้ใส่ร้ายป้ายสีบุพการีตามคดีความที่เห็นการตามหน้าหนังสือพิมพ์ เพียงเพราะความต้องการในเรื่องของความรักที่รักฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งมากกว่าและหลงกระทำความผิดไปตามคำชักจูงของฝ่ายนั้น
การปฏิรูปคู่ขนานไปกับการส่งเสริมอำนาจหน้าที่ให้กับอัยการนั่นก็คือ การปฏิรูปวงการตำรวจโดยเฉพาะในเรื่องการใช้หลักนิติวิทยาศาสตร์มาเกี่ยวข้อง จะต้องเสริมทัพในเรื่องวิทยาการเทคโนโลยีต่างๆให้กับตำรวจมากยิ่งขึ้น เพื่อที่ตำรวจจะได้สามารถสืบสวนสอบสวนข้อเท็จจริง และเป็นพยานหลักฐานที่เป็นถ้ำกันทั้งสองฝ่ายทั้งในคดีอาญาสำหรับเด็กเยาวชนหรือแม้แต่ประชาชนก็ตาม
3.การสนับสนุนองค์กรอิสระให้มีคุณภาพมีมาตรฐาน เช่นการจะชี้มูลองค์กรหรือหน่วยงานใดก็ตามหน่วยงานหรือองค์กรอิสระนั้นจะต้องมีคุณภาพมีมาตรฐาน
ไม่ใช่เปลี่ยนธีมมาตรวจสอบก็ลงความเห็นอย่างหนึ่งอีกทีมลงความเห็นอีกอย่างหนึ่งซึ่งนี่ถือได้ว่าเป็นการขาดคุณภาพและมาตรฐานอยากเห็นได้ชัด
สรุปแล้วความจริงไม่ว่าเราจะอยู่ภายใต้การปกครองแบบใดก็ตามในโลกไม่ว่าโลกของเราจะเปลี่ยนไปเป็นสังคมนิยมหรือเสรีประชาธิปไตยหรือจะกลับมาสู่จุดเริ่มต้นนั่นก็คือราชาธิปไตย
แต่สาระสำคัญที่สุดกับอยู่ที่ตัวบุคคลที่พลเมืองที่เป็นกำลังสำคัญที่สุดของประเทศชาติที่จะไปดำรงตำแหน่งสูงต่ำดำขาวแตกต่างกันไปก็แค่นั้น
แต่ถ้าสังคมยังอุดมไปเรื่องของการใช้อํานาจแสวงหาอำนาจไซตามะหาความร่ำรวย
ผมเชื่อว่าการปฏิรูปในประเทศชาติมันทำไม่ได้อยู่แล้วไม่ว่าจะปฏิรูปอย่างไรก็ตามเขียนชี้นำออกแบบวิเคราะห์ชี้มูล
ท้ายที่สุดก็กลับมาจุดเริ่มต้นนั่นก็คือความล้มเหลวทางสังคมในช่วงตอนปลายของรัชสมัยอาณาจักรอโยธยาศรีรามเทพนครนั่นเอง
ปฏิรูปตุลาการเสริมอำนาจอัยการสร้างมาตรฐานองค์กรอิสระช่วยประเทศชาติขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ชาติได้อย่างยั่งยืน
1. ปฏิรูปตุลาการ ท่านเห็นว่าควรปฏิรูปด้านใดมากที่สุด เช่นระบบการพิจารณาคดี ระบบการประเมินคุณภาพขององค์กรตุลาการ การใช้งบประมาณ ความไม่เป็นธรรมจากการตัดสินคดีความ รูปแบบในการต่อสู้คดีความบนชั้นศาลที่อาจนำมาสู่ประเด็นความขัดแย้งเช่นคนรวยมีโอกาสชนะคดีความมากกว่าคนจนเป็นต้น
2.ปฏิรูปอัยการ เช่นการส่งเสริมให้เกิดการมีบทบาทสำคัญในด้านต่างๆมากยิ่งขึ้น
และมีอำนาจทางกฎหมายในการป้องปรามการกระทำความผิดได้มากยิ่งขึ้น
เช่น การทำสัญญาไกล่เกลี่ยประนีประนอมบนชั้นอัยการควรจะมีผลบังคับใช้ตามกฎหมาย ในระดับหนึ่ง
และสามารถนำไปประกอบการพิจารณาคดีบนชั้นศาลในการกระทำความผิด หากไม่เป็นไปตามสัญญาไกล่เกลี่ยประนีประนอมบนชั้นอัยการได้จริง
สนับสนุนกิจการของอัยการในการพิทักษ์สิทธิเด็กคุ้มครองสิทธิเด็กเยาวชนและเป็นการประนีประนอมในเรื่องของความขัดแย้งในครอบครัวให้สามารถแก้ไขปัญหาก่อนที่จะนำสู่คดีความไปสู่การฟ้องร้องกันบนชั้นศาล เช่น
ในเรื่องสิทธิการปกครองบุตร การอุปการะเลี้ยงดูบุตร คุณธรรมในการอบรมจริยธรรมให้กับบุตร การคำนึงถึงความเป็นจริงว่าบุตรนั้นก็เป็นบุตรของทั้งสองฝ่าย การทำสัญญาไกล่เกลี่ยประนีประนอมกันบนชั้นอัยการนั้น
ควรมีน้ำหนักและมีหลักประกันโดยมีทีมสหวิชาชีพในการพิสูจน์ข้อเท็จจริงของทั้งสองฝ่ายในการเลี้ยงดูบุตรและที่สำคัญกว่านั้น นั่นก็คือ เด็กและเยาวชนสมัยนี้สามารถโกหกได้ไม่ใช่เด็กโกหกไม่เป็นอย่างนั้น การขับเคลื่อนด้วยการส่งเสริมอำนาจให้กับอัยการเพื่อนำทีมสหวิชาชีพเข้าสู่การพิสูจน์ข้อเท็จจริงจึงต้องลงในรายละเอียดดังนี้
การปฏิรูปวงการทางการแพทย์โดยเฉพาะด้านจิตวิทยาให้มีศักยภาพและมีตัวชี้วัดทางด้านวิทยาศาสตร์มากกว่าการโน้มเอียงโดยการใช้ดุลพินิจของแพทย์ ซึ่งทำให้ผู้ป่วยที่ไม่จำเป็นต้องรับยา หรือเด็กที่โกหกกลายเป็นผู้ใส่ร้ายป้ายสีบุพการีตามคดีความที่เห็นการตามหน้าหนังสือพิมพ์ เพียงเพราะความต้องการในเรื่องของความรักที่รักฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งมากกว่าและหลงกระทำความผิดไปตามคำชักจูงของฝ่ายนั้น
การปฏิรูปคู่ขนานไปกับการส่งเสริมอำนาจหน้าที่ให้กับอัยการนั่นก็คือ การปฏิรูปวงการตำรวจโดยเฉพาะในเรื่องการใช้หลักนิติวิทยาศาสตร์มาเกี่ยวข้อง จะต้องเสริมทัพในเรื่องวิทยาการเทคโนโลยีต่างๆให้กับตำรวจมากยิ่งขึ้น เพื่อที่ตำรวจจะได้สามารถสืบสวนสอบสวนข้อเท็จจริง และเป็นพยานหลักฐานที่เป็นถ้ำกันทั้งสองฝ่ายทั้งในคดีอาญาสำหรับเด็กเยาวชนหรือแม้แต่ประชาชนก็ตาม
3.การสนับสนุนองค์กรอิสระให้มีคุณภาพมีมาตรฐาน เช่นการจะชี้มูลองค์กรหรือหน่วยงานใดก็ตามหน่วยงานหรือองค์กรอิสระนั้นจะต้องมีคุณภาพมีมาตรฐาน
ไม่ใช่เปลี่ยนธีมมาตรวจสอบก็ลงความเห็นอย่างหนึ่งอีกทีมลงความเห็นอีกอย่างหนึ่งซึ่งนี่ถือได้ว่าเป็นการขาดคุณภาพและมาตรฐานอยากเห็นได้ชัด
สรุปแล้วความจริงไม่ว่าเราจะอยู่ภายใต้การปกครองแบบใดก็ตามในโลกไม่ว่าโลกของเราจะเปลี่ยนไปเป็นสังคมนิยมหรือเสรีประชาธิปไตยหรือจะกลับมาสู่จุดเริ่มต้นนั่นก็คือราชาธิปไตย
แต่สาระสำคัญที่สุดกับอยู่ที่ตัวบุคคลที่พลเมืองที่เป็นกำลังสำคัญที่สุดของประเทศชาติที่จะไปดำรงตำแหน่งสูงต่ำดำขาวแตกต่างกันไปก็แค่นั้น
แต่ถ้าสังคมยังอุดมไปเรื่องของการใช้อํานาจแสวงหาอำนาจไซตามะหาความร่ำรวย
ผมเชื่อว่าการปฏิรูปในประเทศชาติมันทำไม่ได้อยู่แล้วไม่ว่าจะปฏิรูปอย่างไรก็ตามเขียนชี้นำออกแบบวิเคราะห์ชี้มูล
ท้ายที่สุดก็กลับมาจุดเริ่มต้นนั่นก็คือความล้มเหลวทางสังคมในช่วงตอนปลายของรัชสมัยอาณาจักรอโยธยาศรีรามเทพนครนั่นเอง