สวัสดีค่ะ วันนี้จะมาแบ่งปันทริคเล็กๆสำหรับการเตรียมตัวสอบ IELTS academic ค่ะ ซึ่งเราได้ทำการสอบมาทั้งหมดสี่รอบภายในช่วงครึ่งปีแรกและสังเกตว่าในการเตรียมตัวที่แตกต่างกันแต่ละครั้งส่งผลต่อระดับคะแนนในแต่ละพาร์ทแตกต่างกันค่ะ วันนี้เลยอยากมาแบ่งปันกับทุกๆคนนอกเหนือจากการตรียมสอบโดยการอ่านหนังสือและจากโรงเรียนกวดวิชาค่ะ
1. พาร์ท Listening
ในพาร์ทฟังก่อนสอบเราจะเตรียมตัวเองให้คุ้นชินกับภาษาอังกฤษมากที่สุดค่ะ โดยส่วนตัวแล้วเราเป็นคนขี้เกียจบวกกับยังต้องเรียนหนังสือทุกวันทำให้การเตรียมตัวสอบของเราแต่ละครั้งจะอยู่ที่ประมาณหนึ่งถึงสองอาทิตย์ก่อนสอบค่ะ (ซึ่งความจริงแล้วก็ไม่แนะนำให้เอาเป็นตัวอย่างนะคะ เพราะนี่เป็นสาเหตุหลักที่ทำให้เราต้องสอบใหม่หลายรอบค่ะ) เนื่องจากเรามีเวลาเตรียมตัวน้อยสิ่งที่เราทำภายในช่วงเวลานั้นก็คือการปรับสภาพแวดล้อมให้เป็นภาษาอังกฤษมากที่สุด ยกตัวอย่างเช่นปกติแล้วเราจะเป็นคนฟังเพลงเกาหลีค่ะ ช่วงสอบเราก็เลยต้องงดฟังเพลงเกาหลีไปแล้วเปลี่ยนเป็นเพลงหรือข่าวภาษาอังกฤษแทน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการฟังข่าว เราฟัง BBC world ผ่านแอพ Radios UK ทุกเช้าตั้งแต่อาบน้ำจนถึงเดินทางไปมหาลัย เอาจริงๆแล้วเราก็ฟังไม่ค่อยเข้าใจหรอกค่ะว่าเขาพูดเรื่องอะไร อาศัยแค่ให้ร่างกายมันคุ้นชินกับภาษา ซึ่งในท้ายที่สุดเราก็สามารถฟังและเข้าใจเนื้อหาของบางข่าวได้ค่ะ โดยgฉพาะอย่างยิ่งการฟังภาษาอังกฤษในตอนเช้าก่อนวันสอบเราพบว่าช่วยให้เราทำพาร์ทฟังได้ดีขึ้นมากเลยค่ะ
2. พาร์ท Reading
ปกติแล้วพาร์ทนี้เป็นพาร์ทที่แย่ที่สุดของเรารองจากพาร์ทเขียนค่ะ ด้วยความที่ข้อสอบ IELTS จะมี Passage ทั้งหมดสามอัน อันที่ยาวและยากส่วนใหญ่จะอยู่ที่พาร์ทสองและสาม ด้วยความที่บทความยาวและคำศัพท์ยากเนี่ยแหละที่ทำให้เราทำไม่ค่อยทัน ในพาร์ทนี้เราจะเจอกับคำศัพท์ที่ไม่คุ้นเคยเยอะรวมไปถึงเนื้อหาที่บางทีเป็นเรื่องเฉพาะสาย เพราะฉะนั้นการเดาความหมายคำจากบริบทจึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งในพาร์ทนี้ นอกจากนั้นการฝึกทักษะการอ่านให้มีความคล่องจะช่วยให้เราได้เปรียบมากขึ้น ในการสอบครั้งสุดท้ายเราติดอ่านหนังสือนิยายภาษาอังกฤษเรื่อง Wonder ด้วยความที่ภาษาของนิยายเล่มนี้ไม่ยากจนเกินไปทำให้เราสามารถอ่านไปเรื่อยๆแบบไม่ชะงักได้ พอถึงตอนสอบเรารู้ได้เลยว่าความคล่องในการอ่านของเราดีขึ้นมากแบบมากๆ จากที่ปกติทำไม่ทันครั้งนี้เราทำทันจนมีเวลาเหลือสิบนาทีเพื่อตรวจคำตอบ แล้วคะแนนที่ออกมาก็ค่อนข้างดีเกินคาดด้วยค่ะ
3. พาร์ท Writing
เราอาจจะพูดไม่ได้เยอะกับพาร์ทนี้ค่ะเพราะมันก็ยังยากสำหรับเราอยู่ เอาเป็นว่าฝึกเขียนเยอะๆ พาร์ทแรกจำเป็นแนวไปได้ค่ะแล้วก็อย่าลืมพวกคำศัพท์ที่เฉพาะกับกราฟหรือแผนภูมินั้นๆ ลองดูตัวอย่างจาก IELTSliz ก็ได้ค่ะ เราว่าค่อนข้างโอเคสำหรับคนที่ไม่ค่อยถนัดในการอธิบายแผนภูมิแบบเรา สำหรับพาร์ทสอง การเขียน outline ช่วยได้นะคะ ย่อหน้าแรกก็อย่าลืม paraphase คำถาม ใช้ Complex and Compound sentence ในการเขียนเยอะๆนะคะ แล้วก็อย่าลืมสรุปค่ะเพราะว่ามีคะแนนตรงนี้เหมือนกัน ท้ายที่สุดในพาร์ทสองนี้ก็คือการตอบให้ตรงคำถามค่ะ IELTS เป็นข้อสอบวัดระดับภาษาอังกฤษไม่ได้มีคะแนนเพิ่มสำหรับความคิดหรือไอเดียที่เจ๋งนะคะ ถ้าเขาถามว่า agree or disagree ก็ให้เลือกไปสักอย่าง ไม่ต้องไปแสดงความเห็นทั้งสองฝ่าย (ยกเว้นเขาให้ discuss both side) พยายามทำให้คำตอบดูเคลียร์แล้วก็ซับซ้อนน้อยที่สุด มีการยกตัวอย่างในเหตุผลสนับสนุน ก็โอเคแล้วค่ะ
4. พาร์ท Speaking
สำหรับพาร์ทนี้แน่นอนอยู่แล้วค่ะว่าต้องฝึกพูดบ่อยๆ ปกติแล้วเราจะ Skype คุยกับคนต่างชาติอาทิตย์ละหนึ่งชั่วโมงค่ะ นอกนั้นก็คือพูดคนเดียวบ่อยๆค่ะ อาศัยการดูรายการอย่างเช่น LG English room ของครูลูกกอล์ฟ ที่จะทำให้เรามีประโยคและคำที่ใช้ในการพูดให้ดูเป็นธรรมชาติมากขึ้น ข้อดีอีกอย่างของรายการนี้คือการที่เขา encourage ให้เรากล้าพูดภาษาอังกฤษมากขึ้น ซึ่งตรงนี้เอาจริงๆแล้วสำคัญมากในการสอบพาร์ทนี้นะคะ ความมั่นใจเป็นส่วนสำคัญมากที่จะทำให้ได้คะแนนดีในพาร์ทพูดค่ะ อีกรายการนึงที่เราอยากยกตัวอย่างก็คือ Ellen show ค่ะ รายการนี้ทำให้เรารู้สึกว่าภาษาอังกฤษสนุกแล้วโดยส่วนตัวเราค่อนข้างเก็ทกับมุกของ Ellen เลยทำให้การดูรายการนี้นอกจากจะผ่อนคลายแล้วยังช่วยให้คุ้นเคยกับภาษาอังกฤษมากขึ้นด้วยค่ะ
ก็มีประมานเท่านี้ค่ะสำหรับทริคเล็กๆในการเตรียมตัวสอบ IELTS ขอให้ทุกคนโชคดีนะคะ
แบ่งปันทริคเล็กๆสำหรับการสอบ IELTS Academic 2018
1. พาร์ท Listening
ในพาร์ทฟังก่อนสอบเราจะเตรียมตัวเองให้คุ้นชินกับภาษาอังกฤษมากที่สุดค่ะ โดยส่วนตัวแล้วเราเป็นคนขี้เกียจบวกกับยังต้องเรียนหนังสือทุกวันทำให้การเตรียมตัวสอบของเราแต่ละครั้งจะอยู่ที่ประมาณหนึ่งถึงสองอาทิตย์ก่อนสอบค่ะ (ซึ่งความจริงแล้วก็ไม่แนะนำให้เอาเป็นตัวอย่างนะคะ เพราะนี่เป็นสาเหตุหลักที่ทำให้เราต้องสอบใหม่หลายรอบค่ะ) เนื่องจากเรามีเวลาเตรียมตัวน้อยสิ่งที่เราทำภายในช่วงเวลานั้นก็คือการปรับสภาพแวดล้อมให้เป็นภาษาอังกฤษมากที่สุด ยกตัวอย่างเช่นปกติแล้วเราจะเป็นคนฟังเพลงเกาหลีค่ะ ช่วงสอบเราก็เลยต้องงดฟังเพลงเกาหลีไปแล้วเปลี่ยนเป็นเพลงหรือข่าวภาษาอังกฤษแทน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการฟังข่าว เราฟัง BBC world ผ่านแอพ Radios UK ทุกเช้าตั้งแต่อาบน้ำจนถึงเดินทางไปมหาลัย เอาจริงๆแล้วเราก็ฟังไม่ค่อยเข้าใจหรอกค่ะว่าเขาพูดเรื่องอะไร อาศัยแค่ให้ร่างกายมันคุ้นชินกับภาษา ซึ่งในท้ายที่สุดเราก็สามารถฟังและเข้าใจเนื้อหาของบางข่าวได้ค่ะ โดยgฉพาะอย่างยิ่งการฟังภาษาอังกฤษในตอนเช้าก่อนวันสอบเราพบว่าช่วยให้เราทำพาร์ทฟังได้ดีขึ้นมากเลยค่ะ
2. พาร์ท Reading
ปกติแล้วพาร์ทนี้เป็นพาร์ทที่แย่ที่สุดของเรารองจากพาร์ทเขียนค่ะ ด้วยความที่ข้อสอบ IELTS จะมี Passage ทั้งหมดสามอัน อันที่ยาวและยากส่วนใหญ่จะอยู่ที่พาร์ทสองและสาม ด้วยความที่บทความยาวและคำศัพท์ยากเนี่ยแหละที่ทำให้เราทำไม่ค่อยทัน ในพาร์ทนี้เราจะเจอกับคำศัพท์ที่ไม่คุ้นเคยเยอะรวมไปถึงเนื้อหาที่บางทีเป็นเรื่องเฉพาะสาย เพราะฉะนั้นการเดาความหมายคำจากบริบทจึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งในพาร์ทนี้ นอกจากนั้นการฝึกทักษะการอ่านให้มีความคล่องจะช่วยให้เราได้เปรียบมากขึ้น ในการสอบครั้งสุดท้ายเราติดอ่านหนังสือนิยายภาษาอังกฤษเรื่อง Wonder ด้วยความที่ภาษาของนิยายเล่มนี้ไม่ยากจนเกินไปทำให้เราสามารถอ่านไปเรื่อยๆแบบไม่ชะงักได้ พอถึงตอนสอบเรารู้ได้เลยว่าความคล่องในการอ่านของเราดีขึ้นมากแบบมากๆ จากที่ปกติทำไม่ทันครั้งนี้เราทำทันจนมีเวลาเหลือสิบนาทีเพื่อตรวจคำตอบ แล้วคะแนนที่ออกมาก็ค่อนข้างดีเกินคาดด้วยค่ะ
3. พาร์ท Writing
เราอาจจะพูดไม่ได้เยอะกับพาร์ทนี้ค่ะเพราะมันก็ยังยากสำหรับเราอยู่ เอาเป็นว่าฝึกเขียนเยอะๆ พาร์ทแรกจำเป็นแนวไปได้ค่ะแล้วก็อย่าลืมพวกคำศัพท์ที่เฉพาะกับกราฟหรือแผนภูมินั้นๆ ลองดูตัวอย่างจาก IELTSliz ก็ได้ค่ะ เราว่าค่อนข้างโอเคสำหรับคนที่ไม่ค่อยถนัดในการอธิบายแผนภูมิแบบเรา สำหรับพาร์ทสอง การเขียน outline ช่วยได้นะคะ ย่อหน้าแรกก็อย่าลืม paraphase คำถาม ใช้ Complex and Compound sentence ในการเขียนเยอะๆนะคะ แล้วก็อย่าลืมสรุปค่ะเพราะว่ามีคะแนนตรงนี้เหมือนกัน ท้ายที่สุดในพาร์ทสองนี้ก็คือการตอบให้ตรงคำถามค่ะ IELTS เป็นข้อสอบวัดระดับภาษาอังกฤษไม่ได้มีคะแนนเพิ่มสำหรับความคิดหรือไอเดียที่เจ๋งนะคะ ถ้าเขาถามว่า agree or disagree ก็ให้เลือกไปสักอย่าง ไม่ต้องไปแสดงความเห็นทั้งสองฝ่าย (ยกเว้นเขาให้ discuss both side) พยายามทำให้คำตอบดูเคลียร์แล้วก็ซับซ้อนน้อยที่สุด มีการยกตัวอย่างในเหตุผลสนับสนุน ก็โอเคแล้วค่ะ
4. พาร์ท Speaking
สำหรับพาร์ทนี้แน่นอนอยู่แล้วค่ะว่าต้องฝึกพูดบ่อยๆ ปกติแล้วเราจะ Skype คุยกับคนต่างชาติอาทิตย์ละหนึ่งชั่วโมงค่ะ นอกนั้นก็คือพูดคนเดียวบ่อยๆค่ะ อาศัยการดูรายการอย่างเช่น LG English room ของครูลูกกอล์ฟ ที่จะทำให้เรามีประโยคและคำที่ใช้ในการพูดให้ดูเป็นธรรมชาติมากขึ้น ข้อดีอีกอย่างของรายการนี้คือการที่เขา encourage ให้เรากล้าพูดภาษาอังกฤษมากขึ้น ซึ่งตรงนี้เอาจริงๆแล้วสำคัญมากในการสอบพาร์ทนี้นะคะ ความมั่นใจเป็นส่วนสำคัญมากที่จะทำให้ได้คะแนนดีในพาร์ทพูดค่ะ อีกรายการนึงที่เราอยากยกตัวอย่างก็คือ Ellen show ค่ะ รายการนี้ทำให้เรารู้สึกว่าภาษาอังกฤษสนุกแล้วโดยส่วนตัวเราค่อนข้างเก็ทกับมุกของ Ellen เลยทำให้การดูรายการนี้นอกจากจะผ่อนคลายแล้วยังช่วยให้คุ้นเคยกับภาษาอังกฤษมากขึ้นด้วยค่ะ
ก็มีประมานเท่านี้ค่ะสำหรับทริคเล็กๆในการเตรียมตัวสอบ IELTS ขอให้ทุกคนโชคดีนะคะ