แชร์วิธีเตรียมสอบ IELTS ด้วยตัวเอง

สวัสดีค่ะ วันนี้จะขอมารีวิวหนังสือ เว็บไซต์และเทคนิคต่างๆที่ใช้ในการสอบ IELTS แบบ Academic นะคะ
เราสอบไปเมื่อ 21 Nov 2015 ค่อนข้างนานแล้วเหมือนกันแต่คิดว่าเทคนิคต่างๆในการเตรียมตัวคงไม่เปลี่ยนไปเท่าไรค่ะ
อันนี้คือสรุปผลคะแนนเรานะคะ
Listening 8.5
Reading 8.5
Writing 7.0
Speaking 8.0
Overall 8.0
จะขอแนะนำเทคนิคในการเตรียมตัวสอบเองโดยไม่เรียนพิเศษที่ไหนนะคะ
เราใช้เวลาเตรียมตัวคู่ไปกับการทำงานประมาณ 2 เดือนค่ะ แต่จริงจังมากๆตอนหนึ่งเดือนก่อนสอบ
พื้นฐานเราน่าจะคล้ายๆกับคนไทยส่วนใหญ่ที่จะค่อนข้างถนัดในการอ่านและฟังมากกว่าการเขียนและการพูด
เพราะเราเรียนโรงเรียนไทยและไม่เคยเรียนหลักสูตรอินเตอร์ค่ะ
---------------------------------
ขั้นตอนการสมัครสอบ
> สามารถเลือกสมัครสอบได้ 2 ที่คือที่ IDP และ British Council ส่วนตัวเราสอบที่ British Council ค่ะ
เหตุผลเพราะเดินทางสะดวก โรงแรมติด bts เพราะจัดสอบที่โรงแรม landmark สามารถลงบีทีเอสนานาได้เลยค่ะ
หนังสือที่ใช้ในการเตรียมตัว (เนื่องจากเอารูปลงไม่ได้ จะขอแชร์เป็นชื่อหนังสือนะคะ)
1. Cambridge English IELTS 7-10 ตอนนี้ได้ข่าวว่ามีเล่ม 11 ออกมาแล้วด้วย ยังไงลองหาข้อมูลดูนะคะ
เล่มนี้เราว่าทุกคนที่เตรียมตัวสอบ IELTS น่าจะคุ้นเคยกันดี เป็นการเน้นการทำข้อสอบในรูปแบบที่ใกล้เคียงกับข้อสอบจริงเพื่อให้คุ้นเคยกับลักษณะข้อสอบค่ะ อยากแนะนำว่าให้ทำเพื่อที่จะได้รู้ว่าจุดแข็งจุดอ่อนของตัวเองอยู่ที่ part ไหนและปรับปรุงถูกค่ะ
2. IELTS Trainer ของ Cambridge
สำหรับคนที่พื้นฐานอังกฤษยังไม่ค่อยแน่น เราว่าเริ่มจากเล่มนี้ก่อนดีกว่าค่ะ ลักษณะข้อสอบใกล้เคียงกับเล่มบนแต่ง่ายกว่านิดนึง
3. Writing for the IELTS ของ Barron's
4. IELTS Advantage: Writing Skills ปกม่วงๆ
อย่างที่กล่าวไปข้างต้นว่าเราไม่เก่ง writing ดังนั้นเลยค่อนข้างเน้นที่พาร์ทนี้มากเป็นพิเศษค่ะ สองเล่มนี้โดยรวมๆจะสอนให้เรารู้ว่าควรเขียนอย่างไร
เช่นในพาร์ทแรกที่เป็นกราฟ จะสอนในการวิเคราะห์และตอบคำถามของโจทย์ และสอบ analyse ลักษณะของโจทย์ใน part 2 ค่ะ
5. Cambridge Vocabulary for IELTS Advanced
เล่มนี้สำหรับพัฒนะทักษะด้านคำศัพท์ ซึ่งส่วนตัวเราว่าการมีคลังคำศัพท์มีประโยชน์มากในการทำข้อสอบพาร์ท reading ทำให้ทำได้เร็วขึ้นและผิดพลาดน้อยลงค่ะ
หนังสือส่วนใหญ่สามารถหาซื้อได้ที่ คิโนะคุยะนะคะหรือจะหาโหลดตามอินเตอร์เน็ตก็ได้ค่ะ
--------------------------------------------------
Reading
สำหรับเราค่อนข้างถนัดพาร์ทนี้เพราะสมัยเรียนมหาวิทยาลัยต้องอ่าน text เยอะมาก แต่การทำข้อสอบพาร์ทนี้ควรระวังเรื่องเวลาด้วยนะคะ เพราะข้อสอบค่อนข้างเยอะ ถ้าไม่เตรียมตัวหรือไม่มีเทคนิค ไปอ่านทั้ง article ในห้องสอบอาจจะทำไม่ทันได้ การรู้จักลักษณะของข้อสอบก็สำคัญเช่นกัน ดังนั้นการซ้อมทำข้อสอบเก่าจึงเป็นเรื่องสำคัญมาก เพราะเราจะคุ้นเคยกับลักษณะข้อสอบและรู้เทคนิคในการทำค่ะ
เทคนิคสำหรับพาร์ทนี้
- skim and scan เราไม่มีเวลาอ่านทั้งบทความดังนั้นการฝึกสองเทคนิคนี้จะช่วยประหยัดเวลาในการอ่าน passage ไปได้เยอะค่ะ
- ทำความรู้จักกับลักษณะของข้อสอบในแต่ละแบบ >http://ieltsliz.com/ielts-reading-q...
เช่นคำถามประเภท Yes,no,not given เป็นคำถามที่เรามองว่าควรฝึกทำมาเพราะโอกาสในการทำพลาดค่อนข้างสูง ในลิงค์ข้างต้นได้ให้รายละเอียดของคำถามในแต่ละแบบไว้ค่อนข้างละเอียด ลองเข้าไปดูนะคะ
- อ่านเยอะๆและอ่านบทความที่หลากหลายค่ะ เว็บไซต์ข่าวต่างๆเช่น cnn, bbc หรือจะอ่านเรื่องที่สนใจก็ได้ค่ะ
- Time management ส่วนตัวเราจะแบ่งเวลาในการทำข้อสอบไว้ค่ะ เช่นในพาร์ทนี้มี 3 บทความ เราจะแบ่ง 20 20 20
- พยายามตอบให้ครบนะคะ เดาผิดไม่หักคะแนนค่ะ
- เขียนลงในกระดาษคำตอบเลยค่ะ เพราะเวลาจะไม่พอถ้าเขียนตอบในกระดาษคำถามแล้วจะมาเขียนลงกระดาษคำตอบอีกที
- อย่าพยายามทำความเข้าใจทั้ง passage เพราะข้อสอบไม่ได้ต้องการให้เราเข้าใจทั้งหมด ถ้าเข้าใจแค่บางส่วนและสามารถตอบคำถามได้ก็ได้คะแนนค่ะ
Listening
- พาร์ทนี้เราซ้อมโดยการฟังข่าวจาก bbc และการดูซีรี่ย์ (อันนี้ไม่แนะนำเพราะจะติดงอมแงม)
- ทำข้อสอบเก่าเยอะๆและพยายามโฟกัส เพราะถ้าหลุดทีนี่หลุดยาวเลยค่ะ
Writing
พาร์ทนี้เป็นพาร์ทที่เราไม่ถนัดที่สุด เพราะเป็นคนใช้เวลาเขียนนาน ดังนั้นถ้าใครไม่ถนัดขอแนะนำให้ฝึกบ่อยๆนะคะ เราเองแอบขี้เกียจ อู้บ่อย
ไม่ค่อยได้ซ้อมเขียนเลยทำให้เขียนไม่ทันในห้องสอบค่ะ ในส่วนของพาร์ทนี้จะแบ่งเป็นสองส่วนคือ
Writing I - 150 words ข้อสอบจะเป็นในลักษณะที่ให้วิเคราะห์หรือเปรียบเทียบกราฟ บางครั้งก็จะเป็นแผนที่ ดังนั้นต้องฝึกทำข้อสอบทั้งสองแบบนะคะ
กราฟในแต่ลักษณะก็จะมีวิธีอธิบายที่แตกต่างกันไป เช่น bar chart ส่วนใหญ่จะเป็นในลักษณะที่ให้เปรียบเทียบระหว่าง A และ B
- Tense ที่ใช้ในการบรรยายก็เป็นอีกสิ่งที่ต้องระวัง ต้องดูว่ากราฟนั้นบรรยายในช่วงเวลาไหนถ้าเป็น อดีตก็ใช้ past tense ถ้าเป็นอดีตที่ยาวจนถึงอนาคตก็ perfect tense นะคะ
- พยายามทำให้เสร็จใน 20 นาทีนะคะ
- สำหรับเราจะแบ่งการเขียนในพาร์ทนี้เป็นสามส่วน คือ introduction, overall, and body paragraph ค่ะ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความถนัดของแต่ละคนนะคะ
introduction ของเราส่วนใหญ่จะพยายามให้จบภายในประโยคเดียวค่ะ
- หัดเขียนบ่อยๆจะจำแพทเทินของการตอบโจทย์แต่ละแบบได้ค่ะ
Writing II - 250 words พาร์ทนี้จะมีโจทย์ที่ให้เราวิเคราะห์มากกว่าพาร์ทที่แล้วโดยจะสุ่มเรื่องเช่นสิ่งแวดล้อมม,วิทยาศาสตร์ ฯลฯ
- สำหรับเราแบ่งการเขียนเป็น สี่ส่วนค่ะ คือ introduction, body I, body II, conclusion พยายามทำให้ทันใน 40 นาทีนะคะ
- เน้นความหลากหลายของ grammar ค่ะ พยายามใช้ประโยคหลายๆแบบ และใช้คำศัพท์แบบ academic เพราะมีผลกับคะแนนค่ะ
เช่นคำว่า good ควรหลีกเลี่ยงและไปใช้ synonym เช่น marvelous or superb แทน good ดังนั้นพยายามท่องศัพท์เยอะๆนะคะ
Speaking
- พาร์ทนี้ถ้าใครที่ได้เวลาเย็นๆ 16:00 หรือ 17:00 ให้มาก่อนเวลาได้นะคะ จะได้สอบก่อน เพราะเราได้รอบ 16:45 แต่สอบจริงตอน 15:00 ค่ะ
- พอเข้าไปห้องสอบพยายามอย่าเกร็ง นึกว่าคุยกับเพื่อนหรือคนรู้จักนะคะ เพราะพาร์ทแรก จะเป็นการแนะนำตัว ถามเรื่องครอบครัว สัตว์เลี้ยง ฯลฯ
- พาร์ท 2 จะเป็นการแรนด้อมการ์ด โดยกรรมการจะสุ่มหัวข้อและมีเวลาให้เราเตรียมตัวจดโน้ต 1 นาทีและพูดอีก 2 นาที ทริคของเราคือ อย่าพยายามเว้นวรรคในการพูด พูดไปเรื่อยๆ แต่ตอบคำถามให้ครบนะคะ
- พาร์ท 3 จะเป็นการถามตอบจากหัวข้อที่สุ่มได้ด้านบนค่ะ เช่นถ้าด้านบนได้หัวข้อเกี่ยวกับเรื่อง inequality in workplace ก็อาจจะถามความเห็นของเราว่าคิดยังไง เคยเจอเรื่องนี้มั๊ย ประมาณนี้ค่ะ
- พยายามซ้อมพูดนะคะ หาเพื่อนที่เก่งภาษาอังกฤษมาเป็นคู่ซ้อม ส่วนตัวเราค่อนข้างโชคดีที่ตอนนั้นทำงานกับคนต่างชาติ ซ้อมพูดกับเจ้านายบ่อย และได้หัวข้อที่ค่อนข้างสนใจโดยส่วนตัวอยู่แล้ว คะแนนพาร์ทนี้เลยออกมาดีกว่าที่คิดค่ะ
--------------------------------------------
Website ที่ใช้ในการเตรียมตัวนะคะ
http://ieltsliz.com/ < อันนี้แนะนำมากๆค่ะ ช่วยเราได้เยอะมากในการเตรียมตัว ทั้งในเรื่องคำศัพท์และรูปแบบของโจทย์
https://www.ieltsadvantage.com/ < อันนี้ก็ดีอีกเช่นกันค่ะ ถ้ามีเวลาลองเข้าไปดูนะคะ
-------------------------------------------
การดูผลสอบ
คะแนนจะออกหลังจากสอบไป 13 วันนะคะ ดังนั้นบ่ายๆ ของวันที่ 13 ก็เช็คผลสอบได้เลยค่ะ
------------------------------------------
อย่าลืมเช็คกับมหาวิทยาลัยในเรื่องของ requirement ดีๆนะคะ เพราะบางที่มีเงื่อนไขมากกว่าดูแค่ overall เช่นทุกแบรนด์ต้องเกิน 6.5
ดังนั้นถ้าคะแนน overall ผ่าน แต่มีบางแบรนด์ที่คะแนนไม่ถึงก็ต้องสอบใหม่ค่ะ
สำหรับมหาวิทยาลัยในอังกฤษ เราว่าคะแนน ielts มีผลอย่างมากในการตอบรับและการยื่นขอทุนในภายหลัง
ขอให้ทุกคนโชคดีนะคะ มีคำถามอะไรก็สามารถพิมพ์ถามไว้หรือหลังไมค์ได้ค่ะ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่