**คำพูดที่มีเหตุผลมิใช่จะใช้ได้กับทุกคนทุกคราวทุกกรณีเสมอไป??? #ดอกบัวแก้ว# **

กระทู้นี้เขียนขึ้นเพียงแค่ต้องการแบ่งปันและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเท่านั้น เป็นวิธีคิดและปฏิบัติที่จขกท.ใช้อยู่ บางคนอาจเห็นด้วยหรือคิดต่าง จขกท.ยินดีรับฟังและเคารพทุกความคิดเห็นค่ะ!!!
       การเอาชนะกันด้วยคำพูดหรือโต้เถียงกัน แม้จะด้วยเหตุผลต่างๆ แต่บางครั้ง(ย้ำบางครั้งบางสถานการณ์นะคะ)ก็ไม่อาจทำให้สถานการณ์นั้นดีขึ้นได้. จขกท.กลับมองว่ามันยิ่งจะทำให้เสียเวลาและทำให้เกิดความแตกร้าวยิ่งขึ้นเสียด้วยซ้ำ  
        เมื่อก่อนจขกท.เป็นคนประเภทยอมหักไม่ยอมงอ เถียงคอเป็นเอ็น ถ้าคิดว่าเรื่องนั้นเราเป็นฝ่ายถูกจะพยายามอธิบายหาเหตุผลของตนมาอ้าง ค่อนข้างเป็นคนพูดตรง ไม่ค่อยเก็บอารมณ์ ซึ่งผลที่ตามมามีแต่ข้อเสีย สถานการณ์มีแต่จะแย่ลง เกิดศัตรู เกิดความเครียด ปัญหาไม่ได้รับการแก้ไข กลายเป็นทาสอารมณ์ทางความคิด หมกหมุ่นคิดแค่จะเอาชนะ มีแต่ความขุ่นมัว
        พอได้รู้จักธรรมะ ได้มาปฏิบัติธรรมอย่างจริงจัง ได้รับความสงบสุขทางใจพอสมควร จึงเห็นความเป็นจริงอีกข้อหนึ่งที่มาสอนใจตนเอง นั่นคือ

        "คำพูดที่มีเหตุผลมิใช่จะใช้ได้กับทุกคนทุกคราวทุกกรณีเสมอไป โดยเฉพาะเมื่อเราอยู่กันเป็นครอบครัวและดำเนินชีวิตร่วมกันในสังคม ย่อมมีความเห็นต่างเกิดขึ้นซึ่งถือเป็นเรื่องปกติ"

           ธรรมะได้เปลี่ยนแปลงจขกท.ให้ยอมรับความจริงในข้อนี้ได้มากขึ้น เป็นผู้ฟังมากขึ้น นิ่งฟังด้วยความอดทน แม้ดูว่าอีกฝ่ายไม่ค่อยจะมีเหตุผลเอาเสียเลยก็ตาม แต่เมื่อการที่จขกท.จะเป็นฝ่ายรอมชอมให้ก่อน. พยายามใช้สันติวิธี เพื่อรักษามิตรภาพและความสัมพันธ์เพื่อไม่ให้เกิดการทะเลาะหรือแตกร้าวกัน โดยมองว่าเดี๋ยวมันก็ผ่านไป เรื่องราวดีๆที่น่าจดจำมีมากมายกว่าข้อโต้แย้งที่เกิดขึ้นนี้
          จขกท.จะไม่ยอมให้เรื่องนี้มาเป็นปัญหาทำลายมิตรภาพดีๆที่มีต่อกัน ซึ่งตรงนี้ถ้าเป็นแต่ก่อนจะคิดแค่ว่าเป็นไงเป็นกันแตกหักยังไงก็ยอม เพราะเราไม่ผิดเราจะไม่ยอมลงให้อย่างเด็ดขาดหรือหากเจอคนประเภทที่แย่สุดๆก็จะใช้วิธีการเลี่ยงไม่พูดคุยหรือคุยเท่าที่จำเป็น
          แต่พอมาปฏิบัติธรรมมาฟังคำสอนของพระพุทธองค์ความคิดมันพลิกมันเห็นอีกมุมนึง แต่ก็ต้องอาศัยเวลาเช่นกันไม่ใช่อยู่ๆมันจะเปลี่ยนแปลงได้เลย ต้องใช้เวลาสอนใจตนเตือนใจตน จขกท.รู้สึกได้ว่าเราเป็นคนใจเย็นขึ้น ไม่ผลีผลาม ไม่วู่วาม มีเหตุผลมีความอดทนมากขึ้น
          ด้านครอบครัวมีสามีภรรยาหลายคู่ที่ต้องแยกทางกันเดินเพราะต่างก็ยึดถือเหตุผลมุ่งเอาชนะกันถือว่าเหตุผลของตัวเองถูกต้อง. อีกฝ่ายไม่มีเหตุผลยอมให้ไม่ได้ท้ายที่สุดก็ต้องแยกทางกัน ผลกรรมตกมาสู่ลูกๆที่ไม่มีสิทธิ์แม้จะยกอ้างเหตุผลใดๆมาต่อรองเพื่อหวังให้ครอบครัวกลับมาอบอุ่นได้เช่นเดิม
           
       เหตุผลนั้นเป็นของดี แต่ต้องใช้ให้เหมาะสมกับกรณี ถูกคนถูกที่และถูกเวลา เมื่ออยู่ด้วยกัน การให้อภัยกัน การยอมรับฟังความเห็นของอีกฝ่ายหนึ่งด้วยความอดทนอดกลั้น การไม่ถือสาเรื่องเล็กๆน้อยๆ แม้จะดูไม่ถูกต้องและไม่สมเหตุสมผล แต่ถ้าสามารถรักษามิตรภาพและความสัมพันธ์อันดีไว้ก็ย่อมดีกว่าการใช้เหตุผลแต่ทำให้เกิดความแตกร้าว บางอย่างมันก็อยู่เหนือเหตุผล(บางคู่ถกเถียงกันเพียงเพื่อต้องการจะเอาชนะอีกฝ่ายเท่านั้นเอง) ผลสุดท้ายก็มีแต่ความเสียหาย

หมายเหตุ  สำหรับจขกท.การฝึกเจริญสติทำสมาธิภาวนา ช่วยให้เรารู้วิธีที่จะจัดการกับปัญหาได้ การรู้จักอดทน สละอารมณ์ร้ายๆออกจากจิตใจ
         การนั่งภาวนาจนเกิดทุกขเวทนาและนั่งจนเวทนาดับได้นั้น จขกท.คิดว่ามีความจำเป็นอย่างมากสำหรับผู้ฝึกภาวนาเพราะจะเป็นการฝึกให้เรามีสติชัดรู้จักทุกข์เรียนรู้ที่จะอยู่กับความทุกข์ และรอคอยเวลาให้ความทุกข์นั้นดับไป. และเราจะค้นพบความสุขภายในจิตใจของเรา

อาจจะเขียนวกไปวนมาจขกท.เขียนตามความรู้สึกที่ต้องการสื่อออกมา ขอบคุณที่แวะมาอ่านนะค่ะ แท็กผิดห้องต้องขออภัย

#ดอกบัวแก้ว#
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่