สวัสดีครับ
มีประสบการณ์แย่ๆ กับค่ายทรูมาแบ่งปัน
เมื่อปี 2013 ผมได้ใช้เบอร์มือถือเบอร์ A ค่ายทรู แบบรายเดือน โดยแจ้งความประสงค์ที่จะปิดเบอร์ เพื่อเปลี่ยนไปใช้อีกเบอร์หนึ่ง เบอร์ B (ที่เป็นค่ายทรูเหมือนกัน)
โดยในการปิดบริการครั้งนั้นได้ไปชำระค่าบริการให้เป็น 0 ที่ทรูช็อป
เมื่อเดือน ก.พ. 2018 ผมได้รับจดหมายจากสำนักงานกฎหมายว่ามีค่าบริการค้างชำระของเบอร์ A จำนวน 1036 บาท ด้วยความสงสัยจึงโทรไปสอบถาม Call Center ว่ามีค่าบริการจากเบอร์ที่ปิดไปแล้วถึง 5 ปี มาเรียกเก็บได้อย่างไร ก็ได้รับคำตอบมาว่า อาจจะเป็นค่าบริการของรอบบิลสุดท้ายที่ต้องเรียกเก็บตามหลัง ซึ่งผมได้โต้แย้งไปว่าผมปิดเบอร์ทรูมา 2-3 ครั้ง จำได้ว่าทุกครั้งที่ปิดทางศูนย์จะให้ชำระค่าบริการโดยคิดถัวเฉลี่ยเป็นรายวันจากแพคเกจรายเดือน ให้ถึงวันที่ไปปิดบริการที่ศูนย์ จึงไม่น่าจะมีค่าบริการค้างชำระอีก ซึ่งอันนี้เป็นสิ่งที่ผมเข้าใจจากประสบการณ์ หรือถึงมีค่าบริการตกค้าง มันจะมากถึงขนาด 1036 บาทเลยหรือ ซึ่งยอดนี้เท่ากับแพคเกจเต็มๆ เดือนเลยด้วยซ้ำไป ทางCall Centerได้แจ้งว่าจะตรวจสอบให้ โดยในระหว่างนั้นผมก็ยังใช้เบอร์ B ซึ่งเป็นเบอร์ค่ายทรูที่เปลี่ยนมาตั้งแต่ 2013 อย่างไม่มีปัญหา เรื่องก็เงียบไป ไม่มีใครโทรมาแจ้งความคืบหน้าใดๆ จนกระทั่ง
เดือน ส.ค. 2018 ผมต้องการที่จะเปลี่ยนเบอร์ เป็นเบอร์มงคล จึงได้ไปซื้อเบอร์มงคลเบอร์ C มาเบอร์หนึ่งในราคาเกือบหมื่น โดยเบอร์ C เป็นซิมแบบเติมเงินของค่ายทรู วันที่ 3 ส.ค. ผมได้เดินทางไปที่ทรูช็อปสาขา terminal 21 เพื่อรับโอนเบอร์จากคนที่ซื้อ แจ้งเปลี่ยนเบอร์ C เป็นรายเดือน และปิดเบอร์ B
ปรากฎว่าทางศูนย์ไม่ให้เปลี่ยนเป็นรายเดือนได้ เนื่องจากมีค่าใช้บริการค้างชำระของเบอร์ A ผมเลยนึกขึ้นมาได้ว่าเคยมีเรื่องนี้อยู่ เลยสอบถามไปว่าผมเคยโทรมาให้ตรวจสอบเรื่องนี้นานแล้ว ได้ผลเป็นอย่างไรบ้าง พนักงานที่สาขาก็แจ้งมาว่าดูในระบบมีการบันทึกไว้ว่าเมื่อ ก.พ. 2018 ผมได้โทรเข้ามา Call Center และมีการส่งเรื่องเพื่อตรวจสอบเรื่องนี้จริง แต่ก็ยังไม่มีคำตอบใดๆ!!!
ผมเลยปรึกษาพนักงานว่าทำอย่างไรดี เพราะผมมีฤกษ์ในการใช้เบอร์ใหม่ และปิดเบอรเก่าในวันที่ 4 ส.ค. พนักงานบอกว่าทำอะไรไม่ได้ ต้องรอผลตรวจสอบ หรือชำระ 1036 บาทนั้น จึงจะเปลี่ยนเป็นรายเดือนได้ ผมไม่อยากรอเพราะขี้เกียจเดินทางไปที่ศูนย์อีก จึงบอกเขาไปว่าไม่เปลี่ยนเป็นรายเดือนแล้ว แต่จะย้ายค่ายเลยละกัน พนักงานก็บอกว่าได้ และแจ้งพนักงานด้วยว่า เรื่องมันผ่านมา 5 ปีแล้ว ไม่มีใครจำได้หรอกว่าค่าบริการที่เกิดขึ้นมันค้างจริง หรือไม่ค้าง พอไปแจ้งย้ายค่าย ปรากฎว่าได้ SMS แจ้งว่าไม่สามารถย้ายค่ายได้ เนื่องจากมีค่าบริการค้างชำระกับค่ายเก่า
ผมจึงติดต่อค่ายทรูอีกหลายครั้ง เพื่อติดตามผลการตรวจสอบเรื่องค่าบริการเบอร์ A ที่ทรูอ้างว่าผมค้างชำระมาเมื่อ 5 ปีที่แล้ว โทรตามหลายครั้ง ก็ยังไม่มีความคืบหน้า แจ้งให้ Call Center ทราบถึงปัญหาว่าในระหว่างนี้ผมจำเป็นที่จะต้องใช้เบอร์ C แบบเติมเงินไปก่อน จนกว่าผลตรวจสอบจะออกมา ทำให้ผมเสียเงินเติมเงินไปมากกว่าวันละ 69 บาท ซึ่งแพงมาก (69 บาทเป็น maximum daily cap ของค่าอินเตอร์เน็ต ซึ่งผมใช้ถึง cap นี้ทุกวัน) จึงอยากให้เร่งตรวจสอบให้ จนถึงวันนี้ 14 ส.ค. ก็ยังไม่มีความคืบหน้าใดๆ
สรุป ผมว่ามันไม่แฟร์เลย เหมือนตอนนี้ผมถูกบังคับให้จ่ายค่าบริการของเบอร์ A ของเมื่อห้าปีที่แล้ว ที่แม้แต่ผมเองก็จำไม่ได้ว่ามีค่าใช้จ่ายนี้เกิดขึ้นจริงหรือไม่ คือผมรู้สึกว่าผมไม่ได้หนีไปไหนเลย 5ปีที่ผ่านมานี้ก็เป็นลูกค้าทรูตลอด เบอร์ B ก็ทรู เน็ตบ้านก็ทรู เป็นลูกค้าทรูมามากกว่า 10 ปี ทำไมไม่ตาม ตามตอนนี้ใครจะไปจำได้
ตอนนี้อยากจะยกเลิกบริการของทรูทั้งหมดแต่ก็ทำไม่ได้เพราะเบอร์มงคลซื้อมาแพง ตอนนี้ผมได้ข้อมูลมาว่าค่าบริการโทรศัพท์มีอายุความ 2 ปี เรียกเก็บได้ภายใน 2 ปีหลังจากที่มีการซื้อสินค้า และบริการนั้นเกิดขึ้น ตอนนี้กำลังแจ้งไปทาง สคบ. อยู่ครับ
**เบอร์มงคลเป็นความเชื่อส่วนบุคคล โปรดใช้วิจารณญาณ**
ทรู เรียกเก็บค่าบริการของเบอร์ที่ปิดไปแล้ว 5 ปี!!!!
มีประสบการณ์แย่ๆ กับค่ายทรูมาแบ่งปัน
เมื่อปี 2013 ผมได้ใช้เบอร์มือถือเบอร์ A ค่ายทรู แบบรายเดือน โดยแจ้งความประสงค์ที่จะปิดเบอร์ เพื่อเปลี่ยนไปใช้อีกเบอร์หนึ่ง เบอร์ B (ที่เป็นค่ายทรูเหมือนกัน)
โดยในการปิดบริการครั้งนั้นได้ไปชำระค่าบริการให้เป็น 0 ที่ทรูช็อป
เมื่อเดือน ก.พ. 2018 ผมได้รับจดหมายจากสำนักงานกฎหมายว่ามีค่าบริการค้างชำระของเบอร์ A จำนวน 1036 บาท ด้วยความสงสัยจึงโทรไปสอบถาม Call Center ว่ามีค่าบริการจากเบอร์ที่ปิดไปแล้วถึง 5 ปี มาเรียกเก็บได้อย่างไร ก็ได้รับคำตอบมาว่า อาจจะเป็นค่าบริการของรอบบิลสุดท้ายที่ต้องเรียกเก็บตามหลัง ซึ่งผมได้โต้แย้งไปว่าผมปิดเบอร์ทรูมา 2-3 ครั้ง จำได้ว่าทุกครั้งที่ปิดทางศูนย์จะให้ชำระค่าบริการโดยคิดถัวเฉลี่ยเป็นรายวันจากแพคเกจรายเดือน ให้ถึงวันที่ไปปิดบริการที่ศูนย์ จึงไม่น่าจะมีค่าบริการค้างชำระอีก ซึ่งอันนี้เป็นสิ่งที่ผมเข้าใจจากประสบการณ์ หรือถึงมีค่าบริการตกค้าง มันจะมากถึงขนาด 1036 บาทเลยหรือ ซึ่งยอดนี้เท่ากับแพคเกจเต็มๆ เดือนเลยด้วยซ้ำไป ทางCall Centerได้แจ้งว่าจะตรวจสอบให้ โดยในระหว่างนั้นผมก็ยังใช้เบอร์ B ซึ่งเป็นเบอร์ค่ายทรูที่เปลี่ยนมาตั้งแต่ 2013 อย่างไม่มีปัญหา เรื่องก็เงียบไป ไม่มีใครโทรมาแจ้งความคืบหน้าใดๆ จนกระทั่ง
เดือน ส.ค. 2018 ผมต้องการที่จะเปลี่ยนเบอร์ เป็นเบอร์มงคล จึงได้ไปซื้อเบอร์มงคลเบอร์ C มาเบอร์หนึ่งในราคาเกือบหมื่น โดยเบอร์ C เป็นซิมแบบเติมเงินของค่ายทรู วันที่ 3 ส.ค. ผมได้เดินทางไปที่ทรูช็อปสาขา terminal 21 เพื่อรับโอนเบอร์จากคนที่ซื้อ แจ้งเปลี่ยนเบอร์ C เป็นรายเดือน และปิดเบอร์ B
ปรากฎว่าทางศูนย์ไม่ให้เปลี่ยนเป็นรายเดือนได้ เนื่องจากมีค่าใช้บริการค้างชำระของเบอร์ A ผมเลยนึกขึ้นมาได้ว่าเคยมีเรื่องนี้อยู่ เลยสอบถามไปว่าผมเคยโทรมาให้ตรวจสอบเรื่องนี้นานแล้ว ได้ผลเป็นอย่างไรบ้าง พนักงานที่สาขาก็แจ้งมาว่าดูในระบบมีการบันทึกไว้ว่าเมื่อ ก.พ. 2018 ผมได้โทรเข้ามา Call Center และมีการส่งเรื่องเพื่อตรวจสอบเรื่องนี้จริง แต่ก็ยังไม่มีคำตอบใดๆ!!!
ผมเลยปรึกษาพนักงานว่าทำอย่างไรดี เพราะผมมีฤกษ์ในการใช้เบอร์ใหม่ และปิดเบอรเก่าในวันที่ 4 ส.ค. พนักงานบอกว่าทำอะไรไม่ได้ ต้องรอผลตรวจสอบ หรือชำระ 1036 บาทนั้น จึงจะเปลี่ยนเป็นรายเดือนได้ ผมไม่อยากรอเพราะขี้เกียจเดินทางไปที่ศูนย์อีก จึงบอกเขาไปว่าไม่เปลี่ยนเป็นรายเดือนแล้ว แต่จะย้ายค่ายเลยละกัน พนักงานก็บอกว่าได้ และแจ้งพนักงานด้วยว่า เรื่องมันผ่านมา 5 ปีแล้ว ไม่มีใครจำได้หรอกว่าค่าบริการที่เกิดขึ้นมันค้างจริง หรือไม่ค้าง พอไปแจ้งย้ายค่าย ปรากฎว่าได้ SMS แจ้งว่าไม่สามารถย้ายค่ายได้ เนื่องจากมีค่าบริการค้างชำระกับค่ายเก่า
ผมจึงติดต่อค่ายทรูอีกหลายครั้ง เพื่อติดตามผลการตรวจสอบเรื่องค่าบริการเบอร์ A ที่ทรูอ้างว่าผมค้างชำระมาเมื่อ 5 ปีที่แล้ว โทรตามหลายครั้ง ก็ยังไม่มีความคืบหน้า แจ้งให้ Call Center ทราบถึงปัญหาว่าในระหว่างนี้ผมจำเป็นที่จะต้องใช้เบอร์ C แบบเติมเงินไปก่อน จนกว่าผลตรวจสอบจะออกมา ทำให้ผมเสียเงินเติมเงินไปมากกว่าวันละ 69 บาท ซึ่งแพงมาก (69 บาทเป็น maximum daily cap ของค่าอินเตอร์เน็ต ซึ่งผมใช้ถึง cap นี้ทุกวัน) จึงอยากให้เร่งตรวจสอบให้ จนถึงวันนี้ 14 ส.ค. ก็ยังไม่มีความคืบหน้าใดๆ
สรุป ผมว่ามันไม่แฟร์เลย เหมือนตอนนี้ผมถูกบังคับให้จ่ายค่าบริการของเบอร์ A ของเมื่อห้าปีที่แล้ว ที่แม้แต่ผมเองก็จำไม่ได้ว่ามีค่าใช้จ่ายนี้เกิดขึ้นจริงหรือไม่ คือผมรู้สึกว่าผมไม่ได้หนีไปไหนเลย 5ปีที่ผ่านมานี้ก็เป็นลูกค้าทรูตลอด เบอร์ B ก็ทรู เน็ตบ้านก็ทรู เป็นลูกค้าทรูมามากกว่า 10 ปี ทำไมไม่ตาม ตามตอนนี้ใครจะไปจำได้
ตอนนี้อยากจะยกเลิกบริการของทรูทั้งหมดแต่ก็ทำไม่ได้เพราะเบอร์มงคลซื้อมาแพง ตอนนี้ผมได้ข้อมูลมาว่าค่าบริการโทรศัพท์มีอายุความ 2 ปี เรียกเก็บได้ภายใน 2 ปีหลังจากที่มีการซื้อสินค้า และบริการนั้นเกิดขึ้น ตอนนี้กำลังแจ้งไปทาง สคบ. อยู่ครับ
**เบอร์มงคลเป็นความเชื่อส่วนบุคคล โปรดใช้วิจารณญาณ**