กระทู้แรกในชีวิต หากผิดพลาดประการใดขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วยครับ
กระทู้ค่อนข้างมีความยาว และรูปเยอะมาก ครับ

สวัสดีครับทุกท่าน วันนี้กระผมจะมาขอรีวิว ความพยายามในการปลูกเมล่อน คิโมจิ ของตัวผมเอง โดยแรกเริ่มเลยนั้น ผมมีความคิดที่อยากจะลองปลูกเมล่อน เพราะเห็นตามกระทู้รีวิวต่างๆ ที่พี่ๆ ได้มีการลองปลูก ก็เลยอยากจะลองทำตามดู ซึ่งส่วนตัวเป็นคนที่ชอบปลูกต้นไม้อยู่แล้ว เพราะ บ้านอยู่ในสวน เติบโตมากับต้นไม้  แต่ก็เป็นคนที่เกลียดหนอน ไส้เดือน มากๆเหมือนกัน (ช่างขัดแย้งเหลือเกิน)

ความพยายาม ครั้งที่ 1
มาเข้าเรื่องกันเลยดีกว่าครับ หลังจากที่มีความคิด ที่อยากจะลองปลูกเมล่อนบ้าง ในครั้งแรกนั้น  ก็เริ่มจาก ไปเดินตามหาเมล็ดพันธุ์ ที่ ตลาดนัดธนบุรี (สนามหลวง2) ก็ได้ เมล็ดพันธุ์ เมล่อน ปริ๊นเซส ของเจียไต๋ มาครับ เอามาลองเพาะ ลองปลูก โดยทำโครงให้เมล่อนไต่ จากท่อน้ำประปา เอามาตัดต่อ ประกอบโครงเลียนแบบ  ราวตากผ้าครับ ปลูกแบบ ไม่มีความรู้อะไรทั้งนั้น ดินถุงทั่วๆไป ปุ๋ยที่ให้ก็ มีแต่ ปุ๋ยสูตรเสมอ 16-16-16 ผลคือ แค่โตได้ก็เก่งแล้วครับ 555+ ขนาดใบเล็กมาก จำนวนใบน้อย ออกลูกนะครับ แต่ ดูลูกไม่สมบูรณ์เท่าไหร่ ดูยังไงก็ไม่รู้ แฮะๆ










ความพยายาม ครั้งที่ 2
หลังจากการทดลองครั้งแรกผ่านไป ด้วยความตื้นตัน ว่าทำไมสภาพมันไม่น่าดูเลย ก็ตัดสินใจ ลองใหม่อีกครั้ง โดยครั้งนี้ ได้เมล็ดพันธุ์เมล่อน คิโมจิ จาก สวนจัตุจักรมา แต่ส่วนวิธีการปลูก ก็ยังคงเหมือนครั้งแรก คือดิน ปลูกทั่วๆไป 5 ถุง 100 ส่วนปุ๋ย รอบนี้ได้ ปุ๋ยน้ำ มาลองด้วย + ปุ๋ยสูตรเสมอ 16-16-16 เหมือนเดิม ผลคือ รอบนี้สภาพดีขึ้น แต่ยังต้องทำสงครามกับพวกหนอนและแมลง อย่างเข้มข้นเหมือน ครั้งที่ 1 ซึ่งสุดท้ายผลที่ออกมา ยังพอได้เห็น ว่ามีความเป็นเมล่อนอยู่บ้าง สักนิดนึง แต่ยังไม่ดีเท่าไหร่ ^0^









ความพยายามครั้งที่ 3
ต่อมา มีโอกาสต้องย้ายบ้านครับ หนีไปอยู่บ้าน ทาวน์โฮม ไม่ใช่บ้านสวนเหมือนเดิมแล้ว ก็เลย ตัดสินใจลองทำครั้งที่ 3 โดยเมล็ดพันธุ์ที่ใช้ ก็ยังเลือก เป็น คิโมจิ เหมือนเดิม ส่วนดินรอบนี้ มีการผสมแล้วครับ ใช้ดินถุง ผสม ขุยมะพร้าว กาบมะพร้าว ปุ๋ยคอก ตามที่ในเว็บสอนกัน ส่วนโครงก็ยังคง concept เดิม คือ ราวตากผ้าครับผม 555+ ปัญหาเรื่องหนอนน้อยลงครับ แต่ยังพอมีอยู่บ้าง ต้องมาไล่ ฉีดยา พ่นยา กัน ทุกๆเช้า พักหลังๆ ฉีด ไม่ตายด้วย สงสัยจะกลายพันธุ์ รอบนี้ปลูก ประมาณ 5 ต้นครับ ไม่ต่างจากรอบที่ 1 และ 2 ผลที่ออก ก็ พอได้(มั้งครับ) น้ำหนักของผลที่หนักที่สุด คือ 1.2 กิโล ส่วนรสชาติ น่ะหรอครับ จืด!!! จืดสุดๆๆๆ  ไม่มีรสไรเลย แตงกวา ยังอร่อยกว่า มารู้ทีหลัง ว่า เมล่อนเค้าต้องใส่ปุ๋ยหวานด้วย เร่งหวาน เร่งโต มีวิธีการ เทคนิค อะไรอีกเยอะ ปลูกมา 3 รอบแล้ว ก็ยังไม่พัฒนา  ^^..









ความพยายาม ครั้งที่ 4
ครั้งนี้ ขออนุญาต รีวิวแบบละเอียดเลยครับ เพราะครั้งนี้ทุ่มเทที่สุดแล้ว โดยเป้าหมายไม่ได้ มีไว้เพื่อการขายครับ เป้าหมายอย่างเดียวคือ ทำให้สำเร็จ ให้รู้ว่าเราก็ปลูกได้ กินได้ อร่อยด้วย ครั้งนี้ วางแผนนานครับ ไม่รีบ ไม่เร่งใดๆ จึงคิดว่างั้นไหนๆก็จะ เต็มที่แล้ว ก็ สร้างโรงเรือนไปด้วยละกัน จะได้ปลูกแบบปลอดสารพิษด้วย ไม่ใช้ยาฆ่าแมลง 100 %  ก็เลย ตัดสินใจครับว่า จะ ต้องทำโรงเรือนก่อน เอาแค่ ขนาดเล็กๆ ก็พอ สำหรับ ลองปลูกเล่นๆ ถ้าเบื่อแล้ว จะเปลี่ยนไป ปลูกแบบอื่นด้วย ก็เลย ตามหา แบบโรงเรือนในเว็บต่างๆครับ แต่เท่าที่หาเจอ  ก็มีแต่ โรงเรือน เกษตรใหญ่ๆ  ใหญ่กว่าบ้านผมอีก ไอที่เล็กๆหน่อย ก็แพงซะเหลือเกิน บาง หลังราคาเป็นหมื่น ก็เลย เอาวะ ทำเองก็ได้ ทำจากท่อน้ำประปา นี่แหละ ก็เลยลองออกแบบเองครับ ผลที่ได้ ดังนี้ครับ

หลังจากได้แบบแล้ว ก็เริ่มลงมือจัดหาอุปกรณ์ต่างๆ ว่าจะใช้ข้อต่ออะไร แบบไหน ให้ออกมาเป็นทรงไหน ท่อขนาดเท่าไหร่ ยาวเท่าไหร่ ออกไปหาซื้อ  แล้วก็กลับมาเตรียมอุปกรณ์เพื่อ เริ่มประกอบเลยครับ

ขนาดของโรงเรือนที่ อยากได้ และ คาดการณ์ไว้คือ กว้าง 1.5 เมตร และ ยาว 2 เมตร และสูง 1.8 เมตร ครับ ส่วนข้อต่อ และ ท่อสำหรับประกอบคร่าวๆ จริงๆมีเยอะกว่านี้ครับ ลงแค่ตัวอย่างให้ชมครับ



ส่วนแรกเริ่มจากการ ทำหลังคา และ ราวสำหรับ แขวนเมล่อน ครับ โดยท่อประปา ใช้ ขนาด 6 หุน และมีการ ใช้ท่อแป็ปอลูมิเนียม มาช่วยด้วย เพราะกลัวว่า ความแข็งแรงจะน้อย ถ้าหากใช้แต่ท่อ ประปา เนื่องจากท่อประปามีความอ่อนตัวครับ ช่วงบริเวณราวกลางสำหรับแขวนเมล่อน และ เสาตั้งจึงจะใช้เป็น ท่ออลูมิเนียมครับ




ได้ โครงหลังคามาละครับ ข้อต่อทุกจุด ยึดด้วย น็อต เพื่อกันไม่ให้หลุดออกจากกัน และเพิ่มความแข็งแรงครับ



ได้ละครับ โครงโรงเรือนเมล่อนของเรา เหมือนจะสวยเลยทีเดียว 555+ ราวกลางและเสามุม 4 ด้าน ใช้ ท่อ อลูมิเนียม เพื่อเพิ่มความแข็งแรงครับ



ยิงน็อตเสริมความแกร่ง ทุกจุดครับ


ทดสอบความแข็งแกร่งของโครงสร้าง โดยวิศกรภายในบ้าน เอาไปเป็นราวตากผ้าซะงั้น

หลังจากนั้น ก็ปล่อยโครงทิ้งไว้ แบบนี้ ครับ ประมาณ 2 อาทิตย์เห็นจะได้ เพราะ งบ หมดครับ ไม่มีตังค์ ไปหาวัสดุ อุปกรณ์มาปลูกเมล่อนต่อ แต่ช่วง 2 อาทิตย์นี้ ที่ผ่านแดด ผ่านลม ผ่านฝนมา ทำให้ผมได้รู้ว่า โครงเมล่อนที่ผมสร้างขึ้นมานั้น มันไม่แข็งแรงคร้าบบบ ไม่แข็งแรง !! จำเป็นต้องแก้แบบ อีกนิดหน่อย คือ การใส่ เสา เพิ่มเข้าไปครับ และ เพิ่ม คาน ที่หลังคา เพื่อกัน อาการผ้าใบพลาสติกจะตกท้องช้าง แล้ว มันจะทำให้โรงเรือน ของผม สามารถติดประตูได้ด้วยครับ (ตอนแรก กะ ไม่เอาประตู ใช้มุดเอา 5555+)

ต้องให้น้องมาช่วยครับ คนเดียวทำไม่ไหว จะเป็นลม



ต่อมา ก็เริ่มทำประตูครับ ใช้ท่อประปาเหมือนเดิม มาขึงด้วยตาข่าย แล้วดึงให้ตึงครับ



หลังจากทำประตูเสร็จ ก็เริ่ม ติดตาข่าย และ หลังคาเลยครับ โดยใช้ตาข่ายขนาด 32 ตา + พลาสติกใส 150 ไมครอน + คลิปล็อค ครับ



เสร็จเรียบร้อยครับ สำหรับ โรงเรือน ปลูกเมล่อน เหนื่อยมาก ไม่รู้ว่า เอาจริงๆ ทำโรงเรือน ยากกว่า ปลูกเมล่อนหรือเปล่าด้วยครับ 5555


หลังจากได้ โรงเรือนมาแล้ววววววว ก็มาถึง วันที่ต้องดำเนินตาม ความฝันครับ ต้องทำให้ได้ ทำให้สำเร็จ หึๆๆ เริ่มกันเลยครับ

ครั้งนี้ บรรจง ตั้งแต่ การผสม ดินเลยครับ ใช้ ดินขุยไผ่( เนื้อดินเยอะ) + ดินหมักใบก้ามปู + ปุ๋ยคอก + ปุ๋ยเม็ด สูตรเสมอ + ขุยมะพร้าว โดยเน้น อัตราส่วนขุยมะพร้าวให้ เยอะไว้ก่อนครับ เพื่อช่วยเก็บน้ำ เพราะผมไม่มีระบบ น้ำหยดครับ อาศัย การรดน้ำเช้าเย็นเอา


หลังจากผสมดินเสร็จ ก็มาเริ่มเพาะเมล็ดเลยครับ จากปกติ ใช้ กระดาษทิชชู่ ในการเพาะเมล็ดครั้งนี้เปลี่ยนเป็น พีชมอส ครับ เห็นเค้าว่ากันว่าดี แต่ความคิดเห็นส่วนตัว ผมว่าผมไม่เห็นความต่างเท่าไหร่นะ เพราะปกติ 3 รอบที่ผ่านมา ผมเพาะในกระดาษทิชชู่แล้วเอามาใส่ กระถางก็ โตดี ปกติ ครับ