สวัสดีเพื่อนๆทุกคนอีกครั้งนะครับ จากกระทู้แรกของผม
http://ppantip.com/topic/32652663 กับการค้นหาเมล่อนที่มีกลิ่นเหมือนน้ำผลไม้ที่สังเคราะห์ขึ้น ด้วยการค้นหาเมล็ดพันธุ์ต่างๆมาทดลองปลูกด้วยระบบไฮโดรโปนิกส์
การปลูกของผมปลูกบริเวณทางเท้าของหมู่บ้าน เป็นบริเวณข้างบ้านของผม เป็นการทำผิดเรื่องของการใช้พื้นที่สาธารณะ แน่นอนครับ หากมีการร้องเรียนอันเนื่องจากความเดือดร้อน พร้อมจะย้ายทันที (ขอบคุณเพื่อนๆจากกระทู้ที่แล้วที่เตือนกันครับ)
ความสนใจและความอยากทดลองมากมายมีเข้าในหัวเรื่อยๆ จากที่ทิ้งท้ายกันไว้คราวก่อน เรื่องของ สตอเบอรี่ลอยฟ้า กับความฝันที่ว่า เมื่อเข้าโรงเรือนมา มีสตอเบอรี่ออกผลห้อยออกมาทั้ง 2 ข้าง วันนี้ผมก็มีเรื่องนี้มาเล่าให้ฟังเหมือนกัน เข้าเรื่องกันเลยดีกว่า
จากวันนั้นจนถึงตอนนี้ ผมได้ปลูกมาแล้ว ทั้งหมด 7 สายพันธุ์ รับประทานทั้งหมด 8 สายพันธุ์ (พันธุ์ที่ 8 ฮอกไกโดเมล่อน) จำนวนการปลูกทั้งหมด 3 รอบ ซึ่งผมขอเล่าตั้งแต่เริ่มโครงการ 2 เลยนะครับ
รอบที่ 1 (จากลิ้งค์
http://ppantip.com/topic/32652663 )
- พันธุ์ คิโมจิ (ภาพเมล่อน จากการปลูกครั้งที่ 2)
เมล่อนสายพันธุ์ญี่ปุ่นแท้ เนื้อสีเขียว ฉ่ำมากเวลาสุกงอม กลิ่นหอมขึ้นจมูก รสสัมผัส นุ่ม
ลายของผล สวยงาม เด่น นูนชัดเจน ผลใหญ่ที่สุดในการปลูก 1.6 กิโลกรัม
รอบที่ 2
เริ่มจากการที่ ความคลั่งการปลูกต้นไม้มีมากขึ้น โปรเจคสตรอเบอรี่ และเมล่อน ก้ผุดขึ้นมาด้วยการไม่รอช้า สั่ง ไหลสตรอเบอรี่ จากไร่ภู่ภักดี จำนวน 20 ไหล ราคา 600 บาท ซึ่งการสั่งไหล ไม่ได้หมายความว่า สั่งวันนี้ ได้ของอาทิตหน้า แต่จำเป็นต้องรอ ให้ทางไร่เขาทำไหลก่อน เพราะมีคนสั่งเยอะมาก และแบบนี้เองทำให้สิ่งที่ไม่คาดฝันเกิดขึ้น อยู่ๆ ไหลที่คิดว่าจะมาเดือนหน้า กลับมาก่อนเวลา
คิดในใจจะทำอย่างไรดี เพราะต้องทำการพักฟื้นต้นไหลที่บอบช้ำจากการขนส่ง สอบถามพี่ๆ เลยทำแบบนี้ซะเลย
จับแช่น้ำ เป็นไฮโดร เพื่อรอปุ๋ย และอุปกรณ์ต่างๆที่จะใช้ปลูกในรอบที่ 2
ผ่านไปเกือบสัปดาห์ ได้เวลาที่จะย้ายลงถุงปลูก (เริ่มแรกอยากทำแบบท่อบนหัว แต่เป็นแบบน้ำวน ต้องซื้อท่อมาอีกอะไรอีก เปลือง)
จากนั้นจัดแจงย้ายเข้าโรงเรือน โดยรวมก็ประมาณนี้
ด้านบน
เมื่อจัดการสตรอเบอรี่เสร็จ ก็ได้เวลาพระเอกของงาน เมล่อน 5 สายพันธุ์ของรอบที่ 2 ได้แก่
1. พันธุ์ ปริ๊นเซส
2. พันธุ์ ซันไชร์สวีท (380)
3. พันธุ์ ฮาโลน่า
4. พันธุ์ เกาหลี
5. พันธุ์ คิโมจิ (ตัวเดียวกับรอบแรก)
อัพเกรดระบบให้น้ำเป็นแบบ โอ่งมังกรคู่
วันเวลาผ่านไป ครบ 1 สัปดาห์ เด็กท้ายสวนบอก ย้ายปลูกได้แล้ว จึงดำเนินการย้ายปลูกลงถุงปลูกตามนั้น
เข้าสู่โหมดเติบโต การพัฒนาในช่วงลำต้น
สตรอเบอรี่ฟื้นแล้ว ต้นตั้งตรงเชียว
คุณพ่อแอบมาทำระบบน้ำวนอีกแล้ว แกท้าทายด้วยโจทย์รอบแรก ที่ทำไม่สำเร็จ
เมล่อนและสตรอเบอรี่ ก็แข่งกันโตขึ้นเรื่อยๆ สตรอเบอรี่งานนี้ก็ออกไหลมาแล้ว ตื่นเต้นมากตอนนั้น
และแล้ววันนี้ที่รอคอยก็มาถึง กลับมาจากทำงาน เดินชมสวน ปีนป่ายดูนู่นนี่นั่น พลันไปพบกับสิ่งนี้ ที่ทำให้คุณต้องตะลึง(ไม่ใช่ละ)
แม่เจ้า! น้ำตาลูกจะไหล ดอกสตอเบอรี่ดอกแรกบาน ปลูกเองมากับมือ แค่เห็นดอกก็ฟินแล้ว ว่าเป็นก้าวแรกที่สำคัญบลาๆ เพ้อไปเรื่อย ถ่ายรูปแล้ว ถ่ายรูปอีก
กลับมาชมเติบโตกับเมล่อนและสตรอเบอรี่กันต่อ
ใบเมล่อนคายน้ำ สวยงามไหมละ (ยิ้มมุมปาก)
โตไปอย่างรวดเร็ว ตอนนี้ถึงจุดที่ผมอยากบอกทุกคนว่าฟินที่สุดอีกจุดนึง ดูภาพโรงเรือนด้านล่างนะครับ ภายนอกเหมือนป่ารก
แต่เมื่อดูภายใน
ความรู้สึกในตอนนั้นคือ อากาศที่หนาวเย็นในฤดูหนาว แสงแดดยามเช้าที่ลอดผ่านม่านเมล่อน และบรรยากาศในการนั่งผสมเกสร ตัดกิ่งแขนงต่างๆ มันมีความสุขมากจนบอกไม่ถูก ความเย็นจากอากาศที่เข้ามาในโรงเรือน แม้จะมีผลกับเมล่อน แต่กับผู้ปลูกแล้ว มันเป็นอะไรที่ ฟินมาก เพราะปกติในโรงเรือน จะร้อนมาก แต่นี่มันใช่ นั่งได้เป็นชั่วโมง (วันนั้นนั่งผสม แต่งกิ่ง ไปชั่วโมงกว่า)
จากภาพด้านบน จะสังเกตเห็น ลูกเมล่อน มีสีเหลือง นั่นคือ อาการของผลฝ่อครับ
ผมคิดว่าเกิดจากการไม่ได้รับอาหารเสริม แคลเซียม โบรอน เหมือนในรอบแรก เพราะเด็กท้ายสวนทำแตกครับ T T
การเจริญเติบโตของพืชนั้น เติบโตขึ้นเรื่อยๆ และแล้ว สิ่งที่เรียกว่าความสำเร็จแรก ก็มาถึง ( แค่นี้ก็สำเร็จละ )
ดูกันชัดๆนะครับ
ใช่แล้วครับ สตรอเบอรี่ผลแรก ในชีวิต แม้จะบิดจะเบี้ยว ผมก็นับว่าเป็นความสำเร็จ ฮ่าๆ
สตรอเบอรี่ผลนั้น ผมเองก็ไม่ได้ทาน แม้แต่น้อย คนที่ทานคือ เด็กท้ายสวนที่เดินเข้ามาชมผลผลิตในสวนบ่อยๆ
ผลนี้บั้บเบิ้ลจอง เขาว่างั้นนะ (พันธุ์ 380 ที่หนัก 2.3)
ก่อนใกล้เก็บเกี่ยว สายพันธุ์ ญี่ปุ่น และ เกาหลี
ก่อนใกล้เก็บเกี่ยว สายพันธุ์ 380 และ ปริ๊นเซส
เวลาล่วงเลยผ่านไปเรื่อยๆ จนเมื่อถึงอายุเก็บเกี่ยว ผมขอสรุปดังนี้
- พันธุ์ ปริ๊นเซส
เมล่อนเนื้อเขียว จาก เจียไต๋ รสชาติหวาน มีกลิ่นหอมแต่ไม่เท่า คิโมจิ
ลายของผล เป็นลายถี่ ไม่เด่นนูน เมื่อสุกจะออกสีเหลืองแซมๆ ปลูกง่าย
- พันธุ์ ซันไชร์สวีท (380)
เมล่อนเนื้อส้ม เมล็ดส่งตรงจากมาเลเซีย รสชาติหวาน กลิ่นหอมแปร่งๆ คล้ายๆนมแมว รสสัมผัส กรอบ นุ่ม เนื้อทราย
ลายของผล เป็นลายถี่ ไม่เด่นนูน เมื่อผลสุกเปลือกจะกลายเป็นสีเหลือง พันธุ์นี้ที่ปลูกได้น้ำหนักสูงสุด 2.3 ใหญ่สุดในการปลูกรอบนี้
ภาพของเมล่อนพันธุ์ 380 และ ปริ๊นเซส
- พันธุ์ ฮาโลน่า
เมล่อนเนื้อส้ม สายพันธุ์ยุโรป กลิ่นหอมมากๆ มากที่สุด เมื่อเข้าโรงเรือน กลิ่นฟุ้งไปทั้งสวน รสสัมผัส กรอบนุ่ม แต่หวานน้อยมาก
ลายของผล เป็นลายห่าง เด่น ทรงผลเป็นปล้อง เมื่อสุก ผลจะเป็นสีเหลือง ส่งกลิ่นหอม
สรุป ทานสดไม่เวิร์ค เพราะอ่อนหวาน แต่กลายเป็นเมนู ฮาโลน่า สาคู นมสด(เสียงกังวาล)
รสหวานมันของนมสดและน้ำเชื่อม บวกกับความหอมเย็นสดชื่นของเมล่อนสายพันธุ์ฮาโลน่า หากใครได้ลิ้มรสแล้ว รับรองต้องติดใจแน่ครับ คุณช้ะคริตครับ (เว่อร์นะ ฮ่าๆ)
- พันธุ์ เกาหลี
เมล่อนเนื้อเขียว รสสัมผัสนุ่มลิ้น เมื่อทิ้งไว้ให้สุกงอม มีกลิ่นหอม เนื้อของผลนิ่มมากจนคล้ายเยลลี่ผลไม้
ลายของผล มีลักษณะเด่นชัดเจน คล้ายคิโมจิ ผลใหญ่ที่สุดในการปลูก 1.2 กิโลกรัม
พูดถึง คิโมจิ เกือบลืม แปลงไฮโดรที่พ่อผมทำไว้ งานครั้งนี้ ประสบความสำเร็จดังภาพครับ
สรุปการปลูกเมล่อนในรอบที่ 2 ของผม รอบนี้โดยรวมผลผลิตที่ได้ไม่ค่อยตรงตามสายพันธุ์ อันเกิดจากการขาดความเอาใจใส่เท่าครั้งแรก เช่น การไม่ให้อาหารเสริม การปลูกในฤดูหนาวมีผลทำให้เมล่อน ผลเล็ก แสงแดดที่ได้ น้อยลง ทำให้แคระแกรนในช่วงพัฒนาลำต้น กลับกันกับ สตรอเบอรี่ ที่เจริญเติบโตในหน้าหนาวได้ดี แต่ผลของการปลูกในโรงเรือนของผม คือการที่ดอกสตรอเบอรี่ไม่ติดดอก อาจารย์ผู้ให้ความรู้กล่าวว่า เป็นเพราะ "การยกสูงของต้นสตรอเบอรี่ ให้ใกล้กับหลังคา ส่งผลให้ความร้อนที่ได้กระทบกับการเจริญเติบโต" จึงทำให้ผม ย้ายสตรอเบอรี่ทั้งหมดไปปลูกภายนอกโรงเรือน เพื่อเตรียมพื้นที่สำหรับ การปลูกในรอบที่ 3
เมื่อย้ายเสร็จ ก็ทำตามนี้
ซื้อมากินให้หายเจ็บใจ ราคากิโลกรัมละ 80 บาท กับการที่ผมเสียเงินไป 600 ได้ทาน 2 ผล (ปลอบใจตัวเอง ว่าปลูกเอง แต่เสียดายอยู่ดี)
เมล่อนไฮโดรโปนิกส์ ของคนคลั่งเมล่อน เฟส 2
สวัสดีเพื่อนๆทุกคนอีกครั้งนะครับ จากกระทู้แรกของผม http://ppantip.com/topic/32652663 กับการค้นหาเมล่อนที่มีกลิ่นเหมือนน้ำผลไม้ที่สังเคราะห์ขึ้น ด้วยการค้นหาเมล็ดพันธุ์ต่างๆมาทดลองปลูกด้วยระบบไฮโดรโปนิกส์
การปลูกของผมปลูกบริเวณทางเท้าของหมู่บ้าน เป็นบริเวณข้างบ้านของผม เป็นการทำผิดเรื่องของการใช้พื้นที่สาธารณะ แน่นอนครับ หากมีการร้องเรียนอันเนื่องจากความเดือดร้อน พร้อมจะย้ายทันที (ขอบคุณเพื่อนๆจากกระทู้ที่แล้วที่เตือนกันครับ)
ความสนใจและความอยากทดลองมากมายมีเข้าในหัวเรื่อยๆ จากที่ทิ้งท้ายกันไว้คราวก่อน เรื่องของ สตอเบอรี่ลอยฟ้า กับความฝันที่ว่า เมื่อเข้าโรงเรือนมา มีสตอเบอรี่ออกผลห้อยออกมาทั้ง 2 ข้าง วันนี้ผมก็มีเรื่องนี้มาเล่าให้ฟังเหมือนกัน เข้าเรื่องกันเลยดีกว่า
จากวันนั้นจนถึงตอนนี้ ผมได้ปลูกมาแล้ว ทั้งหมด 7 สายพันธุ์ รับประทานทั้งหมด 8 สายพันธุ์ (พันธุ์ที่ 8 ฮอกไกโดเมล่อน) จำนวนการปลูกทั้งหมด 3 รอบ ซึ่งผมขอเล่าตั้งแต่เริ่มโครงการ 2 เลยนะครับ
รอบที่ 1 (จากลิ้งค์ http://ppantip.com/topic/32652663 )
- พันธุ์ คิโมจิ (ภาพเมล่อน จากการปลูกครั้งที่ 2)
เมล่อนสายพันธุ์ญี่ปุ่นแท้ เนื้อสีเขียว ฉ่ำมากเวลาสุกงอม กลิ่นหอมขึ้นจมูก รสสัมผัส นุ่ม
ลายของผล สวยงาม เด่น นูนชัดเจน ผลใหญ่ที่สุดในการปลูก 1.6 กิโลกรัม
รอบที่ 2
เริ่มจากการที่ ความคลั่งการปลูกต้นไม้มีมากขึ้น โปรเจคสตรอเบอรี่ และเมล่อน ก้ผุดขึ้นมาด้วยการไม่รอช้า สั่ง ไหลสตรอเบอรี่ จากไร่ภู่ภักดี จำนวน 20 ไหล ราคา 600 บาท ซึ่งการสั่งไหล ไม่ได้หมายความว่า สั่งวันนี้ ได้ของอาทิตหน้า แต่จำเป็นต้องรอ ให้ทางไร่เขาทำไหลก่อน เพราะมีคนสั่งเยอะมาก และแบบนี้เองทำให้สิ่งที่ไม่คาดฝันเกิดขึ้น อยู่ๆ ไหลที่คิดว่าจะมาเดือนหน้า กลับมาก่อนเวลา
คิดในใจจะทำอย่างไรดี เพราะต้องทำการพักฟื้นต้นไหลที่บอบช้ำจากการขนส่ง สอบถามพี่ๆ เลยทำแบบนี้ซะเลย
จับแช่น้ำ เป็นไฮโดร เพื่อรอปุ๋ย และอุปกรณ์ต่างๆที่จะใช้ปลูกในรอบที่ 2
ผ่านไปเกือบสัปดาห์ ได้เวลาที่จะย้ายลงถุงปลูก (เริ่มแรกอยากทำแบบท่อบนหัว แต่เป็นแบบน้ำวน ต้องซื้อท่อมาอีกอะไรอีก เปลือง)
จากนั้นจัดแจงย้ายเข้าโรงเรือน โดยรวมก็ประมาณนี้
ด้านบน
เมื่อจัดการสตรอเบอรี่เสร็จ ก็ได้เวลาพระเอกของงาน เมล่อน 5 สายพันธุ์ของรอบที่ 2 ได้แก่
1. พันธุ์ ปริ๊นเซส
2. พันธุ์ ซันไชร์สวีท (380)
3. พันธุ์ ฮาโลน่า
4. พันธุ์ เกาหลี
5. พันธุ์ คิโมจิ (ตัวเดียวกับรอบแรก)
อัพเกรดระบบให้น้ำเป็นแบบ โอ่งมังกรคู่
วันเวลาผ่านไป ครบ 1 สัปดาห์ เด็กท้ายสวนบอก ย้ายปลูกได้แล้ว จึงดำเนินการย้ายปลูกลงถุงปลูกตามนั้น
เข้าสู่โหมดเติบโต การพัฒนาในช่วงลำต้น
สตรอเบอรี่ฟื้นแล้ว ต้นตั้งตรงเชียว
คุณพ่อแอบมาทำระบบน้ำวนอีกแล้ว แกท้าทายด้วยโจทย์รอบแรก ที่ทำไม่สำเร็จ
เมล่อนและสตรอเบอรี่ ก็แข่งกันโตขึ้นเรื่อยๆ สตรอเบอรี่งานนี้ก็ออกไหลมาแล้ว ตื่นเต้นมากตอนนั้น
และแล้ววันนี้ที่รอคอยก็มาถึง กลับมาจากทำงาน เดินชมสวน ปีนป่ายดูนู่นนี่นั่น พลันไปพบกับสิ่งนี้ ที่ทำให้คุณต้องตะลึง(ไม่ใช่ละ)
แม่เจ้า! น้ำตาลูกจะไหล ดอกสตอเบอรี่ดอกแรกบาน ปลูกเองมากับมือ แค่เห็นดอกก็ฟินแล้ว ว่าเป็นก้าวแรกที่สำคัญบลาๆ เพ้อไปเรื่อย ถ่ายรูปแล้ว ถ่ายรูปอีก
กลับมาชมเติบโตกับเมล่อนและสตรอเบอรี่กันต่อ
ใบเมล่อนคายน้ำ สวยงามไหมละ (ยิ้มมุมปาก)
โตไปอย่างรวดเร็ว ตอนนี้ถึงจุดที่ผมอยากบอกทุกคนว่าฟินที่สุดอีกจุดนึง ดูภาพโรงเรือนด้านล่างนะครับ ภายนอกเหมือนป่ารก
แต่เมื่อดูภายใน
ความรู้สึกในตอนนั้นคือ อากาศที่หนาวเย็นในฤดูหนาว แสงแดดยามเช้าที่ลอดผ่านม่านเมล่อน และบรรยากาศในการนั่งผสมเกสร ตัดกิ่งแขนงต่างๆ มันมีความสุขมากจนบอกไม่ถูก ความเย็นจากอากาศที่เข้ามาในโรงเรือน แม้จะมีผลกับเมล่อน แต่กับผู้ปลูกแล้ว มันเป็นอะไรที่ ฟินมาก เพราะปกติในโรงเรือน จะร้อนมาก แต่นี่มันใช่ นั่งได้เป็นชั่วโมง (วันนั้นนั่งผสม แต่งกิ่ง ไปชั่วโมงกว่า)
จากภาพด้านบน จะสังเกตเห็น ลูกเมล่อน มีสีเหลือง นั่นคือ อาการของผลฝ่อครับ
ผมคิดว่าเกิดจากการไม่ได้รับอาหารเสริม แคลเซียม โบรอน เหมือนในรอบแรก เพราะเด็กท้ายสวนทำแตกครับ T T
การเจริญเติบโตของพืชนั้น เติบโตขึ้นเรื่อยๆ และแล้ว สิ่งที่เรียกว่าความสำเร็จแรก ก็มาถึง ( แค่นี้ก็สำเร็จละ )
ดูกันชัดๆนะครับ
ใช่แล้วครับ สตรอเบอรี่ผลแรก ในชีวิต แม้จะบิดจะเบี้ยว ผมก็นับว่าเป็นความสำเร็จ ฮ่าๆ
สตรอเบอรี่ผลนั้น ผมเองก็ไม่ได้ทาน แม้แต่น้อย คนที่ทานคือ เด็กท้ายสวนที่เดินเข้ามาชมผลผลิตในสวนบ่อยๆ
ผลนี้บั้บเบิ้ลจอง เขาว่างั้นนะ (พันธุ์ 380 ที่หนัก 2.3)
ก่อนใกล้เก็บเกี่ยว สายพันธุ์ ญี่ปุ่น และ เกาหลี
ก่อนใกล้เก็บเกี่ยว สายพันธุ์ 380 และ ปริ๊นเซส
เวลาล่วงเลยผ่านไปเรื่อยๆ จนเมื่อถึงอายุเก็บเกี่ยว ผมขอสรุปดังนี้
- พันธุ์ ปริ๊นเซส
เมล่อนเนื้อเขียว จาก เจียไต๋ รสชาติหวาน มีกลิ่นหอมแต่ไม่เท่า คิโมจิ
ลายของผล เป็นลายถี่ ไม่เด่นนูน เมื่อสุกจะออกสีเหลืองแซมๆ ปลูกง่าย
- พันธุ์ ซันไชร์สวีท (380)
เมล่อนเนื้อส้ม เมล็ดส่งตรงจากมาเลเซีย รสชาติหวาน กลิ่นหอมแปร่งๆ คล้ายๆนมแมว รสสัมผัส กรอบ นุ่ม เนื้อทราย
ลายของผล เป็นลายถี่ ไม่เด่นนูน เมื่อผลสุกเปลือกจะกลายเป็นสีเหลือง พันธุ์นี้ที่ปลูกได้น้ำหนักสูงสุด 2.3 ใหญ่สุดในการปลูกรอบนี้
ภาพของเมล่อนพันธุ์ 380 และ ปริ๊นเซส
- พันธุ์ ฮาโลน่า
เมล่อนเนื้อส้ม สายพันธุ์ยุโรป กลิ่นหอมมากๆ มากที่สุด เมื่อเข้าโรงเรือน กลิ่นฟุ้งไปทั้งสวน รสสัมผัส กรอบนุ่ม แต่หวานน้อยมาก
ลายของผล เป็นลายห่าง เด่น ทรงผลเป็นปล้อง เมื่อสุก ผลจะเป็นสีเหลือง ส่งกลิ่นหอม
สรุป ทานสดไม่เวิร์ค เพราะอ่อนหวาน แต่กลายเป็นเมนู ฮาโลน่า สาคู นมสด(เสียงกังวาล)
รสหวานมันของนมสดและน้ำเชื่อม บวกกับความหอมเย็นสดชื่นของเมล่อนสายพันธุ์ฮาโลน่า หากใครได้ลิ้มรสแล้ว รับรองต้องติดใจแน่ครับ คุณช้ะคริตครับ (เว่อร์นะ ฮ่าๆ)
- พันธุ์ เกาหลี
เมล่อนเนื้อเขียว รสสัมผัสนุ่มลิ้น เมื่อทิ้งไว้ให้สุกงอม มีกลิ่นหอม เนื้อของผลนิ่มมากจนคล้ายเยลลี่ผลไม้
ลายของผล มีลักษณะเด่นชัดเจน คล้ายคิโมจิ ผลใหญ่ที่สุดในการปลูก 1.2 กิโลกรัม
พูดถึง คิโมจิ เกือบลืม แปลงไฮโดรที่พ่อผมทำไว้ งานครั้งนี้ ประสบความสำเร็จดังภาพครับ
สรุปการปลูกเมล่อนในรอบที่ 2 ของผม รอบนี้โดยรวมผลผลิตที่ได้ไม่ค่อยตรงตามสายพันธุ์ อันเกิดจากการขาดความเอาใจใส่เท่าครั้งแรก เช่น การไม่ให้อาหารเสริม การปลูกในฤดูหนาวมีผลทำให้เมล่อน ผลเล็ก แสงแดดที่ได้ น้อยลง ทำให้แคระแกรนในช่วงพัฒนาลำต้น กลับกันกับ สตรอเบอรี่ ที่เจริญเติบโตในหน้าหนาวได้ดี แต่ผลของการปลูกในโรงเรือนของผม คือการที่ดอกสตรอเบอรี่ไม่ติดดอก อาจารย์ผู้ให้ความรู้กล่าวว่า เป็นเพราะ "การยกสูงของต้นสตรอเบอรี่ ให้ใกล้กับหลังคา ส่งผลให้ความร้อนที่ได้กระทบกับการเจริญเติบโต" จึงทำให้ผม ย้ายสตรอเบอรี่ทั้งหมดไปปลูกภายนอกโรงเรือน เพื่อเตรียมพื้นที่สำหรับ การปลูกในรอบที่ 3
เมื่อย้ายเสร็จ ก็ทำตามนี้
ซื้อมากินให้หายเจ็บใจ ราคากิโลกรัมละ 80 บาท กับการที่ผมเสียเงินไป 600 ได้ทาน 2 ผล (ปลอบใจตัวเอง ว่าปลูกเอง แต่เสียดายอยู่ดี)