สวัสดีเพื่อนๆทุกคนนะครับ วันนี้ผมมีผลงานการปลูกเมล่อนที่ได้ไอดอลอย่างพี่กอล์ฟ หรือ "ครอบครัวการ์ฟิลด์ตัวอ้วนๆ คุณกอล์ฟจัดหนักตัวพ่อ"
จุดแรกเริ่มของผมเลยคือการที่เวลาทาน ขนม หรือ น้ำผลไม้ กลิ่นเมล่อนนั้น มันหอมมาก (เคยตั้งกระทู้ถามด้วย
http://ppantip.com/topic/32108645 เฟลกับคำตอบมาก 555) ผมเลยอยากปลูกเพื่อพิสูจน์ดู (ไปซื้อเขากินมันแพง 555+) วันนึงไปเห็นผลงานของพี่กอล์ฟที่ทำแบบ ไฮโดรโปนิกส์ ผมสนใจมากถึงขั้นอาการหนัก จึงทำการหาข้อมูลวิธีการปลูก ทฤษฎีต่างๆนาๆ ทำไปเรียนรู้ไป ได้ข้อสรุป ตามที่พี่กอล์ฟเคยให้ข้อมูลไว้ทั้งหมดเลยครับ
- ปุ๋ยไฮโดรโปนิกส์ สำหรับปลูก เมล่อน จากพี่ตั้ม Best Hydroponics (
https://www.facebook.com/Best.hydroponics)
- อุปกรณ์เครื่องมือวัดค่าปุ๋ย และ ค่าความกรดด่างของน้ำ จาก พี่เป้ ninepae
- เมล็ดพันธุ์ที่ปลูกคือ พันธุ์คิโมจิ จากพี่พงษ์ FRIENDSHIP SEEDS LTD. (สั่งมา 100 เมล็ด ป่านนี้ยังปลูกไม่หมดเลย)
- และอาจารย์ผู้ให้ความรู้ทุกท่าน พี่ กอล์ฟ (IDOL),Peak Maejo (อาจารย์เจ้าของเมล็ดพันธุ์ ราชินี),TheLastlight OfLeonardo (IDOL ไฮโดรน้ำนิ่ง) ฯลฯ
- งานช่าง แปลงปลูก โรงเรือน เมล่อน จาก พ่อผมเอง คนนี้ขาดไม่ได้ 555
ผมขอแบ่งวิธีการปลูก ออกเป็น 2 ช่วงนะครับ
1. ช่วงการปลูกแบบ ไฮโดรโปนิกส์ แบบน้ำนิ่ง และ แบบน้ำวน //ล็อตที่ 1
2. ช่วงการปลูกแบบ ซับสเตรทไฮโดรโปนิกส์ แบบน้ำหยด //ล็อตที่ 2
ล็อตที่ 1
เป็นล็อตที่ ต่อยอดมาจากการที่ผมหัดปลูกผักสลัดแบบน้ำนิ่ง ตามคุณวา (รักคุณแฟน) ทำให้ผมสนใจที่จะทำเมล่อนให้ได้ เพราะไม่ใช่พืชที่ปลูกง่าย เป็นการท้าทายไปในตัว โดยหลังจากที่ สั่งซื้อเมล็ดพันธุ์เมล่อนมาแล้ว ผมจึงทำการแช่น้ำอุ่น และทำการบ่มไว้ 1 คืน จากนั้นนำเมล็ดที่ งอกแล้ว(งอกทุกเมล็ด) มาใส่ฟองน้ำที่ผ่าเตรียมไว้ (เพาะ วันที่ 2 มิถุนายน 2557)
เมื่อต้นงอกออกมา จริงๆแล้วควรนำออกไปรับแดดบ้าง ไม่เช่นนั้นจะเป็นแบบนี้
จากนั้น จึงเริ่มเตรียม รางปลูกแบบน้ำวน(ตามกระทู้ไอดอลผม
http://ppantip.com/topic/31918951) โดยชุดแรกนี้ ผมเพาะ 20 ต้น
เตรียม อุปกรณ์ ประกอบแปลงปลูก เดินไฟสำหรับต่อปั้มน้ำ (ทำรางปลูกพร้อมย้ายปลูก วันเสาร์ที่ 7 มิถุนายน 2557)
เมื่อเสร็จแล้ว จะออกมาประมาณนี้
จากนั้น ผมก็เริ่มผสมปุ๋ยไฮโดรตามอัตราส่วน พร้อมจัดแจงนำเมล่อนยืดๆ ลงไปในแปลงน้ำวน และบ่อโฟมน้ำนิ่ง ที่เตรียมไว้
เท่านั้นยังไม่พอ ด้วยความเป็นห่วงเป็นใย จึงจัดแจงหาซื้อมุ้งไนล่อน 16 ตาสีฟ้า มาคลุมแปลงเมล่อน (แต่เอาเข้าจริงๆก็ต้องหงอ เพราะเจอแมงหวี่ขาว และ เพลี้ยไฟ บุกเข้ามา) ไม่เป็นไร เรายังสู้ ปลูกไปตามอายุ ปรับค่าความเข้มข้นของน้ำตามอายุต้นให้เหมาะสม ทำการตัดกิ่งแขนง และทำค้างให้เค้าได้เลื้อยขึ้นไป
แต่ขณะเดียวกัน แฟนผมถามว่า "ทำไมต้องมาปลูกหน้าบ้าน มันเกะกะเวลาจะซักผ้า ข้างบ้านก็มีไปรื้อต้นไม้ออกสิ" เมื่อผมได้ยินคำนี้ ผมนี้ลุกขึ้นยืนเลย
ยืนแล้วจับจอบ บอกพ่อแม่และแฟนตัวดี ให้มาช่วยรื้อ ข้างบ้านซะเลย จึงเป็นที่มาของการปลูก ล็อตที่ 2
เริ่มรื้อข้างบ้าน วันอาทิตย์ที่ 15 มิถุนายน 2557
เสร็จวันที่ วันจันทร์ที่ 16 มิถุนายน 2557 (ลางาน เพราะการนี้ 555)
จากนั้น เข้าสู่โหมดมนุษย์เงินเดือน เฝ้ารอ วัน เสาร์ อาทิตย์ เพื่อมาสานต่อ
เย็นวันศุกร์ กลับมาบ้าน ต้องพบกับเซอไพรซ์ เพราะพ่อ กลับบ้านไว จัดแจงขึ้นโครงให้
ไม่รอช้า ในวัน เสาร์และอาทิตย์ จัดแจง หาอุปกรณ์ ที่ต้องการ
- โครงเหล็กฉาก
- แผ่น โพลีคาบอนเน็ตสีใส
- มุ้ง 32 ตา ( หาซื้อที่ ชลบุรีไม่ได้ สุดท้ายวิ่งเข้า กทม มากดที่ ตลาด อตก)
- อื่นๆที่เกียวข้อง
ทำเสร็จ เมื่อได้โรงเรือน จึงคิดจะทำแปลงปลูกน้ำวนในโรงเรือนนี้ แต่ได้รับคำแนะนำดีๆ จากพี่กอล์ฟ ให้ลองปลูกด้วยระบบน้ำหยด จึงจัดการศึกษา เพาะเมล็ด 40 เมล็ด และจัดเตรียมอุปกรณ์อย่างจริงจัง ทำการติดตั้ง อุปกรณ์จ่ายน้ำหยดแบบบ้านๆ และจัดวางตำแหน่งถุงปลูกจนออกมาเป็นแบบนี้
กลับไปดู ล็อตแรกหน่อย แบบน้ำวน เดี๋ยวจะน้อยใจ
ต่อด้วยน้ำนิ่งที่อยู่ในมุ้งแล้ว
ทีนี้ก็ยาวเลยครับ ตัดแต่งกิ่งแขนง ผสมเกสร ตามอายุของต้นไม้ ผิดบ้างถูกบ้าง ก็ได้ ล็อตแรกเป็นครู ทำให้ล็อตที่ 2 ค่อนข้างสมบูรณ์แบบ
ปัญหาที่เจอกับตัวระหว่างการเดินทางนั่นคือ แปลงน้ำวนปลั้กหลวม กลับมาบ้านเหี่ยวทั้งแปลง เห็นแล้วเครียดไป 3 ชั่วโมง
สรุป น้ำวน ตกรอบ ไม่ผ่านเพราะความสัพเพร่าของผมเอง
ไปดูน้ำนิ่งดีกว่า ตัดเอาลูกที่ไม่ต้องการออก เหลือไว้ลูกเดียว เพื่อคุณภาพ 555 ลูกเล็กๆ ที่เหลือก็มาลวกจิ้มน้ำพริกซะนะ
พอถึงกำหนดเก็บเกี่ยว น้ำนิ่ง ก็จัดแจงตัดมาเชยชมซะเลย
แปลกใจทำไมไม่หวาน ไปถามพี่กอล์ฟดู อ้าว เก็บก่อนกำหนด พันธุ์คิโมจิที่ปลูกเขาไว้ 50 วันหลังผสม ผมไว้ 45 วัน เรียบร้อยลูกแรก เฟลไปตามระเบียบ
ไม่เป็นไร เอาใหม่ ยังมีล็อต 2 ให้เชยชม มาดูพัฒนาการของ ล็อตที่ 2 กันครับ
โตวันโตคืนครับ เริ่มผสมเกสรบ้างแล้ว กำหนดเก็บเกี่ยว จะอยู่ ช่วง วันที่ 20 กันยายน ถึง 30 กันยายน ครับ
ต้นนี้ไม่เกี่ยว แต่น่ารัก
ต่อๆๆ เดี๋ยวออกทะเล
ช่วงเดือนสุดท้ายก่อนการเก็บเกี่ยวแล้วครับ ลายเมล่อน นูนชัดขึ้น ต้นสูงมากขึ้น เหมือนป่า ไปทุกวันๆ
อาทิตย์สุดท้าย ก่อนเก็บเกี่ยว แม่ผมด้อมๆมองๆ แล้ว จองลูกไหนดี ฮ่าๆ
ก่อนจะเก็บเมล่อน เก็บคะน้าเห็ดหอมที่ปลูกไว้แปป
และในที่สุด เวลาที่รอคอยก็มาถึง ทำการตัดเมล่อนในชุดแรก ทั้งหมด ตามภาพ วันถัดมา อีก 8 ผล และตามลำดับจาก 32 ผล
มีลูกนึง ก้นปริ มีกลิ่นหอม ทิ้งไว้ไม่ได้ จึงนำมาแช่เย็นทานเสีย
น้ำหนักที่ได้ มีตั้งแต่ 0.5 - 1.6 กิโลกรัม ครับ อาจารย์บอกว่า ไซส์ 1.5+ นี่ สุดยอดแล้วสำหรับพันธุ์ คิโมจิ ผมละฟินเลย
ผลนี้ 1.4 กิโลกรัม ครับ ที่เหลือ ขนาด 1.5 1.6 ตามลำดับครับ
ก็จบแล้วครับ เมล่อนพันธุ์คิโมจิ จากความคลั่งไคล้และทุ่มเทของผมและพ่อ
ขอบคุณสำหรับความรู้ ความแนะนำ จากอาจารย์ และพี่ๆทุกท่านที่ให้ความรู้ ทำให้ผมประสบความสำเร็จ
ถึงยังไม่บรรลุเป้าหมาย คือหาพันธุ์เมล่อน ที่มีกลิ่นหอมเหมือนน้ำผลไม้ที่เขาแต่งกลิ่นขึ้นมา แต่ก็จะพยายามหาต่อไป ตอนนี้ได้ไกด์จากพี่ๆมาบ้างแล้ว ไว้จะลองพิสูจน์ดู
แต่.............
ผมยังไม่เลิกคลั่งครับ มีโรงเรือนแล้วเลยอยากต่อยอด อยากปลูกสตรอเบอรี่ลอยฟ้า หน้าหนาวนี้ ที่ ชลบุรี ท่าสำเร็จจะมารีวิวให้ดูนะครับ
เมล่อนไฮโดรโปนิกส์ ของคนคลั่งเมล่อน
สวัสดีเพื่อนๆทุกคนนะครับ วันนี้ผมมีผลงานการปลูกเมล่อนที่ได้ไอดอลอย่างพี่กอล์ฟ หรือ "ครอบครัวการ์ฟิลด์ตัวอ้วนๆ คุณกอล์ฟจัดหนักตัวพ่อ"
จุดแรกเริ่มของผมเลยคือการที่เวลาทาน ขนม หรือ น้ำผลไม้ กลิ่นเมล่อนนั้น มันหอมมาก (เคยตั้งกระทู้ถามด้วย http://ppantip.com/topic/32108645 เฟลกับคำตอบมาก 555) ผมเลยอยากปลูกเพื่อพิสูจน์ดู (ไปซื้อเขากินมันแพง 555+) วันนึงไปเห็นผลงานของพี่กอล์ฟที่ทำแบบ ไฮโดรโปนิกส์ ผมสนใจมากถึงขั้นอาการหนัก จึงทำการหาข้อมูลวิธีการปลูก ทฤษฎีต่างๆนาๆ ทำไปเรียนรู้ไป ได้ข้อสรุป ตามที่พี่กอล์ฟเคยให้ข้อมูลไว้ทั้งหมดเลยครับ
- ปุ๋ยไฮโดรโปนิกส์ สำหรับปลูก เมล่อน จากพี่ตั้ม Best Hydroponics (https://www.facebook.com/Best.hydroponics)
- อุปกรณ์เครื่องมือวัดค่าปุ๋ย และ ค่าความกรดด่างของน้ำ จาก พี่เป้ ninepae
- เมล็ดพันธุ์ที่ปลูกคือ พันธุ์คิโมจิ จากพี่พงษ์ FRIENDSHIP SEEDS LTD. (สั่งมา 100 เมล็ด ป่านนี้ยังปลูกไม่หมดเลย)
- และอาจารย์ผู้ให้ความรู้ทุกท่าน พี่ กอล์ฟ (IDOL),Peak Maejo (อาจารย์เจ้าของเมล็ดพันธุ์ ราชินี),TheLastlight OfLeonardo (IDOL ไฮโดรน้ำนิ่ง) ฯลฯ
- งานช่าง แปลงปลูก โรงเรือน เมล่อน จาก พ่อผมเอง คนนี้ขาดไม่ได้ 555
ผมขอแบ่งวิธีการปลูก ออกเป็น 2 ช่วงนะครับ
1. ช่วงการปลูกแบบ ไฮโดรโปนิกส์ แบบน้ำนิ่ง และ แบบน้ำวน //ล็อตที่ 1
2. ช่วงการปลูกแบบ ซับสเตรทไฮโดรโปนิกส์ แบบน้ำหยด //ล็อตที่ 2
ล็อตที่ 1
เป็นล็อตที่ ต่อยอดมาจากการที่ผมหัดปลูกผักสลัดแบบน้ำนิ่ง ตามคุณวา (รักคุณแฟน) ทำให้ผมสนใจที่จะทำเมล่อนให้ได้ เพราะไม่ใช่พืชที่ปลูกง่าย เป็นการท้าทายไปในตัว โดยหลังจากที่ สั่งซื้อเมล็ดพันธุ์เมล่อนมาแล้ว ผมจึงทำการแช่น้ำอุ่น และทำการบ่มไว้ 1 คืน จากนั้นนำเมล็ดที่ งอกแล้ว(งอกทุกเมล็ด) มาใส่ฟองน้ำที่ผ่าเตรียมไว้ (เพาะ วันที่ 2 มิถุนายน 2557)
เมื่อต้นงอกออกมา จริงๆแล้วควรนำออกไปรับแดดบ้าง ไม่เช่นนั้นจะเป็นแบบนี้
จากนั้น จึงเริ่มเตรียม รางปลูกแบบน้ำวน(ตามกระทู้ไอดอลผม http://ppantip.com/topic/31918951) โดยชุดแรกนี้ ผมเพาะ 20 ต้น
เตรียม อุปกรณ์ ประกอบแปลงปลูก เดินไฟสำหรับต่อปั้มน้ำ (ทำรางปลูกพร้อมย้ายปลูก วันเสาร์ที่ 7 มิถุนายน 2557)
เมื่อเสร็จแล้ว จะออกมาประมาณนี้
จากนั้น ผมก็เริ่มผสมปุ๋ยไฮโดรตามอัตราส่วน พร้อมจัดแจงนำเมล่อนยืดๆ ลงไปในแปลงน้ำวน และบ่อโฟมน้ำนิ่ง ที่เตรียมไว้
เท่านั้นยังไม่พอ ด้วยความเป็นห่วงเป็นใย จึงจัดแจงหาซื้อมุ้งไนล่อน 16 ตาสีฟ้า มาคลุมแปลงเมล่อน (แต่เอาเข้าจริงๆก็ต้องหงอ เพราะเจอแมงหวี่ขาว และ เพลี้ยไฟ บุกเข้ามา) ไม่เป็นไร เรายังสู้ ปลูกไปตามอายุ ปรับค่าความเข้มข้นของน้ำตามอายุต้นให้เหมาะสม ทำการตัดกิ่งแขนง และทำค้างให้เค้าได้เลื้อยขึ้นไป
แต่ขณะเดียวกัน แฟนผมถามว่า "ทำไมต้องมาปลูกหน้าบ้าน มันเกะกะเวลาจะซักผ้า ข้างบ้านก็มีไปรื้อต้นไม้ออกสิ" เมื่อผมได้ยินคำนี้ ผมนี้ลุกขึ้นยืนเลย ยืนแล้วจับจอบ บอกพ่อแม่และแฟนตัวดี ให้มาช่วยรื้อ ข้างบ้านซะเลย จึงเป็นที่มาของการปลูก ล็อตที่ 2
เริ่มรื้อข้างบ้าน วันอาทิตย์ที่ 15 มิถุนายน 2557
เสร็จวันที่ วันจันทร์ที่ 16 มิถุนายน 2557 (ลางาน เพราะการนี้ 555)
จากนั้น เข้าสู่โหมดมนุษย์เงินเดือน เฝ้ารอ วัน เสาร์ อาทิตย์ เพื่อมาสานต่อ
เย็นวันศุกร์ กลับมาบ้าน ต้องพบกับเซอไพรซ์ เพราะพ่อ กลับบ้านไว จัดแจงขึ้นโครงให้
ไม่รอช้า ในวัน เสาร์และอาทิตย์ จัดแจง หาอุปกรณ์ ที่ต้องการ
- โครงเหล็กฉาก
- แผ่น โพลีคาบอนเน็ตสีใส
- มุ้ง 32 ตา ( หาซื้อที่ ชลบุรีไม่ได้ สุดท้ายวิ่งเข้า กทม มากดที่ ตลาด อตก)
- อื่นๆที่เกียวข้อง
ทำเสร็จ เมื่อได้โรงเรือน จึงคิดจะทำแปลงปลูกน้ำวนในโรงเรือนนี้ แต่ได้รับคำแนะนำดีๆ จากพี่กอล์ฟ ให้ลองปลูกด้วยระบบน้ำหยด จึงจัดการศึกษา เพาะเมล็ด 40 เมล็ด และจัดเตรียมอุปกรณ์อย่างจริงจัง ทำการติดตั้ง อุปกรณ์จ่ายน้ำหยดแบบบ้านๆ และจัดวางตำแหน่งถุงปลูกจนออกมาเป็นแบบนี้
กลับไปดู ล็อตแรกหน่อย แบบน้ำวน เดี๋ยวจะน้อยใจ
ต่อด้วยน้ำนิ่งที่อยู่ในมุ้งแล้ว
ทีนี้ก็ยาวเลยครับ ตัดแต่งกิ่งแขนง ผสมเกสร ตามอายุของต้นไม้ ผิดบ้างถูกบ้าง ก็ได้ ล็อตแรกเป็นครู ทำให้ล็อตที่ 2 ค่อนข้างสมบูรณ์แบบ
ปัญหาที่เจอกับตัวระหว่างการเดินทางนั่นคือ แปลงน้ำวนปลั้กหลวม กลับมาบ้านเหี่ยวทั้งแปลง เห็นแล้วเครียดไป 3 ชั่วโมง
สรุป น้ำวน ตกรอบ ไม่ผ่านเพราะความสัพเพร่าของผมเอง
ไปดูน้ำนิ่งดีกว่า ตัดเอาลูกที่ไม่ต้องการออก เหลือไว้ลูกเดียว เพื่อคุณภาพ 555 ลูกเล็กๆ ที่เหลือก็มาลวกจิ้มน้ำพริกซะนะ
พอถึงกำหนดเก็บเกี่ยว น้ำนิ่ง ก็จัดแจงตัดมาเชยชมซะเลย
แปลกใจทำไมไม่หวาน ไปถามพี่กอล์ฟดู อ้าว เก็บก่อนกำหนด พันธุ์คิโมจิที่ปลูกเขาไว้ 50 วันหลังผสม ผมไว้ 45 วัน เรียบร้อยลูกแรก เฟลไปตามระเบียบ
ไม่เป็นไร เอาใหม่ ยังมีล็อต 2 ให้เชยชม มาดูพัฒนาการของ ล็อตที่ 2 กันครับ
โตวันโตคืนครับ เริ่มผสมเกสรบ้างแล้ว กำหนดเก็บเกี่ยว จะอยู่ ช่วง วันที่ 20 กันยายน ถึง 30 กันยายน ครับ
ต้นนี้ไม่เกี่ยว แต่น่ารัก
ต่อๆๆ เดี๋ยวออกทะเล
ช่วงเดือนสุดท้ายก่อนการเก็บเกี่ยวแล้วครับ ลายเมล่อน นูนชัดขึ้น ต้นสูงมากขึ้น เหมือนป่า ไปทุกวันๆ
อาทิตย์สุดท้าย ก่อนเก็บเกี่ยว แม่ผมด้อมๆมองๆ แล้ว จองลูกไหนดี ฮ่าๆ
ก่อนจะเก็บเมล่อน เก็บคะน้าเห็ดหอมที่ปลูกไว้แปป
และในที่สุด เวลาที่รอคอยก็มาถึง ทำการตัดเมล่อนในชุดแรก ทั้งหมด ตามภาพ วันถัดมา อีก 8 ผล และตามลำดับจาก 32 ผล
มีลูกนึง ก้นปริ มีกลิ่นหอม ทิ้งไว้ไม่ได้ จึงนำมาแช่เย็นทานเสีย
น้ำหนักที่ได้ มีตั้งแต่ 0.5 - 1.6 กิโลกรัม ครับ อาจารย์บอกว่า ไซส์ 1.5+ นี่ สุดยอดแล้วสำหรับพันธุ์ คิโมจิ ผมละฟินเลย
ผลนี้ 1.4 กิโลกรัม ครับ ที่เหลือ ขนาด 1.5 1.6 ตามลำดับครับ
ก็จบแล้วครับ เมล่อนพันธุ์คิโมจิ จากความคลั่งไคล้และทุ่มเทของผมและพ่อ
ขอบคุณสำหรับความรู้ ความแนะนำ จากอาจารย์ และพี่ๆทุกท่านที่ให้ความรู้ ทำให้ผมประสบความสำเร็จ
ถึงยังไม่บรรลุเป้าหมาย คือหาพันธุ์เมล่อน ที่มีกลิ่นหอมเหมือนน้ำผลไม้ที่เขาแต่งกลิ่นขึ้นมา แต่ก็จะพยายามหาต่อไป ตอนนี้ได้ไกด์จากพี่ๆมาบ้างแล้ว ไว้จะลองพิสูจน์ดู
แต่.............
ผมยังไม่เลิกคลั่งครับ มีโรงเรือนแล้วเลยอยากต่อยอด อยากปลูกสตรอเบอรี่ลอยฟ้า หน้าหนาวนี้ ที่ ชลบุรี ท่าสำเร็จจะมารีวิวให้ดูนะครับ