เล่าเรื่องประสบการ์ณ์หลอนๆชวนขนหัวลุก ซึ่งเกิดขึ้นกับตัวผมเองในช่วง10ปีที่ผ่านมา

เรื่องที่1 วิญญาณเฮี้ยนของน้องนักศึกษาสาว
             ผมชื่อโย(นามสมมติ) เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อช่วงปี2550  ผมขอเกริ่นก่อนนะครับ ผมเป็นคนอำเภอนึงใน จ.มหาสารคาม คือช่วงนั้นพอดีผมเพิ่งจะเรียน จบ ป.ตรี  ประมาณปลายเดือนมีนาคม จากมหาลัยในตัวจังหวัดแล้วผมก็รอจับทหารช่วงต้นเดือนเมษายน เพราะผมทำการผ่อนผันมาสองปีแล้วรอให้เรียนจบก่อนค่อยจับ พอถึงวันจับใบดำใบแดง ผมจับได้ใบแดงติดทหารบกผลัดที่2 ต้องไปลงที่สังกัดใน กทม. ต้องไปวันที่3 พ.ย.50 ซึ่งในระหว่างที่รอไปรับใช้ชาติอีก6-7เดือนก่อนไป ผมกะว่าจะหางานทำแถวๆบ้านรอไปก่อนสักพัก แต่พ่อกับแม่ของผมบอกว่างั้นบวชให้พ่อกับแม่ก่อนได้มั้ย ก่อนที่จะเข้ากรมทหาร ผมก็ตอบตกลง เรื่องที่ผมจะเล่าทั้งหมดนั้นมันมาเกิดขึ้นในช่วงที่ผมบวชเป็นพระพอดี ผมบวชที่วัดในหมู่บ้าน บวชช่วงกลางๆเดือนพฤษภาคมของปีนั้น เป็นการอุปสมบทหมู่ ซึ่งมีพระบวชใหม่พร้อมกันทั้งหมด16รูป เพราะหมู่บ้านผมถือว่าหมู่บ้านใหญ่พอสมควรประมาณ500-600หลังคา ผมก็รู้สึกใจชื้นขึ้นมาระดับนึง เพราะคิดในใจว่าพระใหม่บวชพร้อมๆกันเยอะบรรยากาศภายในวัดคงไม่น่ากลัวเท่าไหร่ ผมขอออกตัวก่อนนะครับว่าผมไม่ค่อยเชื่อเรื่องสิ่งลี้ลับ เรื่องผีสางสักเท่าไหร่แต่ก็ไม่ได้ลบลู่นะครับ วัดที่บ้านผมนั้นเป็นวัดที่มีต้นไม้เยอะพอสมควร ทั้งต้นโพธิ์ ต้นตาล ต้นจามจุรี ต้นใหญ่ๆและเก่าแก่ทั้งนั้น ท้ายวัดก็จะมีพวกต้นขี้เหล็กและป่าไผ่หน้าทึบ ซึ่งอยู่ฝั่งตะวันออกของวัด ใกล้ๆกับเมรุเผาศพ
           ช่วงที่ผมบวชช่วงแรกๆเจ้าอาวาสท่านก็จะให้พระบวชใหม่ทั้งหมดจำวัดในศาลาการเปรียญและศาลาที่ใช้เก็บของใช้ภายในวัดซึ่งอยู่ข้างต้นโพธิ์ใหญ่ เพราะกุฏิมีไม่เพียงพอ เพราะบางรูปบวชไม่นานแค่7วัน15วันบางรูปก็1เดือน แต่ก็จะมีกุฏิเจ้าอาวาสจะเป็นกุฏิปูนคล้ายๆบ้านชั้นเดียว และกุฏิไม้ที่เป็นหลังๆเหมือนบ้านไม้หลังเล็กๆเรียงกันยุประมาณสิบหลัง ก็จะมีพระลูกวัดและเณรที่จำพรรษาในวัดอยู่แล้วพักกุฏิล่ะรูป พอผ่านไปสักพักก็มีพระที่บวชใหม่ด้วยกันทยอยสึกออกไปทำงานกันตามปกติทีล่ะสองรูปสามรูปเพราะบางคนก็ลางานมาบวชตามประเพณีของหมู่บ้าน จนเหลือแค่ผมกับหลวงพี่อีก2รูปที่บวชใหม่ด้วยกันแกชื่อหลวงพี่ต้อมกะหลวงพี่นัท(นามสมมติ) ซึ่งก่อนที่จะเข้าพรรษาประมาณเดือน ก.ค.ทางวัดได้มีญาติโยมซึ่งเขามาติดต่อขอเป็นเจ้าภาพกฐินในปีนั้น งานจะมีขึ้นช่วงออกพรรษาประมาณปลายๆเดือนตุลาคม ทางเจ้าอาวาสก็ขอร้องเราสามคนให้บวชต่อเพื่อรอรับกฐินก่อนจะสึกค่อยสึกได้มั้ย ขอให้งานกฐินเสร็จก่อน จะได้พระครบแปดรูปพอดีรวมเจ้าอาวาสกับพระลูกวัดที่จำพรรษากันอยู่แล้ว ซึ่งการรับผ้ากฐินนั้นจะต้องเป็นพระที่จำวัดภายในวัดนี้เท่านั้นที่จะรับกฐินได้ กรรมการวัดกับทางเจ้าอาวาสเลยขอให้เราสามคนบวชอยู่ต่อ ซึ่งผมก็ไม่มีปัญหาอะไรเพราะจะต้องรอไปทหารเกณฐ์ผลัดที่สองช่วงต้นเดือน พ.ย.อยู่แล้ว ซึ่งช่วงที่เข้าพรรษานั้นพระทุกรูปห้ามไปจำวัดที่วัดอื่นเด็ดขาดถ้าไม่มีธุระที่จำเป็นจริงๆและพระให้จำวัดอยู่คนล่ะกุฏิ ช่วงเข้าพรรษาผมนั้นได้จำพรรษาอยู่กุฏิไม้หลังลึกสุดถัดจากกุฏิหลวงพี่ต้อมและหลวงพี่นัทซึ่งจะว่างอยู่สามหลังพอดีอยู่ติดกับป่าไผ่ บรรยากาศเย็นสบายร่มรื่นและเงียบสงบมากทั้งเวลากลางวันและกลางคืน จะมีห้องน้ำรวม7-8ห้องที่ให้พระได้ใช้ซึ่งจะอยู่ในช่วงระหว่างกลางๆของกุฏิทั้งหมด ห่างกุฏิที่ผมพักสัก50-60เมตร ข้างหลังกุฏิจะเป็นกำแพงวัด ซึ่งจะมีธาตุเล็กๆที่เก็บกระดูกเรียงรายกันอยู่
                  ช่วงที่ผมบวชเดือนสองเดือนแรกๆมีคนในหมู่บ้านตายไปสองคนป่วยตายทั้งสองศพ ก็ไม่มีอะไรไม่ได้นึกกลัวอะไรเลย ผมลืมบอกไปว่าภายในวัดนั้นจะมีคนเสียสติมาพักอาศัยอยู่คนนึง  แกชื่อน้าจ่อย(นามสมมติ) ซึ่งแกก็เป็นคนในหมู่บ้านผมนั้นแหล่ะครับ แกจะชอบมานอนอยู่ภายในวัดแกจะเป็นคนตัวสูงผอม ผิวคล้ำๆผมยาวรุงรัง กลิ่นตัวแกจะเหม็นมาก เพราะแกไม่ค่อยอาบน้ำนานๆจะมีญาติแกมาเอาตัวเข้าไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าทีนึง แกจะชอบมานอนอยู่ที่ศาลาพักศพบ้าง ศาลากลางน้ำบ้าง บางวันก็นอนอยู่ใต้ต้นโพธิ์ ซึ่งทางวัดได้ทำเป็นแท่นปูนรอบๆต้นโพธิ์แกก็จะเอาเสื่อมาปูและนอนอยู่ตรงนั้น แกก็จะอยู่ของแกถามคำตอบคำไม่ทำร้ายใคร แกก็จะอาศัยกินข้าววัดที่ญาติโยมที่มาทำบุญแบ่งให้กินหลังพระฉันเสร็จตอนเช้าและตอนเที่ยง
                 ช่วงประมาณต้นเดือนสิงหาคมก่อนที่จะถึงวันแม่วันนั้นตรงกับวันศุกร์ก็มีอุบัติเหตุเกิดขึ้นกับคนในหมู่บ้าน และบ้านของเขาก็อยู่ห่างจากบ้านผมแค่สองสามหลัง ในช่วงบ่ายๆของวันนั้น น้องเขาเป็นนักศึกษา กำลังศึกษาอยู่ชั้นปีที่3ของมหาลัยเดียวกับที่ผมจบมา น้องเขาชื่อน้ำตาล(นามสมมติ) หน้าตาดีสูงขาว ถือว่าสวยที่สุดในหมู่บ้านเลยก็ว่าได้ของเด็กสาวรุ่นนั้น เธอเป็นรุ่นน้องผมสองปีก็สนิทกันกับผมเพราะอยู่บ้านใกล้ๆกันเล่นด้วยกันมาตั้งแต่เด็กๆเจอกันที่มหาลัยก็ทักทายกันตามปกติตามประสาคนบ้านเดียวกัน วันนั้นหลังเรียนเสร็จน้องเขาก็ใส่ชุดนักศึกษาขับรถมอเตอร์ไซค์กลับมาจากเมืองหลังเลิกเรียน น้องจะกลับบ้านเพราะกลับทุกๆวันศุกร์เป็นประจำหลังเลิกเรียน แต่วันนั้นพ่อแม่และญาติๆของน้องน้ำตาลจะออกไปค้าขายตามต่างจังหวัด หมู่บ้านผมมีอาชีพค้าขายกันทั้งหมู่บ้าน ขายของเบ็ดเตล็ดทั่วไปตามตลาดนัดในอำเภอทั่วๆไป พ่อแม่น้องเขาก็เลยโทรนัดกันว่าจะออกไปค้าขายแล้ว น้ำตาลบอกให้รอหนูก่อนได้ไหมหนูจะไปหาที่ตลาด น้องเขาซื้อของมาจะเอาไปฝากพ่อกับแม่ก่อนออกจากบ้าน พ่อแม่และญาติก็เลยจอดรถรอในบริเวณที่ว่าการอำเภอซึ่งอยู่ข้างๆกันกับสถานีตำรวจ พอถึงจุดกลับรถหน้าสถานีตำรวจซึ่งตรงนั้นจะเป็นทางโค้งด้วยเป็นจุดกลับรถด้วย ซึ่งถือเป็นจุดกลับรถที่อันตรายมากๆในตลาด ห่างจากสี่แยกไฟแดงแค่6-7ร้อยเมตร น้องเขาขับมาจากอีกฝั่งกำลังจะกลับรถไปหาพ่อกับแม่ที่อยู่ฝั่งตรงข้าม น้ำตาลขับพุ่งหักขวาตรงจุดกลับรถ ไม่รู้ว่าบังคับรถไม่อยู่หรืออย่างไร รถพุ่งเลยเข้าไปเลนในสุดที่มาจากฝั่งไฟแดงอีกฝั่งนึง รถปิ๊กอัพที่ออกมาจากสี่แยกไฟแดงเลนในสุดเกิดมาเชี่ยวชนน้องน้ำตาลเข้าเต็มๆแรงเสียงดังโครม  รถตู้ที่ขับมาคันหลังก็เบรคไม่อยู่มาเหยียบน้องน้ำตาลซ้ำเป็นคันที่สอง ทำให้น้องน้ำตาลเสียชีวิตคาที่เกิดเหตุเลือดเต็มพื้นถนน สภาพศพนี่แทบไม่เหลือเค้าโครงเดิม ใบหน้าเละและข้อขาขวาเกือบขาด พ่อแม่และญาติน้องพอได้ยินเสียงรถชนกันไม่นานก็วิ่งออกมาดู คนที่อยู่แถวๆนั้นก็วิ่งออกมาดูกันเต็มข้างถนนเลย พ่อแม่น้องไม่คิดเลยว่าจะเป็นลูกสาวของตัวเอง พอมาเจอลูกสาวอยู่ในสภาพแบบนั้นแทบล้มทั้งยืน รับสภาพแทบไม่ได้ที่ลูกต้องมาตายต่อหน้าต่อตาแบบสดๆแบบนี้ โดยที่ไม่ได้สั่งได้เสียอะไรเลย พอทำเรื่องคดีและตำรวจเคลียร์ไรเสร็จทุกอย่าง รถกู้ภัยก็มารับศพไปที่โรงพยาบาลก่อน
               หลังจากนั้นพ่อแม่และญาติก็รับศพน้องน้ำตาลกลับไปบ้านเกิดในช่วงเย็นของวันนั้น ญาติและเพื่อนบ้านก็มาวัดมาเตรียมโรงเย็นไปไว้ใส่ศพน้อง ศพที่รับมาจากโรงพยาบาลก็เอามาตั้งบำเพ็ญกุศลในบ้านน้องเขา ซึ่งในหมู่บ้านผมอนุญาตให้เอาศพที่ตายโหงมาตั้งในบ้านของตัวเองได้ แต่บางหมู่บ้านในระแวกนั้นต้องนำศพไปตั้งที่ศาลาพักศพเท่านั้นเพราะเขาถือเคล็ดกันตายโหงจะไม่ให้ตั้งในบ้าน สวดศพอยู่สองวัน วันที่สามถึงวันเผา แห่ศพมาที่เมรุในวัดตามปกติ มีแขกมาร่วมงานเยอะมากทั้งคนในหมู่บ้าน นักศึกษาเพื่อนของน้องน้ำตาลร่วมเกือบ40คนใส่ชุดนักศึกษาทุกคน บรรยากาศเต็มไปด้วยความเศร้าสลด ทั้งญาติและเพื่อนๆน้องต่างร้องไห้กันอย่างเศร้าโศกเสียใจที่สูญเสียคนที่เป็นที่รักไป พอมาถึงพิธีรดน้ำศพพอแขกรดเสร็จ ก็จะให้พระผู้ใหญ่ขึ้นไปรดก่อนเรียงตามอันดับความอาวุโสของพรรษาที่บวช พอถึงคิวผมก็ขึ้นรดปกติ ผมมองดูแบบรวมๆไม่กล้าจะจ้องดูนานๆกลัวจะติดตา ศพน้องน้ำตาลจะสวมชุดนักศึกษา เสื้อสีขาวกระโปรงกลีบรอบสีดำยาวเลยเข่า แต่ญาติจะเอาผ้าขาวปิดที่หน้าน้องไว้ เพราะเท่าที่แม่ผมเล่าให้ฟังแม่บอกว่าศพน้องน้ำตาลแทบดูไม่ได้เลย หน้าเละฟันร่วงเกือบหมดปาก ตาปูดบวม ข้อขาขวาเกือบจะหลุดขาด พอพิธีทุกอย่างวางดอกไ้ม้จันทร์เสร็จจนถึงขั้นตอนสุดท้าย น้องๆเพื่อนๆนักศึกษาของน้ำตาลก็ได้ยืนเรียงเป็นแถวสามแถวร่วมกันร้องเพลงส่งวิญญาณน้องน้ำตาลเป็นครั้งสุดท้าย ในเพลงปลายทาง ของบอดี้แสลม เนื้อเพลง#ปลายทางที่ฉันรอเธอที่สุดก็จบตรงนี้ ไปดีเถอะนะคนดีไม่ต้องคิดอะไร เข้าใจว่าวันเวลามันทำให้คนเปลี่ยนไป ฉันก็คงไม่คิดโทษใครอยู่แล้ว อย่าห่วงเลย# พอน้องๆร้องจบ ถึงขั้นตอนสุดท้ายเจ้าอาวาสจะขึ้นจุดไฟทำการเลื่อนโลงศพเข้าเตาเผา เกิดลมแรงพัดกระหน่ำมาแบบแรงมากๆฝุ่นดินนี่ตลบไปทั่วบริเวณทั้งที่ก่อนหน้านี้ท้องฟ้าแจ่มใส ไม่มีวี่แววว่าจะมีลมมีฝน ผมนี่ขนลุกซู่ บอกความรู้สึกไม่ถูกเลยตอนนั้น ผ่านไปสักห้านาทีลมก็สงบลง พิธิการเผาศพน้องน้ำตาลก็ผ่านไปด้วยดีในช่วงบ่ายๆของวันนั้น
                พอเวลาผ่านไปประมาณหกโมงเย็น ช่วงโพล้เพล้ทางญาติๆน้องน้ำตาลที่เป็นพวกผู้ชาย3คนออกมาวัด จะมาดูว่าศพไหม้หมดหรือเปล่า ตอนนั้นผมกับหลวงพี่นัทที่อยู่กุฏิติดกันสองหลังสุดท้ายก็เดินไปดูกับเค้าด้วย พอไปถึงเมรุมองขึ้นไปบนเมรุทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างตกใจ เพราะมีเงาตะคลุ่มๆนั่งทำไรสักอย่างอยู่ตรงหน้าเตาเผาศพ น้าผู้ชายที่มาด้วยคนนึงร้องถามขึ้นไปว่า "เอ้ยย ใครทำอะไรน่ะ" ก็ไม่มีเสียงตอบรับ น้าผู้ชายคนนึงที่ถือไฟฉายมาด้วยก็เลยเปิดไฟฉายส่องไปที่เงานั้น สิ่งที่เห็นก็คือน้าจ่อยแกนั่งกินข้าวด้วยมือในถาดที่มีข้าวมีอาหารใส่ถ้วยใบเล็กๆมีของคาวหวานให้น้องน้ำตาล แกกินแบบมูมมาม แกพูดออกมาว่า "กูหิวกูเลยมากินเป็นเพื่อนไอ้ตาล" พอได้ยินแค่นั้นแหล่ะ ผมกับหลวงพี่นัทมองหน้ากันแต่ก็ไม่ได้พูดอะไร น้าที่มากันสามคนเลยไล่น้าจ่อยไปจากเมรุ เพราะเขาจะดูเปิดดูกันว่าศพไหม้หมดหรือเปล่า พอเปิดเมรุดูน้าเค้าก็เอาเหล็กยาวๆเขี่ยๆถ่านในเตาปรากฏว่าศพไหม้เกือบหมดไม่มีอะไรผิดปกติ
         เดี๋ยวมาเล่าต่อนะครับ......
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่