ครม.ไฟเขียวแก้พ.ร.บ.ป่าไม้ม. 7 ให้สิทธิ์ชาวบ้านปลูกสัก-พะยูง ในที่ดินกรรมสิทธิ์ของตนเอง-ตัดไม้ขายได้ ไม่ต้องขออนุญาต

เมื่อวันที่ 7 ส.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายณัฐพร จาตุศรีพิทักษ์ ที่ปรึกษาประจำรมต.ประจำสำนักนายกฯ แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) ว่า ครม.อนุมัติหลักการการแก้ไขพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.)ป่าไม้ มาตรา7 ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ โดยมีสาระสำคัญคือ แก้ไขให้ไม้ทุกชนิดในที่ดินที่มีกรรมสิทธิ์หรือสิทธิครอบครอง เช่น เช่น ที่ดินที่มีโฉนด, นส.3, นส.3ก.,นส.3 ข,ใบจอง,นส.2,สค.1 ตามประมวลกฎหมายที่ดิน ไม่เป็นไม้หวงห้าม และการทำไม้ไม่ต้องได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่อีกต่อไป สำหรับการแก้ไขพ.ร.บ.ป่าไม้ มาตรา 7 ครั้งนี้ จะทำให้ประชาชนมีรายได้ที่มั่นคงจากการประกอบอาชีพทำไม้ปลูกป่าเศรษฐกิจ ส่งผลให้เศรษฐกิจของประเทศไทยดีขึ้น และในอนาคตใครที่มีที่ดิน สามารถปลูกไม้มีค่าในที่ดินของตนเองได้ และถ้าไม้โตแล้วอยากจะตัดไปขายก็สามารถทำได้โดยไม่ต้องขออนุญาตจากเจ้าหน้าที่แล้ว หรืออยากจะเอาไปเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันก็สามารถทำได้เช่นกัน
อย่างไรก็ตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ ปี 2484 มาตรา 7 ได้กำหนดชนิดไม้หวงห้ามไว้ดังนี้คือ ไม้สัก,ไม้ยาง,ไม้ชิงชัน,ไม้เก็ดแดง,ไม้อีเม่ง,ไม้พยุงแกลบ,ไม้กระพี้,ไม้แดงจีน,ไม้ขะยูง,ไม้ซิก,ไม้กระซิก,ไม้กระซิบ,ไม้พะยูง,ไม้หมากพลูตั๊กแตน,ไม้กระพี้เขาควาย,ไม้เก็ดดำ,ไม้อีเฒ่าและไม้เก็ดเขาควาย โดยกำหนดให้ไม่ว่าจะขึ้นอยู่ที่ใดในราชอาณาจักร ซึ่งรวมถึงที่ดินที่มีกรรมสิทธิ์หรือมีสิทธิครอบครอง จะต้องถูกควบคุมโดยพ.ร.บ.ป่าไม้ หากจะทำการตัด ฟัน กาน โค่น ลิดเลื่อย ผ่า ถาก ทอน ขุด ชักลาก จะต้องได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ ส่งผลให้ประชาชนไม่ได้รับความสะดวกในการตัดและเคลื่อนย้ายไม้ เนื่องจากขั้นตอนต่างๆตามระเบียบและกฎหมายมีความซับซ้อนและยุ่งยาก ทำให้ประชาชนจำนวนมากขาดโอกาสในการประกอบอาชีพ มีอุปสรรคในการปลูกไม้ไว้ใช้สอยหรือเพื่อการค้าค้า
https://www.dailynews.co.th/politics/659340
สุดยอด! รัฐบาลลุงตู่ไฟเขียวแก้พ.ร.บ.ป่าไม้ให้สิทธิ์ชาวบ้านปลูกสัก-พะยูง ตัดขายได้ไม่ต้องขออนุญาติ
เมื่อวันที่ 7 ส.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายณัฐพร จาตุศรีพิทักษ์ ที่ปรึกษาประจำรมต.ประจำสำนักนายกฯ แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) ว่า ครม.อนุมัติหลักการการแก้ไขพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.)ป่าไม้ มาตรา7 ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ โดยมีสาระสำคัญคือ แก้ไขให้ไม้ทุกชนิดในที่ดินที่มีกรรมสิทธิ์หรือสิทธิครอบครอง เช่น เช่น ที่ดินที่มีโฉนด, นส.3, นส.3ก.,นส.3 ข,ใบจอง,นส.2,สค.1 ตามประมวลกฎหมายที่ดิน ไม่เป็นไม้หวงห้าม และการทำไม้ไม่ต้องได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่อีกต่อไป สำหรับการแก้ไขพ.ร.บ.ป่าไม้ มาตรา 7 ครั้งนี้ จะทำให้ประชาชนมีรายได้ที่มั่นคงจากการประกอบอาชีพทำไม้ปลูกป่าเศรษฐกิจ ส่งผลให้เศรษฐกิจของประเทศไทยดีขึ้น และในอนาคตใครที่มีที่ดิน สามารถปลูกไม้มีค่าในที่ดินของตนเองได้ และถ้าไม้โตแล้วอยากจะตัดไปขายก็สามารถทำได้โดยไม่ต้องขออนุญาตจากเจ้าหน้าที่แล้ว หรืออยากจะเอาไปเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันก็สามารถทำได้เช่นกัน
อย่างไรก็ตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ ปี 2484 มาตรา 7 ได้กำหนดชนิดไม้หวงห้ามไว้ดังนี้คือ ไม้สัก,ไม้ยาง,ไม้ชิงชัน,ไม้เก็ดแดง,ไม้อีเม่ง,ไม้พยุงแกลบ,ไม้กระพี้,ไม้แดงจีน,ไม้ขะยูง,ไม้ซิก,ไม้กระซิก,ไม้กระซิบ,ไม้พะยูง,ไม้หมากพลูตั๊กแตน,ไม้กระพี้เขาควาย,ไม้เก็ดดำ,ไม้อีเฒ่าและไม้เก็ดเขาควาย โดยกำหนดให้ไม่ว่าจะขึ้นอยู่ที่ใดในราชอาณาจักร ซึ่งรวมถึงที่ดินที่มีกรรมสิทธิ์หรือมีสิทธิครอบครอง จะต้องถูกควบคุมโดยพ.ร.บ.ป่าไม้ หากจะทำการตัด ฟัน กาน โค่น ลิดเลื่อย ผ่า ถาก ทอน ขุด ชักลาก จะต้องได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ ส่งผลให้ประชาชนไม่ได้รับความสะดวกในการตัดและเคลื่อนย้ายไม้ เนื่องจากขั้นตอนต่างๆตามระเบียบและกฎหมายมีความซับซ้อนและยุ่งยาก ทำให้ประชาชนจำนวนมากขาดโอกาสในการประกอบอาชีพ มีอุปสรรคในการปลูกไม้ไว้ใช้สอยหรือเพื่อการค้าค้า
https://www.dailynews.co.th/politics/659340