5 ม.ค.61 ที่อาคารคณะวนศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ (บางเขน) มีการจัดกิจกรรม "วันไม้เศรษฐกิจ" ซึ่งตรงกับวันที่ 5 ม.ค. ของทุกปี โดย นายมาซามิ นาคาคุโบะ (Masami Nakakubo) ประธานและ CEO บริษัท JC Service จำกัด เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากเหตุแผ่นดินไหวและคลื่นยักษ์สึนามิครั้งร้ายแรงในประเทศญี่ปุ่นเมื่อปี 2554 ซึ่งมีผลกระทบต่อโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์เมืองฟุกุชิมะ ทำให้เกิดกระแสเรียกร้องให้รัฐบาลญี่ปุ่นปรับเปลี่ยนมาใช้ "พลังงานชีวมวล" มากขึ้น นำมาซึ่งแผนการก่อสร้างโรงไฟฟ้าชีวมวลขนาด 7 กิกะวัตต์ (GW)
นายมาซามิ กล่าวต่อไปว่า ในปี 2560 ที่ผ่านมา มีผู้ประกอบการในญี่ปุ่นแสดงความสนใจยื่นของอนุญาตก่อสร้างโรงไฟฟ้าชีวมวลแล้วนับรวมกำลังผลิตได้ 17 กิกะวัตต์ แต่ปัญหาที่พบคือไม้สำหรับทำเป็นเชื้อเพลิงอัดแท่งในญี่ปุ่นไม่สามารถผลิตได้เพียงพอ เพราะมีพื้นที่เพาะปลูกเพียงภาคตะวันตกของประเทศเท่านั้น ทางญี่ปุ่นจึงให้ความสนใจประเทศไทย โดยเฉพาะ "ยางพารา" ที่มีความต้องการไม้ยางพารา 10 ล้านตันต่อปี สำหรับนำไปผลิตกระแสไฟฟ้า 1 กิกะวัตต์ ทั้งนี้จะใช้ต้นยางที่หมดอายุไม่สามารถให้น้ำยางได้แล้ว
"หลังจากที่ตัดไม้ยางพาราออกไปแล้ว เราสนับสนุนให้ปลูกต้นอะคาเซีย (Acacia) ในสวนยางพารา พอต้นโตในระยะเวลา 5 ปี ก็สามารถนำไม้ตรงนี้มาสนับสนุนได้อีกทางหนึ่ง" นายมาซามิ กล่าว
ขณะที่ นายจงคล้าย วรพงศธร รองอธิบดีกรมป่าไม้ เปิดเผยว่า ขณะนี้กำลังเร่งดำเนินการแก้กฎหมายที่เป็นอุปสรรคต่อการปลูกไม้เศรษฐกิจ อาทิ พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ.2484 มาตรา 7 รวมถึงคำสั่ง คสช. ที่ 106/2557 ว่าด้วยไม้หวงห้าม เช่น ไม้สัก ไม้พะยูง ไม้ยางนา ฯลฯ ซึ่งกำหนดว่าห้ามตัดในทุกกรณีแม้ไม้ดังกล่าวจะปลูกในที่ดินส่วนบุคคลที่เจ้าของที่ดินมีโฉนดเอกสารสิทธิ์ถูกต้องก็ตาม โดยหากทำได้สำเร็จจะเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญของกรมป่าไม้ แต่อย่างไรก็ตามต้องมีระบบตรวจสอบด้วยว่าไม้แต่ละต้นที่ตัดมาขายนั้นมีที่มาจากแหล่งใด
นอกจากนี้ ยังจะมีโครงการนำร่องปลูกไม้เศรษฐกิจในพื้นที่ป่าเสื่อมโทรมที่ จ.น่าน เป็นตัวอย่างเพื่อชักชวนให้ประชาชนหันมาปลูกแทนการปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ที่ก่อปัญหาหลายอย่าง เช่น หมอกควัน-ไฟป่า การทำลายหน้าดิน รวมถึงจะช่วยยกระดับรายได้แก่เกษตรกร ซึ่งกรมป่าไม้ได้จัดทำยุทธศาสตร์และแผนงานการส่งเสริมไม้เศรษฐกิจแบบครบวงจร พ.ศ.2561-2579 ขณะนี้รอเพียงการนำเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.)
http://www.naewna.com/likesara/312620
บอกแล้วปีหมาร่าเริง...อยู่ๆเรื่องดีๆมันก็เข้ามาให้ได้ยิ้ม
ชาวสวนยางมีทางเลือกขายไม้ยางพาราได้อีกเมื่อต้นยางหมดอายุแล้ว
แถมยังมีคนต้องการซื้อประจำทุกปี มีการปลูกต้นไม้อื่นเสริมด้วย
ช่วยๆกันอย่างนี้ อนาคตชาวสวนยางดีขึ้นแน่นอนค่ะ
ตื่นเต้นจังเล้ยย
🌳~มาลาริน~ข่าวดี้ดีมาอีกแล้วค่ะ...ข่าวดีชาวสวนยาง ญี่ปุ่นขอซื้อไม้เก่าทำเชื้อเพลิงโรงไฟฟ้าชีวมวล
5 ม.ค.61 ที่อาคารคณะวนศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ (บางเขน) มีการจัดกิจกรรม "วันไม้เศรษฐกิจ" ซึ่งตรงกับวันที่ 5 ม.ค. ของทุกปี โดย นายมาซามิ นาคาคุโบะ (Masami Nakakubo) ประธานและ CEO บริษัท JC Service จำกัด เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากเหตุแผ่นดินไหวและคลื่นยักษ์สึนามิครั้งร้ายแรงในประเทศญี่ปุ่นเมื่อปี 2554 ซึ่งมีผลกระทบต่อโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์เมืองฟุกุชิมะ ทำให้เกิดกระแสเรียกร้องให้รัฐบาลญี่ปุ่นปรับเปลี่ยนมาใช้ "พลังงานชีวมวล" มากขึ้น นำมาซึ่งแผนการก่อสร้างโรงไฟฟ้าชีวมวลขนาด 7 กิกะวัตต์ (GW)
นายมาซามิ กล่าวต่อไปว่า ในปี 2560 ที่ผ่านมา มีผู้ประกอบการในญี่ปุ่นแสดงความสนใจยื่นของอนุญาตก่อสร้างโรงไฟฟ้าชีวมวลแล้วนับรวมกำลังผลิตได้ 17 กิกะวัตต์ แต่ปัญหาที่พบคือไม้สำหรับทำเป็นเชื้อเพลิงอัดแท่งในญี่ปุ่นไม่สามารถผลิตได้เพียงพอ เพราะมีพื้นที่เพาะปลูกเพียงภาคตะวันตกของประเทศเท่านั้น ทางญี่ปุ่นจึงให้ความสนใจประเทศไทย โดยเฉพาะ "ยางพารา" ที่มีความต้องการไม้ยางพารา 10 ล้านตันต่อปี สำหรับนำไปผลิตกระแสไฟฟ้า 1 กิกะวัตต์ ทั้งนี้จะใช้ต้นยางที่หมดอายุไม่สามารถให้น้ำยางได้แล้ว
"หลังจากที่ตัดไม้ยางพาราออกไปแล้ว เราสนับสนุนให้ปลูกต้นอะคาเซีย (Acacia) ในสวนยางพารา พอต้นโตในระยะเวลา 5 ปี ก็สามารถนำไม้ตรงนี้มาสนับสนุนได้อีกทางหนึ่ง" นายมาซามิ กล่าว
ขณะที่ นายจงคล้าย วรพงศธร รองอธิบดีกรมป่าไม้ เปิดเผยว่า ขณะนี้กำลังเร่งดำเนินการแก้กฎหมายที่เป็นอุปสรรคต่อการปลูกไม้เศรษฐกิจ อาทิ พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ.2484 มาตรา 7 รวมถึงคำสั่ง คสช. ที่ 106/2557 ว่าด้วยไม้หวงห้าม เช่น ไม้สัก ไม้พะยูง ไม้ยางนา ฯลฯ ซึ่งกำหนดว่าห้ามตัดในทุกกรณีแม้ไม้ดังกล่าวจะปลูกในที่ดินส่วนบุคคลที่เจ้าของที่ดินมีโฉนดเอกสารสิทธิ์ถูกต้องก็ตาม โดยหากทำได้สำเร็จจะเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญของกรมป่าไม้ แต่อย่างไรก็ตามต้องมีระบบตรวจสอบด้วยว่าไม้แต่ละต้นที่ตัดมาขายนั้นมีที่มาจากแหล่งใด
นอกจากนี้ ยังจะมีโครงการนำร่องปลูกไม้เศรษฐกิจในพื้นที่ป่าเสื่อมโทรมที่ จ.น่าน เป็นตัวอย่างเพื่อชักชวนให้ประชาชนหันมาปลูกแทนการปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ที่ก่อปัญหาหลายอย่าง เช่น หมอกควัน-ไฟป่า การทำลายหน้าดิน รวมถึงจะช่วยยกระดับรายได้แก่เกษตรกร ซึ่งกรมป่าไม้ได้จัดทำยุทธศาสตร์และแผนงานการส่งเสริมไม้เศรษฐกิจแบบครบวงจร พ.ศ.2561-2579 ขณะนี้รอเพียงการนำเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.)
http://www.naewna.com/likesara/312620
บอกแล้วปีหมาร่าเริง...อยู่ๆเรื่องดีๆมันก็เข้ามาให้ได้ยิ้ม
ชาวสวนยางมีทางเลือกขายไม้ยางพาราได้อีกเมื่อต้นยางหมดอายุแล้ว
แถมยังมีคนต้องการซื้อประจำทุกปี มีการปลูกต้นไม้อื่นเสริมด้วย
ช่วยๆกันอย่างนี้ อนาคตชาวสวนยางดีขึ้นแน่นอนค่ะ
ตื่นเต้นจังเล้ยย