คอนติเนนทอล ทุ่ม10,000ล้านบาท ผุดโรงงานผลิตยางในไทย
“คอนติเนนทอล” ยักษ์ใหญ่ด้านชิ้นส่วนยานยนต์จากเยอรมัน ทุ่มทุน 250 ล้านยูโร (ราว 10,000 ล้านบาท) สร้างโรงงานผลิตยางรถยนต์แห่งใหม่ที่จังหวัดระยอง เดินตามยุทธศาสตร์ป้อนตลาดไทยและเอเชียแปซิฟิค เริ่มต้นปี 2562 กำลังการผลิต 4 ล้านเส้น/ปี พร้อมขยายกำลังผลิตได้ถึง 25 ล้านเส้น/ปี
นายนิโคไล เซตเซอร์ คณะกรรมการบริหารและผู้บริหารสูงสุดฝ่ายยางรถยนต์ กล่าวว่า บริษัทฯ เล็งเห็นถึงศักยภาพของประเทศไทยที่สอดคล้องกับแผนการขยายกิจการผลิตยางของคอนติเนนทอลจึงตัดสินใจลงทุนมูลค่า 250 ล้านยูโร (ประมาณ 10,000 ล้านบาท) เพื่อสร้างโรงงานผลิตยางแห่งใหม่
สำหรับโรงงานแห่งนี้มีขนาดพื้นที่ 700 ไร่ โดยเป็นโรงงานที่ทันสมัยที่สุดของคอนติเนนทอลรองรับกำลังการผลิตสูงสุดถึง 25 ล้านเส้นต่อปี ในช่วงเริ่มต้นจะมีกำลังการผลิต 4 ล้านเส้นต่อปี คาดว่าจะสามารถผลิตได้ตั้งแต่ไตรมาสแรกของปี 2562
โรงงานแห่งใหม่มูลค่า 10,000 ล้านบาทจะเริ่มผลิตได้ต้นปี 2562
“การสร้างโรงงานดังกล่าวนี้เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าที่ขยายตัวเพิ่มมากขึ้นทั้งในประเทศไทยและภูมิภาคเอเชียแปซิฟิค ซึ่งประเทศไทยอยู่ในทำเลที่ดีที่สุด จุดเด่นของยางคอนติเนนทอลคือ เทคโนโลยีจากเยอรมัน ที่มีทั้งความปลอดภัย การยึดเกาะถนน และสมรรถนะที่ดีเยี่ยม” นายนิโคไลกล่าว
ขณะที่ตลาดยางรถยนต์ในประเทศไทยนั้น ภาพรวมของตลาดทดแทน(REM)อยู่ที่ระดับประมาณ 9 ล้านเส้นต่อปี ส่วนตลาดผู้ผลิต(OEM)อยู่ที่ประมาณ 8 ล้านเส้น/ปีจากตัวเลขการผลิตรถยนต์รายปีของไทย โดยโรงงานแห่งใหม่นี้จะสามารถผลิตได้ทั้งยางรถปิกอัพและยางรถยนต์นั่ง ปรับเปลี่ยนสัดส่วนได้ตามความต้องการของตลาด
“โดยปกติสัดส่วนการขายระหว่าง OEM กับ REM ของคอนติเนนทอลทั่วโลกจะอยู่ประมาณ 35%-65% แต่ในไทยสัดส่วนของOEMจะอยู่ราว 80% ซึ่งเรามีเป้าหมายการขายที่ 4 ล้านเส้น/ปี ตามจำนวนการผลิตของเรา โดยจะมีการขายครบทุกรูปแบบทั้งขายส่งและขายปลีกผ่าน Conti Shop ที่มีอยู่ทั้ง 3 แห่ง และจะเพิ่มขึ้นในอนาคต” นายนิโคไลกล่าว
https://mgronline.com/motoring/detail/9610000026416
ชาวสวนยาง-เจ้าของที่ดินร้างเฮ!หลังเอกชนหนุนปลูกไม้เศรษฐกิจ
เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 16 มี.ค. 61 ที่ห้องประชุมโรงแรมกรีนวิว อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส นายสุรพร พร้อมมูล ผวจ.นราธิวาส ได้เดินทางมาเป็นประธานในพิธีการส่งเสริมธุรกิจปลูกไม้เศรษฐกิจ เพื่อการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ภายใต้สโลแกน ชาวนราร่วมใจสร้างเศรษฐกิจสีเขียวเมืองป่าไม้ สู่การพัฒนาที่มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน ซึ่งเป็นความร่วมมือของภาคเอกชนกลุ่มสวนกิตติ หรือ ดับเบิ้ลเอ และบริษัทไพร์ซ ออฟ วู้ด โอดิ้งส์จำกัด กับ ธนาคารเพื่อการเกษตร สหกรณ์การเกษตร สนง.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และองค์การสงเคราะห์สวนยางพารา รวมทั้งกรมป่าไม้เห็นชอบ เพื่อปลูกไม้เศรษฐกิจ อาทิ ไม้ไผ่ ยูคาลิปตัส ตะเคียนทอง กันเกรา พยุงและไม้ชิงชัน ในร่องสวนยางพาราหรือที่ดินว่างเปล่าและนาร้างของชาวบ้าน เพื่อเป็นรายได้เสริมในช่วงราคายางพาราตกต่ำ เนื่องจากไม้เศรษฐกิจจำพวกนี้เมื่อปลูกโตได้ขนาดสามารถตัดขายให้กับกลุ่มสวนกิตติ หรือ ดับเบิ้ลเอ รวมทั้งบริษัทไพร์ซ ออฟ วู้ด โอดิ้งส์จำกัด ได้ซึ่งทาง 2 บริษัทภาคเอกชนจะรับประกันราคาซื้อ
ซึ่งการจัดประชุมในครั้งนี้ มีเจ้าของสวนยางพารา ชาวบ้านที่มีที่ดินและที่นาร้าง จำนวนกว่า 100 คน เข้าร่วมประชุม เพื่อรับฟังเกี่ยวกับทิศทางการส่งเสริมปลูกไม้เศรษฐกิจ การเตรียมความพร้อมพื้นที่ การตัดและการนำเคลื่อนที่ รวมทั้งการส่งออกและการขึ้นทะเบียนไซเตรส รวมทั้งรายได้ที่ชาวบ้านจะได้รับซึ่งอยู่ที่ปริมาณพื้นที่ปลูกว่ามีมากน้อยเพียงใด และหลังจากประชุมแล้วเสร็จเจ้าของสวนยางพารา เจ้าของที่ดินและเจ้าของที่นาร้าง ได้แสดงความจำนงลงทะเบียนที่จะปลูกไม้เศรษฐกิจดังกล่าว
https://www.siamrath.co.th/n/32625
ชาวสวนยางเฮ! พ่อเมืองนราฯหนุนปลูกไม้เศรษฐกิจ เอกชนรับประกันราคาขายดี
16 มี.ค.61 ที่ห้องประชุมโรงแรมกรีนวิว อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส นายสุรพร พร้อมมูล ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส ได้เดินทางมาเป็นประธานในพิธีการส่งเสริมธุรกิจปลูกไม้เศรษฐกิจ เพื่อการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ภายใต้สโลแกน " ชาวนราฯร่วมใจสร้างเศรษฐกิจสีเขียวเมืองป่าไม้ สู่การพัฒนาที่มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน" ซึ่งเป็นความร่วมมือของภาคเอกชนกลุ่มสวนกิตติ หรือ ดับเบิ้ลเอ และบริษัทไพร์ซ ออฟ วู้ด โอดิ้งส์จำกัด กับ ธนาคารเพื่อการเกษตร สหกรณ์การเกษตร สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และองค์การสงเคราะห์สวนยางพารา รวมทั้งกรมป่าไม้เห็นชอบ เพื่อปลูกไม้เศรษฐกิจ อาทิ ไม้ไผ่ ยูคาลิปตัส ตะเคียนทอง กันเกรา พยุงและไม้ชิงชัน ในร่องสวนยางพาราหรือที่ดินว่างเปล่าและนาร้างของชาวบ้าน เพื่อเป็นรายได้เสริมในช่วงราคายางพาราตกต่ำ เนื่องจากไม้เศรษฐกิจจำพวกนี้เมื่อปลูกโตได้ขนาดสามารถตัดขายให้กับกลุ่มสวนกิตติ หรือ ดับเบิ้ลเอ รวมทั้งบริษัทไพร์ซ ออฟ วู้ด โอดิ้งส์จำกัด ได้ซึ่งทาง 2 บริษัทภาคเอกชนจะรับประกันราคาซื้อ
ซึ่งการจัดประชุมในครั้งนี้ มีเจ้าของสวนยางพารา ชาวบ้านที่มีที่ดินและที่นาร้าง จำนวนกว่า 100 คน เข้าร่วมประชุม เพื่อรับฟังเกี่ยวกับทิศทางการส่งเสริมปลูกไม้เศรษฐกิจ การเตรียมความพร้อมพื้นที่ การตัดและการนำเคลื่อนที่ รวมทั้งการส่งออกและการขึ้นทะเบียนไซเตรส รวมทั้งรายได้ที่ชาวบ้านจะได้รับซึ่งอยู่ที่ปริมาณพื้นที่ปลูกว่ามีมากน้อยเพียงใด และหลังจากประชุมแล้วเสร็จเจ้าของสวนยางพารา เจ้าของที่ดินและเจ้าของที่นาร้าง ได้แสดงความจำนงลงทะเบียนที่จะปลูกไม้เศรษฐกิจดังกล่าว
ด้านนายสุรพร พร้อมมูล ผวจ.นราธิวาส กล่าวว่า โครงการดีๆ อีกโครงการหนึ่ง ที่ได้มีการบูรณาการร่วมระหว่างหน่วยงานราชการกับภาคเอกชน ที่ได้นำแนวทางช่วยเหลือและสนับสนุนด้านเศรษฐกิจ โดยเฉพาะการแก้ปัญหาการปลูกป่าซึ่งเป็นป่าเศรษฐกิจเชิงอนุรักษ์ ซึ่งปัจจุบันเป็นที่ทราบกันดีว่า ปัญหายางพาราเป็นปัญหาที่ค่อยข้างสร้างความลำบากใจให้กับเกษตรกรที่ราคายางพาราตกต่ำ ซึ่งโครงการนี้เป็นแนวทางหนึ่งที่จะมาเสริม คือ เรื่องการปลูกเสริมในร่องสวนยางพารา หรือพื้นที่ที่รกร้างอยู่รวมทั้งหัวไร่ปลายนา ซึ่งจะเป็นตัวสร้างความสมดุลให้กับทางธรรมชาติรวมทั้งการปรับสภาพระดับความชื้นในดิน เช่น ไม้พยุง ไม้ตะเคียน ไม้ชิงชันและไม้ไผ่ เป็นไม้ที่ขึ้นเหมาะกับสภาพพื้นที่ จ.นราธิวาส แถมยังเป็นการออมเงินเมื่อถึงระยะหนึ่งเมื่อไม้เศรษฐกิจโตได้ขนาดก็สามารถตัดจำหน่ายได้ ซึ่งมันสามารถช่วยเสริมได้ในบางช่วงเวลาที่ยางพาราผลัดใบ ในห้วงที่ฝนตก ที่สามารถทำให้ชาวบ้านมีรายได้เสริม
http://www.naewna.com/local/327156
เป็นเรื่องดีๆทั้งสองเรื่องนะคะ การมีโรงงานมาผลิตยางรถยนต์ทำให้มีการใช้ยางพาราในอุตสาหกรรม
ทำให้มีการใช้ยางพาราในประเทศเพิ่มขึ้น
การปลูกพืชเศรษฐกิจแซมในที่รกร้าง ว่างเปล่า หรือในร่องยางพาราก็ช่วยให้มีรายได้เสริมขึ้นมาอีกด้วย
ช่วยเหลือเกษตรกรชาวสวนยางให้อยู่ได้โดยภาคเอกชนร่วมมือกับราชการเข้ามาช่วยเหลือ..👍👍👍👍👍
🌳🌴~มาลาริน~ข่าวดีทุ่ม10,000ล้านบาท ผุดโรงงานผลิตยางรถในไทย ชาวสวนยางนราธิวาส-เจ้าของที่ดินร้างเฮ ! หลังเอกชนหนุนปลูก
“คอนติเนนทอล” ยักษ์ใหญ่ด้านชิ้นส่วนยานยนต์จากเยอรมัน ทุ่มทุน 250 ล้านยูโร (ราว 10,000 ล้านบาท) สร้างโรงงานผลิตยางรถยนต์แห่งใหม่ที่จังหวัดระยอง เดินตามยุทธศาสตร์ป้อนตลาดไทยและเอเชียแปซิฟิค เริ่มต้นปี 2562 กำลังการผลิต 4 ล้านเส้น/ปี พร้อมขยายกำลังผลิตได้ถึง 25 ล้านเส้น/ปี
นายนิโคไล เซตเซอร์ คณะกรรมการบริหารและผู้บริหารสูงสุดฝ่ายยางรถยนต์ กล่าวว่า บริษัทฯ เล็งเห็นถึงศักยภาพของประเทศไทยที่สอดคล้องกับแผนการขยายกิจการผลิตยางของคอนติเนนทอลจึงตัดสินใจลงทุนมูลค่า 250 ล้านยูโร (ประมาณ 10,000 ล้านบาท) เพื่อสร้างโรงงานผลิตยางแห่งใหม่
สำหรับโรงงานแห่งนี้มีขนาดพื้นที่ 700 ไร่ โดยเป็นโรงงานที่ทันสมัยที่สุดของคอนติเนนทอลรองรับกำลังการผลิตสูงสุดถึง 25 ล้านเส้นต่อปี ในช่วงเริ่มต้นจะมีกำลังการผลิต 4 ล้านเส้นต่อปี คาดว่าจะสามารถผลิตได้ตั้งแต่ไตรมาสแรกของปี 2562
โรงงานแห่งใหม่มูลค่า 10,000 ล้านบาทจะเริ่มผลิตได้ต้นปี 2562
“การสร้างโรงงานดังกล่าวนี้เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าที่ขยายตัวเพิ่มมากขึ้นทั้งในประเทศไทยและภูมิภาคเอเชียแปซิฟิค ซึ่งประเทศไทยอยู่ในทำเลที่ดีที่สุด จุดเด่นของยางคอนติเนนทอลคือ เทคโนโลยีจากเยอรมัน ที่มีทั้งความปลอดภัย การยึดเกาะถนน และสมรรถนะที่ดีเยี่ยม” นายนิโคไลกล่าว
ขณะที่ตลาดยางรถยนต์ในประเทศไทยนั้น ภาพรวมของตลาดทดแทน(REM)อยู่ที่ระดับประมาณ 9 ล้านเส้นต่อปี ส่วนตลาดผู้ผลิต(OEM)อยู่ที่ประมาณ 8 ล้านเส้น/ปีจากตัวเลขการผลิตรถยนต์รายปีของไทย โดยโรงงานแห่งใหม่นี้จะสามารถผลิตได้ทั้งยางรถปิกอัพและยางรถยนต์นั่ง ปรับเปลี่ยนสัดส่วนได้ตามความต้องการของตลาด
“โดยปกติสัดส่วนการขายระหว่าง OEM กับ REM ของคอนติเนนทอลทั่วโลกจะอยู่ประมาณ 35%-65% แต่ในไทยสัดส่วนของOEMจะอยู่ราว 80% ซึ่งเรามีเป้าหมายการขายที่ 4 ล้านเส้น/ปี ตามจำนวนการผลิตของเรา โดยจะมีการขายครบทุกรูปแบบทั้งขายส่งและขายปลีกผ่าน Conti Shop ที่มีอยู่ทั้ง 3 แห่ง และจะเพิ่มขึ้นในอนาคต” นายนิโคไลกล่าว
https://mgronline.com/motoring/detail/9610000026416
ชาวสวนยาง-เจ้าของที่ดินร้างเฮ!หลังเอกชนหนุนปลูกไม้เศรษฐกิจ
เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 16 มี.ค. 61 ที่ห้องประชุมโรงแรมกรีนวิว อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส นายสุรพร พร้อมมูล ผวจ.นราธิวาส ได้เดินทางมาเป็นประธานในพิธีการส่งเสริมธุรกิจปลูกไม้เศรษฐกิจ เพื่อการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ภายใต้สโลแกน ชาวนราร่วมใจสร้างเศรษฐกิจสีเขียวเมืองป่าไม้ สู่การพัฒนาที่มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน ซึ่งเป็นความร่วมมือของภาคเอกชนกลุ่มสวนกิตติ หรือ ดับเบิ้ลเอ และบริษัทไพร์ซ ออฟ วู้ด โอดิ้งส์จำกัด กับ ธนาคารเพื่อการเกษตร สหกรณ์การเกษตร สนง.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และองค์การสงเคราะห์สวนยางพารา รวมทั้งกรมป่าไม้เห็นชอบ เพื่อปลูกไม้เศรษฐกิจ อาทิ ไม้ไผ่ ยูคาลิปตัส ตะเคียนทอง กันเกรา พยุงและไม้ชิงชัน ในร่องสวนยางพาราหรือที่ดินว่างเปล่าและนาร้างของชาวบ้าน เพื่อเป็นรายได้เสริมในช่วงราคายางพาราตกต่ำ เนื่องจากไม้เศรษฐกิจจำพวกนี้เมื่อปลูกโตได้ขนาดสามารถตัดขายให้กับกลุ่มสวนกิตติ หรือ ดับเบิ้ลเอ รวมทั้งบริษัทไพร์ซ ออฟ วู้ด โอดิ้งส์จำกัด ได้ซึ่งทาง 2 บริษัทภาคเอกชนจะรับประกันราคาซื้อ
ซึ่งการจัดประชุมในครั้งนี้ มีเจ้าของสวนยางพารา ชาวบ้านที่มีที่ดินและที่นาร้าง จำนวนกว่า 100 คน เข้าร่วมประชุม เพื่อรับฟังเกี่ยวกับทิศทางการส่งเสริมปลูกไม้เศรษฐกิจ การเตรียมความพร้อมพื้นที่ การตัดและการนำเคลื่อนที่ รวมทั้งการส่งออกและการขึ้นทะเบียนไซเตรส รวมทั้งรายได้ที่ชาวบ้านจะได้รับซึ่งอยู่ที่ปริมาณพื้นที่ปลูกว่ามีมากน้อยเพียงใด และหลังจากประชุมแล้วเสร็จเจ้าของสวนยางพารา เจ้าของที่ดินและเจ้าของที่นาร้าง ได้แสดงความจำนงลงทะเบียนที่จะปลูกไม้เศรษฐกิจดังกล่าว
https://www.siamrath.co.th/n/32625
ชาวสวนยางเฮ! พ่อเมืองนราฯหนุนปลูกไม้เศรษฐกิจ เอกชนรับประกันราคาขายดี
16 มี.ค.61 ที่ห้องประชุมโรงแรมกรีนวิว อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส นายสุรพร พร้อมมูล ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส ได้เดินทางมาเป็นประธานในพิธีการส่งเสริมธุรกิจปลูกไม้เศรษฐกิจ เพื่อการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ภายใต้สโลแกน " ชาวนราฯร่วมใจสร้างเศรษฐกิจสีเขียวเมืองป่าไม้ สู่การพัฒนาที่มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน" ซึ่งเป็นความร่วมมือของภาคเอกชนกลุ่มสวนกิตติ หรือ ดับเบิ้ลเอ และบริษัทไพร์ซ ออฟ วู้ด โอดิ้งส์จำกัด กับ ธนาคารเพื่อการเกษตร สหกรณ์การเกษตร สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และองค์การสงเคราะห์สวนยางพารา รวมทั้งกรมป่าไม้เห็นชอบ เพื่อปลูกไม้เศรษฐกิจ อาทิ ไม้ไผ่ ยูคาลิปตัส ตะเคียนทอง กันเกรา พยุงและไม้ชิงชัน ในร่องสวนยางพาราหรือที่ดินว่างเปล่าและนาร้างของชาวบ้าน เพื่อเป็นรายได้เสริมในช่วงราคายางพาราตกต่ำ เนื่องจากไม้เศรษฐกิจจำพวกนี้เมื่อปลูกโตได้ขนาดสามารถตัดขายให้กับกลุ่มสวนกิตติ หรือ ดับเบิ้ลเอ รวมทั้งบริษัทไพร์ซ ออฟ วู้ด โอดิ้งส์จำกัด ได้ซึ่งทาง 2 บริษัทภาคเอกชนจะรับประกันราคาซื้อ
ซึ่งการจัดประชุมในครั้งนี้ มีเจ้าของสวนยางพารา ชาวบ้านที่มีที่ดินและที่นาร้าง จำนวนกว่า 100 คน เข้าร่วมประชุม เพื่อรับฟังเกี่ยวกับทิศทางการส่งเสริมปลูกไม้เศรษฐกิจ การเตรียมความพร้อมพื้นที่ การตัดและการนำเคลื่อนที่ รวมทั้งการส่งออกและการขึ้นทะเบียนไซเตรส รวมทั้งรายได้ที่ชาวบ้านจะได้รับซึ่งอยู่ที่ปริมาณพื้นที่ปลูกว่ามีมากน้อยเพียงใด และหลังจากประชุมแล้วเสร็จเจ้าของสวนยางพารา เจ้าของที่ดินและเจ้าของที่นาร้าง ได้แสดงความจำนงลงทะเบียนที่จะปลูกไม้เศรษฐกิจดังกล่าว
ด้านนายสุรพร พร้อมมูล ผวจ.นราธิวาส กล่าวว่า โครงการดีๆ อีกโครงการหนึ่ง ที่ได้มีการบูรณาการร่วมระหว่างหน่วยงานราชการกับภาคเอกชน ที่ได้นำแนวทางช่วยเหลือและสนับสนุนด้านเศรษฐกิจ โดยเฉพาะการแก้ปัญหาการปลูกป่าซึ่งเป็นป่าเศรษฐกิจเชิงอนุรักษ์ ซึ่งปัจจุบันเป็นที่ทราบกันดีว่า ปัญหายางพาราเป็นปัญหาที่ค่อยข้างสร้างความลำบากใจให้กับเกษตรกรที่ราคายางพาราตกต่ำ ซึ่งโครงการนี้เป็นแนวทางหนึ่งที่จะมาเสริม คือ เรื่องการปลูกเสริมในร่องสวนยางพารา หรือพื้นที่ที่รกร้างอยู่รวมทั้งหัวไร่ปลายนา ซึ่งจะเป็นตัวสร้างความสมดุลให้กับทางธรรมชาติรวมทั้งการปรับสภาพระดับความชื้นในดิน เช่น ไม้พยุง ไม้ตะเคียน ไม้ชิงชันและไม้ไผ่ เป็นไม้ที่ขึ้นเหมาะกับสภาพพื้นที่ จ.นราธิวาส แถมยังเป็นการออมเงินเมื่อถึงระยะหนึ่งเมื่อไม้เศรษฐกิจโตได้ขนาดก็สามารถตัดจำหน่ายได้ ซึ่งมันสามารถช่วยเสริมได้ในบางช่วงเวลาที่ยางพาราผลัดใบ ในห้วงที่ฝนตก ที่สามารถทำให้ชาวบ้านมีรายได้เสริม
http://www.naewna.com/local/327156
เป็นเรื่องดีๆทั้งสองเรื่องนะคะ การมีโรงงานมาผลิตยางรถยนต์ทำให้มีการใช้ยางพาราในอุตสาหกรรม
ทำให้มีการใช้ยางพาราในประเทศเพิ่มขึ้น
การปลูกพืชเศรษฐกิจแซมในที่รกร้าง ว่างเปล่า หรือในร่องยางพาราก็ช่วยให้มีรายได้เสริมขึ้นมาอีกด้วย
ช่วยเหลือเกษตรกรชาวสวนยางให้อยู่ได้โดยภาคเอกชนร่วมมือกับราชการเข้ามาช่วยเหลือ..👍👍👍👍👍