จิตเป็นทุกข์ เพราะจิตมีสังขารขันธ์

สังขตธรรม บางครั้งเรียกว่า สังขารธรรม
สังขารธรรม คือ ขันธ์5
สังขารธรรม คือ รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ
สังขารธรรม มีการเกิดดับ
เวลาพูดสั้นๆ คือ สังขาร เกิดดับ

[๒๙] ควรรู้ยิ่งว่า
ความเกิดขึ้นเป็นสังขาร      ความไม่เกิดขึ้นเป็นนิพพาน
ความเป็นไปเป็นสังขาร       ความไม่เป็นไปเป็นนิพพาน
เครื่องหมายเป็นสังขาร       ความไม่มีเครื่องหมายเป็นนิพพาน
ความประมวลมาเป็นสังขาร  ความไม่ประมวลมาเป็นนิพพาน  
ความสืบต่อเป็นสังขาร        ความไม่สืบต่อเป็นนิพพาน
ความไปเป็นสังขาร            ความไม่ไปเป็นนิพพาน
ความบังเกิดเป็นสังขาร       ความไม่บังเกิดเป็นนิพพาน
ความอุบัติเป็นสังขาร          ความไม่อุบัติเป็นนิพพาน
ความเกิดเป็นสังขาร           ความไม่เกิดเป็นนิพพาน
ความแก่เป็นสังขาร            ความไม่แก่เป็นนิพพาน
ความป่วยไข้เป็นสังขาร       ความไม่ป่วยไข้เป็นนิพพาน
ความตายเป็นสังขาร          ความไม่ตายเป็นนิพพาน
ความเศร้าโศกเป็นสังขาร    ความไม่เศร้าโศกเป็นนิพพาน
ความรำพันเป็นสังขาร        ความไม่รำพันเป็นนิพพาน
ความคับแค้นใจเป็นสังขาร   ความไม่คับแค้นใจเป็นนิพพาน ฯ

ไม่มีตรงไหนเลยที่บอกว่าสังขารเป็นทุกข์
ไม่มีตรงไหนเลยที่บอกว่าสังขารธรรมเป็นทุกข์
ไปอ้างอิงมั่ว ตึความมั่ว
ว่าทุกข์เป็นสังขารธรรม
สังขารเป็นสังขารธรรม
ก็เลยตีความมั่ว ว่าสังขารเป็นทุกข์

ดินเป็นสังขารธรรมเป็นธาตุ
น้ำเป็นสังขารธรรมเป็นธาตุ
ลมเป็นสังขารธรรมเป็นธาตุ
ไฟเป็นสังขารธรรมเป็นธาตุ
เป็นธาตุ เป็นสังขารธรรมเหมือนกันหมด
แบบนี้ก็ต้องตีความแบบมั่วๆๆว่า
ดินเป็นน้ำเป็นลม
เป็นไฟเป็นสิ่งเดียวกันหมดหรือ
มั่วแบบปัญญาทราม
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่