วันสุดท้ายของเดือนที่เจ็ดฤดูฝน
เงียบ ความเงียบไม่เงียบเช่นที่เคยเป็น
ผมยืนมองราวตากผ้าที่ล้มลงจากลมฝนโดยไม่สบถอะไรออกมาสักคำ
น้องหมาที่ชื่อหมี เพื่อนซี้ของผม กระโดดโลดเต้นราวกับนี่คือเหตุการณ์สำคัญกับชีวิต
คาบกางเกงในบ้าง เสื้อเชิตขาวที่ผมต้องใส่ไปทำงานพรุ่งนี้บ้าง สะบัดไปสะบัดมาทีละชิ้น
ท่ามกลางลมฝนโหมกระหน่ำ ผมยังคงยืนดูน้องหมี และไม่พูดอะไร
ตัวผมอยู่ตรงนี้ แต่ผมไม่ได้อยู่ตรงนี้
ผ้าที่ผมพึ่งซักยังคงกองอยู่ตรงนั้น ดูเหมือนทุกอย่างสายไปแล้ว ยากที่จะแก้ไข
ไม่ว่าอย่างไรผมก็ต้องทำมันใหม่ทั้งหมดอยู่ดี ผมปล่อยให้มันอยู่ตรงนั้นและเดินเข้าห้องนอนตามเคย
เงียบ เงียบเหลือเกิน แต่ความเงียบไม่เงียบเช่นเคย
สิ่งที่ขมุกขมัวมากกว่าบรรยากาศในวันที่ฝนตกเช่นนี้ เห็นทีคงเป็นความรู้สึกของผม
ผมแยกมันไม่ออกจริงๆว่ามันคือความเสียใจ อยากที่จะแก้ไข
สิ่งที่ตกค้าง บางอย่าง เศษเสี้ยวของเหตุการณ์ อ๋อ มันคงเป้นฝุ่นละอองของความรู้สึก
ถึงแม้เป็นเป็นเพียงอนูเล็กๆ เป็นเพียงฝุ่นละออง หากไม่ได้ปัดกวาด เช็ดถู ดูแล
ย่อมหนาขึ้น หนาขึ้น หนาขึ้นเรื่อยๆ คุณจะรู้สึกถึงการมีอยุ่ของมันอีกที ฝุ่นละอองเหล่านี้ก้จับตัวกันแน่นเป็นชั้นหน้าเตอะซะแล้ว
สุดท้ายผมก็พบมันเป็นกลุ่มก้อนบางอย่าง ผมไม่ชอบการมีอยู่ของฝุ่นเอาซะเลย ผมไม่ชอบที่มันอยุ่ตรงนั้น
หากแต่ ผมยังไม่ทันได้เอื้อมมือไปแตะต้องมันด้วยซ้ำ เพียงลมหายใจอันแผ่วเบา
ฝุ่นละอองเหล่านั้นกลับฟุ้งกระจายไปทั่วพื้นที่
เปลี่ยนความสดใส ให้หม่นหมองได้ทันใด และมันไม่ได้หายไป
มันเกาะกุมบางอย่างไว้ อย่างเช่นหัวใจ
น้ำตากับฝนมีบางอย่างที่คล้ายคลึงกัน ไม่ใช่เพราะมันมีสถานะเป็นขอเหลวหรอกครับ
มันคล้ายคลึงกันในลักษณะของ พฤติกรรมต่างหาก
อะไรคือสิ่งที่เราทำได้เวลาที่ฝนกำลังตกกัน ?
สิ่งเดียวที่ทำได้เห็นทีจะเป็นการปล่อยให้เมฆสีเทา หยดน้ำจากบนฟ้า ร่วงหล่นลงมาจนกว่ามันจะหยุดไปเอง
คุณบังคับให้มันหยุดตกไม่ได้หรอก เมื่อคุณไม่ได้เตรียมตัวรับมือ
เมื่อละอองฝน หยดน้ำได้ร่วงหล่นลงมาแล้ว
ทุกอย่างก็ดูจะสายเกินไป ยากที่จะแก้ไข
น้ำตาที่ไหลก็เช่นกัน เมื่อมันไหลออกมา ทุกอย่างดูจะสายเกินไปแล้ว
หญิงสาวที่ผมเคยรัก กลับมาบอกรักผมในวันที่ผมลืมความรักนั้นไปแล้ว
วินาทีที่คำว่ารักยิงตรงเข้าสู่รูหู มันไม่ได้ไปต่อ มันเดินทางไปไม่ถึงหัวใจ
ผมไม่รู้สึกอะไร
แต่สิ่งที่ทำให้น้ำตาของผมไหลนั้น คือสิ่งที่ผมตอบกลับคำว่ารักของเธอ ผญคนที่เรียกร้องขอความรักจากผม
คำพูดทิ่มแทงคนได้ดีนัก ผมตระหนักถึงเรื่องนี้เป็นอย่างดี
หากแต่คำพูดของผมไม่เคยขึ้นสนิม ยังคงคมกริบเสมอ
ปลายแหลม เบาบาง เฉือนทะลุผิวหนัง ยิงตรงเข้าสู้จิตใจ
และนี่คือเหตุผลที่น้ำตาผมไหล มันทำให้มีเรื่องที่ไม่อาจแก้ไขได้เพิ่มอีกหนึ่งเรื่อง
นอกจากเรื่องความสัมพันธ์ของเรา
และเมื่อคำพูดหลุดออกไปจากปากส่งตรงถึงผู้รับสารเรียบร้อย
ดูเหมือนทุกอย่างจะสายเกินไป
ยากที่จะแก้ไข
จบแล้วจ้า
NEGRONI
ขอบคุณใครก็ตามที่อ่านมาจนถึงตรงนี้จริงๆครับ สำหรับเรื่องที่เขียนผมไม่รู้จะจัดอยู่ในเรื่องสั้นได้หรือเปล่า เห็นทีจะดูเหมือนบทพรรณนาของใครสักคนหนึ่งเพียงเท่านั้น แต่ถึงกระนั้นก็อย่าโกรธเคืองกันเลยครับ ยินดีเหลือเกินครับที่จะได้ยินคำติชมของทุกท่าน ขอบคุณจริงๆครับมันสำคัญกับผมมากจริงๆ
เรื่องสั้น[มากๆ] ความรู้สึก ฤดูฝน #2
เงียบ ความเงียบไม่เงียบเช่นที่เคยเป็น
ผมยืนมองราวตากผ้าที่ล้มลงจากลมฝนโดยไม่สบถอะไรออกมาสักคำ
น้องหมาที่ชื่อหมี เพื่อนซี้ของผม กระโดดโลดเต้นราวกับนี่คือเหตุการณ์สำคัญกับชีวิต
คาบกางเกงในบ้าง เสื้อเชิตขาวที่ผมต้องใส่ไปทำงานพรุ่งนี้บ้าง สะบัดไปสะบัดมาทีละชิ้น
ท่ามกลางลมฝนโหมกระหน่ำ ผมยังคงยืนดูน้องหมี และไม่พูดอะไร
ตัวผมอยู่ตรงนี้ แต่ผมไม่ได้อยู่ตรงนี้
ผ้าที่ผมพึ่งซักยังคงกองอยู่ตรงนั้น ดูเหมือนทุกอย่างสายไปแล้ว ยากที่จะแก้ไข
ไม่ว่าอย่างไรผมก็ต้องทำมันใหม่ทั้งหมดอยู่ดี ผมปล่อยให้มันอยู่ตรงนั้นและเดินเข้าห้องนอนตามเคย
เงียบ เงียบเหลือเกิน แต่ความเงียบไม่เงียบเช่นเคย
สิ่งที่ขมุกขมัวมากกว่าบรรยากาศในวันที่ฝนตกเช่นนี้ เห็นทีคงเป็นความรู้สึกของผม
ผมแยกมันไม่ออกจริงๆว่ามันคือความเสียใจ อยากที่จะแก้ไข
สิ่งที่ตกค้าง บางอย่าง เศษเสี้ยวของเหตุการณ์ อ๋อ มันคงเป้นฝุ่นละอองของความรู้สึก
ถึงแม้เป็นเป็นเพียงอนูเล็กๆ เป็นเพียงฝุ่นละออง หากไม่ได้ปัดกวาด เช็ดถู ดูแล
ย่อมหนาขึ้น หนาขึ้น หนาขึ้นเรื่อยๆ คุณจะรู้สึกถึงการมีอยุ่ของมันอีกที ฝุ่นละอองเหล่านี้ก้จับตัวกันแน่นเป็นชั้นหน้าเตอะซะแล้ว
สุดท้ายผมก็พบมันเป็นกลุ่มก้อนบางอย่าง ผมไม่ชอบการมีอยู่ของฝุ่นเอาซะเลย ผมไม่ชอบที่มันอยุ่ตรงนั้น
หากแต่ ผมยังไม่ทันได้เอื้อมมือไปแตะต้องมันด้วยซ้ำ เพียงลมหายใจอันแผ่วเบา
ฝุ่นละอองเหล่านั้นกลับฟุ้งกระจายไปทั่วพื้นที่
เปลี่ยนความสดใส ให้หม่นหมองได้ทันใด และมันไม่ได้หายไป
มันเกาะกุมบางอย่างไว้ อย่างเช่นหัวใจ
น้ำตากับฝนมีบางอย่างที่คล้ายคลึงกัน ไม่ใช่เพราะมันมีสถานะเป็นขอเหลวหรอกครับ
มันคล้ายคลึงกันในลักษณะของ พฤติกรรมต่างหาก
อะไรคือสิ่งที่เราทำได้เวลาที่ฝนกำลังตกกัน ?
สิ่งเดียวที่ทำได้เห็นทีจะเป็นการปล่อยให้เมฆสีเทา หยดน้ำจากบนฟ้า ร่วงหล่นลงมาจนกว่ามันจะหยุดไปเอง
คุณบังคับให้มันหยุดตกไม่ได้หรอก เมื่อคุณไม่ได้เตรียมตัวรับมือ
เมื่อละอองฝน หยดน้ำได้ร่วงหล่นลงมาแล้ว
ทุกอย่างก็ดูจะสายเกินไป ยากที่จะแก้ไข
น้ำตาที่ไหลก็เช่นกัน เมื่อมันไหลออกมา ทุกอย่างดูจะสายเกินไปแล้ว
หญิงสาวที่ผมเคยรัก กลับมาบอกรักผมในวันที่ผมลืมความรักนั้นไปแล้ว
วินาทีที่คำว่ารักยิงตรงเข้าสู่รูหู มันไม่ได้ไปต่อ มันเดินทางไปไม่ถึงหัวใจ
ผมไม่รู้สึกอะไร
แต่สิ่งที่ทำให้น้ำตาของผมไหลนั้น คือสิ่งที่ผมตอบกลับคำว่ารักของเธอ ผญคนที่เรียกร้องขอความรักจากผม
คำพูดทิ่มแทงคนได้ดีนัก ผมตระหนักถึงเรื่องนี้เป็นอย่างดี
หากแต่คำพูดของผมไม่เคยขึ้นสนิม ยังคงคมกริบเสมอ
ปลายแหลม เบาบาง เฉือนทะลุผิวหนัง ยิงตรงเข้าสู้จิตใจ
และนี่คือเหตุผลที่น้ำตาผมไหล มันทำให้มีเรื่องที่ไม่อาจแก้ไขได้เพิ่มอีกหนึ่งเรื่อง
นอกจากเรื่องความสัมพันธ์ของเรา
และเมื่อคำพูดหลุดออกไปจากปากส่งตรงถึงผู้รับสารเรียบร้อย
ดูเหมือนทุกอย่างจะสายเกินไป
ยากที่จะแก้ไข
จบแล้วจ้า
NEGRONI
ขอบคุณใครก็ตามที่อ่านมาจนถึงตรงนี้จริงๆครับ สำหรับเรื่องที่เขียนผมไม่รู้จะจัดอยู่ในเรื่องสั้นได้หรือเปล่า เห็นทีจะดูเหมือนบทพรรณนาของใครสักคนหนึ่งเพียงเท่านั้น แต่ถึงกระนั้นก็อย่าโกรธเคืองกันเลยครับ ยินดีเหลือเกินครับที่จะได้ยินคำติชมของทุกท่าน ขอบคุณจริงๆครับมันสำคัญกับผมมากจริงๆ