ห้องเพลง**คนรากหญ้า** พักยกการเมือง มุมนี้ไม่มีสี ไม่มีกลุ่ม...มีแต่เสียง 31/7/2018 (คมวาทะ "ประชาธิปไตย" #2)

กระทู้คำถาม


ห้องเพลงคนรากหญ้าเปิดขึ้นมามีวัตถุประสงค์ เพื่อ

1. มีพื้นที่ให้เพื่อนๆ ได้มาพบปะ พูดคุยระหว่างกัน ในภาวะที่ต้องระมัดระวังการโพสการเมืองอย่างเคร่งครัด
2. เป็นพื้นที่ พักผ่อน ลดความเครียดทางการเมือง ให้เพื่อนๆ มีกิจกรรมสนุกๆ ร่วมกัน
3. สร้างมิตรภาพและความปรองดอง ซึ่งเราหวังให้สังคมไทยเป็นเช่นนี้ แม้นคิดต่างกัน แต่เมื่อคุยกันแล้วก็เป็นเพื่อนกันเหมือนเดิม

กระทู้ห้องเพลงเป็นกระทู้เปิด มิได้ปิดกั้นผู้หนึ่งผู้ใด "ขอให้มาดี เราคือเพื่อนกัน" ซึ่งก็เหมือนกับกระทู้ทั่วไป ที่เราไม่จำเป็นต้องทราบว่า User ท่านไหนเป็นใครมาจากไหน  ...ดังนั้น หากมีบุคคลใดที่มีการโพสสิ่งผิดกฎหมายและศีลธรรมอันดีของสังคมนั้น หรือสิ่งรบกวนใดๆ ในบอร์ด เป็นเรื่องส่วนบุคคล ทางห้องเพลงจึงขอแสดงความบริสุทธิ์ใจว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งสิ้น





สวัสดีค่ะเพื่อนๆ ห้องเพลงและเพื่อนสมาชิกทุกท่าน


ห้องเพลงเคยนำเสนอวาทะของคนดังระดับโลกเกี่ยวกับ "ประชาธิปไตย" ไปบ้างแล้ว
https://ppantip.com/topic/37883539 วันนี้มาต่อกันค่ะ


ออง ซาน ซูจี

ฉันพยายามอธิบายว่าประชาธิปไตยไม่ใช่ระบอบที่สมบูรณที่สุด
แต่มันคือโอกาสที่จะลิขิตชะตากรรมของคุณ



สตรีผู้เรียกร้องประชาธิปไตยให้เมียนมาร์มาตั้งแต่ปี 2531
และต้องถูกกักบริเวณในบ้านพัก จองจำ และลิดรอนสิทธิเสรีภาพมายาวนาน
แต่ซูจี  ก็ไม่เคยล้มเลิกที่จะสร้างแรงบันดาลใจให้กับเมียนมาร์ในด้านประชาธิปไตยเลยสักครั้ง

ซูจีจึงได้รับรางวัลมากมาย รวมถึงรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพ ในปี 2534
และชาวเมียนมาร์ก็เรียกซูจีว่า "ดอว์ซู" หรือ แม่ซู

เห็นด้วยค่ะ การปกครองจะเป็นแบบใดก็ได้ที่ให้ประโยชน์กับประชาชนที่สุด
ซึ่งในพื้นฐานเลยประชาชนควรมีสิทธิลิขิตทางเลือกเขาได้ด้วยตัวเอง




มหาตมะ คานธี

จิตวิญญาณแห่งประชาธิปไตยไม่สามารถทำให้เกิดขึ้นได้ท่ามกลางความรุนแรงทางการเมือง
ไม่ว่าจะเป็นภาครัฐหรือภาคประชาชน




มหาตมะ คานธี คือ ผู้นำและนักการเมืองที่มีชื่อเสียงที่สุดคนหนึ่ง
ด้วยความเป็นนักพัฒนาผู้เข้ามาเปลี่ยงแปลง แก้ไขปัญหาและความไม่เสมอภาคในประเทศ
ทั้งระบบวรรณะ เศรษฐกิจ ปัญหาระหว่างศาสนา บทบาทสตรี

คานธีได้รับการยกย่องจากประชาชน เพราะเขาเรียกร้องเอกราชของอินเดียจากอังกฤษด้วยวิธีการอหิงสา
ไม่เบียดเบียน ไม่ใช้กำลัง ความรุนแรง และอารยะขัดขืน นำมาซึ่งเอกราชของประเทศอินเดียได้ในปี 1947
นับเป็นบุคคลที่ทรงอิทธิพลทางจิตวิญญาณและเป็นรงบันดาลใจให้นักต่อสู้อีกหลายคนในเวลาถัดมา

สำหรับคำว่ามหาตมะ คานธีนั้น รพินนารถ ฐากูร นักปราชญ์รางวัลโนเบลสาขาวรรณกรรม ปี1913 ชาวอินเดีย
ได้ขนานนามเพื่อยกย่องคานธี โดยมาจากคำว่า "มหา" และ "อาตมา" มีความหมายว่า "ผู้ที่มีจิตใจอันสูงส่ง"

ส่วนตัวคิดว่ามีหนทางมากมายเพื่อไปยังเป้าหมาย  
แต่การไม่ใช้ความรุนแรง และเลือกใช้วิถีทางที่ถูกต้อง แม้จะยากเย็น แต่กลับยั่งยืนและน่ายกย่อง



หลิว เสี่ยว โป

ความเกลียดชังกัดกร่อนปัญญาและจิตสำนึกของคน กล่าวคือ
ความคิดที่เป็นอริก็เป็นเหมือนการวางยาต่อจิตวิญญาณของชาติ
ความเกลียดชังกระตุ้นการใช้ชีวิตที่โหดร้ายและความดิ้นรนถึงตาย
เป็นการบ่อนทำลายความอดทนของสังคมและมนุษยธรรม
และกีดขวางความก้าวหน้าของประเทศที่จะนำไปสู่อิสรภาพและประชาธิปไตย




นักวิชาการ อาจารย์ และนักเขียนที่ผันตัวมาเป็นนักประชาธิปไตยคนสำคัญของจีน
เขาถูกจับเข้าคุกและตัดสิทธิทางการเมืองครั้งแล้วครั้งเล่า รวมถึงถูกตัดขาดจากโลกภายนอก
ทั้งทางโทรศัพท์และอินเตอร์เน็ตด้วยข้อหาล้มล้างอำนาจรัฐ
แต่ก็ไม่สามารถหยุดการเคลื่อนไหวเพื่อการเปลี่ยนแปลงทางสังคมของเขาได้

เพราะขณะที่โดนตัดเสรีภาพในการติดต่อกับโลกภายนอก เขาก็ทุ่มเทร่างกฎบัตร 08 (Charter 08)
เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลจีนปฏิรูปการเมือง ยกเลิกการปกครองประเทศแบบพรรคเดียว
และเรียกร้องให้เคารพสิทธิมนุษยชน แต่เขาก็ต้องถูกจับและตัดโทษจำคุกถึง 11 ปี
และถูกตัดสิทธิทางการเมือง 2ปี อีกด้วย

ในช่วงที่เขาถูกจำคุก เขากลับได้รับรางวันโนเบลสาขาสันติภาพเมื่อปี 2010
เพื่อตอบแทนสำหรับการต่อสู้อย่างกล้าหาญและยาวนาน
โดยไม่ใช้ความรุนแรงเพื่อสร้างสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐานในประเทศจีน

ความคิดคล้ายคานธีเลยค่ะ คือ ต่อต้านความเกลียดชังและความรุนแรง
สิ่งเหล่านั้นล้วนขัดขวางวิถีแห่งประชาธิปไตย




อับราฮัม ลินคอล์น

ผมไม่ยอมเป็น 'ทาส' ดังนั้น ผมก็จะไม่ยอมเป็น 'นายทาส'
นี่แหละคือความหมายของการเป็นประชาธิปไตยในความคิดผม





ใครก็ตามที่ปฏิเสธเสรีภาพของผู้อื่น ก็ไม่คู่ควรที่จะมีเสรีภาพของตัวเอง


มาถึงคนสำคัญที่ขาดไม่ได้หากพูดถึงคำว่า "ประชาธิปไตย"

เขาคือหนึ่งบุคคลที่ประวัติศาสตร์โลกจดจำ ด้วยความสามารถในการบริหารในฐานะประธานธิบดีคนที่ 16 ของสหรัฐอเมริกา
ในปี 1861 ซึ่งเป็นช่วงเดียวกับสงครามกลางเมืองในสหรัฐอเมริกาที่มีความวุ่นวายทั้งรัฐธรรมนูญ การทหาร
ไปพร้อมๆ กับการเลิกทาส และรักษาเสถียรภาพของประเทศให้มากที่สุด
เขาจึงนับเป็นประธานาธิบดีที่ดีที่สุดคนหนึ่งในประวัติศาสตร์อเมริกา

อับราฮัม ลินคอล์น ถือได้ว่าเป็นต้นแบบของการเลิกทาสของโลก
นำไปสู่การสร้างความเสมอภาคและเท่าเทียมกันในหมู่มวลมนุษยชาติไปทั่วโลกในเวลาต่อมา
และยังทำให้สิทธิเสรีภาพของคนในยุคปัจจุบันเบ่งบานถึงขีดสุด

เขาได้นิยามของระบอบประชาธิปไตยที่กระชับและให้ความหมายชัดแจ้งที่สุดว่า
“การปกครองของประชาชน โดยประชาชน และเพื่อประชาชน”

ขอชื่นชมลินคอล์น ผู้ตระหนักว่า "มนุษย์ทุกคนต่างก็มีศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ที่เท่าเทียมกัน"


ขอบคุณที่มาข้อมูลและภาพประกอบ
https://www.dek-d.com/education/35857/
http://freedom-thing.blogspot.com/2011/05/blog-post_22.html


....................................................................


แล้วประชาธิปไตยในความเห็นของคุณเป็นอย่างไรบ้าง

ขอเป็นกำลังใจให้เพื่อนๆ ผู้มีหัวใจรักประชาธิปไตยทุกท่านค่ะ หัวใจดอกไม้


ประชาธิปไตย - คาราบาว โดย ทาร์ซาน เจ้าป่า

https://www.youtube.com/watch?v=y_1AnXvoG8c
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ


แก้ไขข้อความเมื่อ
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 23
" คมวาทะ ประชาธิปไตย #2 "

- พุทธศาสนากับประชาธิปไตยคล้ายๆกัน...

- เมื่อจะตัดสินใจอะไร จะไม่บังคับใจกัน ( จะคล้ายๆความรักด้วย ) จะคุยกัน จะเอาข้อมูล-เรื่องราว-ความรู้มาว่ากัน...

- และจะตัดสินใจเลือกทำอะไรด้วยเหตุผล...

- ประชาธิปไตยตัดสินด้วยเสียงส่วนใหญ่ ที่ถือว่ารับข้อมูล-ความรู้มาพอควรแล้ว ไม่บังคับใจกันด้วย น่าจะพอเรียกได้ว่ามีเหตุผลแล้ว...

- พุทธตัดสินด้วยธรรม ธรรมะของคนสมัยก่อนยังดีอยู่มาก มักจะย่อมรับความจริงได้ง่าย สังคมและคนไม่ซับซ้อนมากด้วย...

- สั้นๆดีกว่า...

" ทั้งพุทธศาสนาและประชาธิปไตยจะไม่บังคับใจกัน จะคุยกัน จะเอาข้อมูล-เรื่องราว-ความรู้มาว่ากัน และจะตัดสินใจเลือกทำอะไรด้วยเหตุผล "

- SS
--------------------------------------
Foreigner - Waiting For A Girl Like You {HD}

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่