จริงๆแล้วมันก็เป็นเรื่องส่วนตัว เรื่องปัญหาชีวิตของฉันเอง ที่บทสรุปคือการแยกกันอยู่ เหตุเนื่องจากสามีของฉันหาว่าฉันมีคนอื่น เริ่มเรื่องเลยนะคะดิฉันแต่งงานกับสามีตั้งแต่29 มีนาคม 2558 (แต่งงานกันมา 3 ปีกว่า) คบกันมารวมแต่งงานก็ราว 5 ปี 9 เดือน ดิฉันกับสามีรักกันมาก จนผู้คนรอบข้างต่างกันพาอิจฉา ไปเที่ยวต่างจังหวัดด้วยกัน ไปดูหนังกิน ไปเดินห้าง ไปหาอร่อยๆกินกัน ไปสวนสยามเล่นน้ำเล่นเครื่องเล่นกัน เราทั้งสองโคตรมีความสุข จนมาเมื่อปีที่แล้ว ไม่รู้เกิดอะไรขึ้นกับสามีฉัน ที่ทำให้เค้าเริ่มกล่าวหาฉันว่าคุยกับคนอื่น เริ่มจากวันนึงเค้าไปที่ทำงานฉัน ขี่บิ๊กไบท์ไปหา ส่วนฉันก็ขับรถไปทำงานเอง ตอนกลับฉันต้องลงไปเอารถชั้นใต้ดิน ส่วนเค้ารถมอเตอร์ไซค์อยู่ด้านบนอยู่แล้ว อยู่มาวันนึง สามีฉันเอากล้องที่ติดรถมาเล่น มาดู นี่คือเริ่มต้นของการใส่ร้าย เค้าหาว่าวันที่เค้าไปหาฉันที่ทำงานวันนั้น ระหว่างที่ฉันขับรถขึ้นมาจากใต้ดิน มีเสียงฉันคุยกับคนอื่น ซึ่งฉันไม่ได้คุยกับใครเลยสักคน สาบานให้ตายเถอะคะ จากวันนั้นเป็นต้นมา สามีฉันก็จะคอยเช็คกล้องในรถฉันตลอด และก็คอยหาเรื่องใส่ร้ายฉันได้ทุกวัน บอกว่ามีคนมาที่รถฉันเรียกฉันว่า”ซาร่า” คือฉันกับซาร่ามันเหมือนกันตรงไหน เอาอะไรมาคิด วันนึงแสะซื้อข้าวผัดปู กระเพาะปลาแถวบ้าน ระหว่างขับกลับ ก็หาว่ามีเสียงจากกล้องในรถเป็นเสียงฉันคุยกับผู้ชายอีก และก็มานั่งเปิดให้ฉันฟัง ซึ่งฉันไม่ค่อยได้ยินด้วยซ้ำ ได้ยินเป็นเสียงพูดนิดหน่อยแต่ไม่เป็นประโยค ซึ่งฉันคิดว่าเป็นเสียงจากคนจากนอกรถมากกว่า เพราะในรถเป็นไปไม้ได้เพราะฉันขับกลับคนเดียว และถ้าไม่จำเป็นฉันก็จะไม่คุยโทรศัพท์เวลาขับรถแน่นอน ถ้าไม้ใช่สามีฉันก็ไม่รับโทรศัพท์เวลาขับรถอยู่แล้ว ยังมีอีกค่ะ มีวันนึงเราทะเลาะเรื่องเสียงบ้าเสียงบอในกล้องติดรถเนี่ยะแหละคะ สามีฉันก็จะคอยพูดกระแนะกระแหนว่าฉันคุยกับผู้ชายคนอื่นอยู่นั่นแหละ ฉันก็โกรธขับรถกลับบ้าน โดยไม่ได้เอาโทรศัพท์ไป ขับรถไปร้องไห้ไป ขับมาได้ระยะก็คิดได้ว่าไม่ควรกลับไปสภาพนี้ เดี๋ยวพ่อแม่จะเป็นห่วง ก็เลยแวะเอารถเข้าศูนย์ เช็คระยะกับขัดเคลือบที่ศูนย์แถวบ้าน. พอได้รถ ฉันก็แวะไปจ่ายดอกของทองมี่จำนำไว้ แล้วก็กลับบ้านพ่อแม่ ด้วยความที่ไปไหนรายงานตัวกับสามีตลอด ก็เลยยืมโทรศัพท์พ่อโทรหาสามี เหมือนว่าวันนั้นพอสามีขอโทษ ฉันก็เย็นลง สุดท้ายฉันก็กลับบ้านสามี. ต่อมา 2-3 วัน สามีเอากล้องในรถมาดู ก็มาถามฉันว่าวันที่เอารถำปศูนย์ไปกับใคร เค้าบอกว่าด็จากกล้องเหมือนฉันขับรถตามใครและก็มาหาว่า มีเสียงในรถเหมือนฉันคุยกับผู้ชายตอนเลี้ยวเข้าศูนย์ คือ?  ฉันจะไปคุยกับใคร ใช้อะไรคุยในเมื่อฉันไม่ได้เอาโทรศัพท์มาด้วย  กลับโดนกล่าวหาว่าฉันมีโทรศัพท์หลายเครื่องอีก ให้ตายเถอะ สาบานเลยฉันมีโทรศัพท์เคื่องเดียว และวันนั้นฉันก็ไม่ได้คุยกับใครเลยสักคนถ้าคุยกับตัวเองอาจจะใช่ ผู้หญิงขับรถก็อาจมีบ่นมีด่ารถที่มันนิสัยไม่ดับ้าง จากนั้นสามีฉันแทบทุกวัน มักจะเอากล้องในรถมาเปิดดู เปิดฟังอยู่เสมอ วันนึงมีถามฉันว่า เวลาขับรถออกไปจากบ้านแทบทุกวันฉันงัดอะไร มีเสียงเหมือนเสียงงัดทุกทีที่ขับรถออกจากบ้าน และฉันต้องตอบว่ายังไงดี ในเมื่อฉันไม่เคยงัดอะไรในรถขณะขับเลย เสียงที่สามีฉันมันคือเสียงนรกอะไรนักหนา  และเราก็ทะเลาะกันเรื่อง”เสียง” จากกล้องในรถตลอดๆ มีคืนนึงสามีบอกให้มานั่งฟังเสียด้วยกัน ระหว่าฟังเค้าก็จะถามว่า ได้ยินมั้ย? ไดยินว่ายังไง?ซึ่งบอกตามตรง มันไม่ค่อยได้ยิน พอฉันบอกไปก็โกรธ และก็ด่าๆๆ และบอกต้องได้ยินสิ ก็ในเมื่อฉันไม่ได้ยินฉันจะบอกว่าได้ยินได้ไง? แล้วเค้าก็ตะคอกๆๆ ตะคอกจนฉันประสาท จะเป็นบ้า เอาไม้แขวนเสื้อตี ฟาดตัวเองจนเป็นแผลเต็มตัว เค้าถึงจะหยุดตะคอกใส่ และหยุดการพูดใส่ร้ายว่าเป็นเสัยงฉัน เราทะเลาะกันเรื่องเดิมๆ เรื่องเสียงบ้าเสียงบอทั้งหลายแทบทุกวัน ฉันควบคุมตัวเองไม่ได้ ฉันโกรธที่โดนคนที่ฉันโคตรรักมาใส่ร้ายหาว่าฉันมีคนอื่น ทำร้ายตัวเอง มีวันนึงเอาไขควงเจาะหัวตัวเองแตกถึงกับต้องเย็บเลย กลิ้งตกบันไดปากแตกนี่ก็เย็บ ฉันไม่รู้ต้องทำยังไง ที่จะทำให้สามีฉันเชื่อว่า ฉันไม่เคยมีใคร ไม่เคยแม้แต่จะคิด ฉันไม่รู้ว่าเสียงบ้าๆนั่นมันคือเสียงอะไร เวลาฉันฟังกับเค้าฉันก็ไม่เห็นค่อยได้ยิน ฉันบอกสามีว่าเอาไปให้คนอื่นฟังมั้ย เพราะฉันไม่ได้ยิน เค้าบอกว่าเอาไปให้ประจานตัวฉันทำไม คือ? จะประจานยังไง ในเมื่อไม่ใช่เสียงฉันแน่นอน เราทั้งคู่ทะเลาะกันเรื่องเสียงปริศนามานานมาก พุดทีไรก็ทะเลาะกันทุกที ทะเลาะจนฉันต้องไปปรึกษาจิตแพทย์ที่รพ.  รามาธิบดี นอกจากกล้องในรถที่สามีฉันเอามาจับผิดฉัน หาว่าฉันคุยกับใครทั้งๆที่ไม่ไดทำแล้ว แต่ละวันกลับบ้านมาเค้าจะเอาโทรศัพท์ฉันไปดู (ฉันใชั Iphone7) ซึ่งฉันก็ให้เค้าเอาไปดูทุกครั้ง เอาไปที เอาไปดูทั้งคืน แล้วก็จะเอารูปในกล้องมาคอยถามว่าเสียงอะไร  ฉันก็ไม่ค่อยเข้าใจว่าทำไมถ่ายรูปเป้นรูปนิ่งที่ไม่ใช่วิดีโอ ทำไมถึงมีเสียงได้ ซึ่งก็เป็นเสียงที่ไม่ค่อยชัดสักเท่าไหร่ มาหาว่าฉันพูดว่า “ที่รัก” กับใครก็ไม่รู้ ทั้งๆที่รูปนั้นเป็นการถ่ายรูปเช็ค

จนกระทั่งวันนึงเหตุการณ์ที่ฉันไม่เคยคิดว่าจะเกิดกับฉันมันก็เกิด เค้าทำร้ายฉันตบฉันเลือดกลบปาก สุดท้ายก็มาขอโทษ

และครั้งที่ 2 ครั้งที่ 3 ก็ตามมา เค้าเตะฉัน ต่อยท้องฉัน เอาเท้าทีบหน้าฉันเลือดเต็มหน้า สุดท้ายก็มาขอโทษ

ฉันกลับมาอยู่กับพ่อกับแม่เวลาที่ทะเลาะกัน 2-3 ครั้ง สุดท้ายก็กลับไปหาเค้า เพราะเค้าขอโทษและขอให้กลับไป

และครั้งนี้ก็เป็นการทะเลาะกันอีกครั้ง เค้าเอาโทรศัพท์ฉันไปดูและหาว่าวันที่ฉันไปทำบุญวันเกิดฉันพาผู้ชายไปเปิดตัวกับพ่อแม่ คือ? เค้าคิดอย่างนั้นได้ยังไง  ในเมื่อวันเกิดฉัน ฉันไปแค่ 3 คนพ่อแม่และฉัน เค้าบอกว่ามีรูปนึงที่เป็นรูปคู่พ่อนั่งคู่กับแม่ ฉันเป็นคนถ่าย แรากฎแม่ไม่มองกล้อง เหมือนมองไปทางขวา แสดงว่าต้องมีคนนั่งข้างคนถ่ายคือ? คิดได้ไง  และรูปที่วัดที่อยุธยาเป็นรูปพ่อถ่ายคู่แม่ฉันเป็นคนถ่ายหาว่ามีเสียงฉันคุยกับผู้ชาย โอ๊ยอยากจะบ้าตาย มีหน่วยงานไหนเอาเสียงไปพิสูจน์ได้มั้ยค่ะ และฉันก็กลับมาอยู่บ้านกับพ่อแม่อีกครั้งหนึ่ง ฉันออกจากบ้านเค้าไปโดยหยิบของไปแค่กุญแจรถของฉัน กับกุญแจบ้านของเค้า และรองเท้าแตะของเค้า ฉันกลับมาอยู่บ้านพ่อบ้านแม่ประมาณสัปดาห์ จนฉันต้องกลับไปเอากระเป๋าสตางค์เพราะต้องใช้บัตรประชาชน ใบขับขี่
ฉันขับรถไปจอดหน้าบ้านเค้าตอนเช้า แต่สิ่งที่ฉันคิดว่า ครั้งนี้ฉันคงไม่ได้กลับไปอีกแล้วคือ การที่เค้าด่าฉันหน้าบ้านของเค้า เค้าด่าฉันว่า “อีสารเลว” ไปให้ไกลหน้าบ้านกู อย่าให้กูเจออีกนะ กูจะกระทืบทั้งคู่ มันเป็นคำพูดที่โคตรเลวร้ายสำหรับฉันมากกับคนที่ฉันรักเค้าสุดหัวใจ เค้าบึ้นบิ๊กไบท์มาด่าคำว่า “อีสารเลว” ถึง 2 รอบ บอกตรงๆ ขับรถแทบไม่ไหว ฉันเลยคิดตัดสินใจจะฟ้องหมิ่นประมาทเค้า ฉันบอกให้เค้ารวบรวมหลักฐานที่เค้าหาว่าฉันคุยกับคนอื่นทั้งหมดมา และเจอกันที่สน. โชคชัย กับที่ศาล จะได้รูกันไปว่า ฉันไม่เคยนอกใจ และเสียงบ้าเสียงบอนั่นคือเสียงอะไรกันแน่ ที่ฉันต้องการฟ้องฉันคิดเพียงแต่ต้องการพิสูจน์ เค้าจะได้รู้ว่าฉันไม่ได้ทำจริงๆ แต่พอน้องสาวเค้ารู้ กลับมาว่าเราสร้างความเดือดร้อนให้แก่ครอบครัวเค้า ใครกันแน่ที่สร้างความเดือดร้อน

-ฉันไม่สามารถเช็คโทรศัพท์เค้าได้เลย เพราะเค้าตั้งรหัสกลับกันฉันไม่ได้ตั้งรหัสโทรศัพท์ และเค้าก็เอาไปเช็คทุกวัน คือ...ถ้าฉันมีคนอื่นฉันจะกล้าให้เช็คโทรศัพท์มั้ย
-เค้าออกบ้าน 3-4 ทุ่ม กลับมา ตี 3- ตี 4 บอกว่าไปเติมลมบ้างละ ไปเติมน้ำมันบ้างละ ไปขี่รถเล่นบ้างละ ฉันไม่เคยว่าสักคำ
กลับกันฉันไปประชุมนอกสถานที่มีปัญหาทุกทึ
-เค้าหาพิกัด ใน app find friend ของ iphone ฉันไม่ได้อยู่ที่ทำงาน ต้องคอย vedio call เข็คแทบทุกครึ่งชม. ทั้งๆที่ฉันอยู่ที่ทำงานตลอด

ฉันควรทำยังไงกับชีวิตคู่ฉันที