กรุณาอ่านให้จบด้วยนะคะ
เล่าแบบย่อๆ แต่ก็ยาวพอสมควร ความจริงเรื่องเยอะกว่านี้ แย่กว่านี้ แต่ขอเล่าคร่าวๆ แบบยาวๆ นะคะ
ก่อนอื่นเลยขอออกตัวก่อนนะคะว่าฉันเคยมีสามีและมีลูกสองคนแล้ว แต่แยกทางกับสามีแล้วสามีก็เสียชีวิตไปหลายปีแล้ว เวลามีอะไรก็จะเล่าให้ลูกสาวฟังทุกเรื่อง ดังนั้นเรื่องที่กำลังจะเล่า ลูกสาวก็จะรับรู้ทุกเรื่อง และคอยให้คำแนะนำทุกอย่างค่ะ
เข้าเรื่องเลยนะคะ
คือฉันไปออกกำลังกายอยู่ที่สวนสาธารณะแห่งหนึ่งกับลูกสาวเป็นประจำ จนกระทั่งไปเห็นวิทยากรคนหนึ่งนำเต้นอยู่บนเวที ท่าทางดูเท่ออกแนวทอมบอย (เธอเป็นผู้หญิง) เราก็เลยไปเต้นแอโรบิค ทีนี้ก็ลองเข้าไปคุยด้วย ยอมรับค่ะว่าเป็นฝ่ายขอเบอร์ก่อน แต่หลังๆ ก็เป็น M (นามสมมติ) เป็นฝ่ายชวนไปกินข้าว ไปนั่น ไปนี่ แล้วเขาก็เป็นคนเลี้ยงเรา ซึ่งได้ยินข่าวมาว่าเขาเป็นงกมาก ก็คบกันคุยกันมาเรื่อยๆ เวลามีเทศกาลอะไร เขาก็จะชวนเรากับลูกไปตลอด จนกระทั่งผ่านมาเริ่มเข้าปีที่เจ็ด ซึ่งเขาก็สนิทกับผู้หญิงอีกคนหนึ่งชื่อ J ก็ไปขายของหน้าโรงเรียนแห่งหนึ่งด้วยกันทุกเย็น ผู้หญิงคนนั้นมีสามี แล้วก็มีลูกแล้วเหมือนฉันค่ะ แต่ของ J คือสามียังมีชีวิตอยู่ค่ะ คราวนี้ก็เหมือน J จะคอยกระแนะกระแหนฉันบ่อยๆ เวลาบังเอิญเจอกันก็ดูไม่ค่อยพอใจฉันเท่าไร คราวนี้ M มาขอให้ฉันสมัครไลน์ให้ แล้วก็เล่นไลน์ให้เลย เปิดกลุ่มสำหรับสมาชิกที่ร่วมเต้นแอโรบิคให้ด้วย แล้วก็ยังให้เล่นเฟสบุ๊คให้ด้วย
ทีนี้มีอยู่วันหนึ่ง อยู่ดีๆ M ก็โทรมาด่าฉัน หาว่าฉันโพสเรื่องอะไรก็ไม่รู้ ซึ่งฉันก็งง เพราะ ฉันโพสแค่รูปว่า ‘เป็นแฟนกูดีนะ ไม่ต้องทำไร แค่รักกันก็พอ’ เขาก็หาว่าฉันไปโพสทำให้เขาเสียหาย ฉันเลยถามว่าใครบอก เขาก็บอก J บอก นั่นไงคะ เชื่อคนอื่นมากกว่าฉันอีก ไม่ใช่แค่ครั้งนี้นะคะ ทุกเรื่อง เวลาฉันบอก ฉันเตือนจะไม่เชื่อ แต่ถ้าคนอื่นบอกเชื่อตลอดเลย มีอยู่วันหนึ่ง ลูกฉันไปทำงานพิเศษกับ M ซึ่งมี J ไปด้วย แต่ตอนนั้น M หายไปไหนไม่รู้ J ก็เรียกลูกสาวเราไปคุย
(อันนี้ลูกเล่าให้ฟัง)
J ถามว่า หนูรู้ไหมว่าแม่คบกับ พี่ M ลูกก็เลยบอกว่า รู้ค่ะ J บอกว่า ถ้ายังงั้นก็บอกแม่หน่อยนะว่าพี่ M เขาไม่ชอบ เขาบอกป้าว่าเขาไม่ได้คบกับแม่ของหนู ทำไมต้องทำตัวเหมือนเป็นแฟนด้วย แถมยังชอบด่าพี่ M แบบเสียๆ หายๆ ซึ่งลูกสาวฉันก็ยืนยันว่าฉันไม่เคยด่า เพราะ ฉันไม่เคยด่าจริงๆ แล้ว J ก็บอกอีกว่า พี่ M เขาอยากให้แม่อยู่บ้าน ไม่ต้องออกไปหา ออกไปทำไม เอาเวลามาหาเงินจะดีกว่าไหม อันนี้ฉันก็งงอีกค่ะ เพราะ ความจริงคือ ถ้าฉันออกไปช่วย M เอาเครื่องเสียงที่ใช้เต้นแบบไม่สาย ฉันก็โดน M ด่าแล้ว แล้วนี่จะมาบอกว่า M ห้ามให้ฉันออกไปหาอีกเหรอคะ ฉันก็ไปเคลียร์กับ M M ก็ยืนยันว่าไม่รู้เรื่อง ฉันก็เลยจบๆ ไป ก็มีทะเลาะกัน จะเลิกกันหลายครั้งนะคะ
จนกระทั่งวันหนึ่ง ฉันเกิดลองเล่นเวทเทรนนิ่งที่ลูกสาวแนะนำ ฉันก็เออ เล่นแล้วดีนะ หุ่นกระชับขึ้น ฉันก็เลยอยากเอาไปให้เขาลองฝึก แล้วสอนสมาชิกในสนามเต้นแอโรบิค แต่ปรากฏว่าเขามากล่าวหาว่าฉัน อยากจะแย่งอาชีพเขา แล้วยังจะมาหาว่าโยคะดีกว่า เพราะเขาไปอบรมวิทยาศาสตร์การกีฬามา แล้วยังมาด่าฉันหาว่าเงินแค่ห้าบาท สิบบาทก็อยากได้ ฉันก็เลยปรี๊ด เลิกคุยกับเขา ปกติฉันจะโทรไปเคลียร์ คราวนี้ฉันกะว่าจะจบแบบเด็ดขาด เลยไม่โทรไป ทีนี้ผ่านไปเป็นอาทิตย์ เขาก็โทรมา ซึ่งคนรอบข้าง มีคุณแม่ของฉัน เพื่อนบ้านที่สนิท ลูกสาวฉัน ไม่มีใครสนับสนุน เพราะ ทุกคนรู้ว่า M เป็นคนยังไง (ในสายตาคนอื่น M เป็นคนขี้โม้ ขี้อวด ชอบใส่ร้าย นินทาคนอื่น) ฉันรับสายเขา เขาก็ง้อ ขอโทษ แต่ฉันขอให้จบ ทีนี้วันต่อมา เขาให้ J เอาของทุกอย่างที่ฉันเคยให้มาคืน (ทำเหมือนเด็ก ป.1) เหมือนหยามหน้ามาก ให้กิ๊กตัวเองเอาของมาให้ แล้วยังมาทวงเสื้อที่เคยให้ลูกสาวฉันคืนด้วย มันตลกไหมคะ ไม่พอค่ะ
ตอนที่ลูกสาวฉันไปวิ่งที่สวนสาธารณะเดิม M ก็ขอคุยกับลุกฉัน แล้วบอกว่าจะขอหมั้น ซื้อทองเอาไว้แล้ว ซื้อเอาไว้นานแล้ว ถ้าไม่เชื่อ เอาทองไปตรวจสอบได้เลย ว่าพึ่งซื้อ หรือ ซื้อนานแล้ว ลูกของฉันก็ทำเป็นไม่รู้เรื่อง ทั้งที่รู้ทุกอย่าง ลูกฉันบอกว่า M บอกว่าขอโทษ อยากคุยกับฉัน แล้วยังมาหาว่าฉันเริ่มทะเลาะ มาพูดเรื่องเงินห้าบาท สิบบาทก่อน ฉันนี่เงิบเลยค่ะ ขนาดมาขอโทษยังจะพูดจาใส่ร้ายกันได้ แต่ฉันไม่ยอมคุยด้วยค่ะ พอผ่านไปอีกสักพัก วันหนึ่งฉันออกไปข้างนอก บังเอิญเจอเขา เขาก็ขับมอไซด์ตามฉัน ขอโทษ อ้อนวอนสารพัด แต่ฉันขอจบ ทีนี้ฉันเดินเข้าบ้าน เขาก็ไม่ตามฉันเข้ามา สงสัยกลัวยายมั้งคะ ฉันก็คิดว่าเรื่องจะจบแล้ว เขาก็ยังมาหาที่บ้านอีก มาบอกว่าจะพาผู้ใหญ่มาหมั้น ซึ่งฉันก็ไม่โอเคอยู่แล้ว เรื่องยังไม่จบค่ะ เขามาโวยวายหาว่าฉันไปบอกสมาชิกที่สนามแอโรบิคว่าเขาเป็นคนผิด ทั้งที่ฉันแค่เล่าความจริงให้ทุกคนที่ถามฉันฟังแค่นั้น จู่ๆ วันหนึ่งก็มีจดหมายฉบับหนึ่งส่งมา แต่ชื่อคนส่งคือชื่อของข้าราชการคนหนึ่งที่ครอบครัวของฉันสนิทด้วย เนื้อความในจดหมาย คือ เขาก็หาว่าฉันไปนอนกับคนนั้นคนนี้ บอกว่า พี่คงเป็นคนเลวมากเลยเนอะ อะไรประมาณนี้ค่ะ แต่ฉันฉีกจดหมายทิ้งไปแล้ว
ฉันก็นึกว่าเรื่องจะจบ ผ่านไปหลายอาทิตย์ เขาโทรมา เป็นเบอร์แปลกค่ะ ฉันก็เลยรับ ประโยคแรกแลย
‘อยากได้ทองไหมคะ’
ฉันเลยงง แต่ก็ตอบไปว่า ไม่ค่ะ
เขาก็บอกว่า “ถ้าไม่ ก็เอาของคืนมา”
ฉันเลยรู้แล้วว่าเป็นใคร ฉันก็เลยบอกว่าไม่มีอะไรจะให้ เขาก็ทวงเงิน 4000 ที่เขาเคยช่วยในงานศพของคุณน้าของฉันคืน ทวงชุดนอน ทวงของทุกอย่างที่เคยให้คืนทั้งหมด ไม่อย่างนั้น เขาจะประจานฉัน จะแจ้งตำรวจด้วย ซึ่งฉันก็งงว่าจะประจานอะไร หลักฐานก็ไม่มี จะแจ้งตำรวจเรื่องที่ฉันไม่เอาของไปคืนเหรอ
พอบอกว่าไม่มีเงินคืน เขาก็บอกว่า ก็ให้ผัวใหม่ออกให้สิ ผัวรวยไม่ใช่เหรอ
ซึ่งฉันงงมาก ฉันไม่มีผัวใหม่ แล้วฉันก็จนมากอีกด้วย
ฉันเลยให้เอาให้แม่ฉันคุย แม่ฉันบอกว่าถ้าอยากได้เงินก็ให้ไปทวงในโลงผีนู่น อยู่กับคนตายหมดแล้ว คุยไปคุยมา เขาก็ไม่ทวงเงิน แต่ยังอยากได้ของทุกอย่างที่เคยให้คืน คือ ชุดนอนที่เคยให้ลุกสาวกับลูกชายฉันมันก็ผ่านมาหลายปีแล้ว ชุดนั้นก็กลายเป็นผ้าขี้ริ้วไปแล้ว
ดูท่าทางเขาจะไม่ยอมจบง่ายๆ เขาบอกอยากได้ของคืน ถ้าไม่รับทองที่เขาจะหมั้น ก็ต้องเอาของคืนทุกอย่าง ไม่งั้นจะประจานว่าฉันเคยนอนกับใครบ้าง แล้วจะแจ้งตำรวจจับด้วย ซึ่งฉันไม่อยากจะทวงยาที่เคยซื้อให้เขาคืน เพราะ ถ้าจะทวงคืน ก็คงจะต้องเอาชีวิตของเขาน่ะค่ะ เพราะ เขาป่วยบ่อย ฉันก็ซื้อยา ไปดูแลเขาบ้าง จนบางทียอมทิ้งงานไปหาเขา แต่ฉันก็ไม่ทวง
ฉันควรจะเอาคืนคนเห็นแก่ตัวแบบนี้ยังไงคะ เขามาทวงบุญคุณ ทวงของ ฉันควรจะทำยังไงต่อดีคะ ควรจะเอาของไปคืน หรือ ควรจะทำยังไงดี
กำลังโดนแฟนเก่าคุกคามและใส่ร้ายหนักมาก!!!
เล่าแบบย่อๆ แต่ก็ยาวพอสมควร ความจริงเรื่องเยอะกว่านี้ แย่กว่านี้ แต่ขอเล่าคร่าวๆ แบบยาวๆ นะคะ
ก่อนอื่นเลยขอออกตัวก่อนนะคะว่าฉันเคยมีสามีและมีลูกสองคนแล้ว แต่แยกทางกับสามีแล้วสามีก็เสียชีวิตไปหลายปีแล้ว เวลามีอะไรก็จะเล่าให้ลูกสาวฟังทุกเรื่อง ดังนั้นเรื่องที่กำลังจะเล่า ลูกสาวก็จะรับรู้ทุกเรื่อง และคอยให้คำแนะนำทุกอย่างค่ะ
เข้าเรื่องเลยนะคะ
คือฉันไปออกกำลังกายอยู่ที่สวนสาธารณะแห่งหนึ่งกับลูกสาวเป็นประจำ จนกระทั่งไปเห็นวิทยากรคนหนึ่งนำเต้นอยู่บนเวที ท่าทางดูเท่ออกแนวทอมบอย (เธอเป็นผู้หญิง) เราก็เลยไปเต้นแอโรบิค ทีนี้ก็ลองเข้าไปคุยด้วย ยอมรับค่ะว่าเป็นฝ่ายขอเบอร์ก่อน แต่หลังๆ ก็เป็น M (นามสมมติ) เป็นฝ่ายชวนไปกินข้าว ไปนั่น ไปนี่ แล้วเขาก็เป็นคนเลี้ยงเรา ซึ่งได้ยินข่าวมาว่าเขาเป็นงกมาก ก็คบกันคุยกันมาเรื่อยๆ เวลามีเทศกาลอะไร เขาก็จะชวนเรากับลูกไปตลอด จนกระทั่งผ่านมาเริ่มเข้าปีที่เจ็ด ซึ่งเขาก็สนิทกับผู้หญิงอีกคนหนึ่งชื่อ J ก็ไปขายของหน้าโรงเรียนแห่งหนึ่งด้วยกันทุกเย็น ผู้หญิงคนนั้นมีสามี แล้วก็มีลูกแล้วเหมือนฉันค่ะ แต่ของ J คือสามียังมีชีวิตอยู่ค่ะ คราวนี้ก็เหมือน J จะคอยกระแนะกระแหนฉันบ่อยๆ เวลาบังเอิญเจอกันก็ดูไม่ค่อยพอใจฉันเท่าไร คราวนี้ M มาขอให้ฉันสมัครไลน์ให้ แล้วก็เล่นไลน์ให้เลย เปิดกลุ่มสำหรับสมาชิกที่ร่วมเต้นแอโรบิคให้ด้วย แล้วก็ยังให้เล่นเฟสบุ๊คให้ด้วย
ทีนี้มีอยู่วันหนึ่ง อยู่ดีๆ M ก็โทรมาด่าฉัน หาว่าฉันโพสเรื่องอะไรก็ไม่รู้ ซึ่งฉันก็งง เพราะ ฉันโพสแค่รูปว่า ‘เป็นแฟนกูดีนะ ไม่ต้องทำไร แค่รักกันก็พอ’ เขาก็หาว่าฉันไปโพสทำให้เขาเสียหาย ฉันเลยถามว่าใครบอก เขาก็บอก J บอก นั่นไงคะ เชื่อคนอื่นมากกว่าฉันอีก ไม่ใช่แค่ครั้งนี้นะคะ ทุกเรื่อง เวลาฉันบอก ฉันเตือนจะไม่เชื่อ แต่ถ้าคนอื่นบอกเชื่อตลอดเลย มีอยู่วันหนึ่ง ลูกฉันไปทำงานพิเศษกับ M ซึ่งมี J ไปด้วย แต่ตอนนั้น M หายไปไหนไม่รู้ J ก็เรียกลูกสาวเราไปคุย
(อันนี้ลูกเล่าให้ฟัง)
J ถามว่า หนูรู้ไหมว่าแม่คบกับ พี่ M ลูกก็เลยบอกว่า รู้ค่ะ J บอกว่า ถ้ายังงั้นก็บอกแม่หน่อยนะว่าพี่ M เขาไม่ชอบ เขาบอกป้าว่าเขาไม่ได้คบกับแม่ของหนู ทำไมต้องทำตัวเหมือนเป็นแฟนด้วย แถมยังชอบด่าพี่ M แบบเสียๆ หายๆ ซึ่งลูกสาวฉันก็ยืนยันว่าฉันไม่เคยด่า เพราะ ฉันไม่เคยด่าจริงๆ แล้ว J ก็บอกอีกว่า พี่ M เขาอยากให้แม่อยู่บ้าน ไม่ต้องออกไปหา ออกไปทำไม เอาเวลามาหาเงินจะดีกว่าไหม อันนี้ฉันก็งงอีกค่ะ เพราะ ความจริงคือ ถ้าฉันออกไปช่วย M เอาเครื่องเสียงที่ใช้เต้นแบบไม่สาย ฉันก็โดน M ด่าแล้ว แล้วนี่จะมาบอกว่า M ห้ามให้ฉันออกไปหาอีกเหรอคะ ฉันก็ไปเคลียร์กับ M M ก็ยืนยันว่าไม่รู้เรื่อง ฉันก็เลยจบๆ ไป ก็มีทะเลาะกัน จะเลิกกันหลายครั้งนะคะ
จนกระทั่งวันหนึ่ง ฉันเกิดลองเล่นเวทเทรนนิ่งที่ลูกสาวแนะนำ ฉันก็เออ เล่นแล้วดีนะ หุ่นกระชับขึ้น ฉันก็เลยอยากเอาไปให้เขาลองฝึก แล้วสอนสมาชิกในสนามเต้นแอโรบิค แต่ปรากฏว่าเขามากล่าวหาว่าฉัน อยากจะแย่งอาชีพเขา แล้วยังจะมาหาว่าโยคะดีกว่า เพราะเขาไปอบรมวิทยาศาสตร์การกีฬามา แล้วยังมาด่าฉันหาว่าเงินแค่ห้าบาท สิบบาทก็อยากได้ ฉันก็เลยปรี๊ด เลิกคุยกับเขา ปกติฉันจะโทรไปเคลียร์ คราวนี้ฉันกะว่าจะจบแบบเด็ดขาด เลยไม่โทรไป ทีนี้ผ่านไปเป็นอาทิตย์ เขาก็โทรมา ซึ่งคนรอบข้าง มีคุณแม่ของฉัน เพื่อนบ้านที่สนิท ลูกสาวฉัน ไม่มีใครสนับสนุน เพราะ ทุกคนรู้ว่า M เป็นคนยังไง (ในสายตาคนอื่น M เป็นคนขี้โม้ ขี้อวด ชอบใส่ร้าย นินทาคนอื่น) ฉันรับสายเขา เขาก็ง้อ ขอโทษ แต่ฉันขอให้จบ ทีนี้วันต่อมา เขาให้ J เอาของทุกอย่างที่ฉันเคยให้มาคืน (ทำเหมือนเด็ก ป.1) เหมือนหยามหน้ามาก ให้กิ๊กตัวเองเอาของมาให้ แล้วยังมาทวงเสื้อที่เคยให้ลูกสาวฉันคืนด้วย มันตลกไหมคะ ไม่พอค่ะ
ตอนที่ลูกสาวฉันไปวิ่งที่สวนสาธารณะเดิม M ก็ขอคุยกับลุกฉัน แล้วบอกว่าจะขอหมั้น ซื้อทองเอาไว้แล้ว ซื้อเอาไว้นานแล้ว ถ้าไม่เชื่อ เอาทองไปตรวจสอบได้เลย ว่าพึ่งซื้อ หรือ ซื้อนานแล้ว ลูกของฉันก็ทำเป็นไม่รู้เรื่อง ทั้งที่รู้ทุกอย่าง ลูกฉันบอกว่า M บอกว่าขอโทษ อยากคุยกับฉัน แล้วยังมาหาว่าฉันเริ่มทะเลาะ มาพูดเรื่องเงินห้าบาท สิบบาทก่อน ฉันนี่เงิบเลยค่ะ ขนาดมาขอโทษยังจะพูดจาใส่ร้ายกันได้ แต่ฉันไม่ยอมคุยด้วยค่ะ พอผ่านไปอีกสักพัก วันหนึ่งฉันออกไปข้างนอก บังเอิญเจอเขา เขาก็ขับมอไซด์ตามฉัน ขอโทษ อ้อนวอนสารพัด แต่ฉันขอจบ ทีนี้ฉันเดินเข้าบ้าน เขาก็ไม่ตามฉันเข้ามา สงสัยกลัวยายมั้งคะ ฉันก็คิดว่าเรื่องจะจบแล้ว เขาก็ยังมาหาที่บ้านอีก มาบอกว่าจะพาผู้ใหญ่มาหมั้น ซึ่งฉันก็ไม่โอเคอยู่แล้ว เรื่องยังไม่จบค่ะ เขามาโวยวายหาว่าฉันไปบอกสมาชิกที่สนามแอโรบิคว่าเขาเป็นคนผิด ทั้งที่ฉันแค่เล่าความจริงให้ทุกคนที่ถามฉันฟังแค่นั้น จู่ๆ วันหนึ่งก็มีจดหมายฉบับหนึ่งส่งมา แต่ชื่อคนส่งคือชื่อของข้าราชการคนหนึ่งที่ครอบครัวของฉันสนิทด้วย เนื้อความในจดหมาย คือ เขาก็หาว่าฉันไปนอนกับคนนั้นคนนี้ บอกว่า พี่คงเป็นคนเลวมากเลยเนอะ อะไรประมาณนี้ค่ะ แต่ฉันฉีกจดหมายทิ้งไปแล้ว
ฉันก็นึกว่าเรื่องจะจบ ผ่านไปหลายอาทิตย์ เขาโทรมา เป็นเบอร์แปลกค่ะ ฉันก็เลยรับ ประโยคแรกแลย
‘อยากได้ทองไหมคะ’
ฉันเลยงง แต่ก็ตอบไปว่า ไม่ค่ะ
เขาก็บอกว่า “ถ้าไม่ ก็เอาของคืนมา”
ฉันเลยรู้แล้วว่าเป็นใคร ฉันก็เลยบอกว่าไม่มีอะไรจะให้ เขาก็ทวงเงิน 4000 ที่เขาเคยช่วยในงานศพของคุณน้าของฉันคืน ทวงชุดนอน ทวงของทุกอย่างที่เคยให้คืนทั้งหมด ไม่อย่างนั้น เขาจะประจานฉัน จะแจ้งตำรวจด้วย ซึ่งฉันก็งงว่าจะประจานอะไร หลักฐานก็ไม่มี จะแจ้งตำรวจเรื่องที่ฉันไม่เอาของไปคืนเหรอ
พอบอกว่าไม่มีเงินคืน เขาก็บอกว่า ก็ให้ผัวใหม่ออกให้สิ ผัวรวยไม่ใช่เหรอ
ซึ่งฉันงงมาก ฉันไม่มีผัวใหม่ แล้วฉันก็จนมากอีกด้วย
ฉันเลยให้เอาให้แม่ฉันคุย แม่ฉันบอกว่าถ้าอยากได้เงินก็ให้ไปทวงในโลงผีนู่น อยู่กับคนตายหมดแล้ว คุยไปคุยมา เขาก็ไม่ทวงเงิน แต่ยังอยากได้ของทุกอย่างที่เคยให้คืน คือ ชุดนอนที่เคยให้ลุกสาวกับลูกชายฉันมันก็ผ่านมาหลายปีแล้ว ชุดนั้นก็กลายเป็นผ้าขี้ริ้วไปแล้ว
ดูท่าทางเขาจะไม่ยอมจบง่ายๆ เขาบอกอยากได้ของคืน ถ้าไม่รับทองที่เขาจะหมั้น ก็ต้องเอาของคืนทุกอย่าง ไม่งั้นจะประจานว่าฉันเคยนอนกับใครบ้าง แล้วจะแจ้งตำรวจจับด้วย ซึ่งฉันไม่อยากจะทวงยาที่เคยซื้อให้เขาคืน เพราะ ถ้าจะทวงคืน ก็คงจะต้องเอาชีวิตของเขาน่ะค่ะ เพราะ เขาป่วยบ่อย ฉันก็ซื้อยา ไปดูแลเขาบ้าง จนบางทียอมทิ้งงานไปหาเขา แต่ฉันก็ไม่ทวง
ฉันควรจะเอาคืนคนเห็นแก่ตัวแบบนี้ยังไงคะ เขามาทวงบุญคุณ ทวงของ ฉันควรจะทำยังไงต่อดีคะ ควรจะเอาของไปคืน หรือ ควรจะทำยังไงดี