เกริ่นคร่าวๆนะครับ ตอนนนี้ผมมีอาขีพเป็นพ่อค้า เดินสายออกบูธขายของตามเทศกาลงานต่างๆในแต่ละจังหวัดซึ่งบางงานตัองนอนก็ต้องนอนกางเต็นท์เฝ้าของที่ส่วนด้านหลังของร้านครับ
-25/07/2018 สนามกีฬาจังหวัดระยอง
เวลาประมาณตี3
คนร้ายได้ทำการปลดผ้าใบล้อมร้านเข้ามาในบริเวณหลังร้าน และมุ่งไปที่เต็นท์คุณแม่ของผม โดยแม่ของผมรู้สึกตัวขึ้นมาพอดีขณะที่หัวขโมยกำลังรูดซิปหน้าเต๊นท์ ด้วยความตกใจของคุณแม่จึงตะโกนว่าขโมย ทำให้ตัวผมและบรรดาพี่ๆร้านขายของทีเป็นเพื่อนบ้านกันตื่นและออกมาดู แต่ไม่ทันด้วยความที่หัวขโมยไวมาก มันหนีไปได้แต่ทิ้งกางเกงแล้วรองเท้าแตะไว้หนึ่งคู่ พร้อมกับความหวาดระแวงของพ่อค้าแม่ค้า
-เวลาประมาณตี3ครึ่ง-ตี4
หัวขโมยได้เข้ามาอีกครั้งนึง คราวนี้ปลดผ้าใบเข้ามาจากทางหน้าร้านและมุดข้ามผ้าคลุมร้านเข้ามาซึ่งผมยังหลับไม่ลงปิดไฟร้านนั่งเล่นโทรศัพท์ถือถืออยู่ ด้วยความตกใจผมจึงคว้าไม้ขึ้นมาและจับหัวขโมยกดลงกับโต๊ะและเรียกให้คนอื่นออกมาช่วย เพราะว่าหัวขโมยยังเป็นเด็กเยาวชนมากๆ จึงทำการมัดข้อมือของหัวขโมยไว้
-ประมาณตี4
ได้ทำการโทร191 ประมาณ2-3รอบถึงติด จึงได้ขอให้ประสานงานช่วยเหลือ ซึ่งผมได้เบอร์โทรศัพท์ สน.ระยอง
จึงได้ทำการติดต่อไปหลายต่อหลายครั้ง แต่ไม่มีคนรับสายเลย ส่วนทางด้านพี่ๆพ่อค้าแม่ค้าก็ได้ติดต่อรปภ.ของสนามกีฬา ให้ช่วยติดต่อตำรวจให้ ซึ่งเวลาก็ผ่านไปสักระยะใหญ่ๆ น่าจะเกือบตี5แล้ว ตำรวจอาสาได้ขับรถกระบะมายังที่เกิดเหตุ
***ส่วนคำรับสารภาพจากหัวขโมยเยาวชน***
-ผู้ต้องหา ได้กล่าวข้างต้นว่า เข้ามาดูของในร้าน
ซึ่งนี่มันตี3น้องแถอะไรดูสถานการณ์ด้วย
-รอบแรกที่เข้ามาตอนตี3 น้องบอกว่าไม่ใช่ตัวน้อง
-ผู้ต้องหาสารภาพว่ามีคนจ้างมาให้เข้ามาขโมยของในร้านจากนายโจ๊ก โดยจะให้ส่วนแบ่ง500บาท
-มีคนดูต้นทางอยู่ทางด้านหน้า คาดว่าเป็นนายโจ๊ก แต่น่าจะได้ยินเสียงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจึงหนีไป
-ผู้ต้องหา กล่าวว่า ตนเองเป็นเด็กที่มาจาก กลุ่มโชว์รถไต่ถังภายในบริเวณงานนี้เอง
-หลังจากจับผู้ต้องหาได้ มีคนกลุ่มหนึ่งซึ่งเป็นทีมงานของ อโชว์รถไต่ถังและรถบั้ม(เขียนผิดขออภัย)ออกมาพูดท่าทางข่มขู่ผู้ต้องหาคนนี้และจากบทสนทนา"ทุกคนรู้จักคนชื่อโจ๊ก"ก่อนที่ตำรวจจะควบคุมตัวไป ซึ่งหลังจากตำรวจมาคนกลุ่มนี้ได้หายไปแล้ว
-ตำรวจนำผู้ต้องหาให้พาไปยังที่พักของตน พบกลุ่มคนในหัวข้อด้านบน
ระยะเวลาต่อมา
คุณแม่และพ่อค้าอีกท่าน ได้ไปให้การกับตำรวจที่โรงพัก
และนำตัวน้องผู้ต้องหาไปฝากขังที่โรงพัก
ซึ่งได้ข้อสรุปคือฝากขังโดยคาดว่าจะปล่อยตัวในตอนรุ่งเช้า และคดีนี้เป็นเยาวชนตำรวจบอกว่ายุ่งยากในการสืบสวนดำเนินคดีต่อ
*****ความรู้สึกของผมนัน ผู้ต้องหาได้ซักทอดไปยังผู้จ้างวานแล้ว แต่ตำรวจไม่ได้สนใจที่จะทำคดีต่อ ซึ่งได้กล่าวมาว่าไม่มีหลักฐานพอ (จากที่พี่พ่อค้าอีกท่านเล่าให้ฟัง)
ตำรวจน่าจะออกหมายไปยังเจ้าของโชว์รถไต่ถังให้บรรดาลูกน้องพนักงานให้ปากคำกับคดีนี้ ตามความคิดผมแล้วตำรวจน่าจะมีอำนาจทำได้ แต่กับนิ่งเฉย (เบอร์โทรศัพท์โรงพักโทรติดยากมากจนถึงไม่มีคนรับสาย)*****
+ข้อมูบเพิ่มเติม+
-ระยะเวลางานที่ผมมาออกEvent คือ21-30 กรกฎาคม
ซึ่งพ่อค้าแม่ค้าเริ่มมาจัดร้านตั้งแต่คืนวันที่20
-คืนวันที่25นี่ไม่ใช่คืนแรกที่มีหัวขโมย โดยร้านของผมเองนั้นเป็นคืนที่3ที่เกิดเหตุการณ์แบบนี้
คืนแรกวันที่21,22,24-25 ตามลำดับ ซึ่งตั้งแต่โดนครั้งแรกก็หวาดระแวงมาทุกคืน ครั้งแรกหัวขโมยได้เป็นเงินสดไปจากกระเป๋าสตางค์/ ครั้งที่2 พ่อค้าร้านถัดไปเห็นพฤติกรรมของคนร้ายพอดี คนร้ายจึงได้วิ่งหนีไป/ครั้งที่3-4คือเหตุการณ์คืนนี้ ซึ้งผมจะไม่ขอสรุปว่าทั้งหมดเป็นคนร้ายคนเดียวกัน เพราะจะมองเหมือนกล่าวหาเกินไป
-ได้มีการพูดคุยระหว่างพ่อค้าแม่ค้าในช่วงหลังจากเหตุการณ์ครั้งแรก ผู้เสียหายไม่ได้มีแค่ร้านของผม. พ่อค้าแม่ค้าร้านอื่นโดนกระทั่งโทรศัพท์และเงินสดรวมมากกว่าหมื่นบาท
-หลังจากสอบถามกับพ่อค้าแม่ค้า เพิ่มเติมไปอีก
ได้ข้อมูลว่านี้ไม่ใช่งานแรก ที่เกิดเหตุการณ์แบบนี้ ทุกคนเบนเข็มชี้ผู้ต้องหาไปยัง กลุ่มคนกลุ่มนั้น สังเกตุจากพฤติกรรมกับการสังเกตุแต่ไม่มีหลักฐานเพื่อเอาคววามผิด
-น้องผู้ต้องหาอายุน่าจะราวๆ10ขวบ ตอนผมจับน้องเขาผมก็สงสารนะครับอยากให้น้องให้การ เผื่อจะลดหย่อนโทษหากจับคนจ้างวานได้
-กลุ่มโชว์รถไต่ถัง ซึ่งเคยออกรายการช่องหลากสี รายการกระบี่handone ทราบได้จากโลโก้ท้ายรถ
ปล.วอนผู้มีอำนาจหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องชี้แจงหรือดำเนินการด้วยครับ เพราะครั้งนี้จับผู้ต้องหาซึ้งมีการซักทอดไปยังคนจ้างวาน หรือผู้ที่มีความรู้แนะนำด้วยครับว่าผมควรจะทำยังไงต่อไปดี พ่อค้าแม่ค้าหลายรายเดือดร้อนมาก หรือ เจ้าของโชว์รถไต่ถังออกมาให้ความร่วมมือด้วยครับ
จับหัวขโมยได้ ควรทำยังไงต่อไปดีครับ ถ้าตำรวจไม่ดำเนินคดีต่อเพราะเป็นเยาวชน.
-25/07/2018 สนามกีฬาจังหวัดระยอง
เวลาประมาณตี3
คนร้ายได้ทำการปลดผ้าใบล้อมร้านเข้ามาในบริเวณหลังร้าน และมุ่งไปที่เต็นท์คุณแม่ของผม โดยแม่ของผมรู้สึกตัวขึ้นมาพอดีขณะที่หัวขโมยกำลังรูดซิปหน้าเต๊นท์ ด้วยความตกใจของคุณแม่จึงตะโกนว่าขโมย ทำให้ตัวผมและบรรดาพี่ๆร้านขายของทีเป็นเพื่อนบ้านกันตื่นและออกมาดู แต่ไม่ทันด้วยความที่หัวขโมยไวมาก มันหนีไปได้แต่ทิ้งกางเกงแล้วรองเท้าแตะไว้หนึ่งคู่ พร้อมกับความหวาดระแวงของพ่อค้าแม่ค้า
-เวลาประมาณตี3ครึ่ง-ตี4
หัวขโมยได้เข้ามาอีกครั้งนึง คราวนี้ปลดผ้าใบเข้ามาจากทางหน้าร้านและมุดข้ามผ้าคลุมร้านเข้ามาซึ่งผมยังหลับไม่ลงปิดไฟร้านนั่งเล่นโทรศัพท์ถือถืออยู่ ด้วยความตกใจผมจึงคว้าไม้ขึ้นมาและจับหัวขโมยกดลงกับโต๊ะและเรียกให้คนอื่นออกมาช่วย เพราะว่าหัวขโมยยังเป็นเด็กเยาวชนมากๆ จึงทำการมัดข้อมือของหัวขโมยไว้
-ประมาณตี4
ได้ทำการโทร191 ประมาณ2-3รอบถึงติด จึงได้ขอให้ประสานงานช่วยเหลือ ซึ่งผมได้เบอร์โทรศัพท์ สน.ระยอง
จึงได้ทำการติดต่อไปหลายต่อหลายครั้ง แต่ไม่มีคนรับสายเลย ส่วนทางด้านพี่ๆพ่อค้าแม่ค้าก็ได้ติดต่อรปภ.ของสนามกีฬา ให้ช่วยติดต่อตำรวจให้ ซึ่งเวลาก็ผ่านไปสักระยะใหญ่ๆ น่าจะเกือบตี5แล้ว ตำรวจอาสาได้ขับรถกระบะมายังที่เกิดเหตุ
***ส่วนคำรับสารภาพจากหัวขโมยเยาวชน***
-ผู้ต้องหา ได้กล่าวข้างต้นว่า เข้ามาดูของในร้าน
ซึ่งนี่มันตี3น้องแถอะไรดูสถานการณ์ด้วย
-รอบแรกที่เข้ามาตอนตี3 น้องบอกว่าไม่ใช่ตัวน้อง
-ผู้ต้องหาสารภาพว่ามีคนจ้างมาให้เข้ามาขโมยของในร้านจากนายโจ๊ก โดยจะให้ส่วนแบ่ง500บาท
-มีคนดูต้นทางอยู่ทางด้านหน้า คาดว่าเป็นนายโจ๊ก แต่น่าจะได้ยินเสียงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจึงหนีไป
-ผู้ต้องหา กล่าวว่า ตนเองเป็นเด็กที่มาจาก กลุ่มโชว์รถไต่ถังภายในบริเวณงานนี้เอง
-หลังจากจับผู้ต้องหาได้ มีคนกลุ่มหนึ่งซึ่งเป็นทีมงานของ อโชว์รถไต่ถังและรถบั้ม(เขียนผิดขออภัย)ออกมาพูดท่าทางข่มขู่ผู้ต้องหาคนนี้และจากบทสนทนา"ทุกคนรู้จักคนชื่อโจ๊ก"ก่อนที่ตำรวจจะควบคุมตัวไป ซึ่งหลังจากตำรวจมาคนกลุ่มนี้ได้หายไปแล้ว
-ตำรวจนำผู้ต้องหาให้พาไปยังที่พักของตน พบกลุ่มคนในหัวข้อด้านบน
ระยะเวลาต่อมา
คุณแม่และพ่อค้าอีกท่าน ได้ไปให้การกับตำรวจที่โรงพัก
และนำตัวน้องผู้ต้องหาไปฝากขังที่โรงพัก
ซึ่งได้ข้อสรุปคือฝากขังโดยคาดว่าจะปล่อยตัวในตอนรุ่งเช้า และคดีนี้เป็นเยาวชนตำรวจบอกว่ายุ่งยากในการสืบสวนดำเนินคดีต่อ
*****ความรู้สึกของผมนัน ผู้ต้องหาได้ซักทอดไปยังผู้จ้างวานแล้ว แต่ตำรวจไม่ได้สนใจที่จะทำคดีต่อ ซึ่งได้กล่าวมาว่าไม่มีหลักฐานพอ (จากที่พี่พ่อค้าอีกท่านเล่าให้ฟัง)
ตำรวจน่าจะออกหมายไปยังเจ้าของโชว์รถไต่ถังให้บรรดาลูกน้องพนักงานให้ปากคำกับคดีนี้ ตามความคิดผมแล้วตำรวจน่าจะมีอำนาจทำได้ แต่กับนิ่งเฉย (เบอร์โทรศัพท์โรงพักโทรติดยากมากจนถึงไม่มีคนรับสาย)*****
+ข้อมูบเพิ่มเติม+
-ระยะเวลางานที่ผมมาออกEvent คือ21-30 กรกฎาคม
ซึ่งพ่อค้าแม่ค้าเริ่มมาจัดร้านตั้งแต่คืนวันที่20
-คืนวันที่25นี่ไม่ใช่คืนแรกที่มีหัวขโมย โดยร้านของผมเองนั้นเป็นคืนที่3ที่เกิดเหตุการณ์แบบนี้
คืนแรกวันที่21,22,24-25 ตามลำดับ ซึ่งตั้งแต่โดนครั้งแรกก็หวาดระแวงมาทุกคืน ครั้งแรกหัวขโมยได้เป็นเงินสดไปจากกระเป๋าสตางค์/ ครั้งที่2 พ่อค้าร้านถัดไปเห็นพฤติกรรมของคนร้ายพอดี คนร้ายจึงได้วิ่งหนีไป/ครั้งที่3-4คือเหตุการณ์คืนนี้ ซึ้งผมจะไม่ขอสรุปว่าทั้งหมดเป็นคนร้ายคนเดียวกัน เพราะจะมองเหมือนกล่าวหาเกินไป
-ได้มีการพูดคุยระหว่างพ่อค้าแม่ค้าในช่วงหลังจากเหตุการณ์ครั้งแรก ผู้เสียหายไม่ได้มีแค่ร้านของผม. พ่อค้าแม่ค้าร้านอื่นโดนกระทั่งโทรศัพท์และเงินสดรวมมากกว่าหมื่นบาท
-หลังจากสอบถามกับพ่อค้าแม่ค้า เพิ่มเติมไปอีก
ได้ข้อมูลว่านี้ไม่ใช่งานแรก ที่เกิดเหตุการณ์แบบนี้ ทุกคนเบนเข็มชี้ผู้ต้องหาไปยัง กลุ่มคนกลุ่มนั้น สังเกตุจากพฤติกรรมกับการสังเกตุแต่ไม่มีหลักฐานเพื่อเอาคววามผิด
-น้องผู้ต้องหาอายุน่าจะราวๆ10ขวบ ตอนผมจับน้องเขาผมก็สงสารนะครับอยากให้น้องให้การ เผื่อจะลดหย่อนโทษหากจับคนจ้างวานได้
-กลุ่มโชว์รถไต่ถัง ซึ่งเคยออกรายการช่องหลากสี รายการกระบี่handone ทราบได้จากโลโก้ท้ายรถ
ปล.วอนผู้มีอำนาจหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องชี้แจงหรือดำเนินการด้วยครับ เพราะครั้งนี้จับผู้ต้องหาซึ้งมีการซักทอดไปยังคนจ้างวาน หรือผู้ที่มีความรู้แนะนำด้วยครับว่าผมควรจะทำยังไงต่อไปดี พ่อค้าแม่ค้าหลายรายเดือดร้อนมาก หรือ เจ้าของโชว์รถไต่ถังออกมาให้ความร่วมมือด้วยครับ