ต่อๆ ความเดิมตอนที่แล้ว (https://traveldouble.co/2018/07/13/ขับ-4x4-ลุยทวีป-africa-นอนบนหลังค/) ได้เวลาเลาะมหาสมุทรอินเดียจาก St. Lucia, South Africa ขึ้นเหนือไป Santa Maria, Mozambique (โมซัมบิก)

St. Lucia
ที่ St. Lucia เราแวะล่องเรือ safari cruise ใน estuary (ปากน้ำ) เพื่อดู hippo, จรเข้ ไนล์ และดูดิว่าจะได้เห็น ฉลาม zambezi ไหม ฉลามชนิดนี้ก็คือ bull shark ที่ดุร้ายนั้นเอง มันอยู่ได้ทั้งน้ำเค็มและน้ำจืด cruise ระยะเวลา 2 ชม ปรากฎว่าก็เห็นแค่ฝูง hippos และจรเข้ 1 ตัว แอบน่าเบื่อนิดหน่อย เราว่า 1 ชม กำลังดี






หลังจากนั้น เราก็ขับใน iSimangaliso Wetland Park ขึ้นไปประมาณ 1 ชม ก็ถึง Cape Vidal เราตั้ง camp กันที่นี้หนึ่งคืน camp อยู่ติดทะเลเลย  ได้ฟิลลิ่ง Jurassic Park เลย เดินไป 1 นาทีก็ถึง จุดนี้น่าจะเป็นจุดที่มีหาดสวยที่สุดในแทบนี้ น้ำดูแล้วเล่นไม่ได้ คลืนแรง มีแต่ลุงๆมาตกปลา ที่นี้คนพักเยอะมาก แต่ละบ้านมาอยู่กันหลายวัน/คน ตั้ง tent กันเป็นบ้านเลยอะ rooftop tent เราดูเด็กๆไปเลย เจอฝรั่ง Afrikaans ป้าๆ ก็ชวนคุย ชมว่าใจมาก เก่ง กล้ามากันเอง เขาอยากจะลุยแบบนี้บ้าง ลุงๆทั้งหลายก็แนะนำเส้นทาง แล้วก็เตือนให้ระวังที่ไหนบ้าง แต่เอาจริงตั้งแต่มาพวกเรารู้สึกปลอดภัยและอบอุ่นมาก ทุกคนมีน้ำใจกับเราเสมอ



ออกจาก Cape Vidal เราก็กลับไป St. Lucia เพื่อตุนสะเบียง และดื่มน้ำปั่นที่ร้าน Kauai อร่อยมากอะ ไม่น่าเชื่อว่า Africa จะมีแบบนี้ หมู่บ้านนี่มี vibe แบบ Florida สุดๆ



จุดหมายต่อไปใน South Africa ก่อนข้ามชายแดน ก็คือ Kosi Bay ซึ้งเป็นปากน้ำ อยู่ห่างจากชายแดน Mozambique 15 นาที ถึงแม้ว่า Kosi Bay กับ Ponta Da Ouro (คืนแรก) ใน Mozambique จะห่างกันไม่ไกล แต่เพราะต้องมีการข้ามชายแดน ไม่มีความแน่นอนว่าต้องใช้เวลาเท่าไร เลยต้องนอนทั้งสองจุด เราไม่อยากข้ามชายแดนตอนเย็น เพราะถ้าติดนานอาจจะต้องขับรถตอนมืด (หลัง 5 โมง) ซึ่งการขับรถกลางคืนในทวีป Africa ถือว่าอันตรายมาก


ข้ามชายแดน
ชายแดนเปิด 8 โมงเช้า เราไปถึง 8.30 ข้ามฝั่ง South Africa แบบง่ายๆ ประมาณ 15 นาที ไม่มีแถว ปัญหาเกิดฝั่ง Mozambique ที่เราต้องขอ Visa on Arrival ราคา $50

กรอกเอกสารเสร็จทุกอย่าง แต่เครื่องดันเสีย?!? เขาให้รอแต่ไม่บอกว่านานเท่าไร พอผ่านไป ครึ่ง ชม เราก็เริ่มออกอาการหงุดหงิด เสียเวลาอะ จะต้องอยู่นานเท่าไรก็บอกมา (ถ้านานจะข้ามกลับไปฝั่ง South Africa ไปนั่งเล่นเน็ตรอ) ตอนแรกเขาก็อันเชิญเราไปนั่ง สักพักเราเบื่อ เลยไปปล่อยลมยางออกเตรียมขับบนทราย ตม ก็เดินมาตามบอกเอางี้ เครื่องใช้ไม่ได้ เขาจะเขียนบน receipt ว่าเครื่องเสีย แต่เราห้ามทำหายนะ เพราะเข้าประเทศ แต่ไม่อยู่ใน system เราก็ ok ก็ได้อะ เถื่อนๆ หน่อย พอเสร็จก็เดินไป เคลียร์เอกสารรถต่อ มีใบให้กรอก เป็นภาษา portuguese พนักงานใจดีบอกเขาช่วยกรอก จะได้รีบๆไป ไม่งั้นต้องมาเทียบกับใบคำแปล (ก่อนออกเจอหนุ่มกลุ่มหนึ่งหล่อมาก แบบ surfer boy style เสียดายไม่ได้ถาม พักหาดไหน 555+)

Mozambique
เป็นประเทศที่ไม่เจริญเลย ถนนกำลังทำ ตอนที่ไปถนนเกือบถึงหมู่บ้าน Ponta Da Ouro ที่จริงเราวิ่งบนถนนก็ได้ แล้วก็ off road นิดเดียวจะได้ไม่ต้องปล่อยลมยาง แต่เพราะไม่รู้เลยไปวิ่งถนนเส้นเก่า (off road ตลอดทาง) สนุกแต่ก็เสียวยางพัง เส้นหนึ่งแพงนะ ยาง BFG All Terrain อย่างหนา

แต่บางจุดทรายก็ยังหนาอยู่นะคะ มีรถติดด้วย

เราตั้งใจมาแวะ Ponta Da Ouro เพื่อที่จะได้ดำน้ำในมหาสุมทรอินเดีย แต่พอไปถึงวันแรก Dive Shop ที่คุยไว้บอกเขาจะไปดำน้ำลึก เราไม่ได้ดำนานแล้ว อย่าไปเลย ก็เป็นอันว่า fail วันนั้นเลยไปนั่งเล่นอยู่ร้าน Mango Cafe ที่บอกว่ามี wifi แต่ที่จริงไม่มี แล้วยังเป็นดงแมลงสาบอีกต่างหาก มันวิ่งกันออกมาจากห้องนํ้าเป็นกองทัพเพราะเขาดันฉีดท่อ น่าจะเกิน 30 ตัวได้ เห็นแล้วจะช็อกตาย วิ่งออกร้านแทบไม่ทัน กรีด
ไม่ออก กลัวมันเข้าปาก ไม่ไหวเอามากๆ อยากให้ทุกคนเห็นแต่ไม่ได้อัดมาเพราะตั้งสติไม่ทัน









อีกอย่างที่ทำคือแลกเงิน กับซื้อซิม (โดนโกงด้วย ปกติ 1GB ราคา 100 meticais) เราแนะนำให้กดเงินจาก atm ที่ธนาคารเอา จะได้ไม่ต้องรอนาน แลกเงินใช้เวลาประมาณ 1 ชม เขาทำงานกันช้ามาก ประเทศนี้ช้าทุกอย่าง อาหารก็ต้องรออย่างน้อยครึ่งชม นานสุด 1.5 ชม วันหลังๆเราเลยสั่งก่อน แล้วไปอาบน้ำ กลับมากินพอดี

Santa Maria
วันที่สองใน Mozambique เรามีภารกิจขับเลาะมหาสมุทรใน Maputo Elephant Reserve ขึ้นเหนือไป Santa Maria ที่นี้ดังเรื่องช้างดุ คนส่วนมากก็จะได้เห็น เพราะจากทางเข้า ไปถึงทางออก reserve ขับ 2 ชม หลังจากนั้นอีก 1.5 - 2.5 ชม แล้วแต่ความมั่นใจในการขับ ขึ้นอยู่กับความเร็ว แต่ห้ามประมาทนะ มีรถส่วนบ่อย โค้งจะมองไม่เห็น แล้วก็มีพวกเนินที่ถ้าไม่ระวัง ได้ไปชนกันบนเนินแน่ เพราะต่างคนต่างเร่งเครื่องขึ้นมา ทั้งหมดนี่ขับเป็น 4 high นะคะ เอาลมยางออกหน้าทางเข้าเลย เราพลาดเอาออกเหลือ 1.2 bar แอบน้อยไปหน่อย ขาขับออกเอาขึ้นเป็น 1.5 bar กำลังดี ขับเร็วได้มากขึ้น ขาเข้าเราใช้เวลา 4.5 ชม ขากลับ 4 ชม ที่จริงตั้งใจทำเวลาเกือบจะทัน 3.5 ชม แต่ไปหลงนิดหน่อย แล้วก็ติดหลุมใหญ่ๆ อีกหนึ่ง นั้นเป็นครั้งเดียวใน reserve ที่เปลี่ยนมาเป็น 4 low







เพราะระยะทางขับอันยาวนาน เราเลยพักที่ Santa Maria กันสองคืน ว่างแผนกันอย่างดีว่าจะไปดำนำ้ 1 วัน แล้ววันรุ่งขึ้นค่อยขับกลับ แต่โชคไม่ดี Dive Master ไม่อยู่ ไม่มีใครพาดำน้ำ เศร้าเลยอะ อยากดำน้ำตรงนี้มาก มันเป็น Marine Reserve แทนที่จะได้ดำเลยจองเรือข้ามไปเที่ยวที่เกาะ Inhaca ช่วงบ่าย ตอนน้ำลงพอดี แล้วเย็นๆ ไป snorkel แต่ทุกอย่างก็ไม่เป็นไปตามแผน คนเรือดันไปรอรับคนจากฝั่ง Maputo แล้วกลับมารับเราช้าไป เลยอด snorkel อันนี้เราโวยเลย เพราะจะมาเก็บเงินเราเต็มๆไม่ได้ เสียเวลาเราก็มากเกินไปละ










สุดท้ายเค้าก็ลดราคาให้ แล้วก็เลี้ยงเหล้า + ให้ไปอาบน้ำในห้องพัก แทนที่จะอาบน้ำเย็นที่ camp ถึงแม้จะมีเรื่องนิดหน่อย แต่เรายังแนะนำให้พักที่ Bemugis นะ อาหารอร่อย มี wifi บาร์ ห้องน้ำสะอาด อยู่ได้แบบสบายๆ





วันรุ่งขึ้นเราก็ขับออกทางเดิม แล้วก็ตรงไปชายแดน Swaziland เพื่อข้ามไปประเทศสุดท้ายก่อนกลับเข้า South Africa จะมาเล่าต่อเดือนหน้านะคะ

ใครสนใจรถคันนี้ หลังไมค์มาเลยนะคะ

ติดตามการเดินทางรอบโลกได้ที่
Pantip อัพเดือนละครั้ง เดือนหน้าไปต่อกันที่ประเทศสวาซิแลนด์ และตามหา Big5 ที่ อุทยาน Kruger ในเฟส อัพทุกอาทิตย์นะคะ รูปจะเยอะๆหน่อย
Facebook.com/traveldouble
Website: www.traveldouble.co

การเดินทางก่อนๆของเรา
นอนบนหลังคารถ Namibia: https://traveldouble.co/2017/08/02/roadtrip-รอบนามิเบีย-นอน-rooftop-tent/
ขับรถเที่ยว Iceland: https://traveldouble.co/product/ขับรถเที่ยว-iceland-ใน-7-วัน-itinerary-thai-ver/
ลุยเดี่ยว Cuba: https://traveldouble.co/2018/05/04/solo-travel-in-cuba-แม่-ญ-คนเดียวก็ย้อนเว/
ห้องอาหารใต้น้ำMaldives: https://traveldouble.co/2018/02/12/maldives-hurawalhi-resort-5-8-ห้องอาหารใต้น้ำ/
งบน้อย ส่องสัตว์ Kenya: https://traveldouble.co/2017/11/12/ลุย-kenya-5-วัน-แบบงบสบายกระเป๋/
ดินแดนหมีขาว Svalbard: https://traveldouble.co/2017/09/20/พาตลุยดินแดนหมีขาว-แห่ง/
Tibet: https://traveldouble.co/2018/05/11/ตามหาชัมบาลา-shambhala-แต่อยู่ๆ/
ผญ คนเดียวเที่ยว iran: https://traveldouble.co/2018/06/29/solo-traveler/