ความเดิมตอนที่แล้ว link to part 1
https://traveldouble.co/2018/07/13/ขับ-4x4-ลุยทวีป-africa-นอนบนหลังค/ & part 2
https://traveldouble.co/2018/08/31/ตอนเลาะมหาสมุทรอินเดีย/
Swaziland
เป็นอีกประเทศ land-locked เข้าออกได้จาก South Africa และ Mozambique ประเทศนี้เป็นหนึ่งในสาม Kingdom ที่เหลืออยู่ในทวีป Africa เราขับเข้าจาก Mozambique ที่ชายแดนขาออกอย่างเร็ว ไปติดขาเข้า ทำงานกันช้ามาก ทั้งๆ ที่เราทำวีซ่ามาจากที่อังกฤษ ตม ดูวีซ่าแบบงงๆ เหมือนไม่เคยเห็น แล้วกลัวว่าปลอม เพราะมันเป็นกระดาษ แล้วติดเทปเอา ดีที่มีพนักงานอีกคนเดินมา หลังจากที่เรารอไปครึ่งชม แล้วบอกว่าที่อังกฤษมีกงศุลจริงๆนะ เลยปล่อยพวกเราไปได้
พอขับเข้าประเทศก็แอบตกใจ เจริญกว่าที่คิดไว้เยอะเลย ถนนดี เมืองเล็กๆ แต่สะอาด บ้านเรือนดูไม่ได้ยากจน ที่นี้ใช้เงิน rand ได้นะคะ ไม่ต้องแลกเงินเลย เราขับเข้ามาอยู่แค่คืนเดียว ที่ camp ก็รูดบัตรเอา สะดวกดี ที่พักเราอยู่ใน Mbuluzi Game Reserve ไม่มีคนตั้ง camp เลย แล้วยังเป็นแบบ wild camping หน่อยๆ ไม่มีไฟฟ้า เงียบๆ มีกวาง ยีราฟเดินไปเดินมา ข้างๆ campsite มีแม่น้ำ แล้วก็จุดชมวิวบนเขา วันนั้นเราถึงเย็นไปหน่อยเลยไม่ได้ขึ้นไป
เช้าวันรุ่งขึ้นตื่นมาเราก็ขับออกจากสวาซิแลนด์เลยเพื่อที่จะได้ข้ามกลับไปแอฟริกาใต้ ระหว่างทางมีแต่วิวไร่อ้อย แล้วก็โรงงานแปรรูป มีคนบอกว่าเราจะเห็น sugar cane for days 555+ ก็คงจริงนะ เพราะเยอะมากๆ สูงๆทั้งนั้นเลย (ไปดู vlog พวกเราได้
)
ขับไป 45 นาที ก็ถึงชายแดน เข้า South Africa ง่ายสุดแล้ว คนไทยไม่ต้องวีซ่า แล้วรถก็เช่ามาจากที่นั้นก็กลับเข้าไปง่ายๆ จากชายแดนขับอีก ชม ก็ถึงทางเข้า Kruger National Park
Kruger National Park
แรดจ้าาา อยู่ไหนค่ะ ทริปนี้เรามาตามหาแรดเลยนะ ไปอุทยานมาก็หลายที่ในหลายประเทศ เห็น Big5 มาเกือบหมดแล้วเหลือแต่แรดนี่แหละยังไม่ได้เจอสักที เราจะอยู่ที่อุทยานนี้กันทั้งหมดสองคืน เริ่มจากตอนใต้ขับขึ้นไปในกลางอุทยานที่ขึ้นชื่อว่าเป็น cat country เพราะมี big cats เยอะ เราได้เห็น leopard นอนอยู่บนต้นไม้ แล้วก็ฝูงสิงโต เราเลือกที่จะไป sunset game drive tour เพื่อที่จะได้เห็นสัตว์ออกหากินตอนเย็น ทางอุทยานไม่อนุญาตให้นักท่องเที่ยวขับรถส่วนตัวหลังพระอาทิตย์ตกดิน camp gate จะปิดตอน sunset พอดีนั่นก็คือประมาณห้าถึง 6 โมงเย็น เราเลยเลือกที่จะเสียเงินไปทัวร์ตอนเย็นวันแรก
อุทยานมีทุกอย่างเลยนะคะทั้งซุปเปอร์มาร์เก็ต ร้านอาหาร ที่พักหลายๆแบบ คนเที่ยวเยอะ จะเจอกันตอนเช้าๆ เพราะเป็นเวลาที่สัตว์ออกมาหากิน หลังจากคืนแรก เราตื่นมาก็ออกไปดูสิงโต หลังจากนั้นก็เริ่มขับลงไปที่อีก camp ใกล้ๆ Malalane gate จุดนี้มีแรดเยอะ เช้าวันสุดท้าย เราก็ออกไปตามหาแรดกัน ได้เจอด้วยนะ เป็นครอบครัวเลย มันตัวเล็กกว่าที่คิดไว้มาก ตอนจะออกจากอุทยานก็ได้เจอนตัวใหญ่ ตัวเดียว เดินข้ามถนนอยู่ เท่มาก!!!
ได้เวลากลับบ้าน
จากอุทยานขับไปคืนรถในเมือง Johannesburg ใช้เวลาประมาณ 4 ชม เราแวะทานข้าวกันในเมืองแถวๆ residential area แห่งนึง ก่อนไปคืนรถด้วย ซุปเปอร์ อารมณ์แบบ Villa บ้านเรา ร้านที่ไปทานมื้อเที่ยงเป็น chain อาหารฝรั่ง ขนมอร่อยค่ะ อาหารจานใหญ่มาก หลังจากนั้นเราก็ไปร้านขายแอลกอฮอล์เพื่อที่จะซื้อไวน์ แอฟริกาใต้ กลับบ้าน ไวน์ที่นี่ถูกและดีค่ะ เราชอบมากเลย เสียดายซื้อกลับได้แค่คนละขวด
หลังจากนั้นเราก็ตรงไปคืนรถ อย่าลืมเติมน้ำมันไปนะคะ พนักงานเค้าจะเช็คเราว่าเติมมาหรือเปล่า แล้วเค้าก็จะเช็คว่าของที่เราเอาไปกลับมาครบไหม พวกช้อนซ่อมจานชามอุปกรณ์ในรถต่างๆถ้ามีอะไรเสียหายก็บอกเขาไปนะคะ ใช้เวลาคืนรถทั้งหมดประมาณครึ่งชั่วโมง แล้วพนักงานเค้าก็จะขับรถไปส่งเราที่สนามบินค่ะ
ที่สนามบินคนไม่เยอะมากแต่ก็ควรไปก่อนอย่างน้อย 2 ชั่วโมงนะคะ ข้างในสนามบินไม่ค่อยมีอะไรเท่าไหร่เราไปสิงสถิตอยู่ใน lounge ค่ะ มีห้องอาบน้ำด้วยก็เลยได้ขึ้นเครื่องบินตัวหอมๆ
ในที่สุดทริปนี้ก็สิ้นสุดลง เป็นสองอาทิตย์ที่ค่อนข้างยาวนะคะขับรถเยอะแต่ก็ได้เห็นอะไรเยอะเหมือนกัน ขับกันเอง roadtrip ยาว 4 ประเทศ ภูมิอากาศที่เปลี่ยนไป
เจอตั้งแต่ติดลบยัน 30 องศา เห็นทั้งหิมะ ภูเขา ทะเล ทะเลสาบ และสัตว์อีกมากมาย เป็นทริปที่ครบมากค่ะ ถึงแม้วิวจะสู้นามิเบียไม่ได้ก็ตาม ปีนี้เรามีทริปมา ทวีป แอฟริกา อีกสองครั้งนะคะ แล้วปีหน้าก็กะจะกลับมาขับรถนอนบนหลังคารถเที่ยวกันอีกค่ะ พบกันใหม่นะคะ
ใครสนใจรถคันนี้ หลังไมค์มาได้เลยนะคะ ตอบเร็วสุดบน facebook ค่ะ
ฝากติดตามการเดินทางรอบโลก ได้ที่
Pantip อัพเดือนละครั้ง เดือนหน้าแวะไป อิสราเอล กันแป็ปนึง แล้วจะกลับไปทวีปแอฟริกากันต่อนะ ในเฟสอัพทุกอาทิตย์นะคะ รูปจะเยอะๆหน่อย
Facebook.com/traveldouble
Website
www.traveldouble.co
Instagram: @traveldouble
ไปเที่ยวกับเรา // Other posts on Blue Planet
นอนบนหลังคารถ Namibia:
https://traveldouble.co/2017/08/02/roadtrip-รอบนามิเบีย-นอน-rooftop-tent/
ขับรถเที่ยว Iceland:
https://traveldouble.co/product/ขับรถเที่ยว-iceland-ใน-7-วัน-itinerary-thai-ver/
ลุยเดี่ยว Cuba:
https://traveldouble.co/2018/05/04/solo-travel-in-cuba-แม่-ญ-คนเดียวก็ย้อนเว/
ห้องอาหารใต้น้ำMaldives:
https://traveldouble.co/2018/02/12/maldives-hurawalhi-resort-5-8-ห้องอาหารใต้น้ำ/
งบน้อย ส่องสัตว์ Kenya:
https://traveldouble.co/2017/11/12/ลุย-kenya-5-วัน-แบบงบสบายกระเป๋/
ดินแดนหมีขาว Svalbard:
https://traveldouble.co/2017/09/20/พาตลุยดินแดนหมีขาว-แห่ง/
Tibet:
https://traveldouble.co/2018/05/11/ตามหาชัมบาลา-shambhala-แต่อยู่ๆ/
ผญ คนเดียวเที่ยว iran:
https://traveldouble.co/2018/06/29/solo-traveler/
Travel Double Vlog
(2 สาวเพื่อนซี้) ขับ 4x4 ลุยทวีป Africa นอนบนหลังคารถ - ตอน Swaziland & ตามหา Big5 ในอุทยาน Kruger
ความเดิมตอนที่แล้ว link to part 1 https://traveldouble.co/2018/07/13/ขับ-4x4-ลุยทวีป-africa-นอนบนหลังค/ & part 2 https://traveldouble.co/2018/08/31/ตอนเลาะมหาสมุทรอินเดีย/
Swaziland
เป็นอีกประเทศ land-locked เข้าออกได้จาก South Africa และ Mozambique ประเทศนี้เป็นหนึ่งในสาม Kingdom ที่เหลืออยู่ในทวีป Africa เราขับเข้าจาก Mozambique ที่ชายแดนขาออกอย่างเร็ว ไปติดขาเข้า ทำงานกันช้ามาก ทั้งๆ ที่เราทำวีซ่ามาจากที่อังกฤษ ตม ดูวีซ่าแบบงงๆ เหมือนไม่เคยเห็น แล้วกลัวว่าปลอม เพราะมันเป็นกระดาษ แล้วติดเทปเอา ดีที่มีพนักงานอีกคนเดินมา หลังจากที่เรารอไปครึ่งชม แล้วบอกว่าที่อังกฤษมีกงศุลจริงๆนะ เลยปล่อยพวกเราไปได้
พอขับเข้าประเทศก็แอบตกใจ เจริญกว่าที่คิดไว้เยอะเลย ถนนดี เมืองเล็กๆ แต่สะอาด บ้านเรือนดูไม่ได้ยากจน ที่นี้ใช้เงิน rand ได้นะคะ ไม่ต้องแลกเงินเลย เราขับเข้ามาอยู่แค่คืนเดียว ที่ camp ก็รูดบัตรเอา สะดวกดี ที่พักเราอยู่ใน Mbuluzi Game Reserve ไม่มีคนตั้ง camp เลย แล้วยังเป็นแบบ wild camping หน่อยๆ ไม่มีไฟฟ้า เงียบๆ มีกวาง ยีราฟเดินไปเดินมา ข้างๆ campsite มีแม่น้ำ แล้วก็จุดชมวิวบนเขา วันนั้นเราถึงเย็นไปหน่อยเลยไม่ได้ขึ้นไป
เช้าวันรุ่งขึ้นตื่นมาเราก็ขับออกจากสวาซิแลนด์เลยเพื่อที่จะได้ข้ามกลับไปแอฟริกาใต้ ระหว่างทางมีแต่วิวไร่อ้อย แล้วก็โรงงานแปรรูป มีคนบอกว่าเราจะเห็น sugar cane for days 555+ ก็คงจริงนะ เพราะเยอะมากๆ สูงๆทั้งนั้นเลย (ไปดู vlog พวกเราได้ )
ขับไป 45 นาที ก็ถึงชายแดน เข้า South Africa ง่ายสุดแล้ว คนไทยไม่ต้องวีซ่า แล้วรถก็เช่ามาจากที่นั้นก็กลับเข้าไปง่ายๆ จากชายแดนขับอีก ชม ก็ถึงทางเข้า Kruger National Park
Kruger National Park
แรดจ้าาา อยู่ไหนค่ะ ทริปนี้เรามาตามหาแรดเลยนะ ไปอุทยานมาก็หลายที่ในหลายประเทศ เห็น Big5 มาเกือบหมดแล้วเหลือแต่แรดนี่แหละยังไม่ได้เจอสักที เราจะอยู่ที่อุทยานนี้กันทั้งหมดสองคืน เริ่มจากตอนใต้ขับขึ้นไปในกลางอุทยานที่ขึ้นชื่อว่าเป็น cat country เพราะมี big cats เยอะ เราได้เห็น leopard นอนอยู่บนต้นไม้ แล้วก็ฝูงสิงโต เราเลือกที่จะไป sunset game drive tour เพื่อที่จะได้เห็นสัตว์ออกหากินตอนเย็น ทางอุทยานไม่อนุญาตให้นักท่องเที่ยวขับรถส่วนตัวหลังพระอาทิตย์ตกดิน camp gate จะปิดตอน sunset พอดีนั่นก็คือประมาณห้าถึง 6 โมงเย็น เราเลยเลือกที่จะเสียเงินไปทัวร์ตอนเย็นวันแรก
อุทยานมีทุกอย่างเลยนะคะทั้งซุปเปอร์มาร์เก็ต ร้านอาหาร ที่พักหลายๆแบบ คนเที่ยวเยอะ จะเจอกันตอนเช้าๆ เพราะเป็นเวลาที่สัตว์ออกมาหากิน หลังจากคืนแรก เราตื่นมาก็ออกไปดูสิงโต หลังจากนั้นก็เริ่มขับลงไปที่อีก camp ใกล้ๆ Malalane gate จุดนี้มีแรดเยอะ เช้าวันสุดท้าย เราก็ออกไปตามหาแรดกัน ได้เจอด้วยนะ เป็นครอบครัวเลย มันตัวเล็กกว่าที่คิดไว้มาก ตอนจะออกจากอุทยานก็ได้เจอนตัวใหญ่ ตัวเดียว เดินข้ามถนนอยู่ เท่มาก!!!
ได้เวลากลับบ้าน
จากอุทยานขับไปคืนรถในเมือง Johannesburg ใช้เวลาประมาณ 4 ชม เราแวะทานข้าวกันในเมืองแถวๆ residential area แห่งนึง ก่อนไปคืนรถด้วย ซุปเปอร์ อารมณ์แบบ Villa บ้านเรา ร้านที่ไปทานมื้อเที่ยงเป็น chain อาหารฝรั่ง ขนมอร่อยค่ะ อาหารจานใหญ่มาก หลังจากนั้นเราก็ไปร้านขายแอลกอฮอล์เพื่อที่จะซื้อไวน์ แอฟริกาใต้ กลับบ้าน ไวน์ที่นี่ถูกและดีค่ะ เราชอบมากเลย เสียดายซื้อกลับได้แค่คนละขวด
หลังจากนั้นเราก็ตรงไปคืนรถ อย่าลืมเติมน้ำมันไปนะคะ พนักงานเค้าจะเช็คเราว่าเติมมาหรือเปล่า แล้วเค้าก็จะเช็คว่าของที่เราเอาไปกลับมาครบไหม พวกช้อนซ่อมจานชามอุปกรณ์ในรถต่างๆถ้ามีอะไรเสียหายก็บอกเขาไปนะคะ ใช้เวลาคืนรถทั้งหมดประมาณครึ่งชั่วโมง แล้วพนักงานเค้าก็จะขับรถไปส่งเราที่สนามบินค่ะ
ที่สนามบินคนไม่เยอะมากแต่ก็ควรไปก่อนอย่างน้อย 2 ชั่วโมงนะคะ ข้างในสนามบินไม่ค่อยมีอะไรเท่าไหร่เราไปสิงสถิตอยู่ใน lounge ค่ะ มีห้องอาบน้ำด้วยก็เลยได้ขึ้นเครื่องบินตัวหอมๆ
ในที่สุดทริปนี้ก็สิ้นสุดลง เป็นสองอาทิตย์ที่ค่อนข้างยาวนะคะขับรถเยอะแต่ก็ได้เห็นอะไรเยอะเหมือนกัน ขับกันเอง roadtrip ยาว 4 ประเทศ ภูมิอากาศที่เปลี่ยนไป เจอตั้งแต่ติดลบยัน 30 องศา เห็นทั้งหิมะ ภูเขา ทะเล ทะเลสาบ และสัตว์อีกมากมาย เป็นทริปที่ครบมากค่ะ ถึงแม้วิวจะสู้นามิเบียไม่ได้ก็ตาม ปีนี้เรามีทริปมา ทวีป แอฟริกา อีกสองครั้งนะคะ แล้วปีหน้าก็กะจะกลับมาขับรถนอนบนหลังคารถเที่ยวกันอีกค่ะ พบกันใหม่นะคะ
ใครสนใจรถคันนี้ หลังไมค์มาได้เลยนะคะ ตอบเร็วสุดบน facebook ค่ะ
ฝากติดตามการเดินทางรอบโลก ได้ที่
Pantip อัพเดือนละครั้ง เดือนหน้าแวะไป อิสราเอล กันแป็ปนึง แล้วจะกลับไปทวีปแอฟริกากันต่อนะ ในเฟสอัพทุกอาทิตย์นะคะ รูปจะเยอะๆหน่อย
Facebook.com/traveldouble
Website www.traveldouble.co
Instagram: @traveldouble
ไปเที่ยวกับเรา // Other posts on Blue Planet
นอนบนหลังคารถ Namibia: https://traveldouble.co/2017/08/02/roadtrip-รอบนามิเบีย-นอน-rooftop-tent/
ขับรถเที่ยว Iceland: https://traveldouble.co/product/ขับรถเที่ยว-iceland-ใน-7-วัน-itinerary-thai-ver/
ลุยเดี่ยว Cuba: https://traveldouble.co/2018/05/04/solo-travel-in-cuba-แม่-ญ-คนเดียวก็ย้อนเว/
ห้องอาหารใต้น้ำMaldives: https://traveldouble.co/2018/02/12/maldives-hurawalhi-resort-5-8-ห้องอาหารใต้น้ำ/
งบน้อย ส่องสัตว์ Kenya: https://traveldouble.co/2017/11/12/ลุย-kenya-5-วัน-แบบงบสบายกระเป๋/
ดินแดนหมีขาว Svalbard: https://traveldouble.co/2017/09/20/พาตลุยดินแดนหมีขาว-แห่ง/
Tibet: https://traveldouble.co/2018/05/11/ตามหาชัมบาลา-shambhala-แต่อยู่ๆ/
ผญ คนเดียวเที่ยว iran: https://traveldouble.co/2018/06/29/solo-traveler/
Travel Double Vlog