ทริปที่รอมาทั้งปี ตั้งแต่กลับมาจาก นามิเบียเมื่อปี 2017 (
https://traveldouble.co/2017/08/02/roadtrip-รอบนามิเบีย-นอน-rooftop-tent/) คราวนี้เราลุยกันสี่ประเทศทางตอนใต้ของทวีป Africa เริ่มจากบินลงที่ แอฟริกาใต้แล้วขับรถลง sani pass ที่ เลโซโท (Lesotho) แล้วก็เลาะมหาสมุทรอินเดียข้ามไปโมซัมบิก (Mozambique) ประเทศสุดท้ายที่จะแวะก่อนกลับก็คือ สวาซิแลนด์ (Swaziland)
ไปยังไง How to get there?
จากไทยไม่มีเครื่องบินตรงมาลงที่แอฟริกาใต้นะคะ เลือกต่อเครื่องได้ที่ Hong Kong/Singapore หรือ ตะวันออกกลางก็ได้ ส่วนเราสองคนบินไปจากลอนดอน บินตรงได้กับ South African Airways/Virgin Atlantic/British Airways ราคาตั๋วไป/กลับ £600 ต่อคน
ขับรถ overlanding vehicle
เราเลือกที่จะเช่ารถที่มีเต็นท์หลังคารถ (rooftop tent) เพื่อที่จะได้แคมป์ได้สะดวก รถเรามีทุกอย่าง เป็น self-sustainable car มี tank นํ้า และเครื่องครัวครบ มีแผง solar ด้วย สามารถอยู่ off-grid ได้เลยค่ะ รถมาพร้อมผ้าปูที่นอนและก็ผ้าเช็ดตัวด้วยนะ
คันนี้ขับสบายมากค่ะ เบาะนุ่ม ล้อดี suspension ดี นั่งไม่เมื่อย เวลาขับ 4x4 ก็ขับง่าย รู้สึกปลอดภัยค่ะ ไม่ใช่รถกระป๋อง เราผู้หญิงสองคนขับแล้วสบายใจ รักมากเลยอ่ะคันนี้
Lesotho + Drakensberg
วันแรกลงเครื่องก็ไปแลกเงินที่ Bidvest ที่สนามบิน (Rate ดีที่สุด) และก็ไปซื้อซิม Vodacom (3GB ราคา 400 zar) 1 Rand ประมาณ 2-3 บาทนะคะ เน็ตใช้ได้เกือบทั้งประเทศเลย ถ้าไปใหม่เราจะซื้อสัก 10GB ต่อสองอาทิตย์ ดูหนังได้สบายๆ หลังจากซื้อเสร็จ เราก็ไปรับรถ ใช้เวลาประมาณ 1 ชม เราเช็คเส้นทางและถาม local knowledges จากที่รับรถเลย เขารู้กันเยอะมาก
แล้วเราก็ตรงไป supermarket แนะนําให้ไป Spar ของโอเคสุด ถ้าเป็นไปได้ตุนของให้ได้มากที่สุดจากใน Johannesberg เพราะนอกเมืองตัวเลือกน้อยกว่า สะเบียงสำหรับ 5 วัน สองคน ประมาณ 600 Rand แต่อันนี้เราเอาของมาจากไทยเยอะพอสมควร ทั้งข้าว แกงถุง เส้นต่างๆ นํ้าพริก เครื่องปรุง foil ที่ล้างจาน เราแบกมาทั้งหมด นํ้าประปา ที่นั้นดื่มไม่ได้นะคะ ตุนนํ้ากันไปให้พอละ เราดื่มกันวันละขวดใหญ่เลย
Lesotho
ขับจาก JNB มา 5 ชม (ไม่รวมเวลาแวะ) ก็ถึงชายแดน คนไทยต้องใช้ Visa นะคะ ทํา online ได้เลย 2-3 วันก็ได้แล้ว ต้องดู junk mail นะคะ มันจะไปอยู่ในนั้น visa ราคาประมาณ 5000 บาท อย่าลืม ปริ้น ให้เรีอบร้อย ถ้าลืมก็เข้าไม่ได้นะ
ที่ด่าน ก็ง่ายๆจอด รถลงไป stamp ฝั่ง South Africa เพื่อออกจากประเทศ หลังจากนั้นก็ขับรถไปหน้าด่านของ Lesotho เขาจะมีเอกสาร ตม ให้กรอก แล้วก็ตรวจ visa ทั้งหมด ใช้เวลา 30 นาที
พอเข้าประเทศไปก็จะรู้สึกได้ถึงความ peaceful และย้อนยุค ถ้าใครเคยดู Blank Panther ให้นึกถึงนอกเมือง Wakanda ค่ะ Lesotho ขึ้นชื่อว่าเป็น Kingdom in the sky และเป็น inspiration ให้หนังหลายๆเรื่อง ทั้งด้าน location และ costume สิ่งที่น่าสนใจเกี่ยวกับประเทศเล็กๆนี้ก็มีหลายอย่าง
1. เป็น ⅓ Kingdom ที่ยังเหลืออยู่ในทวีป Africa
2. มีนํ้าเยอะมาก เลยส่งออกนํ้า
3. ประเทศ land-lock ล้อมรอบโดย South Africa
4. จุดตํ่าสุดของ Lesotho คือจุดตํ่าสุดที่สูงที่สุดในโลก
ประเทศนี้ก็จะอากาศหนาวเย็นหน่อยๆ เรามาหน้าหนาว กลางวัน 15c กลางคืน -2c เราเลยเลือกที่จะพักที่ Maliba Lodge ซึ่งเป็นโรงแรม 5 ดาว แห่งเดียวในประเทศ อาหารที่ รร อร่อย ใครไปห้ามลืมสั่ง Lesotho Trout นะคะ ที่พักมี heater และก็ fireplace ในห้อง เตียงก็อุ่นสบายมาก บริการดีสุดๆ มี free wifi ด้วยนะ
วันที่สองล้อหมุน 9am ถึงแม้ว่าระยะทางไม่ไกล แต่เขาให้ขับแค่ 50 kmph มีทั้งลูกระนาดและตํารวจตลอดทาง ก็ขับชมวิวไปเรื่อยๆค่ะ วิวสวยเหมือนในนิยาย แล้วก็มีเด็กเยอะมากๆ ดูทุกคนมีความสุข จะมีเด็กโบกมือให้ตลอดทาง รู้สึกปลอดภัย สบายใจดี คนพูดภาษาอังกฤษได้ด้วย
Sani Pass
ขับจาก lodge มา 5 ชมก็ถึงชายแดนบนภูเขา มี pub ที่สูงที่สุดใน Africa ที่นี่เป็นจุดพักสุดท้ายก่อนขับออกจาก Lesotho อาหารไม่อร่อย แต่ก็กินๆไป แนะนําให้สั่งง่ายๆ sandwich + fries อย่าเยอะเหมือนพวกเรา
จะขับ Sani Pass ได้ต้องเป็นรถ 4wd นะคะ ทางลงเขาทั้งหมดเป็นหินประมาณ 1 km แรกที่ลงมาจะชันมากๆ แบบขับลง 45 องศา ลงมานิดนึงก็เลี้ยวเลย มันเป็น switchback turns ถ้าไม่มั่นใจใน skill ขับรถก็ข้าม Sani Pass ไปนะคะ เพราะมันคือการขับลงเหว lane เดียวสวนกันได้ ระยะทางทั้งหมด 45 km ใครอยากขับหนึ่งใน dangerous roads in the world ก็ต้องรีบมานะ อีก 1-2 ปีทางจะทําเสร็จแล้ว คงขับง่ายขึ้นเยอะ
Underberg
คืนนี้เราพักกันที่ Farm ใกล้ๆหมู่บ้าน Underberg
Khotso Farm เป็น farm ม้า มีกิจกรรมขี่ม้าขึ้นเขาเลาะชายแดน แต่เราไม่ได้ไปเพราะหนาวมาก พอไปถึงพนักงานก็ถามว่าจะนอนข้างนอกจริงๆเหรอ เพราะอากาศจะลงไปถึง 0c เลยนะ เราก็นั่งคิดกันอยู่สักพักในห้องนั่งเล่นที่มี fireplace + wifi เลยคิดได้ว่านอนข้างใน dormitory ดีกว่า โชคดีที่ไม่มีลูกค้าคนอื่น เขาก็เลยยกห้องให้เรา คืนนั้นก็นั่งเล่นเกม ดื่มไวน์ local แล้วก็ทำอาหารกินกันตอนดึกกับพนักงานที่มาจาก Australia แล้วก็เล่นกับหมาต้อนแกะด้วย น่ารักและฉลาดมาก แรงเยอะสุดๆ อยากเอากลับบ้านเลย
Drakensberg
วันที่ 3 เราชับเลาะเทือกเขา Drakensberg จาก Underberg ไป Golden Gate วิวงามมาก Magical สุดๆอะ บางช่วงหุบเขามันแบบ mystical เหมือนจะมีมังกรโผล่ออกมา คุ้มกับความเหนื่อย ขับ 7 ชม roadtrip เบาๆ
คืนนั้นเป็นคืนแรกที่ได้ใช้ rooftop tent เพราะอากาศนอนได้ camp สวยมากมาย อยู่ตรงตีนเขาหินที่เป็นสีๆ camp สะอาด คนน้อย ปลอดภัย ส่วนมากมาเป็นครอบครัว มีชายคนนึงมาคนเดียวมาโดดรม ติสเวอร์
Ithala Game Reserve
คือไปเพื่อ bush camping วันที่ 4 ขับมาที่นี่ใช้เวลา 4-5 ชม camp ไม่มีรั้วนะคะ มีสัตว์เดินไปเดินมา กลางคืนมี giraffe มาเยี่ยมถึง tent เลย ห้ามเดินออกนอกเขต camp เด็ดขาด อันตรายค่ะ
ตอนนี้พักไว้แค่นี้ก่อนนะ เดือนหน้ามาเล่าต่อเกี่ยวกับการขับเลาะมหาสมุทรอินเดีย ยังไงก็ขอให้เอ็นจอยวีดีโอกันนะคะ ใครสนใจรถคันนี้ หลังไมค์มาได้เลยค่ะ พูดคุยบน FB จะตอบเร็วสุดค่ะ
ฝากติดตามการเดินทางรอบโลก ได้ที่
Pantip อัพเดือนละครั้ง เดือนหน้าไปต่อกันที่ประเทศโมซัมบิกและแอฟริกาใต้ ในเฟส อัพทุกอาทิตย์นะคะ รูปจะเยอะๆหน่อย
Facebook.com/traveldouble
Website
www.traveldouble.co
Instagram: @traveldouble
การเดินทางก่อนๆของเรา
นอนบนหลังคารถ Namibia:
https://traveldouble.co/2017/08/02/roadtrip-รอบนามิเบีย-นอน-rooftop-tent/
ขับรถเที่ยว Iceland:
https://traveldouble.co/product/ขับรถเที่ยว-iceland-ใน-7-วัน-itinerary-thai-ver/
ลุยเดี่ยวใน Cuba:
https://traveldouble.co/2018/05/04/solo-travel-in-cuba-แม่-ญ-คนเดียวก็ย้อนเว/
ห้องอาหารใต้น้ำ ณ Maldives:
https://traveldouble.co/2018/02/12/maldives-hurawalhi-resort-5-8-ห้องอาหารใต้น้ำ/
งบน้อย ส่องสัตว์ Kenya:
https://traveldouble.co/2017/11/12/ลุย-kenya-5-วัน-แบบงบสบายกระเป๋/
ดินแดนหมีขาว Svalbard:
https://traveldouble.co/2017/09/20/พาตลุยดินแดนหมีขาว-แห่ง/
อยู่ๆมาได้ไง Tibet:
https://traveldouble.co/2018/05/11/ตามหาชัมบาลา-shambhala-แต่อยู่ๆ/
ผญ คนเดียวก็เที่ยวได้ iran:
https://traveldouble.co/2018/06/29/solo-traveler/
(2 สาวเพื่อนซี้) ขับ 4x4 ลุยทวีป Africa นอนบนหลังคารถ - ตอน Lesotho/หุบเขา Drakensberg
ทริปที่รอมาทั้งปี ตั้งแต่กลับมาจาก นามิเบียเมื่อปี 2017 (https://traveldouble.co/2017/08/02/roadtrip-รอบนามิเบีย-นอน-rooftop-tent/) คราวนี้เราลุยกันสี่ประเทศทางตอนใต้ของทวีป Africa เริ่มจากบินลงที่ แอฟริกาใต้แล้วขับรถลง sani pass ที่ เลโซโท (Lesotho) แล้วก็เลาะมหาสมุทรอินเดียข้ามไปโมซัมบิก (Mozambique) ประเทศสุดท้ายที่จะแวะก่อนกลับก็คือ สวาซิแลนด์ (Swaziland)
ไปยังไง How to get there?
จากไทยไม่มีเครื่องบินตรงมาลงที่แอฟริกาใต้นะคะ เลือกต่อเครื่องได้ที่ Hong Kong/Singapore หรือ ตะวันออกกลางก็ได้ ส่วนเราสองคนบินไปจากลอนดอน บินตรงได้กับ South African Airways/Virgin Atlantic/British Airways ราคาตั๋วไป/กลับ £600 ต่อคน
ขับรถ overlanding vehicle
เราเลือกที่จะเช่ารถที่มีเต็นท์หลังคารถ (rooftop tent) เพื่อที่จะได้แคมป์ได้สะดวก รถเรามีทุกอย่าง เป็น self-sustainable car มี tank นํ้า และเครื่องครัวครบ มีแผง solar ด้วย สามารถอยู่ off-grid ได้เลยค่ะ รถมาพร้อมผ้าปูที่นอนและก็ผ้าเช็ดตัวด้วยนะ
คันนี้ขับสบายมากค่ะ เบาะนุ่ม ล้อดี suspension ดี นั่งไม่เมื่อย เวลาขับ 4x4 ก็ขับง่าย รู้สึกปลอดภัยค่ะ ไม่ใช่รถกระป๋อง เราผู้หญิงสองคนขับแล้วสบายใจ รักมากเลยอ่ะคันนี้
Lesotho + Drakensberg
วันแรกลงเครื่องก็ไปแลกเงินที่ Bidvest ที่สนามบิน (Rate ดีที่สุด) และก็ไปซื้อซิม Vodacom (3GB ราคา 400 zar) 1 Rand ประมาณ 2-3 บาทนะคะ เน็ตใช้ได้เกือบทั้งประเทศเลย ถ้าไปใหม่เราจะซื้อสัก 10GB ต่อสองอาทิตย์ ดูหนังได้สบายๆ หลังจากซื้อเสร็จ เราก็ไปรับรถ ใช้เวลาประมาณ 1 ชม เราเช็คเส้นทางและถาม local knowledges จากที่รับรถเลย เขารู้กันเยอะมาก
แล้วเราก็ตรงไป supermarket แนะนําให้ไป Spar ของโอเคสุด ถ้าเป็นไปได้ตุนของให้ได้มากที่สุดจากใน Johannesberg เพราะนอกเมืองตัวเลือกน้อยกว่า สะเบียงสำหรับ 5 วัน สองคน ประมาณ 600 Rand แต่อันนี้เราเอาของมาจากไทยเยอะพอสมควร ทั้งข้าว แกงถุง เส้นต่างๆ นํ้าพริก เครื่องปรุง foil ที่ล้างจาน เราแบกมาทั้งหมด นํ้าประปา ที่นั้นดื่มไม่ได้นะคะ ตุนนํ้ากันไปให้พอละ เราดื่มกันวันละขวดใหญ่เลย
Lesotho
ขับจาก JNB มา 5 ชม (ไม่รวมเวลาแวะ) ก็ถึงชายแดน คนไทยต้องใช้ Visa นะคะ ทํา online ได้เลย 2-3 วันก็ได้แล้ว ต้องดู junk mail นะคะ มันจะไปอยู่ในนั้น visa ราคาประมาณ 5000 บาท อย่าลืม ปริ้น ให้เรีอบร้อย ถ้าลืมก็เข้าไม่ได้นะ
ที่ด่าน ก็ง่ายๆจอด รถลงไป stamp ฝั่ง South Africa เพื่อออกจากประเทศ หลังจากนั้นก็ขับรถไปหน้าด่านของ Lesotho เขาจะมีเอกสาร ตม ให้กรอก แล้วก็ตรวจ visa ทั้งหมด ใช้เวลา 30 นาที
พอเข้าประเทศไปก็จะรู้สึกได้ถึงความ peaceful และย้อนยุค ถ้าใครเคยดู Blank Panther ให้นึกถึงนอกเมือง Wakanda ค่ะ Lesotho ขึ้นชื่อว่าเป็น Kingdom in the sky และเป็น inspiration ให้หนังหลายๆเรื่อง ทั้งด้าน location และ costume สิ่งที่น่าสนใจเกี่ยวกับประเทศเล็กๆนี้ก็มีหลายอย่าง
1. เป็น ⅓ Kingdom ที่ยังเหลืออยู่ในทวีป Africa
2. มีนํ้าเยอะมาก เลยส่งออกนํ้า
3. ประเทศ land-lock ล้อมรอบโดย South Africa
4. จุดตํ่าสุดของ Lesotho คือจุดตํ่าสุดที่สูงที่สุดในโลก
ประเทศนี้ก็จะอากาศหนาวเย็นหน่อยๆ เรามาหน้าหนาว กลางวัน 15c กลางคืน -2c เราเลยเลือกที่จะพักที่ Maliba Lodge ซึ่งเป็นโรงแรม 5 ดาว แห่งเดียวในประเทศ อาหารที่ รร อร่อย ใครไปห้ามลืมสั่ง Lesotho Trout นะคะ ที่พักมี heater และก็ fireplace ในห้อง เตียงก็อุ่นสบายมาก บริการดีสุดๆ มี free wifi ด้วยนะ
วันที่สองล้อหมุน 9am ถึงแม้ว่าระยะทางไม่ไกล แต่เขาให้ขับแค่ 50 kmph มีทั้งลูกระนาดและตํารวจตลอดทาง ก็ขับชมวิวไปเรื่อยๆค่ะ วิวสวยเหมือนในนิยาย แล้วก็มีเด็กเยอะมากๆ ดูทุกคนมีความสุข จะมีเด็กโบกมือให้ตลอดทาง รู้สึกปลอดภัย สบายใจดี คนพูดภาษาอังกฤษได้ด้วย
Sani Pass
ขับจาก lodge มา 5 ชมก็ถึงชายแดนบนภูเขา มี pub ที่สูงที่สุดใน Africa ที่นี่เป็นจุดพักสุดท้ายก่อนขับออกจาก Lesotho อาหารไม่อร่อย แต่ก็กินๆไป แนะนําให้สั่งง่ายๆ sandwich + fries อย่าเยอะเหมือนพวกเรา
จะขับ Sani Pass ได้ต้องเป็นรถ 4wd นะคะ ทางลงเขาทั้งหมดเป็นหินประมาณ 1 km แรกที่ลงมาจะชันมากๆ แบบขับลง 45 องศา ลงมานิดนึงก็เลี้ยวเลย มันเป็น switchback turns ถ้าไม่มั่นใจใน skill ขับรถก็ข้าม Sani Pass ไปนะคะ เพราะมันคือการขับลงเหว lane เดียวสวนกันได้ ระยะทางทั้งหมด 45 km ใครอยากขับหนึ่งใน dangerous roads in the world ก็ต้องรีบมานะ อีก 1-2 ปีทางจะทําเสร็จแล้ว คงขับง่ายขึ้นเยอะ
Underberg
คืนนี้เราพักกันที่ Farm ใกล้ๆหมู่บ้าน Underberg
Khotso Farm เป็น farm ม้า มีกิจกรรมขี่ม้าขึ้นเขาเลาะชายแดน แต่เราไม่ได้ไปเพราะหนาวมาก พอไปถึงพนักงานก็ถามว่าจะนอนข้างนอกจริงๆเหรอ เพราะอากาศจะลงไปถึง 0c เลยนะ เราก็นั่งคิดกันอยู่สักพักในห้องนั่งเล่นที่มี fireplace + wifi เลยคิดได้ว่านอนข้างใน dormitory ดีกว่า โชคดีที่ไม่มีลูกค้าคนอื่น เขาก็เลยยกห้องให้เรา คืนนั้นก็นั่งเล่นเกม ดื่มไวน์ local แล้วก็ทำอาหารกินกันตอนดึกกับพนักงานที่มาจาก Australia แล้วก็เล่นกับหมาต้อนแกะด้วย น่ารักและฉลาดมาก แรงเยอะสุดๆ อยากเอากลับบ้านเลย
Drakensberg
วันที่ 3 เราชับเลาะเทือกเขา Drakensberg จาก Underberg ไป Golden Gate วิวงามมาก Magical สุดๆอะ บางช่วงหุบเขามันแบบ mystical เหมือนจะมีมังกรโผล่ออกมา คุ้มกับความเหนื่อย ขับ 7 ชม roadtrip เบาๆ
คืนนั้นเป็นคืนแรกที่ได้ใช้ rooftop tent เพราะอากาศนอนได้ camp สวยมากมาย อยู่ตรงตีนเขาหินที่เป็นสีๆ camp สะอาด คนน้อย ปลอดภัย ส่วนมากมาเป็นครอบครัว มีชายคนนึงมาคนเดียวมาโดดรม ติสเวอร์
Ithala Game Reserve
คือไปเพื่อ bush camping วันที่ 4 ขับมาที่นี่ใช้เวลา 4-5 ชม camp ไม่มีรั้วนะคะ มีสัตว์เดินไปเดินมา กลางคืนมี giraffe มาเยี่ยมถึง tent เลย ห้ามเดินออกนอกเขต camp เด็ดขาด อันตรายค่ะ
ตอนนี้พักไว้แค่นี้ก่อนนะ เดือนหน้ามาเล่าต่อเกี่ยวกับการขับเลาะมหาสมุทรอินเดีย ยังไงก็ขอให้เอ็นจอยวีดีโอกันนะคะ ใครสนใจรถคันนี้ หลังไมค์มาได้เลยค่ะ พูดคุยบน FB จะตอบเร็วสุดค่ะ
ฝากติดตามการเดินทางรอบโลก ได้ที่
Pantip อัพเดือนละครั้ง เดือนหน้าไปต่อกันที่ประเทศโมซัมบิกและแอฟริกาใต้ ในเฟส อัพทุกอาทิตย์นะคะ รูปจะเยอะๆหน่อย
Facebook.com/traveldouble
Website www.traveldouble.co
Instagram: @traveldouble
การเดินทางก่อนๆของเรา
นอนบนหลังคารถ Namibia: https://traveldouble.co/2017/08/02/roadtrip-รอบนามิเบีย-นอน-rooftop-tent/
ขับรถเที่ยว Iceland: https://traveldouble.co/product/ขับรถเที่ยว-iceland-ใน-7-วัน-itinerary-thai-ver/
ลุยเดี่ยวใน Cuba: https://traveldouble.co/2018/05/04/solo-travel-in-cuba-แม่-ญ-คนเดียวก็ย้อนเว/
ห้องอาหารใต้น้ำ ณ Maldives: https://traveldouble.co/2018/02/12/maldives-hurawalhi-resort-5-8-ห้องอาหารใต้น้ำ/
งบน้อย ส่องสัตว์ Kenya: https://traveldouble.co/2017/11/12/ลุย-kenya-5-วัน-แบบงบสบายกระเป๋/
ดินแดนหมีขาว Svalbard: https://traveldouble.co/2017/09/20/พาตลุยดินแดนหมีขาว-แห่ง/
อยู่ๆมาได้ไง Tibet: https://traveldouble.co/2018/05/11/ตามหาชัมบาลา-shambhala-แต่อยู่ๆ/
ผญ คนเดียวก็เที่ยวได้ iran: https://traveldouble.co/2018/06/29/solo-traveler/