ยินดีต้อนรับเข้าสู่กระทู้เที่ยวเชียงใหม่แบบพากินร้านเด็ดร้านดังทั้งอาหารเหนือแบบพื้นเมืองหรือคาเฟ่ต่างๆรอบเชียงใหม่แบบสาขาออริจินัลให้ฟินพุงกางกันเลยทีเดียว
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
เตรียมตัวก่อนออกเดินทาง
1.ตั๋วเครื่องบิน : ช่วงที่เราตัดสินใจไปเที่ยวเชียงใหม่นั้นตรงกับช่วงที่สายการบิน Full Service พากันลดกระหน่ำชนิดให้โลว์คอร์สหนาวๆร้อนกันไปเลย ทั้งการบินไทยและบางกอกแอร์เวย์ ด้วยเหตุนี้เราจึงเลือกบินทั้ง 2 สายการบินไปซะเลย ถือเป็นการลองของเพราะปกติเรามักใช้บริการสายการบินโลว์คอร์สในการเดินทางภายในประเทศ
TG104 (BKK-CNX) 08.45 - 09.55 --- เน้นไม่ต้องตื่นเช้ามาก สามารถไปสนามบินด้วยแอร์พอร์ตลิ้งค์ได้ไม่ต้องแหกขี้ตาโบกแท็กซี่
PG226 (CNX-BKK) 16.40 - 18.05 --- เน้นกลับถึงกรุงเทพเย็นๆ ไม่ดึกเกินไป จราจรไม่หนาแน่น คนไม่เยอะเกินไป
2.ที่พัก :
การท่องเที่ยวในประเทศสามารถเลือกแบบจองตรงกับโรงแรมหรือผ่านเอเจนซี่ซึ่งสะดวกทั้งคู่ แต่เราเลือกจองที่พักผ่าน Agoda เพราะความปลอดภัยในการตัดบัตรเครดิต Agoda จะตัดบัตรเครดิตของเราเอง และที่พักจะไปตัดบัตรเครดิตของอโกด้าอีกที ซึ่งฟังดูยุ่งยาก แต่กลับปลอดภัยกว่าการที่ที่พักตัดบัตรเราเอง โดยที่พักอาจตัดเกิน ตัดผิดตัดถูก เกิดการโกงอีก ลำบากไป
ย่านที่พักที่เรามองว่าโอเคในเชียงใหม่ คือ ย่านถนนนิมมานเหมินท์ที่มีที่พักทุกซอกทุกซอย คนพลุกพล่าน อาหารการกินอุดมสมบูรณ์แน่นอน
☆ Agoda Trick ☆
1.) Agoda จะมีโค้ดส่วนลดพิเศษโดยสังเกตกล่องสีฟ้าในหน้าต่างแรกที่เขียนว่าลดเพิ่มอีก 10% กดเข้าไปดูส่วนลดต่างๆ ซึ่งโค้ดส่วนลดของเมืองต่างๆจะมีอายุประมาณ 7 วัน เราต้องหมั่นเข้ามาดูเรื่อยๆมามีของฮ่องกงรึยัง ซึ่งเราเองก็จองที่พักช่วงที่มีส่วนลดเพิ่มเหมือนกันเพราะมันถูกกว่าเดิมจากที่ถูกอยู่แล้วไปอีกหลายร้อยเชียว
2.) พอเข้าหน้าดูที่พักของเมืองนั้นๆแล้วให้กดไปที่ “ดีลกับอโกด้า” จะโชว์ที่พักที่ทำโปรพิเศษกับอโกด้า โดยราคาจะลดอีกกว่าช่วงปกติ บางครั้งอโกด้าจะใช้การใบ้ว่าเป็นโรงแรมไหนให้เราลองหาเอาเอง เราคาดว่าแบบนั้นคงถูกสุดๆจริงๆ
3.การเดินทางภายในเชียงใหม่ : เราเลือกการเช่ารถยนต์เพราะสะดวกในการเดินทางที่ที่ไกลจากตัวเมือง แถมคุณพ่อคุณแม่เราเชี่ยวชาญเส้นทางในเชียงใหม่ทำให้การเช่ารถเที่ยวกันเองเพิ่มความเป็นส่วนตัวในการเดินทาง
4.สภาพอากาศ : ช่วงที่เราไปเป็นหน้าฝนที่ครึ้มและมีฝนตกปรอยๆตลอดวัน คนไทยไม่ค่อยเตรียมร่มไป แต่เหล่าคนจีนมีร่มพร้อมตลอด เตรียมกันมาดีจริงๆ
5. รูปภาพในกระทู้ : รูปภาพทั้งหมดในกระทู้ถ่ายจาก Samsung Galaxy A5 (2017) โดยไม่ผ่านฟิลเตอร์ใดๆค่ะ
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
*** กระทู้นี้ตั้งใจทำมาเพื่อแชร์ประสบการณ์ให้กับผู้ที่ต้องการท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่และนักอ่านพันทิปทั้งหลาย และยังเป็นการขอบคุณกระทู้ท่องเที่ยวและบทความเกี่ยวกับเชียงใหม่อื่นๆที่เป็น Reference ในการเที่ยวของเรา
ค่าใช้จ่ายทั้งหมดมาจากเงินของเราทั้งนั้น เลือกเอง จ่ายเอง ไม่ได้มีสปอนเซอร์มาสนับสนุนใดๆทั้งสิ้นที่ทำรีวิวเพราะอยากแบ่งปันให้ทุกๆท่าน
ดังนั้น รีวิวทั้งหมดนี้เป็นความคิดเห็นและประสบการณ์ในระหว่างการเตรียมตัวและการเดินทางของเรา โปรดใช้วิจารณญาณในการเสพกระทู้นะคะ ***
ปล.ฝากกระทู้รีวิวท่องเที่ยวอื่นๆของเราด้วยนะคะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
1. Rainy days in Hong Kong 2016 แนะนำเที่ยวฮ่องกง รีวิวจากประสบการณ์คนไปฮ่องกงบ่อย (July 2-4,2016)
- https://ppantip.com/topic/35362370
2. Freezing Seoul ประสบการณ์ลุยเดี่ยวหนีเตาอบไปเจอตู้เย็น 14-18 FEB 2017
- https://ppantip.com/topic/36146379
3. :: Feelin’ SEOUL Energetic :: ลุยโซลคนเดียว กินเที่ยวติ่งช้อปท้าลมหนาวอินเกาหลีใต้ (กุมภาพันธ์ 2018)
- https://ppantip.com/topic/37429472
4. ☼ 54 Hong Kong Hours 54ชั่วโมงในฮ่องกงทำอะไรได้บ้าง (กค.2018) ☼
- https://ppantip.com/topic/37845547
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
การเดินทางจากสนามบินสุวรรณภูมิไปสนามบินนานาชาติเชียงใหม่
ขาไปเราเลือกใช้บริการการบินไทยเที่ยวบิน TG104 ที่มีโปรโมชั่นเที่ยวบินละ 1,300 บาทเท่านั้น ถูกและดีมีอยู่จริง แม้ว่ามีเป็นช่วงๆก็ตาม สำหรับการบินไทยในประเทศนั้นสามารถทำ Online Check-in และเลือกที่นั่งได้ล่วงหน้า 24 ชั่วโมงโดยเราก็แนะนำให้ทำมาก่อนเพื่อความรวดเร็วในขั้นตอนที่สนามบินค่ะ โดยเคาทเตอร์ Bag Drop ของการบินไทยภายในประเทศจะอยู่ที่ Row C Counter 1 ใช้เวลาไม่นานเลย จากนั้นเราก็สามารถเข้าสู่โซนด้านในได้เลย
หลังผ่านด่านตรวจสัมภาระติดตัวและเอกสารต่างๆซึ่งอยู่ระหว่าง Row B และ C ใครเดินทางการบินไทยก็ไม่ต้องเดินไกลซักนิด จากนั้นเราก็เดินลงบันไดเลื่อนสู่โซนผู้โดยสารขาออกในประเทศจะอยู่ที่ 2 ของสนามบินสุวรรณภูมิซึ่งถ้ามองผ่านกระจกใสจะเห็นว่าอยู่ชั้นเดียวกับผู้โดยสารขาเข้าต่างประเทศ
เกตเราอยู่ที่ B5 ในสุดของกิ่ง B เลยทีเดียว พอเข้าไปในเกตก็พบเครื่องบินที่จะพาเราเชียงใหม่รอพร้อมอยู่เรียบร้อย การบอร์ดดิ้งใช้เวลาค่อนข้างนานอาจจะเพราะเครื่องค่อนข้างใหญ่สำหรับเดินทางในประเทศที่เวลาต่างๆค่อนข้างน้อย
การตกแต่งภายในเครื่องเล่นโทนสีที่แตกต่างของแต่ละที่นั่ง คาดว่าน่าจะใช้เครื่องที่เคยบินต่างประเทศมาก่อน ที่นั่งเป็นแบบ 2-4-2 เครื่องเก่าอย่างเห็นได้ชัดดูจากทีวีส่วนตัว แต่ความกว้างขวางต้องยกให้จริงๆ ไม่มีอึดอัด นั่งไขว้ห้างได้สบาย มีหมอนให้แต่ละที่นั่งด้วย
อาหารว่างบนเครื่องเป็นขนมปังไส้กรอกซอสพิซซ่าพร้อมน้ำแร่ ขนมปังเหมือนจะน้อยแต่อิ่มอย่างไม่น่าเชื่อ แถมยังการเสิร์ฟชากาแฟหลังจากเสิร์ฟอาหารเป็นการล้างปากอีกด้วย เพียงอึดใจเดียวเครื่องบินลำใหญ่ก็พาเราเข้าสู่สนามบินเชียงใหม่อย่างปลอดภัย เครื่องใหญ่ลงจอดนิ่มกว่า
ที่พักในเชียงใหม่
เราเลือกพักที่โรงแรม Kokotel Nimman เพราะการตกแต่งที่ดูไม่เยอะจนเกินไป แต่สามารถผสมน้องแกะ สัญลักษณ์ของแบรนด์ไปในทุกๆจุดอย่างเป็นธรรมชาติแถมน่ารักมากๆด้วย โรงแรมตั้งอยู่ที่ถนน 2 เชียงรายอยู่ในซอยใกล้กับ Warm UP ซึ่งก็ถือว่าอยู่ติดกับย่านนิมมานสุดๆ
เราพักในห้อง Triple Room พักได้ 3 คน ห้องกว้างขวางมากพร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน แถมยังมีอาหารเช้าแสนอร่อยให้บริการในตอนเช้าด้วย ราคาต่อคืนรวมทุกภาษีแล้วอยู่ที่ประมาณ 2,050 บาท(เราจองล่วงหน้าไม่ถึงเดือนค่ะ)
[CR] ✿ ChiangMai-licious เที่ยวตะลุยกินพุงปลิ้นอินเชียงใหม่ (กค.2018) ✿
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
เตรียมตัวก่อนออกเดินทาง
1.ตั๋วเครื่องบิน : ช่วงที่เราตัดสินใจไปเที่ยวเชียงใหม่นั้นตรงกับช่วงที่สายการบิน Full Service พากันลดกระหน่ำชนิดให้โลว์คอร์สหนาวๆร้อนกันไปเลย ทั้งการบินไทยและบางกอกแอร์เวย์ ด้วยเหตุนี้เราจึงเลือกบินทั้ง 2 สายการบินไปซะเลย ถือเป็นการลองของเพราะปกติเรามักใช้บริการสายการบินโลว์คอร์สในการเดินทางภายในประเทศ
TG104 (BKK-CNX) 08.45 - 09.55 --- เน้นไม่ต้องตื่นเช้ามาก สามารถไปสนามบินด้วยแอร์พอร์ตลิ้งค์ได้ไม่ต้องแหกขี้ตาโบกแท็กซี่
PG226 (CNX-BKK) 16.40 - 18.05 --- เน้นกลับถึงกรุงเทพเย็นๆ ไม่ดึกเกินไป จราจรไม่หนาแน่น คนไม่เยอะเกินไป
2.ที่พัก :
การท่องเที่ยวในประเทศสามารถเลือกแบบจองตรงกับโรงแรมหรือผ่านเอเจนซี่ซึ่งสะดวกทั้งคู่ แต่เราเลือกจองที่พักผ่าน Agoda เพราะความปลอดภัยในการตัดบัตรเครดิต Agoda จะตัดบัตรเครดิตของเราเอง และที่พักจะไปตัดบัตรเครดิตของอโกด้าอีกที ซึ่งฟังดูยุ่งยาก แต่กลับปลอดภัยกว่าการที่ที่พักตัดบัตรเราเอง โดยที่พักอาจตัดเกิน ตัดผิดตัดถูก เกิดการโกงอีก ลำบากไป
ย่านที่พักที่เรามองว่าโอเคในเชียงใหม่ คือ ย่านถนนนิมมานเหมินท์ที่มีที่พักทุกซอกทุกซอย คนพลุกพล่าน อาหารการกินอุดมสมบูรณ์แน่นอน
☆ Agoda Trick ☆
1.) Agoda จะมีโค้ดส่วนลดพิเศษโดยสังเกตกล่องสีฟ้าในหน้าต่างแรกที่เขียนว่าลดเพิ่มอีก 10% กดเข้าไปดูส่วนลดต่างๆ ซึ่งโค้ดส่วนลดของเมืองต่างๆจะมีอายุประมาณ 7 วัน เราต้องหมั่นเข้ามาดูเรื่อยๆมามีของฮ่องกงรึยัง ซึ่งเราเองก็จองที่พักช่วงที่มีส่วนลดเพิ่มเหมือนกันเพราะมันถูกกว่าเดิมจากที่ถูกอยู่แล้วไปอีกหลายร้อยเชียว
2.) พอเข้าหน้าดูที่พักของเมืองนั้นๆแล้วให้กดไปที่ “ดีลกับอโกด้า” จะโชว์ที่พักที่ทำโปรพิเศษกับอโกด้า โดยราคาจะลดอีกกว่าช่วงปกติ บางครั้งอโกด้าจะใช้การใบ้ว่าเป็นโรงแรมไหนให้เราลองหาเอาเอง เราคาดว่าแบบนั้นคงถูกสุดๆจริงๆ
3.การเดินทางภายในเชียงใหม่ : เราเลือกการเช่ารถยนต์เพราะสะดวกในการเดินทางที่ที่ไกลจากตัวเมือง แถมคุณพ่อคุณแม่เราเชี่ยวชาญเส้นทางในเชียงใหม่ทำให้การเช่ารถเที่ยวกันเองเพิ่มความเป็นส่วนตัวในการเดินทาง
4.สภาพอากาศ : ช่วงที่เราไปเป็นหน้าฝนที่ครึ้มและมีฝนตกปรอยๆตลอดวัน คนไทยไม่ค่อยเตรียมร่มไป แต่เหล่าคนจีนมีร่มพร้อมตลอด เตรียมกันมาดีจริงๆ
5. รูปภาพในกระทู้ : รูปภาพทั้งหมดในกระทู้ถ่ายจาก Samsung Galaxy A5 (2017) โดยไม่ผ่านฟิลเตอร์ใดๆค่ะ
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
*** กระทู้นี้ตั้งใจทำมาเพื่อแชร์ประสบการณ์ให้กับผู้ที่ต้องการท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่และนักอ่านพันทิปทั้งหลาย และยังเป็นการขอบคุณกระทู้ท่องเที่ยวและบทความเกี่ยวกับเชียงใหม่อื่นๆที่เป็น Reference ในการเที่ยวของเรา
ค่าใช้จ่ายทั้งหมดมาจากเงินของเราทั้งนั้น เลือกเอง จ่ายเอง ไม่ได้มีสปอนเซอร์มาสนับสนุนใดๆทั้งสิ้นที่ทำรีวิวเพราะอยากแบ่งปันให้ทุกๆท่าน
ดังนั้น รีวิวทั้งหมดนี้เป็นความคิดเห็นและประสบการณ์ในระหว่างการเตรียมตัวและการเดินทางของเรา โปรดใช้วิจารณญาณในการเสพกระทู้นะคะ ***
ปล.ฝากกระทู้รีวิวท่องเที่ยวอื่นๆของเราด้วยนะคะ[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
การเดินทางจากสนามบินสุวรรณภูมิไปสนามบินนานาชาติเชียงใหม่
ขาไปเราเลือกใช้บริการการบินไทยเที่ยวบิน TG104 ที่มีโปรโมชั่นเที่ยวบินละ 1,300 บาทเท่านั้น ถูกและดีมีอยู่จริง แม้ว่ามีเป็นช่วงๆก็ตาม สำหรับการบินไทยในประเทศนั้นสามารถทำ Online Check-in และเลือกที่นั่งได้ล่วงหน้า 24 ชั่วโมงโดยเราก็แนะนำให้ทำมาก่อนเพื่อความรวดเร็วในขั้นตอนที่สนามบินค่ะ โดยเคาทเตอร์ Bag Drop ของการบินไทยภายในประเทศจะอยู่ที่ Row C Counter 1 ใช้เวลาไม่นานเลย จากนั้นเราก็สามารถเข้าสู่โซนด้านในได้เลย
หลังผ่านด่านตรวจสัมภาระติดตัวและเอกสารต่างๆซึ่งอยู่ระหว่าง Row B และ C ใครเดินทางการบินไทยก็ไม่ต้องเดินไกลซักนิด จากนั้นเราก็เดินลงบันไดเลื่อนสู่โซนผู้โดยสารขาออกในประเทศจะอยู่ที่ 2 ของสนามบินสุวรรณภูมิซึ่งถ้ามองผ่านกระจกใสจะเห็นว่าอยู่ชั้นเดียวกับผู้โดยสารขาเข้าต่างประเทศ
เกตเราอยู่ที่ B5 ในสุดของกิ่ง B เลยทีเดียว พอเข้าไปในเกตก็พบเครื่องบินที่จะพาเราเชียงใหม่รอพร้อมอยู่เรียบร้อย การบอร์ดดิ้งใช้เวลาค่อนข้างนานอาจจะเพราะเครื่องค่อนข้างใหญ่สำหรับเดินทางในประเทศที่เวลาต่างๆค่อนข้างน้อย
การตกแต่งภายในเครื่องเล่นโทนสีที่แตกต่างของแต่ละที่นั่ง คาดว่าน่าจะใช้เครื่องที่เคยบินต่างประเทศมาก่อน ที่นั่งเป็นแบบ 2-4-2 เครื่องเก่าอย่างเห็นได้ชัดดูจากทีวีส่วนตัว แต่ความกว้างขวางต้องยกให้จริงๆ ไม่มีอึดอัด นั่งไขว้ห้างได้สบาย มีหมอนให้แต่ละที่นั่งด้วย
อาหารว่างบนเครื่องเป็นขนมปังไส้กรอกซอสพิซซ่าพร้อมน้ำแร่ ขนมปังเหมือนจะน้อยแต่อิ่มอย่างไม่น่าเชื่อ แถมยังการเสิร์ฟชากาแฟหลังจากเสิร์ฟอาหารเป็นการล้างปากอีกด้วย เพียงอึดใจเดียวเครื่องบินลำใหญ่ก็พาเราเข้าสู่สนามบินเชียงใหม่อย่างปลอดภัย เครื่องใหญ่ลงจอดนิ่มกว่า
ที่พักในเชียงใหม่
เราเลือกพักที่โรงแรม Kokotel Nimman เพราะการตกแต่งที่ดูไม่เยอะจนเกินไป แต่สามารถผสมน้องแกะ สัญลักษณ์ของแบรนด์ไปในทุกๆจุดอย่างเป็นธรรมชาติแถมน่ารักมากๆด้วย โรงแรมตั้งอยู่ที่ถนน 2 เชียงรายอยู่ในซอยใกล้กับ Warm UP ซึ่งก็ถือว่าอยู่ติดกับย่านนิมมานสุดๆ
เราพักในห้อง Triple Room พักได้ 3 คน ห้องกว้างขวางมากพร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน แถมยังมีอาหารเช้าแสนอร่อยให้บริการในตอนเช้าด้วย ราคาต่อคืนรวมทุกภาษีแล้วอยู่ที่ประมาณ 2,050 บาท(เราจองล่วงหน้าไม่ถึงเดือนค่ะ)
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้