สวัสดีหน้าฝนค่ะทุกคน ฝนตกบ่อยๆแบบนี้ อากาศก็จะน่านอนหน่อยๆ บางทีวันหยุดอยู่บ้านอยากจะปิ๊งไอเดียงานสักหน่อย ก็โดนขัดขวางด้วยบรรยากาศเย็นๆที่น่านอนจนเตียงนอนต้องเป็นคำตอบสุดท้ายทุกทีใช่มั้ยล่ะคะ หรือบางคนอาจจะอยากออกจากบ้าน หาร้านคาเฟ่น่ารักๆ บรรยากาศดีๆ ราคาไม่แพงไว้ได้นั่งชิลล์กับเพื่อนหรือคุณแฟน วันนี้เรามีร้านคาเฟ่ที่ตอบโจทย์ย่านใจกลางเมืองมานำเสนอทุกคนกันค่ะ รับรองเลยว่าบรรยากาศร้านนี้จะไม่ทำให้สายกินและสายชิลล์ต้องผิดหวัง หรือถ้าจะเปลี่ยนที่นั่งคิดไอเดียงานมาเป็นที่นี่ ก็อาจจะได้ไอเดียดีๆกลับไปเลยทีเดียว
ร้านนี้ชื่อร้านว่า D.E.D Thailand ซึ่งถ้าอ่านเป็นภาษาไทยก็คือ “เด็ด” นั่นเองค่ะ ส่วนตัวอักษร 3 ตัวนั้น ย่อมาจาก Delicious Extraordinary Dough ที่เป็นตัวชูโรงและของขึ้นชื่อของร้านนี้ นั่นก็คือ ร้านนี้มีแป้งสูตรพิเศษแสนอร่อยที่นำมาประกอบเป็นอาหารให้เรารับประทานกันค่ะ โดยแป้งขนมปังสูตรของเด็ดนี้ เป็นแป้งขนมปังที่มีการผสมสูตรกันของ 2 สัญชาติ คือแป้งบิออชจากฝรั่งเศส กับแป้งครัวซองต์ แล้วผสมผสานกับความเป็นไทยด้วยหน้าต่างๆ เช่น หน้ากะเพรา หน้ามัสมั่น เป็นต้น ดูสิคะ แค่ชื่อร้านก็มีกิมมิคแล้ว แถมด้วยแป้งสูตรพิเศษที่ขึ้นชื่อแล้วเป็นใครก็ต้องแวะเข้าไปค่ะ
ตัวร้านจะติดอยู่กับหอสมุดกรุงเทพฯ ซึ่งตั้งอยู่ที่ถนนตะนาว ก่อนที่จะเข้าไปถึงถนนข้าวสารค่ะ ด้วยความที่เราเป็นศิษย์เก่าโรงเรียนสตรีวิทยา ทำให้ค่อนข้างคุ้นเคยกับพื้นที่บริเวณนี้ และจะเรียกบริเวณนี้ว่าสี่แยกคอกวัวค่ะ ในใจก็คิดนะคะว่า ทำไมตอนเรียนอยู่ถึงไม่มีคาเฟ่น่ารักๆแบบนี้ให้มานั่งเล่นกันน้า ถ้าตอนนั้นมีคาเฟ่แบบนี้ต้องได้กลับบ้านเย็นทุกวันแน่ๆเลย เนื่องจากร้าน D.E.D Thailand มีโลเคชั่นตั้งอยู่แบบนี้ กลุ่มเป้าหมายหลักๆของทางร้านจึงแบ่งได้ 3 กลุ่ม คือ ผู้ที่มาใช้บริการหอสมุด แล้วอยากผ่อนคลายความเมื่อยล้าจากการอ่านหนังสือ นักเรียนจากโรงเรียนต่างๆที่อยู่ใกล้ๆร้าน ที่ต้องการรับประทานอาหารก่อนเข้าเรียนหรือหลังเลิกเรียน หรือเป็นที่พบปะสังสรรค์กัน และอีกกลุ่มคือนักท่องเที่ยวทั้งเอเชีย และกลุ่มนักท่องเที่ยวบริเวณถนนข้าวสาร ที่อยากลิ้มรสชาติอาหารไทย
หน้าร้านก็จะเป็นแบบนี้ค่ะ โดยที่มีเจ้ามาสคอตหมีตัวสีม่วงที่ชื่อ “น้องเผือก” ตั้งต้อนรับอยู่ข้างหน้า
อย่างที่บอกไว้ตอนต้นค่ะ ตัวร้านจะอยู่ติดกับหอสมุดกรุงเทพฯเลย ติดแบบเชื่อมติดกันจริงๆค่ะ ถ้าอ่านหนังสือแล้วหิว ก็สามารถออกมานั่งชิลล์หาอะไรกินต่อได้ หรือถ้าใครกินเสร็จแล้วอยากจะอ่านหนังสือ ก็สามารถเดินเข้าไปยังหอสมุดได้เลยเช่นกัน
เมื่อเช้ามาในร้าน สิ่งแรกที่เห็นคืองานอาร์ตบริเวณกำแพงของร้านค่ะ หลายๆคนอาจจะคุ้นเคยกับลายเส้นแบบนี้กันใช่มั้ยคะ นี่คือลายเส้นที่เป็นเอกลักษณ์ของคุณ SUNTUR (ซันเต๋อ) ที่โด่งดังนั่นเอง ซึ่ง Suntur เป็นชื่อนามแฝงของ ยศนันท์ วุฒิกรสมบัติกุล นักวาดภาพประกอบรุ่นใหม่ไฟแรงระดับแถวหน้าของเมืองไทย ธนาคารไทยพาณิชย์ได้เลือกใช้เขาในฐานะ Influencer สำหรับโฆษณาผลิตภัณฑ์ SCB Prime เป็นต้น พอบอกแบบนี้ หลายๆคนก็คงจะพอนึกถึงลายเส้นแบบนี้ออกใช่มั้ยคะ
ภายในร้านจะค่อนข้างเน้น concept โล่ง โปร่ง สบายค่ะ ออกแนว mood&tone ที่มีการผสมผสานสีในร้านให้รู้สึกสบายตา มีสีโทนไทยๆที่ช่วยทำให้รู้สึกสบายใจ เพราะเรารู้สึกแบบนั้นจริงๆนะตั้งแต่เดินเข้ามา 5555555 ร้านจะไม่คับแคบค่ะ เพดานจะอยู่ค่อนข้างสูง มีโคมไฟเล็กๆห้อยลงมาจากเพดานอย่างลงตัว ส่วนเรื่องโต๊ะและเก้าอี้ก็มีหลายแบบให้ได้เลือกนั่งค่ะ มีทั้งเป็นโต๊ะนั่งแบบธรรมดา โต๊ะนั่งมองวิวถนน ไปจนถึงโต๊ะนั่งพื้น ที่มีเบาะสามเหลี่ยมไว้รองรับ แม้ร้านจะคลาสสิคออกโมเดิร์น แต่ก็ยังคงมีความเป็นไทยไว้ให้ได้สัมผัสอยู่ค่ะ
อันนี้จะเป็นเมนูของทางร้านค่ะ สิ่งที่เห็นได้ชัดเลยคือชื่อเมนูที่ครีเอทมากๆ แต่ละเมนูจะมีชื่อที่ทำให้ชวนสงสัยว่า ตกลงแล้วมันคืออะไรกันนะ? และอีกอย่างที่เห็นได้ชัดคือราคาที่ไม่แพงเลย แต่ละอย่างราคาไม่เกินเอื้อมทั้งนั้นเลยค่ะ พอหันข้างๆก็จะเจอโปสเตอร์ที่บอกรายละเอียดเกี่ยวกับแป้งสูตรพิเศษอยู่ค่ะ
อย่างที่ได้บอกไปตอนต้นค่ะ ตัวย่อของชื่อร้านสื่อถึงแป้งสูตรพิเศษแสนอร่อยที่ทางร้านกระซิบบอกว่าต้องลองชิมเองถึงจะรู้ว่ารสชาติเป็นยังไง แถมยังบอกอีกว่าแป้งทำใหม่อบใหม่แบบวันต่อวันด้วย แล้วเราจะรอช้าอยู่ทำไม ก็ต้องรีบกินสิคะ
สำหรับเมนูที่เราจะรีวิวในวันนี้ ขอเริ่มจากของจานของคาวก่อนแล้วกันค่ะ เนื่องจากทางร้านโปรยเรื่องแป้งมาซะขนาดนี้ เราจะพลาดการลิ้มลองเมนูที่ทำจากแป้งนี้ได้ยังไงกัน
จานแรกเลยดีกว่าค่ะ ชื่อของจานนี้คือ “เด็ดชีสสาด กะเพราหมูแสบ (Cheesy Thai Basil Pork DED)” (65.-)
สำหรับจานนี้นะคะ เราขอให้คะแนนเต็มเลย จริงๆแล้วเป็นคนที่ไม่ค่อยชอบกินกะเพราเท่าไรเพราะไม่ชอบความเผ็ดจากกะเพรา แต่สำหรับจานนี้ บอกได้เลยว่ารักเลยค่ะ ด้วยตัวแป้งที่กรอบ หั่นไปนี่ได้ยินเสียงกรอบดังเลยค่ะ เนื้อข้างในแป้งก็นุ่ม แป้งไม่หนาเกินไป ส่วนหน้าของกะเพรานั้นอัดแน่นไปด้วยหมูสับและรสชาติเครื่องปรุงกะเพราที่ครบเครื่อง และไม่เผ็ดมากค่ะ ตรงกับ concept ร้านที่ว่า สร้างเมนูขึ้นมาเพื่อให้รับประทานได้ทุกเพศทุกวัยจริงๆ เพราะสามารถทานได้เรื่อยเลยค่ะ ตัวส่วนผสมทุกอย่างของจานนี้ลงตัวมาก จริงๆก็แอบคิดว่าชีสกับกะเพราจะเข้ากันได้ยังไง แต่พอได้กินแล้ว ยอมแพ้ค่ะ มันเข้ากันอย่างลงตัวจริงๆ
จานต่อมาดีกว่าค่ะ จานนี้ก็มีส่วนประกอบหลักคือแป้งเด็ดเช่นเดียวกัน จานนี้ชื่อว่า “เด็ดผักโขมห่มสไบ (Cheesy Spinach DED)” (65.-) ตัวหน้าของจานนี้ก็คือผักโขมอบชีสนั่นเองค่ะ ซึ่งปกติแล้วแฟนเราจะเป็นคนที่เลี่ยนชีสง่ายมาก แต่กลายเป็นว่าจานนี้โดนเลื่อนไปไว้หน้าคุณชายซะเฉย อ้าว งงเลย 555555 พอถามว่าอร่อยมั้ย เค้าบอกว่าอร่อยมากค่ะ เราก็ได้ลองกินเหมือนกัน อร่อยจริงๆค่ะ ตัวนี้จะค่อนข้างรสชาติต่างกับจานแรก จานนี้จะเด่นในเรื่องของความหอมชีสและความละมุนของรสชาติผักโขมอบชีส ชีสไม่เลี่ยนเลยจริงๆค่ะ เรากินสลับสองจานได้เรื่อยๆเลย ผักโขมมีความหวาน และที่ไม่ต่างกันของจานแรกก็คือตัวแป้งสูตรพิเศษนั่นเอง
พอกินสองจานของคาวแล้ว กล้ายืนยันเลยค่ะว่าแป้งเด็ดนี่คือเด็ดจริงๆ ไม่ใช่แค่คำโปรยเท่านั้นเลย
ต่อของหวานและเครื่องดื่มในคอมเม้นนะคะ ^^
[SR] [Review] D.E.D Thailand Café … Café เพื่อสายอ่าน สายกิน และสายชิลล์
สำหรับจานนี้นะคะ เราขอให้คะแนนเต็มเลย จริงๆแล้วเป็นคนที่ไม่ค่อยชอบกินกะเพราเท่าไรเพราะไม่ชอบความเผ็ดจากกะเพรา แต่สำหรับจานนี้ บอกได้เลยว่ารักเลยค่ะ ด้วยตัวแป้งที่กรอบ หั่นไปนี่ได้ยินเสียงกรอบดังเลยค่ะ เนื้อข้างในแป้งก็นุ่ม แป้งไม่หนาเกินไป ส่วนหน้าของกะเพรานั้นอัดแน่นไปด้วยหมูสับและรสชาติเครื่องปรุงกะเพราที่ครบเครื่อง และไม่เผ็ดมากค่ะ ตรงกับ concept ร้านที่ว่า สร้างเมนูขึ้นมาเพื่อให้รับประทานได้ทุกเพศทุกวัยจริงๆ เพราะสามารถทานได้เรื่อยเลยค่ะ ตัวส่วนผสมทุกอย่างของจานนี้ลงตัวมาก จริงๆก็แอบคิดว่าชีสกับกะเพราจะเข้ากันได้ยังไง แต่พอได้กินแล้ว ยอมแพ้ค่ะ มันเข้ากันอย่างลงตัวจริงๆ
ต่อของหวานและเครื่องดื่มในคอมเม้นนะคะ ^^
SR - Sponsored Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ SR โดยที่เจ้าของกระทู้
ข้อมูลเพิ่มเติม
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น