ตั้งฐานจิตทำบุญโรงพยาบาล

ตั้งฐานจิตทำบุญโรงพยาบาล

    สาธุ... ลูกขอนอบน้อมคารวะสักการะบูชา พ่อปู่หมอชีวกโกมารภัจจ์ ลูกขอเจริญรอยตามพ่อปู่ฯ ทำบุญมอบเงินปัจจัยนี้ เพื่อแก้ทุกข์ บำรุงสันติ ให้คนต่างๆ หายจากความทุกข์ ความเดือดร้อน ปลดทุกข์ให้ท่าน สุขนั้นถึงตัว สาธุ โอม...

ทำไมต้องทำบุญที่โรงพยาบาลและวัด
    เหตุผลทำไมเราต้องไปทำบุญที่โรงพยาบาล เพราะโรงพยาบาลเป็นแหล่งที่รวมของทุกข์ ทุกๆ ด้านเลย
    เปรียบเสมือนกับว่า ถ้าเราจะทำบุญกับผี เราก็ต้องทำบุญที่นรก ทำบุญกับยมบาล
    "โรงพยาบาล" ก็เปรียบเสมือน "นรก" เป็นที่รวมความทุกข์ของมนุษย์
    ส่วนเมืองนรก ก็เป็นที่รวมความทุกข์ของผี เป็นคุกของผี ของคนที่ตายแล้วติดอกุศลกรรม ติดอาญา
    ถ้าเราจะเปรียบเทียบให้เห็นง่ายๆ แบ่งแยกให้เห็นชัดเจน
    พวกที่ติดคุกก็เปรียบเสมือนติดขุมนรก
    แต่ถ้าเป็นโรงพยาบาล ก็คือ "ว่าที่ ลงอาญา" สามารถอยู่ข้างนอกได้ แต่ก็มีโทษแล้ว ถ้าไม่มีโทษก็แสดงว่าไม่เจ็บป่วย คือ ลงอาญาแต่สามารถไปไหนมาไหนได้
    แต่ถ้าในเมืองนรก ติดคุก โดนกักขัง กักกันแล้ว เพราะถูกพิจารณาแล้ว
    อันนี้มันเป็นทุกข์ มีการรอลงอาญา มีการแก้ไขกรรมได้ แก้ตัวได้ เช่น ถ้าเราเข้าโรงพยาบาลเสร็จแล้ว ถ้าเราทำตัวดี ก็แก้ได้ แต่ถ้าหากติดคุกในเมืองนรกแล้ว แก้ตัวยาก ถ้าจะแก้ก็ต้องใช้เวลามาก ต้องกี่ปี กี่ปี ถึงจะได้ลดโทษ มีการโปรดสัตว์ ถึงจะออกมาได้
    โรงพยาบาลก็เปรียบเสมือนแหล่งรวมนรกบนดิน
    ฉะนั้น เราไปบริจาค ทำบุญที่โรงพยาบาลมันง่าย เพราะเป็นแหล่งศูนย์รวมความทุกข์ เราเข้าไปบริจาคเงิน ถึงแม้เราจะไม่ได้อธิษฐาน เงินนี้ก็ไปได้ทุกประเภท แต่ถ้าเราอธิษฐานเจาะจงก็จะดี
    สมมติเรา ทำบุญเกี่ยวกับ "ยา" อานิสงส์ที่จะไปช่วยแก้ไขวิบากกรรมของเรา เช่น เราเคยไปกลั่นแกล้งให้เขาได้รับการหิวโซ อดอาหาร บุญกุศลนี้ก็จะไปแก้ไขไม่ให้เราเป็นโรคกระเพาะ เป็นต้น
    การทำบุญกับโรงพยาบาลจะได้อานิสงส์มาก เพราะว่าเป็นศูนย์รวมของความทุกข์ คนที่บอกว่าไปโรงพยาบาลว่าไม่ทุกข์นี่ไม่มีหรอก จะต้องทุกข์อย่างไรอย่างหนึ่ง
    แม้แต่คนที่ไม่มีลูกก็ต้องไปโรงพยาบาลก็ทุกข์เหมือนกัน ทุกข์เพราะไม่มีลูก ขอให้หมอช่วยให้มีลูก
    บางคนบอกว่าจะไปคลอดลูก การคลอดลูกก็ต้องทุกข์ก่อน แล้วเราเห็นลูกแล้วเราถึงจะมีสุข ดังที่พระท่านพูดว่า เป็นทุกข์กองใหม่ขึ้นมา ยังไงๆ ก็เป็นทุกข์
    การทำบุญโรงพยาบาลดีที่สุด ก็เพราะว่าเราจะได้ไม่ต้องไปเที่ยววิ่งหา เพราะว่าทุกคนรวมอยู่ ณ ที่ตรงนี้แล้ว รอให้เรามาช่วยเหลือ
    นี่แหละ เราควรทำบุญที่โรงพยาบาลจะได้ผลเร็ว
    การทำบุญกับวัดและโรงพยาบาล แตกต่างกันตรงไหน
    วัดก็เป็นที่รวมของทุกข์เช่นเดียวกัน เช่น คนทุกข์ทางจิตใจ ทุกข์ทางปัญญา มากกว่า
    แต่ถ้าทุกข์ทางโรงพยาบาลจะเป็นทุกข์ทางด้านร่างกาย
    จริงๆ แล้ว วัดต้องให้ปัญญา คนที่ไปวัดส่วนใหญ่ทุกข์ทางปัญญา ทุกข์ทางจิตใจ

    จิตใจนี้หมายถึง ความคิดความอ่าน ไม่ใช่ร่างกาย แต่เป็นร่างกายจะต้องไปที่โรงพยาบาลสวนปรุง โรงพยาบาลศรีธัญญา โรงพยาบาลจิตเวช เป็นต้น
    ถ้าเราไปโรงพยาบาลจะเป็นทุกข์ทางกาย หรือทุกข์ทางอินทรีย์
    ถ้าเราไปโรงพยาบาลทางจิตเวช จะเป็นทุกข์ทางโรคจิต โรคประสาท โรคสมอง ทางจิตความคิด
    ถ้าเราไปวัด
    ๑. ไปแก้ทุกข์ทางจิตวิญญาณ นี่แหละสูงสุดเลย
    ๒. จิตของเราผิดกับสิ่งใดสิ่งหนึ่งแล้วเราเป็นทุกข์ เราเรียกว่า เป็นทุกข์ทางปัญญา คือ ปัญญาเราน้อยไป
    เพราะอะไรเราถึงทุกข์ทางปัญญา เพราะว่าเราปัญญาน้อยเราเลยไปเกิดเหตุแห่งทุกข์ มีการทำผิด เป็นต้น ถ้าสมมติว่าเรามีปัญญาตัวนี้ เราก็ไม่ต้องไปก่อเหตุตรงนี้เราก็จะได้ไม่ทุกข์
    ฉะนั้น เวลาเราไปทำบุญที่โรงพยาบาล เราควรตั้งฐานจิตว่า
    ให้คนที่มีความทุกข์ทางร่างกาย ให้ได้รับการรักษา เราก็เอื้อเฟื้อความเป็นสิ่งต่างๆ ให้เขาได้รักษาได้หายจากทุกข์
    พอเขาหายจากทุกข์ กลายเป็นว่า "เราแก้ทุกข์ให้เขา สุขนั้นก็ถึงเรา"
    พอเราไปวัด ไปทำบุญที่วัด สุขของตนคืออะไร? สุขของตน คือ เราได้ปัญญาขึ้น ทำให้เราไม่ต้องไปทำผิด
    อานิงสงส์ ที่เราไปทำบุญที่โรงพยาบาลจิตเวช ทำให้เรามีจิตที่เข้มแข็ง มีประสาทที่ดี มีสมองที่ดี เพราะว่าเราไปช่วยในสิ่งที่เขาไม่ดีให้กลับกลายมาเป็นดี สิ่งที่ดีก็จะกลับมาคืนแก่เรา
    ซึ่งทั้งหมดก็เป็นหลักเดียวกัน คือ     "แก้ทุกข์ให้ท่าน สุขนั้นถึงตัว"

อ.พรหมสิทธิ์  ทิพย์ธาดาวงศ์
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่