....ดูกรภิกษุทั้งหลาย ธรรม ๒ อย่างนี้ ย่อมเป็นไปเพื่อ
ความตั้งมั่น ไม่ฟั่นเฟือน ไม่เลือนหายแห่งสัทธรรม ๒ อย่างเป็นไฉน คือ
บทพยัญชนะที่ตั้งไว้ดี ๑ อรรถที่นำมาดี ๑ แม้เนื้อความแห่งบทพยัญชนะที่ตั้งไว้
ดีแล้ว ก็ย่อมเป็นอันนำมาดี ดูกรภิกษุทั้งหลาย ธรรม ๒ อย่างนี้แล ย่อมเป็น
ไปเพื่อความตั้งมั่น ไม่ฟั่นเฟือน ไม่เลือนหายแห่งพระสัทธรรม ฯ...................
....บทพยัญชนะที่ตั้งไว้ดี คือ เนื้อความที่ตรง ชัดเจน ไม่กำกวม เช่น
สิ่งไหนไม่เที่ยง สิ่นนั้นเป็นทุกข์ สิ่งไหนเป็นทุกข์ สิ่งนั้นเป็นอนัตตา
....อรรถที่นำมาดี นำมาถูกต้อง คือ หมายถึงสิ่งที่ไม่เที่ยง และเป็นทุกข์เท่านั้น
ที่เป็นอนัตตา ไม่มีสิ่งอื่น
หรือบทพยัญชนะที่ตรัสว่า..
....สิ่งใดสิ่งหนึ่งมีความเกิดขึ้นเป็นธรรดา สิ่งนั้นทั้งหมดย่อมมีความดับไปเป็นธรรมดา
....อรรถที่นำมาดี นำมาถูกต้อง คือ หมายถึงที่มีความเกิดขึ้นเป็นธรรมดา แต่
ไม่ว่าจะอะไร เท่าไหร่ ที่มีการก่อกำเนิดเกิดขึ้นแม้ทั้งหมด ก็ย่อมมีความดับไปเป็นธรรมดา
ไม่มีสิ่งใดหลงเหลืออยู่ได้เลย...
มีต่อ....
ธรรม ๒ อย่าง ย่อมเป็นไปเพื่อ ความตั้งมั่น ไม่ฟั่นเฟือน ไม่เลือนหายแห่งสัทธรรม
ความตั้งมั่น ไม่ฟั่นเฟือน ไม่เลือนหายแห่งสัทธรรม ๒ อย่างเป็นไฉน คือ
บทพยัญชนะที่ตั้งไว้ดี ๑ อรรถที่นำมาดี ๑ แม้เนื้อความแห่งบทพยัญชนะที่ตั้งไว้
ดีแล้ว ก็ย่อมเป็นอันนำมาดี ดูกรภิกษุทั้งหลาย ธรรม ๒ อย่างนี้แล ย่อมเป็น
ไปเพื่อความตั้งมั่น ไม่ฟั่นเฟือน ไม่เลือนหายแห่งพระสัทธรรม ฯ...................
....บทพยัญชนะที่ตั้งไว้ดี คือ เนื้อความที่ตรง ชัดเจน ไม่กำกวม เช่น
สิ่งไหนไม่เที่ยง สิ่นนั้นเป็นทุกข์ สิ่งไหนเป็นทุกข์ สิ่งนั้นเป็นอนัตตา
....อรรถที่นำมาดี นำมาถูกต้อง คือ หมายถึงสิ่งที่ไม่เที่ยง และเป็นทุกข์เท่านั้น
ที่เป็นอนัตตา ไม่มีสิ่งอื่น
หรือบทพยัญชนะที่ตรัสว่า..
....สิ่งใดสิ่งหนึ่งมีความเกิดขึ้นเป็นธรรดา สิ่งนั้นทั้งหมดย่อมมีความดับไปเป็นธรรมดา
....อรรถที่นำมาดี นำมาถูกต้อง คือ หมายถึงที่มีความเกิดขึ้นเป็นธรรมดา แต่
ไม่ว่าจะอะไร เท่าไหร่ ที่มีการก่อกำเนิดเกิดขึ้นแม้ทั้งหมด ก็ย่อมมีความดับไปเป็นธรรมดา
ไม่มีสิ่งใดหลงเหลืออยู่ได้เลย...
มีต่อ....