พี่ทำงานมาสักพักหนึ่งแล้ว มีน้องๆจบใหม่
โลกที่เคยสวยงามเปลี่ยนไปเมื่อเข้าสังคมของการทำงาน
ทำให้น้องๆไม่มีความสุข ทุกข์ใจ
จากการถูกนินทา ตกเป็นเป้าสายตาของใครๆ
พี่อยากเป็นกำลังใจให้ ในฐานะที่ผ่านตรงนั้นมาก่อนค่ะ

นี่เป็นวิธีที่ทำให้เราอยู่กับชาวบ้านในยุคสี่จีที่มีจริตเยอะ
อย่างหัวใจเป็นสุข  ไม่ว่าอย่างไร อย่าลืมฝันของตัวเอง
อย่าให้เพียงคำพูด การกระทำของใครคนหนึ่ง ทำให้เป้าหมายของเรา
ต้องเปลี่ยนไป เป็นกำลังใจให้ค่ะ

วิธีอยู่ร่วมกับคนอย่างมีความสุข

1. ก่อนออกจากบ้านอย่าลืมใส่เครื่องประดับ นั่นคือ “รอยยิ้ม” ยิ้มไว้ก่อน คนสวยน้อย สามารถสวยขึ้นได้ทันทีเมื่อมีรอยยิ้ม
พูดอะไรก็สำเร็จโดยง่าย เมื่อพูดคุยกับใครสักคนเสร็จ จงอวยพรเขา “โชคดีนะคะ”หรือ “ขอให้วันนี้เป็นวันที่ดีของคุณนะคะ”

2. ถ้ามีใครสักคนมาจุ้นจ้านเรื่องส่วนตัวของเรา จงยิ้มตอบ แต่ไม่ต้องตอบทุกคำถาม death air
นั้นมีประโยชน์เสมอเมื่อเราเป็นผู้สร้าง และนั่นแปลว่าเรามีดีให้คนอื่นสนใจ
ในที่สุดเขาก็หยุดจุ้นเอง เพราะคุยกับเราก็เหมือนคุยกับท่อนไม้ (อรรถรสไม่มี)

3. เมื่อถูกนินทา อย่าโกรธหากเป็นเรื่องจริง ขอบคุณเขาที่เขามาเป็นกระจกสะท้อนตัวเรา
และอย่าโกรธอีกแหละถ้ามันเป็นเรื่องไม่จริง ก็มันเรื่องไม่จริง จะไปสนใจทำไม
คนที่นินทาคนอื่น คือคนที่มีความทุกข์ที่ยังไม่มีปัญญามากพอที่จะค้นพบวิธีดีๆที่จะทำให้ตัวเองมีความสุข
(สงสารเขาเถอะ)

4. อย่าสร้างศัตรูโดยไม่จำเป็น เครื่องบินบนฟ้ายังชนกันได้ เรือในมหาสมุทรยังชนกันได้
วันหนึ่งอาจวนเวียนมาเจอกัน วันนี้เพื่อนกัน
วันหน้าอาจเป็นเจ้านาย แต่ถ้าหากต้องชน ก็ต้องชนให้ตาย
(หมายถึงไม่เราก็เขาต้องตาย 555)

5. พูดคำขอบคุณกับคำขอโทษให้บ่อย อย่าหยิ่งทนง อย่าเที่ยวมองคนอื่นด้วยหางตา
อย่าเที่ยวพูดจิกใครต่อใคร อย่าเที่ยวอวดอ้างสรรพคุณตนข่มคนจนเกินน่ารัก
นอกจากจะดูเหมือนนางร้ายในละครที่ไม่ฉลาดแล้วยังดูเหมือนพ่อแม่ลืมอบรม
เราคงไม่อยากให้ใครกลับบ้านไปพูดว่า “วันนี้ฉันโชคร้ายจังที่เจอยายนี่”
ดังนั้น จงเป็นคนที่ทำให้คนอื่นรู้สึกโชคดีเสมอเมื่อเจอเรา ยิ่งถ้าเป็นเด็กๆ
มือไม้อ่อน ไปไหนใครก็เอ็นดูเน้อ

6. เมื่อใครสักคนอวดเบ่ง ยกตนข่มเรา ยอมๆเขาไปเถอะ ฟังผ่านๆหู อย่าคิดมาก
นั่นอาจเป็นความสุขไม่กี่อย่างในชีวิตเขาก็ได้นะ

7. คนทุกคนไม่มีใครที่เลวไปหมดและดีไปหมด จงพิจารณาผู้อื่นเพื่อการเรียนรู้ไม่ใช่นินทา
ทุกคนเป็นครูให้เราได้ ไม่ว่าจะดีชั่วแค่ไหน แต่ถ้าพบว่าในแต่ละวันไม่เคยได้เรียนรู้อะไรจากผู้อื่นเลย
นั่นแปลว่าเราเองนี่แหละที่สมองทึบหรือไม่ก็ใจทึบ(อัตตาสูง)

8. appearance เป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้คนตัดสินเราใน 2 วิเมื่อแรกพบ อย่าปฏิเสธมัน
People judge the book by its cover เสมอจ่ะ อยากให้คนเชื่อมือเรา
คุณต้องแต่งตัวแบบพร้อมทำงาน อยากได้รับความเอ็นดูจากผู้ใหญ่อย่าเที่ยวประโคมหน้าผมและแบรนด์เนม
อยากได้ทั้งหมด กาลเทศะจะทำให้เรารอดทุกสถานการณ์

9. เมื่อจับไต๋ได้ว่าใครสักคนโกหกเรา หรือสตอเบอรี่ใส่เรา อย่าไปคาดคั้น
จับผิด หรือกดดันอะไรเขาให้เปลืองพลังเลย
ในเมื่อเราฉลาดพอที่จะรับรู้ได้ว่า ไหนเรื่องจริง ไหนเรื่องแต่ง ไหนเรื่องเติม
และเลือกให้ค่าถูก การนั่งฟังดูชมอะไรเช่นนี้ก็ถือเป็นมหรสพฟรีที่ไม่เสียสตางค์
(  ไม้แก่ดัดยากแล้ว 5555)

10. พรหมวิหาร4 ไม่เคยเป็นเรื่องเชย เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา
ทำให้เราอยู่ได้ในทุกสภาพแวดล้อม แต่จะดีแค่ไหน ก็แล้วแต่ความอึด

ขอให้พี่และผู้อ่านโชคดี อยู่รอดจากปากเหยี่ยว ปากกานะคะ
ด้วยรัก 🌹