วัดพระธาตุดอนเรือง เมืองพง สหภาพพม่า
“...ในโลกจักรวาลนี้ไม่มีอะไรเป็นแก่นสาร ทุกสิ่งทั้งปวงเกิดดับตามเหตุปัจจัยไหลไปผ่านมาและผ่านไป ไม่มีอะไรเหลืออยู่ ไม่ควรไปยึดมั่นถือมั่นด้วยสิ่งใดทั้งโลกนี้และโลกหน้า จงตั้งจิตอุทิศชีวิตที่เหลืออยู่น้อยนี้ ถวายเป็นพุทธบูชา น้อมจิตภาวนาให้รู้แจ้งในรูปนามและสังขารอันไม่เที่ยงทุกข์ เป็นอนัตตาไม่ใช่ตัวตนเราเขาอะไร รู้แจ้งด้วยปัญญาตามความจริงว่าทุกสิ่งทุกอย่างในโลกนี้มีแต่ทุกข์เท่านั้นที่ดับไป นอกจากทุกข์แล้วไม่มีอะไร พระพุทธเจ้าตรัสสอนว่า ทุกข์ควรกำหนดรู้ สมุทัยเหตุให้เกิดทุกข์ควรประหาร นิโรธ ควรทำให้แจ้ง มรรคควรเจริญภาวนาให้เกิด ธรรมะทุกอย่างรวมอยู่ที่จิตดวงเดียว เมื่อจิตรู้ จิตตื่น จิตเบิกบานอย่างยิ่งแล้วย่อมพ้นจากทุกข์ การบำเพ็ญธรรมปฏิบัติธรรมนี้ไม่ได้หวังเพื่ออะไรเป็นอะไรสักอย่าง แต่เป็นไปเพื่ออยู่เย็นเป็นสุขในชีวิตประจำวัน เพื่อความหมดห่วงหมดอาลัยในโลกทั้งสาม เพื่อนิพพานเท่านั้น ขอให้ทุกคนตั้งใจจริงทำจริงปฏิบัติจริงต่อธรรมะ อย่าท้อถอยเอาชีวิตเป็นเดิมพันถึงจะตายด้วยการปฏิบัติธรรมก็ยอม ให้มีกำลังใจเข้มแข็ง และทำจิตให้อ่อนโยนอ่อนน้อมถ่อมตน อย่าคิดว่าเราเป็นคนสำคัญให้ทำตนแบบปกติธรรมดาๆ นี่แหละดีที่สุด เมื่อเราคิดว่าเราเป็นคนสำคัญแล้ว เมื่อผู้อื่นไม่ให้ราคาเรา ไม่นับถือให้ความสำคัญเราแล้ว จิตใจเราจะเป็นทุกข์ร้อนรนสับสนวุ่นวายไปตามกระแสโลกธรรม ขอให้ตั้งใจให้ดีมีสติทุกเมื่อ ทุกขณะจิต เพียงแต่รู้เฝ้า ดูเฝ้าเห็นกายกับใจเคลื่อนไหวไปตามเหตุปัจจัย เป็นเพียงรูปธรรมนามธรรมเท่านั้น เป็นเพียงก้อนทุกข์ ก้อนธาตุ เท่านั้น ไม่ควรไปให้ราคาตัวเองและวัตถุธาตุ สิ่งใดไม่ควรมั่นหมายผูกพันกับสิ่งใดในโลก เราอยู่ในโลกอย่าหลงมายาของโลก ไม่ติดไม่ข้องแวะเกี่ยวกับสิ่งในใจ มีแต่ใจรู้แจ้ง ปล่อยวางสู่ความว่างสภาพเดิมของธรรมชาติแท้ ครูบาบุญชุ่มเทศน์ในตอนท้ายว่า ขอให้ทุกคนจงตั้งจิตตั้งใจให้ดี เราจะได้เกิดมาเป็นมนุษย์ก็ยาก จะได้มาพบพุทธศาสนาก็ยาก จะพบพ่อดีแม่ดี ครูบาอาจารย์ที่ดีก็ยาก ได้สร้างบารมีมาถึงวันนี้ อายุเราจะยืนมาถึงวันนี้ไม่ใช่ง่าย เราป่วย เราไข้หลายครั้งเพราะว่าทุกดวงจิต ทุกชีวิต ทุกวิญญาณก็เป็นไปตามกฎของทุกขัง อนิจจัง อนัตตา ก็เปลี่ยนแปลงไปเรื่อยๆ มันไม่อยู่เหมือนเดิม ก็ทุกสิ่งทุกอย่างต้องเป็นไปตามธรรมชาติ ฉะนั้นเราได้ประคับประคองธาตุขันธ์ของเราอายุของเรามาถึงวันนี้บุญที่สุดแล้ว และเราจะอยู่ต่อไปอีกกี่ปี กี่เดือน กี่วัน กี่ยาม ก็แล้วแต่บุญกุศลของเรา แล้วแต่ธาตุขันธ์ ทุกสิ่งทุกอย่างเป็นของสมมุติ เรายืมเขามาโดยมีธาตุดิน ธาตุน้ำ ธาตุไฟ ธาตุลมและก็ประกอบด้วยขันธ์ทั้ง ๕ มีรูปธรรมนามธรรมเกิดดับอยู่ตลอด..”
ที่มา : คมชัดลึก
โอวาทธรรม ครูบาบุญชุ่ม ญาณสํวโร พระผู้ปฏิบัติดี ต้องไปกราบขอพรจากท่าน
วัดพระธาตุดอนเรือง เมืองพง สหภาพพม่า
“...ในโลกจักรวาลนี้ไม่มีอะไรเป็นแก่นสาร ทุกสิ่งทั้งปวงเกิดดับตามเหตุปัจจัยไหลไปผ่านมาและผ่านไป ไม่มีอะไรเหลืออยู่ ไม่ควรไปยึดมั่นถือมั่นด้วยสิ่งใดทั้งโลกนี้และโลกหน้า จงตั้งจิตอุทิศชีวิตที่เหลืออยู่น้อยนี้ ถวายเป็นพุทธบูชา น้อมจิตภาวนาให้รู้แจ้งในรูปนามและสังขารอันไม่เที่ยงทุกข์ เป็นอนัตตาไม่ใช่ตัวตนเราเขาอะไร รู้แจ้งด้วยปัญญาตามความจริงว่าทุกสิ่งทุกอย่างในโลกนี้มีแต่ทุกข์เท่านั้นที่ดับไป นอกจากทุกข์แล้วไม่มีอะไร พระพุทธเจ้าตรัสสอนว่า ทุกข์ควรกำหนดรู้ สมุทัยเหตุให้เกิดทุกข์ควรประหาร นิโรธ ควรทำให้แจ้ง มรรคควรเจริญภาวนาให้เกิด ธรรมะทุกอย่างรวมอยู่ที่จิตดวงเดียว เมื่อจิตรู้ จิตตื่น จิตเบิกบานอย่างยิ่งแล้วย่อมพ้นจากทุกข์ การบำเพ็ญธรรมปฏิบัติธรรมนี้ไม่ได้หวังเพื่ออะไรเป็นอะไรสักอย่าง แต่เป็นไปเพื่ออยู่เย็นเป็นสุขในชีวิตประจำวัน เพื่อความหมดห่วงหมดอาลัยในโลกทั้งสาม เพื่อนิพพานเท่านั้น ขอให้ทุกคนตั้งใจจริงทำจริงปฏิบัติจริงต่อธรรมะ อย่าท้อถอยเอาชีวิตเป็นเดิมพันถึงจะตายด้วยการปฏิบัติธรรมก็ยอม ให้มีกำลังใจเข้มแข็ง และทำจิตให้อ่อนโยนอ่อนน้อมถ่อมตน อย่าคิดว่าเราเป็นคนสำคัญให้ทำตนแบบปกติธรรมดาๆ นี่แหละดีที่สุด เมื่อเราคิดว่าเราเป็นคนสำคัญแล้ว เมื่อผู้อื่นไม่ให้ราคาเรา ไม่นับถือให้ความสำคัญเราแล้ว จิตใจเราจะเป็นทุกข์ร้อนรนสับสนวุ่นวายไปตามกระแสโลกธรรม ขอให้ตั้งใจให้ดีมีสติทุกเมื่อ ทุกขณะจิต เพียงแต่รู้เฝ้า ดูเฝ้าเห็นกายกับใจเคลื่อนไหวไปตามเหตุปัจจัย เป็นเพียงรูปธรรมนามธรรมเท่านั้น เป็นเพียงก้อนทุกข์ ก้อนธาตุ เท่านั้น ไม่ควรไปให้ราคาตัวเองและวัตถุธาตุ สิ่งใดไม่ควรมั่นหมายผูกพันกับสิ่งใดในโลก เราอยู่ในโลกอย่าหลงมายาของโลก ไม่ติดไม่ข้องแวะเกี่ยวกับสิ่งในใจ มีแต่ใจรู้แจ้ง ปล่อยวางสู่ความว่างสภาพเดิมของธรรมชาติแท้ ครูบาบุญชุ่มเทศน์ในตอนท้ายว่า ขอให้ทุกคนจงตั้งจิตตั้งใจให้ดี เราจะได้เกิดมาเป็นมนุษย์ก็ยาก จะได้มาพบพุทธศาสนาก็ยาก จะพบพ่อดีแม่ดี ครูบาอาจารย์ที่ดีก็ยาก ได้สร้างบารมีมาถึงวันนี้ อายุเราจะยืนมาถึงวันนี้ไม่ใช่ง่าย เราป่วย เราไข้หลายครั้งเพราะว่าทุกดวงจิต ทุกชีวิต ทุกวิญญาณก็เป็นไปตามกฎของทุกขัง อนิจจัง อนัตตา ก็เปลี่ยนแปลงไปเรื่อยๆ มันไม่อยู่เหมือนเดิม ก็ทุกสิ่งทุกอย่างต้องเป็นไปตามธรรมชาติ ฉะนั้นเราได้ประคับประคองธาตุขันธ์ของเราอายุของเรามาถึงวันนี้บุญที่สุดแล้ว และเราจะอยู่ต่อไปอีกกี่ปี กี่เดือน กี่วัน กี่ยาม ก็แล้วแต่บุญกุศลของเรา แล้วแต่ธาตุขันธ์ ทุกสิ่งทุกอย่างเป็นของสมมุติ เรายืมเขามาโดยมีธาตุดิน ธาตุน้ำ ธาตุไฟ ธาตุลมและก็ประกอบด้วยขันธ์ทั้ง ๕ มีรูปธรรมนามธรรมเกิดดับอยู่ตลอด..”
ที่มา : คมชัดลึก