เป็นเหตุการณ์ลูกโป่ง 36 นิ้วแตกระเบิดตรงลานจอดรถ ณ สยาม และมีควันลอยขึ้นตามด้วยไฟลุกที่ท้ายรถ(ซึ่งวางลูกตุ้มลูกโป่งไว้) หลังจากลูกโป่งแตก โดยมีไฟลวกมือของคุณพ่อจขกท.ค่ะ
เริ่มจากการที่จขกท.สั่งซื้อลูกโป่งแฟนซีกับทางร้าน balloon p....... เพื่อถ่ายรูปรับปริญญานอกรอบ ในวันที่ 1 กค. 2561 เพจที่มีคนกดไลค์มากกว่าแสนคน ในราคา 2040 บาทเป็นลูกโป่ง 36 นิ้วและลูกโป่งช่อๆอีก 1 พวง ค่าส่ง 350 บาท นัดส่งที่หน้าธนาคารแห่งหนึ่งตรงสยามแสควร์ ตอน11.00น. โดยส่งรูปจาก google map ไปให้ด้วย พอทางร้านรับ order ถึงขั้นตอนตกลงกันทางร้านแจ้งว่า เจอชั้น G ตรงประตูทางออกไปสยามเซ็นเตอร์ ตรงหน้าประตูสตาบัคค่ะ ก็รู้สึกงงนะคะว่าทำไม จึงสอบถามว่า เพราะอะไรต้องเป็นจุดนั้นคะ ทางร้านแจ้งว่า อ่านผิดค่ะ ขอโทษ ให้ส่งตามที่ลูกค้าแจ้ง
ทางร้านแจ้งว่าสามารถแจ้งกำหนดการได้ก่อน 24ชม. ก่อนส่ง จึงแจ้งเปลี่ยนเป็น 10.00น. พอถึงวันจริงใกล้เวลา 10.00น. โทรถามทางร้านบอกว่าจะไปส่ง 11.00 น. ตามเวลาเดิม จึงถามว่าแจ้งใหม่ไปแล้วนะคะว่า 10.00น. ทางร้านอ้างว่าพนักงานไม่ละเอียดจึงไม่ได้แก้ไข ขอโทษด้วย จึงบอกไปว่ากว่าจะ 11.00น. คงเดินไปถึงมาบุญครองแล้วงั้นไปส่งที่มาบุญครองนะคะ ทางร้านตกลง
หลังจากนั้นได้รับลูกโป่งประมาณเกือบ 11.00น. ถ่ายรูปกับครอบครัวและลูกโป่ง จากนั้นหิวข้าวจึงจะทานข้าวในมาบุญครอง แต่ช่างภาพบอกว่าลูกโป่งเอาเข้าห้างไม่ได้ จึงเอาผูกกับรถเข็นที่ที่บ้านนำมาและคุณแม่ยืนเฝ้าไว้ตรงที่ร่มหน้า skywalk ที่เชื่อมกับสถานีสนามกีฬาแห่งชาติ จะเอาไปเก็บที่รถช่างภาพก็ทักว่ากลัวจะระเบิด
เมื่อทานข้าวเสร็จก็ออกมาหาคุณแม่และลูกโป่งเพื่อเดินไปที่รถเพื่อย้ายสถานที่ถ่ายรูป โดยเดินเลาะ skywalk สนามกีฬาเลี้ยวขวาไปทางโบนันซ่า ซึ่งเป็นทางร่มๆ พอเดินมาถึงลานจอดรถซึ่งเป็นที่โล่งตรงข้างโบนันซ่า เดินมาที่รถเพื่อนำลูกโป่งเก็บไว้ตำแหน่งข้างคนขับ ปรากฏว่าไม่สามารถเก็บได้ทั้งประตูหน้าและหลังเพราะลูกโป่งขนาดใหญ่ จากนั้นจึงคิดว่าเก็บไว้หลังรถก็ไม่ได้กลัวปลิว(รถกระบะ) จึงคิดจะไปรถตุ๊กๆแล้วกอดไว้ ตกลงกันว่าคุณพ่อและจขกท.จะเป็นคนไป ระหว่างรอรถตุ๊กๆก็วางลูกโป่งไว้ด้านหลัง ทันใดนั้นลูกโป่งก็ระเบิดแตกออกมีเสียงดังมาก จขกท.ซึ่งยืนอยู่หลังรถกับคุณพ่อ จขกท.พูดขึ้นมาว่า "อ่ะ ไม่ต้องไปละ" และเห็นควันก่อนหลังจากนั้นเห็นกองไฟ ตกใจมากยืนอึ้ง คุณพ่อซึ่งไวสุด นำลูกโป่งใบอื่นออกจากกันเพื่อไม่ให้ลุกลามมากกว่านี้ กลัวไปโดนรถคันอื่นและกลัวเหตุการณ์รุนแรง จึงโดนไฟลวกที่มือ และพี่สาวที่อยู่บนรถก็บอกว่าให้พี่ชายดับเครื่องยนตร์ ไฟไหม้ ทุกคนก็ลงจากรถ เพื่อหาน้ำมาดับไฟ จขกท.ก็วิ่งไปที่ร้านก๋วยเตี๋ยวและขอน้ำ โดยหันกลับมาอีกทีก็พบว่ามีคนวิ่งมาเอาน้ำขวดลิตรมาให้ สรุปคือมีน้ำประมาณสามขวดไฟจึงดับลงหรือแก๊สหมดก็ไม่แน่ใจ
ทางเราจึงสอบถามไปที่ทางร้าน สอบถามเรื่องราวและความรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ซึ่งทางร้านยืนยันแค่ว่าใช้แก๊สฮีเลียม และส่งใบ cer มาให้ว่าแก๊สฮีเลียมจริง และบอกว่าเป็นไปไม่ได้ที่จะติดไฟเพราะแก๊สฮีเลียมไม่ติดไฟ ซึ่งเป็นความรู้ที่จขกท.พอทราบอยู่แล้ว แต่จากผลิตภัณฑ์ของทางร้านครั้งนี้มันติดไฟ ไม่มีคำขอโทษและการรับผิดชอบใดๆจากทางร้าน ความรับผิดชอบของทางร้านคือให้ใบ cer และขอเวลาตรวจสอบ ซึ่งทางร้านพูดจาไม่ดีเลย เหวี่ยงใส่ลูกค้าตลอด ยืนยันแค่ว่าเป็นไปไม่ได้ที่จะเกิดขึ้น บริเวณรถมีแก๊สอะไรรึเปล่า(ใช้รถกระบะไม่ติดแก๊ส)
จึงสอบถามไปว่าในเมื่อผลิตภัณฑ์มาจากร้านคุณ หากคุณเป็นลูกค้าแล้วได้รับผลิตภัณฑ์ ปรากฏว่าแตกและไฟลุก โดนมือคุณพ่อของคุณ ให้คูณใช้ใจคิดดูว่าความรู้สึกจะเป็นอย่างไร และคุณจะทำอย่างไร
และหากเกิดเหตุการณ์รุนแรงกว่านี้ใครจะรับผิดชอบ ทำไมถึงโยนความผิดให้ลูกค้า โทษสิ่งรอบตัว ขาดแต่โทษตัวเอง
ทางเราทราบว่าลูกโป่งสามารถแตกได้ แต่แตกแล้วไม่ควรเกิดไฟใช่ไหมคะ
จขกท.บอกทางร้านว่าให้เวลารับผิดชอบถึงวันที่ 2 กค. ตอนเที่ยง ไม่งั้นจะไปรีวิว หลังจากที่พูดจาไม่รับผิดชอบมาตลอดทั้งทางไลน์และโทรศัพท์ จึงกลับคำในวันที่ 2 ว่าความปลอดภัยของลูกค้าเป็นสิ่งสำคัญ บอกว่าได้ขอดำเนินการดูกล้องวงจรปิดแล้ว เราจึงขอดูหลักฐานการดำเนินการขอดูกล้อง ปรากฏว่าไม่มี
และอ้างอีกว่านำชิ้นส่วนของที่เกิดเหตุไปเข้า lab เพื่อตรวจสอบ จึงสอบถามว่านำตรงไหน ชิ้นใด บริเวณใดไป ทางร้านแจ้งว่า นำรูปที่ลูกค้าส่งให้ไปเข้า lab จึงแปลกใจว่าทำไมรูปสามารถเข้า lab ได้และใช้เครื่องมือใดตรวจสอบ หมดความน่าเชื่อถือค่ะ เป็นร้านใหญ่แท้ๆ
เราจึงเข้าไปที่เพจ ปรากฏว่าไม่มีให้รีวิวค่ะ
ขอความเห็นว่าควรทำอย่างไรต่อไปดีคะ ขอบคุณค่ะ
จะดำเนินการอย่างไรกับร้านลูกโป่งที่แจ้งว่าอัดแก๊สฮีเลียมแต่พอแตกระเบิดแล้วไฟลุกเกิดความเสียหายคะ
เริ่มจากการที่จขกท.สั่งซื้อลูกโป่งแฟนซีกับทางร้าน balloon p....... เพื่อถ่ายรูปรับปริญญานอกรอบ ในวันที่ 1 กค. 2561 เพจที่มีคนกดไลค์มากกว่าแสนคน ในราคา 2040 บาทเป็นลูกโป่ง 36 นิ้วและลูกโป่งช่อๆอีก 1 พวง ค่าส่ง 350 บาท นัดส่งที่หน้าธนาคารแห่งหนึ่งตรงสยามแสควร์ ตอน11.00น. โดยส่งรูปจาก google map ไปให้ด้วย พอทางร้านรับ order ถึงขั้นตอนตกลงกันทางร้านแจ้งว่า เจอชั้น G ตรงประตูทางออกไปสยามเซ็นเตอร์ ตรงหน้าประตูสตาบัคค่ะ ก็รู้สึกงงนะคะว่าทำไม จึงสอบถามว่า เพราะอะไรต้องเป็นจุดนั้นคะ ทางร้านแจ้งว่า อ่านผิดค่ะ ขอโทษ ให้ส่งตามที่ลูกค้าแจ้ง
ทางร้านแจ้งว่าสามารถแจ้งกำหนดการได้ก่อน 24ชม. ก่อนส่ง จึงแจ้งเปลี่ยนเป็น 10.00น. พอถึงวันจริงใกล้เวลา 10.00น. โทรถามทางร้านบอกว่าจะไปส่ง 11.00 น. ตามเวลาเดิม จึงถามว่าแจ้งใหม่ไปแล้วนะคะว่า 10.00น. ทางร้านอ้างว่าพนักงานไม่ละเอียดจึงไม่ได้แก้ไข ขอโทษด้วย จึงบอกไปว่ากว่าจะ 11.00น. คงเดินไปถึงมาบุญครองแล้วงั้นไปส่งที่มาบุญครองนะคะ ทางร้านตกลง
หลังจากนั้นได้รับลูกโป่งประมาณเกือบ 11.00น. ถ่ายรูปกับครอบครัวและลูกโป่ง จากนั้นหิวข้าวจึงจะทานข้าวในมาบุญครอง แต่ช่างภาพบอกว่าลูกโป่งเอาเข้าห้างไม่ได้ จึงเอาผูกกับรถเข็นที่ที่บ้านนำมาและคุณแม่ยืนเฝ้าไว้ตรงที่ร่มหน้า skywalk ที่เชื่อมกับสถานีสนามกีฬาแห่งชาติ จะเอาไปเก็บที่รถช่างภาพก็ทักว่ากลัวจะระเบิด
เมื่อทานข้าวเสร็จก็ออกมาหาคุณแม่และลูกโป่งเพื่อเดินไปที่รถเพื่อย้ายสถานที่ถ่ายรูป โดยเดินเลาะ skywalk สนามกีฬาเลี้ยวขวาไปทางโบนันซ่า ซึ่งเป็นทางร่มๆ พอเดินมาถึงลานจอดรถซึ่งเป็นที่โล่งตรงข้างโบนันซ่า เดินมาที่รถเพื่อนำลูกโป่งเก็บไว้ตำแหน่งข้างคนขับ ปรากฏว่าไม่สามารถเก็บได้ทั้งประตูหน้าและหลังเพราะลูกโป่งขนาดใหญ่ จากนั้นจึงคิดว่าเก็บไว้หลังรถก็ไม่ได้กลัวปลิว(รถกระบะ) จึงคิดจะไปรถตุ๊กๆแล้วกอดไว้ ตกลงกันว่าคุณพ่อและจขกท.จะเป็นคนไป ระหว่างรอรถตุ๊กๆก็วางลูกโป่งไว้ด้านหลัง ทันใดนั้นลูกโป่งก็ระเบิดแตกออกมีเสียงดังมาก จขกท.ซึ่งยืนอยู่หลังรถกับคุณพ่อ จขกท.พูดขึ้นมาว่า "อ่ะ ไม่ต้องไปละ" และเห็นควันก่อนหลังจากนั้นเห็นกองไฟ ตกใจมากยืนอึ้ง คุณพ่อซึ่งไวสุด นำลูกโป่งใบอื่นออกจากกันเพื่อไม่ให้ลุกลามมากกว่านี้ กลัวไปโดนรถคันอื่นและกลัวเหตุการณ์รุนแรง จึงโดนไฟลวกที่มือ และพี่สาวที่อยู่บนรถก็บอกว่าให้พี่ชายดับเครื่องยนตร์ ไฟไหม้ ทุกคนก็ลงจากรถ เพื่อหาน้ำมาดับไฟ จขกท.ก็วิ่งไปที่ร้านก๋วยเตี๋ยวและขอน้ำ โดยหันกลับมาอีกทีก็พบว่ามีคนวิ่งมาเอาน้ำขวดลิตรมาให้ สรุปคือมีน้ำประมาณสามขวดไฟจึงดับลงหรือแก๊สหมดก็ไม่แน่ใจ
ทางเราจึงสอบถามไปที่ทางร้าน สอบถามเรื่องราวและความรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ซึ่งทางร้านยืนยันแค่ว่าใช้แก๊สฮีเลียม และส่งใบ cer มาให้ว่าแก๊สฮีเลียมจริง และบอกว่าเป็นไปไม่ได้ที่จะติดไฟเพราะแก๊สฮีเลียมไม่ติดไฟ ซึ่งเป็นความรู้ที่จขกท.พอทราบอยู่แล้ว แต่จากผลิตภัณฑ์ของทางร้านครั้งนี้มันติดไฟ ไม่มีคำขอโทษและการรับผิดชอบใดๆจากทางร้าน ความรับผิดชอบของทางร้านคือให้ใบ cer และขอเวลาตรวจสอบ ซึ่งทางร้านพูดจาไม่ดีเลย เหวี่ยงใส่ลูกค้าตลอด ยืนยันแค่ว่าเป็นไปไม่ได้ที่จะเกิดขึ้น บริเวณรถมีแก๊สอะไรรึเปล่า(ใช้รถกระบะไม่ติดแก๊ส)
จึงสอบถามไปว่าในเมื่อผลิตภัณฑ์มาจากร้านคุณ หากคุณเป็นลูกค้าแล้วได้รับผลิตภัณฑ์ ปรากฏว่าแตกและไฟลุก โดนมือคุณพ่อของคุณ ให้คูณใช้ใจคิดดูว่าความรู้สึกจะเป็นอย่างไร และคุณจะทำอย่างไร
และหากเกิดเหตุการณ์รุนแรงกว่านี้ใครจะรับผิดชอบ ทำไมถึงโยนความผิดให้ลูกค้า โทษสิ่งรอบตัว ขาดแต่โทษตัวเอง
ทางเราทราบว่าลูกโป่งสามารถแตกได้ แต่แตกแล้วไม่ควรเกิดไฟใช่ไหมคะ
จขกท.บอกทางร้านว่าให้เวลารับผิดชอบถึงวันที่ 2 กค. ตอนเที่ยง ไม่งั้นจะไปรีวิว หลังจากที่พูดจาไม่รับผิดชอบมาตลอดทั้งทางไลน์และโทรศัพท์ จึงกลับคำในวันที่ 2 ว่าความปลอดภัยของลูกค้าเป็นสิ่งสำคัญ บอกว่าได้ขอดำเนินการดูกล้องวงจรปิดแล้ว เราจึงขอดูหลักฐานการดำเนินการขอดูกล้อง ปรากฏว่าไม่มี
และอ้างอีกว่านำชิ้นส่วนของที่เกิดเหตุไปเข้า lab เพื่อตรวจสอบ จึงสอบถามว่านำตรงไหน ชิ้นใด บริเวณใดไป ทางร้านแจ้งว่า นำรูปที่ลูกค้าส่งให้ไปเข้า lab จึงแปลกใจว่าทำไมรูปสามารถเข้า lab ได้และใช้เครื่องมือใดตรวจสอบ หมดความน่าเชื่อถือค่ะ เป็นร้านใหญ่แท้ๆ
เราจึงเข้าไปที่เพจ ปรากฏว่าไม่มีให้รีวิวค่ะ
ขอความเห็นว่าควรทำอย่างไรต่อไปดีคะ ขอบคุณค่ะ