หลังจากที่ได้รีวิวเสริมจมูกซิลิโคนไปแล้ว
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้https://ppantip.com/topic/37614941
มาวันนี้มารีวิวการทำศัลยกรรมส่วนอื่นบ้างครับ ถ้ามองจากปัญหาเนี่ย
คงไม่พ้นสัดส่วน เพราะเราอ้วนขึ้นจากตอนผอม ถึง 22 กิโล
ตอนผอม Vs. ปัจจุบัน
แน่นอนว่าเสื้อเอย กางเกงเอย โละ! ใส่ไม่ได้จ้าาา #เท
ตอนแรกเล่นกล้าม เข้าฟิตเนสนะครับ แต่รู้สึกว่าการกินมันสนุกกว่า
ก็เลยไปทุ่มเทกับการกิน สรรหาร้านอร่อย ร้านเด็ด มันก็ค่อยๆอ้วนขึ้นๆ
พออ้วนก็อยากผอม แต่ขี้เกียจออกกำลังกาย แต่ก็มีบางช่วงนะที่คุมอาหาร
กินสูตรนั่นสูตรนี่ กินอาหารเสริม ไฟเบอร์ บลาบลา คือช่วยได้แปปเดียว
แถมโยโย่ด้วยซ้ำ
รูปบางส่วนสมัยเข้ายิม เล่นเวท
เหตุผลหลักที่ไม่ยอมผอมสักที คือ ไม่ออกกำลังกาย
กินเข้าไปและไม่เผาผลาญออก มันก็คงไม่ผอมให้ เราก็มาคิดละ
อะไรที่จะให้เรากลับมาผอมเหมือนเดิม ถ้าไม่ใช่ออกกำลังกาย
และสิ่งที่ตอบโจทย์ก็คือ .. “ศัลยกรรม”
ผมดูดไขมันแล้ว 2 ที่ มีหน้าท้อง และต้นขา
เดี๋ยวจะขอเล่าไปทีละส่วนแล้วกันนะครับ
-----------------------------------------------------------------
เริ่มแรกเลย ย้อนไปเมื่อประมาณปี 58 หลังจากเรียนจบ มีงานทำ เก็บตังค์ได้แล้ว
ผมก็ตัดสินใจดูดไขมันหน้าท้องกับคลินิกนึง เพราะว่ามันไม่ไหวแล้ว พุงล้ำมาก
เหมือนตาลุงแก่มีพุง คืออึดอัดตัวเองด้วย ก็เลยเข้าไปปรึกษาหมอ
ปรึกษาเสร็จตัดสินใจมัดจำเลย 50% แล้วนัดวันที่เราสะดวก
ถึงวันมาทำ ก็จ่ายเงินส่วนที่เหลือ+ค่ายา (จริงๆเขามีซับพอร์ตรัดหน้าท้องขาย
แต่เราไม่ซื้ออ่ะ แพง ไปซื้อข้างนอกเอา สเตย์รัดหน้าท้องธรรมดานี่แหละ)
หมอให้ยานอนหลับแบบชั่วคราวผ่านทางสายน้ำเกลือ แปปนึงเราก็ตื่น
ก็รู้สึกหมดตอนหมอดูด รู้สึกว่ามีอะไรแทงเข้า-ออกที่ท้อง กระซวกๆๆ 555
แต่ไม่เจ็บนะ เพราะชา อารมณ์รู้สึกจั๊กกะจี๋ด้วยซ้ำ มันอธิบายไม่ถูก
ความรู้สึกมันเหมือนแค่เอานิ้วจิ้มพุง รู้สึกแค่นั้นจริงๆ แต่พอนานๆไป
ตรงแผลที่ผ่าตัดไส้ติ่ง หมอบอกว่ามีพังผืดเยอะ ตรงนั้นเริ่มรู้สึกเจ็บนิดๆแล้ว
แต่ทนได้
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
จำนวนไขมันที่ถูกดูดออกมา หลังดูดเสร็จพยาบาลก็เอามาให้ดูครับ
กลับบ้านมาเราเอาผ้าอนามัยแปะเลย
เพราะมันจะมีพวกน้ำเกลือ,ยาชาที่ฉีดเข้าไปไหลออกมา วิธีนี้ใครจะทำตามก็ได้
ไม่หวง เพราะว่าถ้าใช้ผ้าก็อตซับต้องมานั่งเปลี่ยนบ่อยๆ นอนหลับไม่สนิท
ผ้าอนามัยดีกว่า หลับสนิทตลอดคืน 5555
มาดูหลังทำกันบ้างครับ
แปะผ้าอนามัยซับเลือดแค่คืนแรกหลังทำครับ หลังจากนั้นก็ไม่ต้องแล้ว
ที่สำคัญเลยคือห้ามแผลโดนน้ำ เราใช้วิธีแปะพลาสเตอร์กันน้ำเอา
แผลมีความยาวประมาณไม่ถึงเซนติเมตรครับ เอาไม้บรรทัดวัดแล้ว
7 วันตัดไหม พร้อมติดตามผลกับหมอ
และหลังจากนั้นจะมีนัดติดตามผลอีกทีตอนครบ 1 เดือน และ 3 เดือนครับ
รอยช้ำถือว่าน้อยมาก (ที่ขีดยาวๆนั่นแผลผ่าตัดไส้ติ่งครับ)
รอยแผลหลังตัดไหมครับ ดูเผินๆเหมือนรอยเล็บจิกครับ
ส่วนตัวว่าดูดหน้าท้องไม่เจ็บ พักฟื้นก็ไม่เท่าไร แต่1-2 คืนแรก
จะนอนจะพลิกลำบากหน่อยๆ ออกแนวเมื่อยๆ
เหมือนเวลาเราเล่นเวทหรือซิทอัพหนักๆ แล้วเจ็บกล้ามเนื้อ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ตอนนัดติดตามผล 3 เดือน แอบขอถ่ายภาพก่อนหลัง
ทางเจ้าหน้าที่ก็ใจดีอนุญาตให้ถ่ายจากหน้าจอคอมไปครับ
ด้านหน้า
ด้านข้าง
ปัญหาต่อมาคือ ขา
ใส่กางเกงไม่ได้ ตอนนี้คือ เอวหลวมแต่คับขา
กลายเป็นว่าเวลาหาซื้อกางเกงต้องหาที่พอดีขา ไม่ได้วัดที่เอว แล้วมันก็จะโคร่งๆ
เหมือนแต่ง Hip-Hop 5555 งดการใส่กางเกงยีนส์ โดยเฉพาะขาเดฟ
ใส่ได้แต่กางเกงผ้าเอวยางยืดแบบนี้ครับ
เดี๋ยวมาต่อเรื่องดูดไขมันขาพรุ่งนี้นะครับ
[CR] รีวิว ดูดไขมันหน้าท้อง ดูดไขมันต้นขา จ่ายจริง เจ็บจริง ไม่อวย
มาวันนี้มารีวิวการทำศัลยกรรมส่วนอื่นบ้างครับ ถ้ามองจากปัญหาเนี่ย
คงไม่พ้นสัดส่วน เพราะเราอ้วนขึ้นจากตอนผอม ถึง 22 กิโล
ตอนผอม Vs. ปัจจุบัน
ตอนแรกเล่นกล้าม เข้าฟิตเนสนะครับ แต่รู้สึกว่าการกินมันสนุกกว่า
ก็เลยไปทุ่มเทกับการกิน สรรหาร้านอร่อย ร้านเด็ด มันก็ค่อยๆอ้วนขึ้นๆ
พออ้วนก็อยากผอม แต่ขี้เกียจออกกำลังกาย แต่ก็มีบางช่วงนะที่คุมอาหาร
กินสูตรนั่นสูตรนี่ กินอาหารเสริม ไฟเบอร์ บลาบลา คือช่วยได้แปปเดียว
แถมโยโย่ด้วยซ้ำ
เหตุผลหลักที่ไม่ยอมผอมสักที คือ ไม่ออกกำลังกาย
กินเข้าไปและไม่เผาผลาญออก มันก็คงไม่ผอมให้ เราก็มาคิดละ
อะไรที่จะให้เรากลับมาผอมเหมือนเดิม ถ้าไม่ใช่ออกกำลังกาย
และสิ่งที่ตอบโจทย์ก็คือ .. “ศัลยกรรม”
ผมดูดไขมันแล้ว 2 ที่ มีหน้าท้อง และต้นขา
เดี๋ยวจะขอเล่าไปทีละส่วนแล้วกันนะครับ
เริ่มแรกเลย ย้อนไปเมื่อประมาณปี 58 หลังจากเรียนจบ มีงานทำ เก็บตังค์ได้แล้ว
ผมก็ตัดสินใจดูดไขมันหน้าท้องกับคลินิกนึง เพราะว่ามันไม่ไหวแล้ว พุงล้ำมาก
เหมือนตาลุงแก่มีพุง คืออึดอัดตัวเองด้วย ก็เลยเข้าไปปรึกษาหมอ
ปรึกษาเสร็จตัดสินใจมัดจำเลย 50% แล้วนัดวันที่เราสะดวก
ถึงวันมาทำ ก็จ่ายเงินส่วนที่เหลือ+ค่ายา (จริงๆเขามีซับพอร์ตรัดหน้าท้องขาย
แต่เราไม่ซื้ออ่ะ แพง ไปซื้อข้างนอกเอา สเตย์รัดหน้าท้องธรรมดานี่แหละ)
หมอให้ยานอนหลับแบบชั่วคราวผ่านทางสายน้ำเกลือ แปปนึงเราก็ตื่น
ก็รู้สึกหมดตอนหมอดูด รู้สึกว่ามีอะไรแทงเข้า-ออกที่ท้อง กระซวกๆๆ 555
แต่ไม่เจ็บนะ เพราะชา อารมณ์รู้สึกจั๊กกะจี๋ด้วยซ้ำ มันอธิบายไม่ถูก
ความรู้สึกมันเหมือนแค่เอานิ้วจิ้มพุง รู้สึกแค่นั้นจริงๆ แต่พอนานๆไป
ตรงแผลที่ผ่าตัดไส้ติ่ง หมอบอกว่ามีพังผืดเยอะ ตรงนั้นเริ่มรู้สึกเจ็บนิดๆแล้ว
แต่ทนได้
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
กลับบ้านมาเราเอาผ้าอนามัยแปะเลย
เพราะมันจะมีพวกน้ำเกลือ,ยาชาที่ฉีดเข้าไปไหลออกมา วิธีนี้ใครจะทำตามก็ได้
ไม่หวง เพราะว่าถ้าใช้ผ้าก็อตซับต้องมานั่งเปลี่ยนบ่อยๆ นอนหลับไม่สนิท
ผ้าอนามัยดีกว่า หลับสนิทตลอดคืน 5555
แปะผ้าอนามัยซับเลือดแค่คืนแรกหลังทำครับ หลังจากนั้นก็ไม่ต้องแล้ว
ที่สำคัญเลยคือห้ามแผลโดนน้ำ เราใช้วิธีแปะพลาสเตอร์กันน้ำเอา
แผลมีความยาวประมาณไม่ถึงเซนติเมตรครับ เอาไม้บรรทัดวัดแล้ว
7 วันตัดไหม พร้อมติดตามผลกับหมอ
และหลังจากนั้นจะมีนัดติดตามผลอีกทีตอนครบ 1 เดือน และ 3 เดือนครับ
รอยช้ำถือว่าน้อยมาก (ที่ขีดยาวๆนั่นแผลผ่าตัดไส้ติ่งครับ)
ส่วนตัวว่าดูดหน้าท้องไม่เจ็บ พักฟื้นก็ไม่เท่าไร แต่1-2 คืนแรก
จะนอนจะพลิกลำบากหน่อยๆ ออกแนวเมื่อยๆ
เหมือนเวลาเราเล่นเวทหรือซิทอัพหนักๆ แล้วเจ็บกล้ามเนื้อ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ปัญหาต่อมาคือ ขา ใส่กางเกงไม่ได้ ตอนนี้คือ เอวหลวมแต่คับขา
กลายเป็นว่าเวลาหาซื้อกางเกงต้องหาที่พอดีขา ไม่ได้วัดที่เอว แล้วมันก็จะโคร่งๆ
เหมือนแต่ง Hip-Hop 5555 งดการใส่กางเกงยีนส์ โดยเฉพาะขาเดฟ
ใส่ได้แต่กางเกงผ้าเอวยางยืดแบบนี้ครับ
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้