สวัสดีค่ะ วันนี้มดจะมาแชร์ประสบการณ์การดูดไขมันจากโรงพยาบาลศัลยกรรมชั้นนำของเกาหลีกันนะคะ เริ่มแรกคือมดได้รับคัดเลือกเป็น 1 ในผู้โชคดีจากโครงการ Life is Mine ซีซั่น 2  ซึ่งรางวัลที่มดได้คือ ดูดไขมันทั้งตัว  ย้ำ!!! ว่าทั้งตัว เพราะมดเป็นคนเจ้าเนื้อ แบบว่าอวบระยะสุดท้ายอ่ะ ให้ดูรูปก่อนดูดไขมันกันก่อนนะคะ พลีชีพมากกกกกก  555555



มดจองตั๋วเดินทางไปเกาหลี วันที่ 4-11 ธันวาคม 2560 เดินทางไปพร้อมกับน้องคนนึงที่เป็น 1 ในผู้โชคดีจากโครงการนี้เช่นกัน พอไปถึงสนามบินอินชอน มีล่ามที่เป็นคนไทยคือคุณจูมินและน้องเรย์มารอรับ ทั้งสองคนเทคแคร์ดีมากกกกก ในระหว่างนั่งรถจากสนามบินไปที่โรงพยาบาล ก็จะบอกถึงสถานที่ที่รถกำลังวิ่งผ่าน ว่าคืออะไร เหมือนมีไกด์ส่วนตัว ดี๊ดีอ่ะ


ถึงโรงพยาบาลแล้ววววววว พนักงานที่นี่สวยมากกกกก สวยทุกคนเลย  คุณจูมินกับน้องเรย์พาเดินสำรวจและแนะนำโรงพยาบาลว่า แผนกไหนอยู่ชั้นอะไร หลังจากนั้นก็พาไปทานข้าว แล้วก็นั่งแท๊กซี่ไปส่งที่บ้านพัก


วันต่อมา นั่งแท็กซี่มาที่โรงพยาบาล คุณจูมินก็ให้เข้าไปเปลี่ยนชุดเพื่อถ่ายรูป Before เสร็จแล้วก็เข้าไปคุยกับคุณหมอ (หล่อมากกกก) แอบเขิลเบาๆ คุณจูมินคอยเป็นล่ามสื่อสารให้ระหว่างมดกับคุณหมอ ในระหว่างนี้ มีเรื่องเซอร์ไพรส์ คือคุณหมอบอกว่านอกจากดูดไขมันแล้ว จะเสริมจมูก ร้อยไหมยกกระชับใบหน้าและผ่าตัดไขมันกระพุ้งแก้มให้ด้วย  กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดด   ดีใจ ตื่นเต้นด้วย ฉันจะสวยแล้ว อิอิ  พอคุยกับคุณหมอที่จะทำการดูดไขมันแล้ว ก็ได้คุยกับคุณหมออีกท่านที่จะทำการเสริมจมูก ร้อยไหมยกกระชับใบหน้าและผ่าตัดไขมันกระพุ้งแก้มให้ แล้วคุณหมอก็ใช้ปากกาขีดๆเขียนๆบนใบหน้า  แบบนี้


ให้ดูหน้าชัดๆ ก่อนที่จะศัลยกรรมค่ะ


พอเสร็จจากคุยกับคุณหมอแล้ว มีช่างตัดชุดมาวัดตัว เพื่อตัดชุดสเตย์เพื่อใส่หลังจากดูดไขมัน และจะต้องใส่ชุดนี้ทุกวันอย่างน้อย 2 เดือน เพื่อให้รูปร่างกระชับ หลังจากวัดตัวเสร็จน้องเรย์ก็พาเข้าไปในห้องผ่าตัด แล้วให้ขึ้นไปนอนหงายบนเตียง มีเจ้าหน้าที่ห้องผ่าตัด เข้ามาประมาณ 5 คน (สวยทุกคนเลยยย) ใช้สำลีจุ่มน้ำยาฆ่าเชื้อมาเช็ดทั่วตัวทั้งด้านหน้าและด้านหลังเลย มีน้องเรย์ยืนให้กำลังใจอยู่ข้างเตียง และบอกว่าไม่ต้องกลัวนะ เดี๋ยวเค้าจะใช้ยาสลบ พี่มดจะหลับแล้วตื่นมาสวยเลย หลังจากนั้นก็หลับไปแบบไม่รู้ตัว



แถ่น แท้นนนนน นี่คือสภาพหลังจากที่ฟื้นขึ้นมา หัวก็จะฟูๆนิดนึง  ตื่นมาเจอหน้าน้องเรย์ที่มานั่งเฝ้า ก็รีบขอน้ำกินเลย เพราะคอแห้งมากกกกกก น้องเรย์บอกว่า มดเข้าห้องผ่าตัดตั้งแต่เที่ยง ออกมาตอน 3 ทุ่ม รวม 9 ชั่วโมง ขุ่นพระ !!!! นานมากกกกกก แต่จะไม่นานได้ไง แค่ไขมันที่ดูดออกมาก็ตั้ง 5 ลิตรแน่ะ นี่คนหรือหมู ทำไมไขมันเยอะขนาดนี้ !!!!  ใครที่หวังว่าดูดไขมันเสร็จปุ๊บ  จะผอมหุ่นดีปั๊บ  เฮลโหลวววววววววว ว  คุณคะ มันต้องใช้เวลานิดนึงเด้อ  ไม่ใช่แค่การดูดไขมันหรอก มดว่าศัลยกรรมทุกอย่างก็ต้องใช้เวลา รอให้เข้าที่เสียก่อน ค่อยจะสวย เริ่ด เฟอร์เฟค  
รูปเปรียบเทียบระหว่างก่อนดูดไขมันและหลังดูดเสร็จทันที


หลังจากที่ดูดไขมันเสร็จ สิ่งเห็นได้ชัดเมื่อมองด้านหลัง คือ เอวเล็กลง รูปร่างแลดูมีส่วนเว้าส่วนโค้งมากขึ้น


ถ้าถามว่าเจ็บมั้ย ในส่วนของการดูดไขมัน ก็เจ็บนะ แต่ เพื่อความสวย สีทนด้ายยยยยย อิอิ  เสริมจมูก ไม่เจ็บเลย ไม่มีรอยเขียวช้ำแม้แต่นิดเดียว  ส่วนร้อยไหมและตัดไขมันกระพุ้งแก้ม เจ็บนิดเดียว
หลังเสริมจมูก จะมีสำลีอุดอยู่ในรูจมูก ต้องหายใจทางปาก ทำให้คอแห้ง ต้องคอยจิบน้ำทุกๆครึ่งชั่วโมง คุณจูมินเลยช่วยหาวิธีที่จะทำให้หายใจง่ายขึ้น คอไม่แห้ง ด้วยการหายใจทางหลอด โดยอมหลอดไว้แล้วพ่นลมเข้าออก แต่ๆๆๆๆ มดคิดว่าหายใจทางปากเหมือนเดิมดีกว่าคร้า  คุณจูมินนนนนนนน  5555


คำแนะนำจากทางโรงพยาบาลหลังจากทำศัลยกรรม
1. ห้ามแผลโดนน้ำ 7 วัน (มดเลยไม่อาบน้ำ 7 วันเลย  555555)
2. นอนหงาย ยกหัวสูง อย่างน้อย 1 เดือน
3. มดตัดไขมันกระพุ้งแก้มด้วย คุณหมอเลยห้ามแปรงฟัน 7 วัน  แต่มีน้ำยาบ้วนปากมาให้ 2 ขวด รสชาติมันเหมือนยาอ่ะ ขมๆเลี่ยนๆ แต่บ้วนแล้วก็รู้สึกว่าปากสะอาดดี
4. หมั่นประคบเย็นบ่อยๆ
5. ห้ามใส่แว่นหลังจากเสริมจมูกแล้ว 1 เดือน
6. ห้ามออกกำลังกายหนักๆ 1 เดือน
7. หลีกเลี่ยงการทานอาหารที่ร้อนๆ และอาหารที่มีรสชาติเผ็ด  เหตุผลคือ อาหารร้อน และเผ็ด จะทำให้มีน้ำมูกออกมา พอโดนแผลจะทำให้แผลหายช้า (ในเคสที่เสริมจมูก)

วันต่อมาหลังจากทำศัลยกรรม มดต้องกลับไปที่โรงพยาบาลเพื่อให้คุณหมอตรวจเช็คแผล ในการเดินทาง มดเลือกใช้แท็กซี่ คนขับแท็กซี่ที่เกาหลีโดยทั่วๆไปสื่อสารภาษาอังกฤษแทบไม่ได้เลย แต่จะมีแท็กซี่ที่เป็นสีดำ จะสามารถสื่อสารภาษาอังกฤษได้ เน้นรับนักท่องเที่ยวโดยเฉพาะ ค่าบริการแพงกว่าแท๊กซี่ทั่วไปเกือบเท่าตัวแน่ะ  ดังนั้น มดเลยพกนามบัตรโรงพยาบาลไว้  ขึ้นรถก็ยื่นให้คนขับดู เค้าก็ขับไปส่งจนถึงที่หมาย สะดวก ประหยัด ไม่ต้องพึ่งแท็กซี่สีดำด้วยนะเออ


ที่โรงพยาบาล จะมีเครื่องฉายแสงลดบวม ทำให้ยุบบวมเร็วขึ้น คือดีววววววววววว์อ่ะ มดฉายแสงทั้งตัว ใช้เวลาประมาณ 10-15 นาที นอนสบายๆ เคลิ้มๆกำลังจะหลับ อ้าววววว เสร็จแระ


พอครบ 4 วัน กลับไปตรวจเช็คและทำความสะอาดแผลที่โรงพยาบาลอีกครั้ง ภาวนาขอให้แผลแห้ง จะได้ถอดสำลีที่อุดในรูจมูกออกซะที แต่ปรากฏว่า ยังไม่แห้งจ้า ทำแผล อุดจมูก หายใจทางปากต่อไป แต่ได้ถอดผ้าก๊อตที่ปิดรูจมูกกับเทปที่ติดรอบๆใบหน้าออกแล้วนะ


ขออภัยในความคิ้วโล้นและหัวเหม่งเด้อค่ะ  อิอิ
พอครบ 7 ก็ไปโรงพยาบาลอีกครั้งเพื่อตัดไหมและทำแผล ได้ถอดสำลีอุดจมูกแล้วหายใจโล้ง โล่ง นี่แหละ ที่เฝ้าคอยมาตลอด 7 วัน 555555 หลังจากนั้นก็นั่งรถไปสนามบิน เตรียมตัวกลับไทยละจ้า


เปรียบเทียบหน้าเดิมกับหน้าใหม่จ้า รูปนี้หลังทำศัลยกรรม 3 เดือนค่ะ


หลังจากดูดไขมันแล้ว ก็ต้องควบคุมอาหาร  และที่สำคัญต้องออกกำลังกายเพื่อให้รูปร่างกระชับ ไม่งั้นส่วนที่ดูดไขมันออกก็จะหย่อนๆย้วยๆ แลดูไม่สวยนะจ๊ะ  ตอนนี้ก็ครบ 6 เดือนแล้ว น้ำหนักลดลงไป 9 กก. เปลี่ยนไปมั้ย ถามใจเทอดูวววววววววว์




ขอบคุณทุกคนที่ติดตามจนจบนะคะ หวังว่าการแชร์ประสบการณ์ของมดครั้งนี้จะเป็นประโยชน์สำหรับคนที่อยากไปทำศัลยกรรมที่เกาหลีทุกคนจ้า