พาหัวใจ...ไปเที่ยวชุมชนวันนี้
เป็นการรีวิวการไปเยี่ยมเยือนชุมชนที่ต้องบอกว่า...เหนือความคาดหมายจริงๆ
เชื่อว่าเพื่อนๆ หลายคนอาจจะไม่เคยได้ยินคำว่า “ภาคอีสานของกาญจนบุรี” ใช่ค่ะ!!!! วันนี้เราจะพาเพื่อนๆ ไปเที่ยวชุมชนที่นี่กัน นั่นก็คือ “ชุมชนบ้านหนองปลิง”
เราเริ่มรู้จักกับชุมชนบ้านหนองปลิง ผ่านผ้าทอมือสีสันสดใส ที่ถูกนำมาวางจำหน่ายอยู่ในงานสินค้าโอทอป ที่โรบินสันกาญจนบุรี
สิ่งที่น่าสนใจเมื่อแรกพบ ...แน่นอนมิใช่ผ้าทอเพียงอย่างเดียว แต่คงจะหนีไม่พ้นคำว่า #บ้านหนองปลิง ว่าอยู่ที่ใดแห่งหนไหนของกาญจนบุรี วันนั้นเราได้พูดคุยกับคุณพจน์ ซึ่งเป็นผู้นำทีมชุมชนบ้านหนองปลิงมาออกบูธแนะนำทั้งการท่องเที่ยวและสินค้าของชุมชน ซึ่งพี่พจน์บอกกับเราว่า #บ้านหนองปลิง เป็นชุมชนเล็กๆ ตั้งอยู่ระหว่างอำเภอพนมทวน-อำเภอห้วยกระเจา ในเขตพื้นที่ของตำบลดอนแสลบ อำเภอห้วยกระเจา การเดินทางก็จะอธิบายยากนิดนึง เอาเป็นว่าถ้าจะไปก็โทรหาพี่พจน์ได้ทุกเวลา 55555
ไม่รอช้า...ได้เวลาเดินทางไปหา #ชุมชนบ้านหนองปลิง กันค่ะ ทริปนี้เราเดินทางกัน 3 คน เริ่มต้นการเดินทางก็สนุกสนานกับการหลงทางประมาณ 2-3 รอบกันเลยค่ะ 5555 เข้าใจแล้วว่าทำไมพี่พจน์บอกให้โทรถามทางจะดีกว่า แต่ๆๆๆ จริงๆ มาไม่ยากนะคะ เลี้ยวเข้ามาจากสี่แยกตลาดเขตไม่ถึง 4 กม. ผ่านวัดหนองปลิง และเจอสะพานสีสันสดใส พร้อมกับป้ายทางเข้าชุมชนชัดเจนและโดดเด่นด้วยคำว่า “หมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียงต้นแบบ อยู่เย็น...เป็นสุข” เย้!!!! เรามาถึงแล้วววววววว
เมื่อมาถึง พี่พจน์และป้าเขียด (อดีต ผญ.บ้าน) มาต้อนรับเรา ไม่ต้องมีพิธีการให้ยุ่งยาก ปล่อยอารมณ์ แบบน้องมาเที่ยวหาพี่ ลูกหลานมาเยี่ยมลุงป้า บรรยากาศก็จะสบายๆ เราเห็นความเป็นชุมชนที่มีความสด ไม่ปรุงแต่ง ไม่เสริม ไม่สร้างให้ดูเว่อวัง ซึ่งผิดกับชุมชนเมืองโดยสิ้นเชิง
พี่พจน์บอกกับเราว่า ปกติจะรับแต่คณะศึกษาดูงาน วันนี้รับ 2-3 คน ไม่ค่อยชินทำตัวไม่ถูก 5555 จากนั้นก็ค่อยๆ เล่าเรื่องราวของชุมชนให้เราฟัง ว่าชุมชนบ้านหนองปลิง เคยได้รับรางวัลหมู่บ้านอยู่เย็นเป็นสุข, หมู่บ้านหัตถกรรมสร้างสรรค์ที่มีชื่อเสียงในการทอผ้า, ชุมชนวัฒนธรรมไทยสู้ภัยเศรษฐกิจ ฯลฯ โอ้โห้!!!! สุดยอดค่ะ (((นี่เราไปอยู่ที่ไหนมาถึงเพิ่งรู้จักที่นี่เนี่ย)))
ไม่รอช้าค่ะ...ความอยากรู้อยากเห็นปะทุขึ้นแล้ว 555
พี่พจน์และป้าเขียดพาเราไปดูจุดการเรียนรู้ของชุมชน จุดแรก เป็นเรื่องการนวดแผนโบราณและประคบสมุนไพร โดยสมุนไพรในลูกประคบ ก็เป็นสมุนไพรที่ปลูกกันเองภายในชุมชนซะด้วย เข้าห้องมาก็หอมกลิ่นสมุนไพรตลบอบอวนกันเลยทีเดียว ว่าแต่!!! มาถึงแล้ว ช่วงนี้เดินทางบ่อยขอนวดผ่อนคลายซะหน่อย ^^
(((สองชั่วโมงผ่านไป))) สบายตัวสบายกายแล้วก็พร้อมลุยต่อ ซึ่งพี่พจน์และป้าเขียดก็น่ารักรู้ใจเราซะจริง พาไปหาของกินซะเลย 5555 แต่..ขนมที่เราจะได้กินที่นี่ ไม่ธรรมดานะคะ เป็นการแปรรูปผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร ที่เคยได้รับรางวัลแม่บ้านเกษตรกร เมื่อปี 2534 และได้เป็นตัวแทนคนไทยไปดูงานที่ประเทศญี่ปุ่น จากการแปรรูปมะกรูดเหลือใช้หลังจากนำผิวไปตำพริกแกง กลายเป็น เนื้อมะกรูดเชื่อม เป็นขนมทานเล่นมีสรรพคุณชุ่มคอ แก้ไอ และประโยชน์มากมาย จนทำให้บ้านของพี่วาสนาหลังนี้ ต้องเปิดเป็นบ้านพักโฮมสเตย์ ไว้รองรับนักท่องเที่ยวหรือคนที่สนใจจะมาเรียนวิชาการแปรรูปอาหารที่นี่อีกด้วย
หลังจากที่ชิมกันอิ่มหนำ...สำราญพุงแล้ว
พี่พจน์กับป้าเขียด บอกกับเราว่า ต่อจากนี้จะเป็น High light ที่เป็นภูมิปัญญาดั้งเดิมและมีเอกลักษณ์ที่โดดเด่นไม่เหมือนผ้าทอจากที่อื่น เพราะผ้าทอของบ้านหนองปลิงแห่งนี้
เนื้อหนา-ใส่สบาย-ซักเครื่องได้-สีไม่ซีดไม่ตก-ยิ่งรีดยิ่งเงา-ยิ่งเก่ายิ่งสวย-เพราะเขาทอด้วยหัวใจล้วนๆ ฮิ้วๆๆ
แต่กว่าจะได้ผ้าทอที่เป็นเอกลักษณ์ของบ้านหนองปลิง พี่พจน์และป้าเขียด บอกว่าไม่ใช่ง่ายๆเลยนะ แล้วก็พาเราไปดูทุกขั้นตอน เริ่มตั้งแต่
ขั้นตอนที่ 1 เดินเส้นด้าย (หาความกว้างความยาวของผ้า) คนทำขั้นตอนนี้ต้องเดินไปเดินมาวนไปก็วนมาแบบนี้วันนึงๆ น่าจะเดินเป็นระยะทางหลายสิบ กม. ทีเดียว เห็นแล้วเมื่อยแทนเลยค่ะ
ขั้นตอนที่ 2 ร้อยฟันหวี (ขั้นตอนนี้ละเอียดอ่อนมาก ต้องร้อยด้าย เข้าซี่ฟันหวีทีละเส้นๆ ประมาณ 1,240 ซี่ ) โอ้วววว ขุ่นพระ!!!!
ขั้นตอนที่ 3 เข้าม้าม้วน (เป็นขั้นตอนต่อจากการร้อยฟันหวี เพื่อเก็บด้ายเป็นม้วนให้สามารถนำไปใช้ได้สะดวกขึ้น)
ขั้นตอนที่ 4 เก็บตะกอ (เป็นขั้นตอนรองสุดท้ายก่อนจะนำด้ายไปทอให้เป็นผืนแบบสวยงาม)
ขั้นตอนที่ 5 การทอ (กว่าจะมาถึงขั้นตอนนี้ เป็นการทอด้วยกี่กระตุก ซึ่งต้องใช้ทั้งเท้าเหยียบและมือกระตุก) การทอลายของที่นี่จะเป็นลายตาห่าง เน้นสีสัน 7 สีมงคล คือ 7 สีประจำวันในผืนเดียว ไม่ว่าจะเกิดวันไหนใส่ผ้าทอบ้านหนองปลิงรับรองเป็นมงคลทุกวันเลยค่ะ
5555 สุดยอด 5 กระบวนการ ที่พอเราได้มารู้ ได้เห็น ต่อจากนี้ไปสัญญาว่า จะไม่ต่อราคาผ้าทออีกเลยจริงๆ 55555 ที่สำคัญผ้าทอของที่นี่ ราคาไม่สูงมากนะคะ มีทั้งผ้าขาวม้า, ผ้ามัดหมี่, ผ้ายกดอก และผ้าจก สวยๆทั้งนั้นเลยค่ะ ปัจจุบันชาวบ้านที่นี่ก็ยังมีอาชีพทอผ้า เหลือกันอยู่ประมาณ 30 กว่าครัวเรือนค่ะ และชุมชนได้นำวิชาการทอผ้านี้ ไปเป็นหลักสูตรการเรียนการสอนให้กับน้องๆ โรงเรียนวัดหนองปลิงด้วยนะคะ ของดี..มีแล้ว...ต้องสานต่อ
นอกจากการทอผ้าแล้ว แม่บ้านของที่นี่ยังมีหัตถกรรมการจักรสานเส้นพลาสติกด้วย และที่อินเทรนด์หน่อยก็จะเป็นตะกร้าใส่แก้วเก็บความเย็นนี่ล่ะคะ ราคาไม่แพง สวยเก๋ สีสดใส คงทน บุผ้าด้านในให้ด้วยนะคะ เราก็ไม่พลาดที่อุดหนุนพี่เขาแล้วใส่ถ่ายรูปโชว์ซะเลย ^^
ยังค่ะยังไม่หมดเท่านี้ พี่พจน์และป้าเขียด เล่าให้เราฟังว่า ชุมชนบ้านหนองปลิง ยังมีศูนย์การเรียนรู้ขนมไทย, การทำผ้ามัดย้อม, โรงเรียนชาวนา และไร่นาสวนผสมเศรษฐกิจพอเพียง ที่พร้อมจะพาให้เราไปดูอีกด้วย แต่เราก็ไม่รู้ว่าจะมีอะไรมากมายขนาดนี้ ก็เลยวางแผนมาแบบ One Day Trip แบบนี้ พี่พจน์กับป้าเขียดเลยจะพาเราไปปิดท้ายทริปนี้กันที่ “หนองช้างเล่น” ซึ่งที่นี่คือจุดที่อุดมสมบูรณ์ที่สุดของอำเภอห้วยกระเจา ไม่แห้งแล้ง และมีน้ำใช้ตลอดปี ที่สำคัญหนองช้างเล่นแห่งนี้ ยังกลายเป็นหัวใจและจุดพักผ่อนหย่อนใจของชุมชนอีกด้วย
ก่อนกลับ เราก็แวะกินก๋วยเตี๋ยวหน้าชุมชนซะหน่อย เดี๋ยวเขาจะหาว่ามาไม่ถึง 555
วันนี้คงเป็นอีกหนึ่งวัน...ที่มันช่างคุ้มค่ากับการออกเดินทาง เราไม่ต้องไปในที่ที่พร้อมที่สุด สวยที่สุด ดังที่สุด แต่เราดีใจที่วันนี้เราได้มาในที่ที่มีดีที่สุดที่หนึ่งของประเทศนี้และโลกนี้ การเดินทางที่เริ่มต้นด้วยคำถาม....ตอนนี้คำตอบยิ่งใหญ่และคุ้มค่าจริงๆ กับ #ชุมชนบ้านหนองปลิง ชุมชนท่องเที่ยวที่มีวิถีชีวิตเป็นขุมทรัพย์อันมีค่าของที่นี่
ดีใจที่ได้รู้จัก #ชุมชนบ้านหนองปลิง
ตำบลดอนแสลบ อำเภอห้วยกระเจา จังหวัดกาญจนบุรี 👍🏻
สนใจไปเยี่ยมเยือน ติดต่อ คุณพจน์ 0638526796
คุณบังเอิญ (ป้าเขียด) 087-0587754
แล้วพบกันใหม่โอกาสหน้าค่ะ☺️
[SR] พาหัวใจ...ไปเที่ยวชุมชนบ้านหนองปลิง
เป็นการรีวิวการไปเยี่ยมเยือนชุมชนที่ต้องบอกว่า...เหนือความคาดหมายจริงๆ
เชื่อว่าเพื่อนๆ หลายคนอาจจะไม่เคยได้ยินคำว่า “ภาคอีสานของกาญจนบุรี” ใช่ค่ะ!!!! วันนี้เราจะพาเพื่อนๆ ไปเที่ยวชุมชนที่นี่กัน นั่นก็คือ “ชุมชนบ้านหนองปลิง”
เราเริ่มรู้จักกับชุมชนบ้านหนองปลิง ผ่านผ้าทอมือสีสันสดใส ที่ถูกนำมาวางจำหน่ายอยู่ในงานสินค้าโอทอป ที่โรบินสันกาญจนบุรี
สิ่งที่น่าสนใจเมื่อแรกพบ ...แน่นอนมิใช่ผ้าทอเพียงอย่างเดียว แต่คงจะหนีไม่พ้นคำว่า #บ้านหนองปลิง ว่าอยู่ที่ใดแห่งหนไหนของกาญจนบุรี วันนั้นเราได้พูดคุยกับคุณพจน์ ซึ่งเป็นผู้นำทีมชุมชนบ้านหนองปลิงมาออกบูธแนะนำทั้งการท่องเที่ยวและสินค้าของชุมชน ซึ่งพี่พจน์บอกกับเราว่า #บ้านหนองปลิง เป็นชุมชนเล็กๆ ตั้งอยู่ระหว่างอำเภอพนมทวน-อำเภอห้วยกระเจา ในเขตพื้นที่ของตำบลดอนแสลบ อำเภอห้วยกระเจา การเดินทางก็จะอธิบายยากนิดนึง เอาเป็นว่าถ้าจะไปก็โทรหาพี่พจน์ได้ทุกเวลา 55555
ไม่รอช้า...ได้เวลาเดินทางไปหา #ชุมชนบ้านหนองปลิง กันค่ะ ทริปนี้เราเดินทางกัน 3 คน เริ่มต้นการเดินทางก็สนุกสนานกับการหลงทางประมาณ 2-3 รอบกันเลยค่ะ 5555 เข้าใจแล้วว่าทำไมพี่พจน์บอกให้โทรถามทางจะดีกว่า แต่ๆๆๆ จริงๆ มาไม่ยากนะคะ เลี้ยวเข้ามาจากสี่แยกตลาดเขตไม่ถึง 4 กม. ผ่านวัดหนองปลิง และเจอสะพานสีสันสดใส พร้อมกับป้ายทางเข้าชุมชนชัดเจนและโดดเด่นด้วยคำว่า “หมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียงต้นแบบ อยู่เย็น...เป็นสุข” เย้!!!! เรามาถึงแล้วววววววว
เมื่อมาถึง พี่พจน์และป้าเขียด (อดีต ผญ.บ้าน) มาต้อนรับเรา ไม่ต้องมีพิธีการให้ยุ่งยาก ปล่อยอารมณ์ แบบน้องมาเที่ยวหาพี่ ลูกหลานมาเยี่ยมลุงป้า บรรยากาศก็จะสบายๆ เราเห็นความเป็นชุมชนที่มีความสด ไม่ปรุงแต่ง ไม่เสริม ไม่สร้างให้ดูเว่อวัง ซึ่งผิดกับชุมชนเมืองโดยสิ้นเชิง
พี่พจน์บอกกับเราว่า ปกติจะรับแต่คณะศึกษาดูงาน วันนี้รับ 2-3 คน ไม่ค่อยชินทำตัวไม่ถูก 5555 จากนั้นก็ค่อยๆ เล่าเรื่องราวของชุมชนให้เราฟัง ว่าชุมชนบ้านหนองปลิง เคยได้รับรางวัลหมู่บ้านอยู่เย็นเป็นสุข, หมู่บ้านหัตถกรรมสร้างสรรค์ที่มีชื่อเสียงในการทอผ้า, ชุมชนวัฒนธรรมไทยสู้ภัยเศรษฐกิจ ฯลฯ โอ้โห้!!!! สุดยอดค่ะ (((นี่เราไปอยู่ที่ไหนมาถึงเพิ่งรู้จักที่นี่เนี่ย)))
ไม่รอช้าค่ะ...ความอยากรู้อยากเห็นปะทุขึ้นแล้ว 555
พี่พจน์และป้าเขียดพาเราไปดูจุดการเรียนรู้ของชุมชน จุดแรก เป็นเรื่องการนวดแผนโบราณและประคบสมุนไพร โดยสมุนไพรในลูกประคบ ก็เป็นสมุนไพรที่ปลูกกันเองภายในชุมชนซะด้วย เข้าห้องมาก็หอมกลิ่นสมุนไพรตลบอบอวนกันเลยทีเดียว ว่าแต่!!! มาถึงแล้ว ช่วงนี้เดินทางบ่อยขอนวดผ่อนคลายซะหน่อย ^^
(((สองชั่วโมงผ่านไป))) สบายตัวสบายกายแล้วก็พร้อมลุยต่อ ซึ่งพี่พจน์และป้าเขียดก็น่ารักรู้ใจเราซะจริง พาไปหาของกินซะเลย 5555 แต่..ขนมที่เราจะได้กินที่นี่ ไม่ธรรมดานะคะ เป็นการแปรรูปผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร ที่เคยได้รับรางวัลแม่บ้านเกษตรกร เมื่อปี 2534 และได้เป็นตัวแทนคนไทยไปดูงานที่ประเทศญี่ปุ่น จากการแปรรูปมะกรูดเหลือใช้หลังจากนำผิวไปตำพริกแกง กลายเป็น เนื้อมะกรูดเชื่อม เป็นขนมทานเล่นมีสรรพคุณชุ่มคอ แก้ไอ และประโยชน์มากมาย จนทำให้บ้านของพี่วาสนาหลังนี้ ต้องเปิดเป็นบ้านพักโฮมสเตย์ ไว้รองรับนักท่องเที่ยวหรือคนที่สนใจจะมาเรียนวิชาการแปรรูปอาหารที่นี่อีกด้วย
หลังจากที่ชิมกันอิ่มหนำ...สำราญพุงแล้ว
พี่พจน์กับป้าเขียด บอกกับเราว่า ต่อจากนี้จะเป็น High light ที่เป็นภูมิปัญญาดั้งเดิมและมีเอกลักษณ์ที่โดดเด่นไม่เหมือนผ้าทอจากที่อื่น เพราะผ้าทอของบ้านหนองปลิงแห่งนี้
เนื้อหนา-ใส่สบาย-ซักเครื่องได้-สีไม่ซีดไม่ตก-ยิ่งรีดยิ่งเงา-ยิ่งเก่ายิ่งสวย-เพราะเขาทอด้วยหัวใจล้วนๆ ฮิ้วๆๆ
แต่กว่าจะได้ผ้าทอที่เป็นเอกลักษณ์ของบ้านหนองปลิง พี่พจน์และป้าเขียด บอกว่าไม่ใช่ง่ายๆเลยนะ แล้วก็พาเราไปดูทุกขั้นตอน เริ่มตั้งแต่
ขั้นตอนที่ 1 เดินเส้นด้าย (หาความกว้างความยาวของผ้า) คนทำขั้นตอนนี้ต้องเดินไปเดินมาวนไปก็วนมาแบบนี้วันนึงๆ น่าจะเดินเป็นระยะทางหลายสิบ กม. ทีเดียว เห็นแล้วเมื่อยแทนเลยค่ะ
ขั้นตอนที่ 2 ร้อยฟันหวี (ขั้นตอนนี้ละเอียดอ่อนมาก ต้องร้อยด้าย เข้าซี่ฟันหวีทีละเส้นๆ ประมาณ 1,240 ซี่ ) โอ้วววว ขุ่นพระ!!!!
ขั้นตอนที่ 3 เข้าม้าม้วน (เป็นขั้นตอนต่อจากการร้อยฟันหวี เพื่อเก็บด้ายเป็นม้วนให้สามารถนำไปใช้ได้สะดวกขึ้น)
ขั้นตอนที่ 4 เก็บตะกอ (เป็นขั้นตอนรองสุดท้ายก่อนจะนำด้ายไปทอให้เป็นผืนแบบสวยงาม)
ขั้นตอนที่ 5 การทอ (กว่าจะมาถึงขั้นตอนนี้ เป็นการทอด้วยกี่กระตุก ซึ่งต้องใช้ทั้งเท้าเหยียบและมือกระตุก) การทอลายของที่นี่จะเป็นลายตาห่าง เน้นสีสัน 7 สีมงคล คือ 7 สีประจำวันในผืนเดียว ไม่ว่าจะเกิดวันไหนใส่ผ้าทอบ้านหนองปลิงรับรองเป็นมงคลทุกวันเลยค่ะ
5555 สุดยอด 5 กระบวนการ ที่พอเราได้มารู้ ได้เห็น ต่อจากนี้ไปสัญญาว่า จะไม่ต่อราคาผ้าทออีกเลยจริงๆ 55555 ที่สำคัญผ้าทอของที่นี่ ราคาไม่สูงมากนะคะ มีทั้งผ้าขาวม้า, ผ้ามัดหมี่, ผ้ายกดอก และผ้าจก สวยๆทั้งนั้นเลยค่ะ ปัจจุบันชาวบ้านที่นี่ก็ยังมีอาชีพทอผ้า เหลือกันอยู่ประมาณ 30 กว่าครัวเรือนค่ะ และชุมชนได้นำวิชาการทอผ้านี้ ไปเป็นหลักสูตรการเรียนการสอนให้กับน้องๆ โรงเรียนวัดหนองปลิงด้วยนะคะ ของดี..มีแล้ว...ต้องสานต่อ
นอกจากการทอผ้าแล้ว แม่บ้านของที่นี่ยังมีหัตถกรรมการจักรสานเส้นพลาสติกด้วย และที่อินเทรนด์หน่อยก็จะเป็นตะกร้าใส่แก้วเก็บความเย็นนี่ล่ะคะ ราคาไม่แพง สวยเก๋ สีสดใส คงทน บุผ้าด้านในให้ด้วยนะคะ เราก็ไม่พลาดที่อุดหนุนพี่เขาแล้วใส่ถ่ายรูปโชว์ซะเลย ^^
ยังค่ะยังไม่หมดเท่านี้ พี่พจน์และป้าเขียด เล่าให้เราฟังว่า ชุมชนบ้านหนองปลิง ยังมีศูนย์การเรียนรู้ขนมไทย, การทำผ้ามัดย้อม, โรงเรียนชาวนา และไร่นาสวนผสมเศรษฐกิจพอเพียง ที่พร้อมจะพาให้เราไปดูอีกด้วย แต่เราก็ไม่รู้ว่าจะมีอะไรมากมายขนาดนี้ ก็เลยวางแผนมาแบบ One Day Trip แบบนี้ พี่พจน์กับป้าเขียดเลยจะพาเราไปปิดท้ายทริปนี้กันที่ “หนองช้างเล่น” ซึ่งที่นี่คือจุดที่อุดมสมบูรณ์ที่สุดของอำเภอห้วยกระเจา ไม่แห้งแล้ง และมีน้ำใช้ตลอดปี ที่สำคัญหนองช้างเล่นแห่งนี้ ยังกลายเป็นหัวใจและจุดพักผ่อนหย่อนใจของชุมชนอีกด้วย
ก่อนกลับ เราก็แวะกินก๋วยเตี๋ยวหน้าชุมชนซะหน่อย เดี๋ยวเขาจะหาว่ามาไม่ถึง 555
วันนี้คงเป็นอีกหนึ่งวัน...ที่มันช่างคุ้มค่ากับการออกเดินทาง เราไม่ต้องไปในที่ที่พร้อมที่สุด สวยที่สุด ดังที่สุด แต่เราดีใจที่วันนี้เราได้มาในที่ที่มีดีที่สุดที่หนึ่งของประเทศนี้และโลกนี้ การเดินทางที่เริ่มต้นด้วยคำถาม....ตอนนี้คำตอบยิ่งใหญ่และคุ้มค่าจริงๆ กับ #ชุมชนบ้านหนองปลิง ชุมชนท่องเที่ยวที่มีวิถีชีวิตเป็นขุมทรัพย์อันมีค่าของที่นี่
ดีใจที่ได้รู้จัก #ชุมชนบ้านหนองปลิง
ตำบลดอนแสลบ อำเภอห้วยกระเจา จังหวัดกาญจนบุรี 👍🏻
สนใจไปเยี่ยมเยือน ติดต่อ คุณพจน์ 0638526796
คุณบังเอิญ (ป้าเขียด) 087-0587754
แล้วพบกันใหม่โอกาสหน้าค่ะ☺️
SR - Sponsored Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ SR โดยที่เจ้าของกระทู้
ข้อมูลเพิ่มเติม
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น