บทความ "สุนทรภู่ขี้เมาจริงหรือ"
ของ รุ่งโรจน์ ภิรมย์อนุกูล
..........................................
วันที่ 26 มิถุนายน บรรดานักปราชญ์ราชบัณฑิตท่านบอกต่อๆกันมาว่า
เป็นวันเกิดของพระสุนทรโวหาร (ภู่) หรือ สุนทรภู่
ที่บุคคลในสมัยหลังยกย่องกันว่าเป็นกวีเอกท่านหนึ่งของกรุงรัตนโกสินทร์
ประวัติของท่านสุนทรภู่ก็ไม่ใช่ว่าท่านเป็นผู้เขียนเอง
ทั้งนี้เพราะในอดีตเราไม่มีธรรมเนียมการเขียนอัตชีวประวัติและประวัติของบุคคลอื่น
หากแต่ประวัติของท่านนั้นสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ
ทรงพระนิพนธ์ขึ้นเพื่อเป็นบทนำของเสภาพระราชพงศาวดาร
พิมพ์ครั้งแรกในปี พ.ศ. 2465 ในงานฉลองครบ 5 รอบสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์พระองค์นั้น
สาเหตุที่เราถือกันว่าวันที่ 26 มิถุนายนเป็นวันเกิดของท่านนั้น
ใช่ว่ามีใครไปพบสูติบัตรของท่าน
หากแต่อาศัยดวงชะตาที่โหรคนหนึ่งเขาจดไว้ (ไม่รู้ว่าเป็นใคร)
ว่าท่านเกิดในวันจันทร์ เดือน 8 ขึ้น 1 ค่ำ ปีมะเมีย ตามจันทรคติ
และต่อมาสมเด็จฯ กรมพระยาดำรงราชานุภาพได้นำดวงชะตาของที่โหรคนนี้จดไว้
มาพิมพ์ประกอบในประวัติของสุนทรภู่
เรื่องนี้คงต้องถืออนุโลมตามสมเด็จฯ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ
ประวัติของสุนทรภู่นั้นถูกสาธารณชนมองว่า
ท่านเป็นคนขี้เมา เจ้าชู้ อยู่อย่างไพร่ ไร้เคหา
หลายเรื่องอาจารย์ผู้ใหญ่หลายท่านก็ได้เคยนำเสนอไปบ้างแล้ว
อาจารย์ นิธิ เอียวศรีวงศ์ และ อาจารย์ สุจิตต์ วงษ์เทศ เป็นต้น
ในสัปดาห์นี้ผมจะนำเสนอว่า สุนทรภู่ไม่ใช่เป็นคนขี้เมาตามที่เราเชื่อ
ด้วยเหตุผลต่อไปนี้
1. ปัญหาเรื่องสุนทรภู่เป็นคนขี้เมา
ไม่มีการจดบันทึกเป็นกิจจะลักษณะแต่ประการใดหรือแม้แต่คำบอกเล่าก็ไม่เคยพบ
นอกเสียจากคำที่สมเด็จ ฯ กรมพระยาดำรงราชานุภาพทรงอ้างไว้ว่า
มีอยู่ที่ข้างใต้ดวงชะตาของสุนทรภู่ว่า “สุนทรภู่อาลักษณ์ขี้เมา”
ดังนั้นเมื่อมีอะไรเกิดขึ้นในชีวิตสุนทรภู่ก็จะต้องสรุปว่าเพราะความขี้เมา
ยกตัวอย่างเช่นเมื่อสุนทรภู่ต้องติดคุก เพราะกล่าวกันว่า
ท่านได้เมาเหล้าแล้วขู่เข็ญมารดา จนทำให้มีญาติผู้ใหญ่ถูกทำร้าย
และถึงขั้นที่จะต้องมีการถวายฎีกา และที่สำคัญท่านเคยติดคุกจริงหรือเปล่าเราก็ไม่ทราบ
ครั้นจะอ้างว่ามีเค้าเงื่อนอยู่ในพลายงามจะขอเข้าไปอยู่ในคุกกับขุนแผน
ก็ตอบลำบากอีกเช่นเดียวว่ามันจะมีเค้าความจริงมากเพียงนั้นหรือ
2.สำหรับปัญหาเรื่องดวงชะตาสุนทรภู่ เรื่องก็ดูออกจะน่าสงสัยอยู่ที่ว่า
ตามธรรมเนียมโบราณก่อนที่วัฒนธรรมตะวันตกจะเจริญเฟื่องฟู
ดวงชะตาวันเกิดย่อมปิดเป็นความลับ เพราะความเชื่อเรื่องไสยศาสตร์
ดังนั้นตั้งแต่ก่อนหน้ารัชกาลที่ 4 ขึ้นไป
เราจึงไม่ทราบวันคล้ายวันประสูติของพระเจ้าอยู่หัวและเจ้านาย
รวมถึงขุนนางในสมัยก่อนแต่ประการใด
ที่สำคัญทำไมจึงค้นพบดวงชะตาของสุนทรภู่
และทำไมกวีท่านอื่นที่ชีวิตอยู่ร่วมสมัยกับสุนทรภู่
อย่างเช่น พระยาตรังคภูมิบาล จึงไม่ปรากฏ
ถ้าหากคิดว่าดวงชะตาสุนทรภู่ฉบับที่เราอ้างอิงอยู่
เป็นของที่อาลักษณ์รุ่นก่อนจดไว้จริง
และข้อความที่กล่าวว่า “สุนทรภู่อาลักษณ์ขี้เมา”
คำว่าขี้เมาของท่านผู้จดมันปริมาณมากน้อยขนาดไหน
เราไม่อาจที่จะทราบได้ ทั้งนี้เพราะ
ถ้าสมมติว่าคนที่ดื่มวันนิดประเภทเบียร์วันละ 5 ขวดหรือเหล้า 1 กลม
คำว่าขี้เมาก็ต้องหมายความว่า บุคคลผู้นั้นจะต้องมีปริมาณการดื่มที่มากกว่า
แต่ถ้าอาลักษณ์ผู้จดท่านั้นเป็นคนประเภทไม่แตะของมึนเมาเลย
การที่สุนทรภู่จะดื่มเพียงแค่ฝาเดียวก็มีสิทธิที่จะถูกกล่าวหาว่าขี้เมาได้แล้ว
3. ในนิราศของสุนทรภู่เองท่านก็ไม่เคยบอกว่า ท่านดื่มเหล้าแต่ประการใด
แม้ว่าในนิราศภูเขาทองท่านจะมีพูดถึงเหล้าแต่ก็ไม่ได้พิสูจน์ท่านเป็นคนขี้เมา
ดังบทกลอนดังต่อไปนี้
ถึงโรงเหล้าเตากลั่นควันโขมง มีคันโยงผูกไว้ที่ปลายเสา
โอ้บาปกรรมน้ำนรกเจียวอกเรา ให้มัวเมาเหมือนหนึ่งบ้าเป็นน่าอาย
ทำบุญบวชกรวดน้ำขอสำเร็จ สรรเพชญโพธิญาณประมาณหมาย
ถึงสุราพารอดไม่วอดวาย ไม่ใกล้กรายแกล้งเมินก็เกินไป
ไม่เมาเหล้าแล้วแต่เรายังเมารัก สุดจะหักห้ามจิตคิดไฉน
ถึงเมาเหล้าเช้าสายก็หายไป แต่เมาใจนี้ประจำทุกค่ำคืน
4. จากผลงานของท่านเท่าที่ค้นพบในปัจจุบันก็มีปริมาณมากอยู่
ถ้าสุนทรภู่เป็นคนขี้เมาจะเอาเวลาไหนไปเขียน
เพราะธรรมดาคนกินเหล้าเวลาเมาก็นอนใช่ไหมครับ หรือก็พูดเพ้อไปเรื่อยๆ ที่สำคัญ
จากเนื้อหาในเรื่องพระอภัยมณี
ไม่ทราบว่ามีกี่คนที่รู้ว่าเรื่องของนางผีเสือสมุทรจับพระอภัยมณีไปอยู่ในถ้ำ
จนมีลูกด้วยกันชื่อสินสมุทร และท้ายที่สุด ดช. สินสมุทรก็พาพ่อหนี
โครงสร้างเรื่องตอนนี้ได้รับอิทธิพลจาก อรรถกถาชาดกเรื่อง “ปทกุสลชาดก” (เรื่องที่ 432)
ลองคิดดูนะครับ ชาดกเรื่องนี้ถ้าไปถามนักเรียนภาษาไทย หรือนักเรียนภาษาบาลี
รับลองได้ถามร้อยคน มีคนรู้ไม่เกินสิบ
นี่คือสมัยที่มีการตีพิมพ์และแปลจากภาษาบาลี
ถ้ามองย้อนกลับสู่สมัยที่ยังไม่มีการตีพิมพ์ และการแปลจะขนาดไหน
มิใช่แต่วรรณคดีไทย วรรณคดีบาลี
แม้กระทั่งพงศาวดารจีนเช่น เรื่องไซ่ฮั่น
ท่านก็ได้นำเหตุการณ์บางตอนมาแต่งพระอภัยมณี
เมื่อพระอภัยมณีหนีไปอยู่เกาะแก้วพิสดารแล้วก็ไปท้องกับนางเงือก
สมัยก่อนเมื่อเวลาที่คุณครูสอนถึงเกาะแก้วพิสดารทีไร
ครูก็จะบอกว่าเกาะแก้วพิสดารคือ เกาะเสม็ด ที่จังหวัดระยอง
พอถามครูว่าทำไมต้องเกาะเสม็ดไม่ใช่ เกาะไหหลำ เกาะพีพี หรือเกาะฮาวาย ฯลฯ
เรื่องนี้ ขุนวิจิตรมาตรา (สง่า กาญจนาคพันธุ์)
ได้เขียนอธิบายไว้แล้ว ในหนังสือเรื่อง ภูมิศาสตร์สุนทรภู่
และ คุณ สุจิตต์ วงษ์เทศ ก็ได้มาเขียนขยายเพิ่มเติม
ในบทความเรื่อง พระอภัยมณีมีฉากอยู่ที่ทะเลอันดามัน อ่าวเบงกอล และมหาสมุทรอินเดีย
นอกจากนี้ภูมิสถานในเรื่องพระอภัยมณีมิได้ถูกจำกัดอยู่ในกรอบของความคิดเดิม
ดังนั้นเราจะเห็นว่าชื่อเมืองต่างๆ ในพระอภัยมณีหลายเมืองที่คิดไม่ถึงว่าคนรุ่นต้นกรุงจะรู้จัก
เช่น เมืองไอคุปโต ไม่ต้องเดาให้มากความเมืองนี้คือ อียิปต์ในปัจจุบัน
ซึ่งยังมีอีกหลายเมืองที่ขออนุญาตไม่กล่าวถึง
บางเมืองก็อยู่ในตะวันออกกลาง
เพราะฉะนั้นพระอภัยมณีที่ท่านแต่งนั้นได้ใช้ฉากที่มาแต่งเรื่องนี้ถึงกว่าครึ่งโลก
นอกจากนี้สุนทรภู่ยังได้กล่าวว่า
เมืองลังกาเป็นฝรั่ง เมืองของอุศเรน และของนางละเวง
ซึ่งก็ตรงกับความเป็นจริงว่า ลังกาในสมัยได้ตกเป็นเมืองขึ้นของอังกฤษไปแล้ว
แต่ผมว่าคนหลายคนในรุ่นนั้นก็ยังคงคิดว่า
ลังกาเป็นศูนย์กลางของพระพุทธศาสนา หรือ เป็นเมืองยักษ์ทศกัณฐ์
ดังนั้นหากเรากลับมานึกทบทวน
สุนทรภู่เป็นกวีที่มีความรู้ประเภทหนอนหนังสือและเปิดใจเรียนรู้ทันโลก
พูดง่ายๆ ว่าทันสมัยทันเหตุการณ์ อีกทั้งยังมีจินตนาการ
ถ้าท่านเป็นคนขี้เมาแบบประเภทเมาเช้าเมาเย็น
(ไม่นับดื่มนิดดื่มหน่อยพอเป็นยา)
รับรองว่าจะไม่มีเรื่องพระอภัยมณีที่เราได้อ่านกันในปัจจุบัน
แต่พระอภัยมณีจะเป็นไอ้หนุ่มมัดเมา
จากเฟซบุ๊ก รุ่งโรจน์ ภิรมย์อนุกูล / ๒๖ มิถุนายน ๒๕๖๑
https://www.facebook.com/r.bhiramya/posts/2225917690769978
วันสุนทรภู่ : สุนทรภู่ขี้เมาจริงหรือ
ของ รุ่งโรจน์ ภิรมย์อนุกูล
..........................................
วันที่ 26 มิถุนายน บรรดานักปราชญ์ราชบัณฑิตท่านบอกต่อๆกันมาว่า
เป็นวันเกิดของพระสุนทรโวหาร (ภู่) หรือ สุนทรภู่
ที่บุคคลในสมัยหลังยกย่องกันว่าเป็นกวีเอกท่านหนึ่งของกรุงรัตนโกสินทร์
ประวัติของท่านสุนทรภู่ก็ไม่ใช่ว่าท่านเป็นผู้เขียนเอง
ทั้งนี้เพราะในอดีตเราไม่มีธรรมเนียมการเขียนอัตชีวประวัติและประวัติของบุคคลอื่น
หากแต่ประวัติของท่านนั้นสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ
ทรงพระนิพนธ์ขึ้นเพื่อเป็นบทนำของเสภาพระราชพงศาวดาร
พิมพ์ครั้งแรกในปี พ.ศ. 2465 ในงานฉลองครบ 5 รอบสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์พระองค์นั้น
สาเหตุที่เราถือกันว่าวันที่ 26 มิถุนายนเป็นวันเกิดของท่านนั้น
ใช่ว่ามีใครไปพบสูติบัตรของท่าน
หากแต่อาศัยดวงชะตาที่โหรคนหนึ่งเขาจดไว้ (ไม่รู้ว่าเป็นใคร)
ว่าท่านเกิดในวันจันทร์ เดือน 8 ขึ้น 1 ค่ำ ปีมะเมีย ตามจันทรคติ
และต่อมาสมเด็จฯ กรมพระยาดำรงราชานุภาพได้นำดวงชะตาของที่โหรคนนี้จดไว้
มาพิมพ์ประกอบในประวัติของสุนทรภู่
เรื่องนี้คงต้องถืออนุโลมตามสมเด็จฯ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ
ประวัติของสุนทรภู่นั้นถูกสาธารณชนมองว่า
ท่านเป็นคนขี้เมา เจ้าชู้ อยู่อย่างไพร่ ไร้เคหา
หลายเรื่องอาจารย์ผู้ใหญ่หลายท่านก็ได้เคยนำเสนอไปบ้างแล้ว
อาจารย์ นิธิ เอียวศรีวงศ์ และ อาจารย์ สุจิตต์ วงษ์เทศ เป็นต้น
ในสัปดาห์นี้ผมจะนำเสนอว่า สุนทรภู่ไม่ใช่เป็นคนขี้เมาตามที่เราเชื่อ
ด้วยเหตุผลต่อไปนี้
1. ปัญหาเรื่องสุนทรภู่เป็นคนขี้เมา
ไม่มีการจดบันทึกเป็นกิจจะลักษณะแต่ประการใดหรือแม้แต่คำบอกเล่าก็ไม่เคยพบ
นอกเสียจากคำที่สมเด็จ ฯ กรมพระยาดำรงราชานุภาพทรงอ้างไว้ว่า
มีอยู่ที่ข้างใต้ดวงชะตาของสุนทรภู่ว่า “สุนทรภู่อาลักษณ์ขี้เมา”
ดังนั้นเมื่อมีอะไรเกิดขึ้นในชีวิตสุนทรภู่ก็จะต้องสรุปว่าเพราะความขี้เมา
ยกตัวอย่างเช่นเมื่อสุนทรภู่ต้องติดคุก เพราะกล่าวกันว่า
ท่านได้เมาเหล้าแล้วขู่เข็ญมารดา จนทำให้มีญาติผู้ใหญ่ถูกทำร้าย
และถึงขั้นที่จะต้องมีการถวายฎีกา และที่สำคัญท่านเคยติดคุกจริงหรือเปล่าเราก็ไม่ทราบ
ครั้นจะอ้างว่ามีเค้าเงื่อนอยู่ในพลายงามจะขอเข้าไปอยู่ในคุกกับขุนแผน
ก็ตอบลำบากอีกเช่นเดียวว่ามันจะมีเค้าความจริงมากเพียงนั้นหรือ
2.สำหรับปัญหาเรื่องดวงชะตาสุนทรภู่ เรื่องก็ดูออกจะน่าสงสัยอยู่ที่ว่า
ตามธรรมเนียมโบราณก่อนที่วัฒนธรรมตะวันตกจะเจริญเฟื่องฟู
ดวงชะตาวันเกิดย่อมปิดเป็นความลับ เพราะความเชื่อเรื่องไสยศาสตร์
ดังนั้นตั้งแต่ก่อนหน้ารัชกาลที่ 4 ขึ้นไป
เราจึงไม่ทราบวันคล้ายวันประสูติของพระเจ้าอยู่หัวและเจ้านาย
รวมถึงขุนนางในสมัยก่อนแต่ประการใด
ที่สำคัญทำไมจึงค้นพบดวงชะตาของสุนทรภู่
และทำไมกวีท่านอื่นที่ชีวิตอยู่ร่วมสมัยกับสุนทรภู่
อย่างเช่น พระยาตรังคภูมิบาล จึงไม่ปรากฏ
ถ้าหากคิดว่าดวงชะตาสุนทรภู่ฉบับที่เราอ้างอิงอยู่
เป็นของที่อาลักษณ์รุ่นก่อนจดไว้จริง
และข้อความที่กล่าวว่า “สุนทรภู่อาลักษณ์ขี้เมา”
คำว่าขี้เมาของท่านผู้จดมันปริมาณมากน้อยขนาดไหน
เราไม่อาจที่จะทราบได้ ทั้งนี้เพราะ
ถ้าสมมติว่าคนที่ดื่มวันนิดประเภทเบียร์วันละ 5 ขวดหรือเหล้า 1 กลม
คำว่าขี้เมาก็ต้องหมายความว่า บุคคลผู้นั้นจะต้องมีปริมาณการดื่มที่มากกว่า
แต่ถ้าอาลักษณ์ผู้จดท่านั้นเป็นคนประเภทไม่แตะของมึนเมาเลย
การที่สุนทรภู่จะดื่มเพียงแค่ฝาเดียวก็มีสิทธิที่จะถูกกล่าวหาว่าขี้เมาได้แล้ว
3. ในนิราศของสุนทรภู่เองท่านก็ไม่เคยบอกว่า ท่านดื่มเหล้าแต่ประการใด
แม้ว่าในนิราศภูเขาทองท่านจะมีพูดถึงเหล้าแต่ก็ไม่ได้พิสูจน์ท่านเป็นคนขี้เมา
ดังบทกลอนดังต่อไปนี้
ถึงโรงเหล้าเตากลั่นควันโขมง มีคันโยงผูกไว้ที่ปลายเสา
โอ้บาปกรรมน้ำนรกเจียวอกเรา ให้มัวเมาเหมือนหนึ่งบ้าเป็นน่าอาย
ทำบุญบวชกรวดน้ำขอสำเร็จ สรรเพชญโพธิญาณประมาณหมาย
ถึงสุราพารอดไม่วอดวาย ไม่ใกล้กรายแกล้งเมินก็เกินไป
ไม่เมาเหล้าแล้วแต่เรายังเมารัก สุดจะหักห้ามจิตคิดไฉน
ถึงเมาเหล้าเช้าสายก็หายไป แต่เมาใจนี้ประจำทุกค่ำคืน
4. จากผลงานของท่านเท่าที่ค้นพบในปัจจุบันก็มีปริมาณมากอยู่
ถ้าสุนทรภู่เป็นคนขี้เมาจะเอาเวลาไหนไปเขียน
เพราะธรรมดาคนกินเหล้าเวลาเมาก็นอนใช่ไหมครับ หรือก็พูดเพ้อไปเรื่อยๆ ที่สำคัญ
จากเนื้อหาในเรื่องพระอภัยมณี
ไม่ทราบว่ามีกี่คนที่รู้ว่าเรื่องของนางผีเสือสมุทรจับพระอภัยมณีไปอยู่ในถ้ำ
จนมีลูกด้วยกันชื่อสินสมุทร และท้ายที่สุด ดช. สินสมุทรก็พาพ่อหนี
โครงสร้างเรื่องตอนนี้ได้รับอิทธิพลจาก อรรถกถาชาดกเรื่อง “ปทกุสลชาดก” (เรื่องที่ 432)
ลองคิดดูนะครับ ชาดกเรื่องนี้ถ้าไปถามนักเรียนภาษาไทย หรือนักเรียนภาษาบาลี
รับลองได้ถามร้อยคน มีคนรู้ไม่เกินสิบ
นี่คือสมัยที่มีการตีพิมพ์และแปลจากภาษาบาลี
ถ้ามองย้อนกลับสู่สมัยที่ยังไม่มีการตีพิมพ์ และการแปลจะขนาดไหน
มิใช่แต่วรรณคดีไทย วรรณคดีบาลี
แม้กระทั่งพงศาวดารจีนเช่น เรื่องไซ่ฮั่น
ท่านก็ได้นำเหตุการณ์บางตอนมาแต่งพระอภัยมณี
เมื่อพระอภัยมณีหนีไปอยู่เกาะแก้วพิสดารแล้วก็ไปท้องกับนางเงือก
สมัยก่อนเมื่อเวลาที่คุณครูสอนถึงเกาะแก้วพิสดารทีไร
ครูก็จะบอกว่าเกาะแก้วพิสดารคือ เกาะเสม็ด ที่จังหวัดระยอง
พอถามครูว่าทำไมต้องเกาะเสม็ดไม่ใช่ เกาะไหหลำ เกาะพีพี หรือเกาะฮาวาย ฯลฯ
เรื่องนี้ ขุนวิจิตรมาตรา (สง่า กาญจนาคพันธุ์)
ได้เขียนอธิบายไว้แล้ว ในหนังสือเรื่อง ภูมิศาสตร์สุนทรภู่
และ คุณ สุจิตต์ วงษ์เทศ ก็ได้มาเขียนขยายเพิ่มเติม
ในบทความเรื่อง พระอภัยมณีมีฉากอยู่ที่ทะเลอันดามัน อ่าวเบงกอล และมหาสมุทรอินเดีย
นอกจากนี้ภูมิสถานในเรื่องพระอภัยมณีมิได้ถูกจำกัดอยู่ในกรอบของความคิดเดิม
ดังนั้นเราจะเห็นว่าชื่อเมืองต่างๆ ในพระอภัยมณีหลายเมืองที่คิดไม่ถึงว่าคนรุ่นต้นกรุงจะรู้จัก
เช่น เมืองไอคุปโต ไม่ต้องเดาให้มากความเมืองนี้คือ อียิปต์ในปัจจุบัน
ซึ่งยังมีอีกหลายเมืองที่ขออนุญาตไม่กล่าวถึง
บางเมืองก็อยู่ในตะวันออกกลาง
เพราะฉะนั้นพระอภัยมณีที่ท่านแต่งนั้นได้ใช้ฉากที่มาแต่งเรื่องนี้ถึงกว่าครึ่งโลก
นอกจากนี้สุนทรภู่ยังได้กล่าวว่า
เมืองลังกาเป็นฝรั่ง เมืองของอุศเรน และของนางละเวง
ซึ่งก็ตรงกับความเป็นจริงว่า ลังกาในสมัยได้ตกเป็นเมืองขึ้นของอังกฤษไปแล้ว
แต่ผมว่าคนหลายคนในรุ่นนั้นก็ยังคงคิดว่า
ลังกาเป็นศูนย์กลางของพระพุทธศาสนา หรือ เป็นเมืองยักษ์ทศกัณฐ์
ดังนั้นหากเรากลับมานึกทบทวน
สุนทรภู่เป็นกวีที่มีความรู้ประเภทหนอนหนังสือและเปิดใจเรียนรู้ทันโลก
พูดง่ายๆ ว่าทันสมัยทันเหตุการณ์ อีกทั้งยังมีจินตนาการ
ถ้าท่านเป็นคนขี้เมาแบบประเภทเมาเช้าเมาเย็น
(ไม่นับดื่มนิดดื่มหน่อยพอเป็นยา)
รับรองว่าจะไม่มีเรื่องพระอภัยมณีที่เราได้อ่านกันในปัจจุบัน
แต่พระอภัยมณีจะเป็นไอ้หนุ่มมัดเมา
จากเฟซบุ๊ก รุ่งโรจน์ ภิรมย์อนุกูล / ๒๖ มิถุนายน ๒๕๖๑
https://www.facebook.com/r.bhiramya/posts/2225917690769978