10+(1) หนังก่อการร้ายแห่งศตวรรษที่ 21 ที่คุณไม่ควรพลาด


หนังก่อการร้าย (Terrorism Film) มีการอ้างอิงหรือโฟกัสถึงเหตุการณ์ที่ใครบางคนหรือกลุ่มคนที่อาจเรียกได้ว่าเป็นอาชญากร ได้กระทำการบางอย่างซึ่งก่อให้เกิดความกลัว ความไม่สงบ เพื่อผลประโยชน์ที่อาจเกี่ยวข้องกับการเมือง ศาสนา หรืออุดมการณ์อย่างใดอย่างหนึ่ง
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.

10. Patriots Day (2016)

เหตุวินาศกรรมระเบิดในการแข่งขันวิ่งมาราธอนเมืองบอสตันปี 2013 ได้คร่าชีวิตคน 3 คน และมีผู้บาดเจ็บอีกกว่าร้อยคน ซึ่งทาง Peter Berg ที่ช่วงหลังมักเลือกหยิบเหตุการณ์จริงมาสร้างเป็นหนังทั้ง Lone Survivor, Deepwater Horizon ก็ไม่รีรอที่จะนำเหตุการณ์ในครั้งนั้นมาเล่าเพื่อสะท้อนแง่มุมบางอย่างให้สังคมรับรู้โดยคงเค้าความจริงไว้ให้มากที่สุด ผ่านสไตล์แอคชั่น-ทริลเลอร์ที่สอดแทรกดราม่าได้ค่อนข้างลงตัง โดยหนังได้โฟกัสไปที่การสืบสวนเพื่อหาตัวการผู้อยู่เบื้องหลังผ่านนายตำรวจบอสตันและทีมเอฟบีไอ ที่ค่อยๆสืบสาวทั้งจากพยานวัตถุ ประจักษ์พยาน และคำบอกเล่าของผู้คนที่ต่างร่วมแรงร่วมใจ แสดงความกล้าจนนำไปสู่บทสรุปที่ซาบซึ้งตรึงใจ








9. Rendition (2007)

เปิดฉากด้วยเหตุระเบิดพลีชีพกลางเมืองอัฟกานิสถาน ก่อนตัดไปยังการจับกุมหนุ่มวิศวกรเคมีชาวอียิปต์ที่ถูกต้องข้อสงสัยว่าอาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุก่อการร้าย และนำไปสู่การถูกสอบสวนด้วยการทารุณกรรมที่โหดร้าย ซึ่งตัวหนังได้อิงเค้าโครงจากเรื่องจริงที่เกิดขึ้นกับ Khalid El-Masri ในปี 2003 และได้ดัดแปลงเนื้อหา ตัวละครบางส่วนเพื่อเพิ่มอรรถรสในการรับชม โดยแบ่งการเล่าเป็นสองเส้นเรื่องและตัดสลับไปมา หนึ่งคือการรีดข้อมูลของเจ้าหน้าที่ซึ่งเต็มไปด้วยความโหดร้ายทารุณ ขณะเดียวกันก็มีหนุ่มเอฟบีไอที่คอยสังเกต วิเคราะห์สถานการณ์อย่างใกล้ชิด และอีกเส้นเรื่องคือความรักของหนุ่มสาวคู่หนึ่งที่ต่อมาได้กลายเป็นชนวนเหตุการณ์สำคัญของเรื่อง








8. Eye in the Sky (2015)

การต้องเลือกระหว่างชีวิตเด็กสาวหนึ่ง กับความเสี่ยงที่คนจำนวนมากจะตายจากเหตุระเบิดที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต เป็นความยากลำบากทางคุณธรรมและจริยธรรมที่หนังได้ตั้งคำถามขึ้นมาให้คนดูได้ขบคิดไปพร้อมๆกับตัวละคร กับปฏิบัติการลับเพื่อจับกุมผู้ก่อการร้ายในประเทศเคนย่าที่ในต่อมาได้แปรเปลี่ยนเป็นคำสั่งจับตาย โดยหนังใช้การเฝ้ามองแบบเบิร์ดอายวิวผ่านเครื่องบินสอดแนมและการใช้โดรนจิ๋วเข้าไปยังพื้นที่จริงเพื่อยืนยันตัวตนของกลุ่มก่อการร้าย แน่นอนว่าทุกอย่างอาจดูง่ายหากเด็กสาวบริสุทธิ์คนหนึ่งไม่เข้าไปอยู่ในรัศมีของแรงระเบิด ที่นำไปสู่ข้อถกเถียงและการตัดสินใจร่วมกันทั้งจากฝ่ายนายทหารชั้นสูง อัยการสูงสุด นักการเมือง และกลุ่มผู้นำประเทศที่เกี่ยวข้อง








7. Unthinkable (2010)

การทรมานนักโทษเพื่อล้วงข้อมูลยังคงเกิดข้อครหาถึงความไม่เหมาะสมทางหลักคุณธรรมและจริยธรรม ขณะเดียวกันภายใต้ความโหดเหี้ยมทารุณก็แลกมาด้วยข้อมูลสำคัญที่อาจช่วยชีวิตผู้คนจำนวนมากและรักษาไว้ซึ่งความมั่นคงชาติ และนั่นก็เป็นประเด็นหลักที่หนังได้ตั้งคำถามและตีแผ่เบื้องลึกถึงกระบวนการสืบสวนของหน่วยราชการลับ เมื่อผู้ก่อการร้ายถูกหน่วยงานรัฐบาลสหรัฐและเอฟบีไอร่วมมือกันเพื่อเค้นหาที่ซ่อนของระเบิดนิวเคลียร์ 3 ลูก ไล่เรียงตั้งแต่ใช้วิธีการทางจิตวิทยากับการพูดโน้มน้าว การตอบคำถามเดิมซ้ำไปซ้ำมาเพื่อคอยจับผิด และในกรณีนี้ที่ตัวผู้ต้องหาถูกฝึกสภาพจิตมาเป็นอย่างดี ทางออกเดียวคือใช้ความรุนแรงต่างๆเข้าช่วย








6. Munich (2005)

เหตุการณ์สะท้านโลกในโอลิมปิกฤดูร้อนปี 1972 ที่กรุงมิวนิก เมื่อกลุ่มผู้ก่อการร้ายชาวปาเลสไตน์ในชื่อ 'กันยาทมิฬ' ได้ทำการจับเหล่านักกีฬาชาวอิสราเอลเป็นตัวประกันเพื่อเรียกร้องให้มีการปล่อยตัวนักโทษ แต่ท้ายที่สุดก็จบด้วยโศกนาฏกรรมที่เหล่าตัวประกันทั้งหมดเสียชีวิต ซึ่งตัวหนังได้โฟกัสเรื่องราวทั้งหมดไปยังเหตุการณ์หลังจากนั้นที่ชาวอิสราเอลมีการจัดตั้งทีมปฏิบัติการเพื่อสังหารกลุ่มผู้ก่อการร้ายที่มีส่วนเกี่ยวข้อง โดย Steven Spielberg จับประเด็นความขัดแย้งร่วมสมัยระหว่างอิสราเอลกับปาเลสไตน์มาถ่ายทอดในฐานะคนกลางเพื่อสะท้อนให้เห็นถึงผลกระทบจากการล้างแค้นทั้งด้านสภาพจิตใจของผู้คน และสังคมในวงกว้างที่นำไปสู่สภาวะไร้สันติในโลกตะวันออกกลาง








5. United 93 (2006)

หนึ่งในโศกนาฏกรรมที่ร้ายแรงที่สุดของสหรัฐ เมื่อกลุ่มผู้ก่อการร้ายได้ทำการเข้ายึดเครื่องบิน 4 ลำ โดย 3 ลำได้พุ่งเข้าชนสถานที่สำคัญต่างๆ และอีกหนึ่งลำซึ่งก็คือ UA93 ที่หนังจะโฟกัสถึงโดยเป็นเหตุการณ์บนเครื่องบินก่อนจะดิ่งสู่พื้นโลก ตัวหนังที่กำกับโดย Paul Greengrass ก็เลือกถ่ายทอดในรูปแบบที่ตัวเองถนัดอย่างเทคนิคกล้องมือที่ช่วยขับความดิบ ความระทึกของเหตุการณ์ได้อย่างเป็นธรรมชาติ ทั้งยังเฉียบขาดในการลำดับเรื่องราวที่ค่อยเป็นค่อยไปเพื่อให้คนดูเข้าใจถึงสถานการณ์ที่กำลังเกิดขึ้น และตระหนักถึงความรู้สึกที่ผู้โดยสารบนเครื่องบิน UA93 ต่างต้องพบเจอ ก่อนจะแปรเปลี่ยนจากความวิตกและความหวาดกลัว เป็นพลังในการต่อสู้กับเหล่าผู้ก่อการร้ายจนสิ้นลมหายใจสุดท้าย








4. V for Vendetta (2005)

สัญลักษณ์แห่งการต่อต้านระบอบการปกครองเผด็จการ ความอยุติธรรม และเป็นจุดศูนย์รวมแห่งพลังความคิดอย่าง Guy Fawkes mask ได้ถูกนำมาสร้างเป็นหนังผ่านการกำกับของ James McTeigue ที่นำเสนอในเชิงปรัชญาการเมือง เต็มไปด้วยอุดมการณ์ สะท้อนนัยยะทางความคิดได้อย่างมีชั้นเชิง โดยพูดถึงโลกดิสโทเปียของประเทศอังกฤษซึ่งถูกปกครองด้วยระบบเผด็จการที่ถูกชักใยโดยอำนาจมืดของรัฐบาล และโฟกัสไปยังชายผู้สวมหน้ากากกาย ฟอกส์ ที่แสดงเจตจํานงไม่เห็นด้วยต่อโครงสร้างการปกครองและต้องการปลดปล่อยผู้คนให้เป็นอิสระ จนนำไปสู่แผนปฏิวัติครั้งสำคัญ ทั้งการลอบสังหารบุคคลชั้นสูงของรัฐบาล รวมถึงแผนระเบิดรัฐสภาซึ่งเป็นไฮท์ไลท์ของเรื่อง








3. The Dark Knight Rises (2012)

ข้ามผ่านจากหนังซูเปอร์ฮีโรสู่หนังแอคชั่น-อาชญากรรมเต็มรูปแบบ กับเนื้อหาที่สะท้อนถึงภัยคุกคามจากการก่อการร้าย สภาพสังคมที่ไร้การควบคุมนำไปสู่ลัทธิอนาธิปไตย จากศัตรูใหม่ซึ่งเป็นอดีตพันธมิตรแห่งเงา ที่ผลักแบทแมนสู่หลุมพรางแห่งความเจ็บปวดและความสิ้นหวัง ก่อนถูกดึงกลับมาเพื่อย้ำเตือนการเป็นสัญลักษณ์แห่งความหวังในยามที่โลกปราศจากวีรบุรุษ ซึ่งวิสัยทัศน์ของ Christopher Nolan ที่มาพร้อมสเกลที่ใหญ่และทะเยอทะยานมากขึ้น ยังสามารถเติมเต็มส่วนต่างๆได้ดีและพาไปได้สุดทาง แม้โดยรวมอาจจะยังเทียบ The Dark Knight ไม่ได้ แต่ก็นับได้ว่าเป็นการปิดไตรภาคได้อย่างทรงพลังและสมบูรณ์แบบที่สุด








2. Zero Dark Thirty (2012)

ยุทธการหอกของเนปจูน(Operation Neptune Spear ) เป็นปฏิบัติการที่ใช้ปลิดชีวิต Osama Bin Laden ผู้ก่อการร้ายที่อันตรายที่สุดในโลก ได้ถูกนำเสนอบนจอภาพยนตร์ผ่านวิสัยทัศน์ของ Kathryn Bigelow ในรูปแบบของหนังทริลเลอร์ที่เน้นความซื่อตรงต่อเหตุการณ์โดยโฟกัสไปยังกระบวนการสืบสวนแกะรอยของทีมซีไอเอที่นำแสดงโดย Jessica Chastain ตัวกลางที่คอยเก็บข้อมูลและหาเบาะแส ท่ามกลางอุปสรรคต่างๆ โดยตัวหนังเริ่มจากภารกิจเค้นความลับจากผู้ต้องหาคนสำคัญที่มีส่วนเกี่ยวพันกับกลุ่มอัลเคดาห์ ก่อนความจริงต่างๆค่อยๆถูกเปิดออกและนำไปสู่ไคลแม็กซ์ช่วง 30 นาทีสุดท้ายที่หน่วยซีลได้บุกไปยังเซฟเฮ้าส์ของเป้าหมาย และอุซามะฮ์บินลาดิน ก็เสียชีวิตลงด้วยกระสุนที่แล่นผ่านศีรษะจำนวน 3 นัด









1. Sicario (2015)

หนังอาชญากรรมที่เป็นการฟอร์มทีมกันของสองสุดยอดผู้กำกับและมือเขียนบทอย่าง Denis Villeneuve ที่มากับจังหวะนิ่งๆ เต็มไปด้วยชั้นเชิง ขึงความกดดัน พร้อมเล่นกับสภาพจิตใจตัวละครอย่างหนักหน่วง และTaylor Sheridan ผู้สร้างเรื่องราวอาชญากรรมร่วมสมัยให้ดูดิบและสมจริง โดยโฟกัสถึงปฏิบัติการล่าตัวพ่อค้ายาเสพติดรายใหญ่ของแม็กซิโก โดยมีสาวเอฟบีไอ และสองเจ้าหน้าที่หน่วยพิเศษเป็นตัวเดินเรื่อง ซึ่งแนวคิดของสามตัวละครได้สะท้อนถึงรูปแบบปฏิบัติงานในโลกแห่งความจริงได้อย่างซื่อตรง เพราะการเผชิญหน้ากับโลกที่ดำมืดไร้กฎ การยึดมั่นในความดี ความเที่ยงตรง และเดินตามกรอบ ก็ไม่อาจนำพาไปสู่เป้าหมายได้ หากไร้ซึ่งเล่ห์กลเพทุบาย ที่บางครั้งอาจต้องละทิ้งหลักของคุณธรรมจริยธรรม







+(1) หนังเเนะนำ Sicario: Day of the Soldado (2018)
(เข้าฉายในไทยฉาย 28 มิถุนายนนี้)

ภาคต่อหนังอาชญากรรมชั้นเชิงสูง Sicario ที่ต่อยอดจากปัญหายาเสพติดชายแดนสหรัฐฯ-เม็กซิโก มาขยายภาพในวงกว้าง เมื่อยาเสพติดได้ส่งผลกระทบต่อปัญหาการค้ามนุษย์และการก่อการร้ายระดับชาติ ทางแมตต์ เจ้าหน้าที่พิเศษของรัฐบาล จึงต้องกลับมาร่วมมือกับ อเลฮานโดร นายทหารรับจ้างสุดโหด เพื่อกำราบผู้ก่อการร้ายและยุติสงครามยาเสพติด โดยจุดน่าสนใจของภาคนี้ นอกเหนือจากที่ Taylor Sheridan พยายามสะท้อนความเป็นจริงของโลกปัจจุบันที่เป็นผลพวงจากปัญหายาเสพติด คือส่วนของการเข้าไปสำรวจความเป็นมนุษย์ของตัวละคร พร้อมดึงตัวตนที่เคยสูญหายไปกับการละทิ้งความถูกต้องและหลักคุณธรรมจริยธรรม

ตัวอย่างซับไทย

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ.
.
.
.
.
.
.

ทวิตเตอร์เพจ @Review_Me_ พูดคุยหนังทั่วไปเเละซีรีส์(โดยเฉพาะฝั่งเกาหลี)



ขออนุญาตฝากเพจนะครับ

https://www.facebook.com/Criticalme



เเละขออนุญาตฝากไอจีเพจด้วยนะครับ @review_me__
เป็นพื้นที่สำหรับรีวิวหนังสือนิยายต่างๆโดยเฉพาะแนวสืบสวน
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่