สวัสดีเพื่อนๆ วันนี้เราจะมาแชร์ประสบการณ์ดีๆที่ได้รับเกียรติจากทางร้าน URBANI TRUFFLE BAR & RESTAURANT ให้เราได้มาลองชิมอาหารที่ร้านกันเลยทีเดียว ร้านตั้งอยู่ที่ตึกสาทรแสควร์ ชั้น 39 ติดกับตึกมหานคร เป็นอาหารสไตล์อิตาเลี่ยนค่ะ แบบ Fine dinning ซึ่งวัตถุดิบหลักคือ Truffle จากประเทศอิตาลีนั้นเอง ตอนแรกที่ได้ยินว่าวัตถุดิบหลักคือ Truffle เรารีบตอบตกลงแบบไม่ลังเลเลยเพราะชอบกลิ่นของ Truffle อยู่แล้วเป็นเอกลักษณ์ดีค่ะ เรามาทานเมื่อวันที่ 8 มิถุนายนที่ผ่านมานี่เองพาแฟนมาดินเนอร์ใต้แสงเทียน อิอิ
ถึงร้านประมาณ 5 โมงกว่าๆ ก็สำรวจร้าน สอบถามเรื่องต่างๆ โน่นนี่นั่นตามประสาคนอยากรู้อยากเห็นแหละค่ะ การตกแต่งร้านเรียบหรูโทนสีน้ำตาลอบอุ่น ภายในร้านแบ่งเป็น 3 โซน คือโซนห้องอาหาร โซนVip และโซนบาร์ อาหารสำหรับโซนบาร์เน้นอาหาร Raw fish ลักษณะคล้าย Chef Table โดยที่เชฟจะดูแลลูกค้าเสิร์ฟอาหารต่อหน้าทำให้เห็นกันไปเลย พร้อมนั่งดื่มชิลๆ ที่นี่เค้ามีไวน์จากทั่วทุกมุมโลกให้เลือกสรรมากกว่า 200 รายการเลยวันนี้เราจะพาไปดูในโซนของร้านอาหารกันค่ะ
ทั้งร้านล้อมรอบด้วยกระจกแน่นอนอยู่แล้วว่าเราจะได้ชมวิวเมืองกรุงเทพ
ยิ่งมาทานอาหารตอนช่วงพระอาทิตย์ใกล้ตกดินพอดีก็จะเป็นมื้ออาหารเย็นที่โรแมนติกสุดๆเลยแหละ
โซนนี้ก็เป็นโซนรับรองแบบห้องส่วนตัว
มาดูโต๊ะที่เราเลือกกันดีกว่ามุมนี้สวยและเหมาะกับพาแฟนมาออกเดทในวันพิเศษสุดๆค่ะ มุมที่ร้านทุกโซนจะมองเห็นวิวทั้งร้านเลยไม่ต้องห่วงจ้า ได้กินข้าวพร้อมมองวิวแสงสีสวยๆของกรุงเทพแน่นอน
ท้องเริ่มร้องแล้วสั่งอาหารกันเลยดีกว่าที่นี่จะมีทั้งหมด 2 เซต เซตแรกราคา 3,900++ มาทั้งหมด 5 คอร์ส และเซตที่สองราคา 5,500++ มาทั้งหมด 7 คอร์ส เราเลือกเซตแรกจะมีมาทั้งหมด 5 คอร์ส
ขอเกริ่นก่อนนะคะว่าอาหารทุกจานวัตถุดิบจะมีทรัฟเฟิลเป็นส่วนประกอบทั้งหมดเลย
ระหว่างรออาหารคุณต้นผู้จัดการร้านก็ได้นำทรัฟเฟิลสดมาให้เราดูให้เห็นกันจะๆเลยเพราะที่ร้านใช้ทรัฟเฟิลสดนำเข้าทุกเดือน โดยแบรนด์อูบานี่ซึ่งเป็นแบรนด์ที่คัดสรรและผลิตสินค้าจากทรัฟเฟิลมามากกว่า 6 ชั่วอายุคนครองตลาดมากกว่า 70% ของตลาดทรัฟเฟิลในโลกกันเลยค่ะ ซึ่งทรัฟเฟิลสดเป็นไฮไลท์ของที่นี่เลยก็ว่าได้ เรามาเริ่มกันที่ amuse bouche จะทำเป็นแบบพอดีคำ เป็นอาหารที่เชฟอยากโชว์ ให้ดูถึงความสดและสวยงามมีแถมให้ไม่ได้อยู่ในเมนูน๊า หรือจะเรียกว่าอาหารจานแรกเป็นของออเดิร์ฟก็ได้
เรียกน้ำย่อยจนท้องร้องคุคะ คุคะ 55555 เอาล่ะ อาหารเริ่มมาเรื่อยๆเลย เริ่มคอร์สแรกด้วยเมนู Truffle foie gras terrine
( Homemade Truffled foie gras terrine, pistachio crumble and ice cream )
เมนูนี้จะมาพร้อมกับขนมปังโฮมเมดที่ทางร้านทำสดใหม่ทุกวัน
ทา Truffle foie gras terrine ลงบนขนมปังแล้วกินไอศกรีมตบท้าย
บอกตรงๆ เราลังเลมากที่จะกินฟัวกรา เพราะเคยลองที่ร้านอาหารครั้งหนึ่งคือกลิ่นมันแรงมากแบบสุดๆ แต่เชฟแนะนำให้เราลอง อ่ะเอาหน่อยลองดู เห้ยคำแรกกินไปแบบกลิ่นอ่อนมากแทบจะไม่ได้กินเลย ยิ่งทากับขนมปังกตบท้ายด้วยไอศกรีมรสพิทาชิโอ้โคตรเข้ากัน ไฮกรีมทำให้ตัดเลี่ยนได้ดีเลยทีเดียวกินหมดจนลืมไปเลยว่าไม่ชอบฟัวกรา 55555
คอร์สสองกันเลยดีกว่ากับมนู Orzo al nero
(Orzo pasta and squid ink sauce, pan seared scallop and lemon foam)
Hokkaido scallops อวบๆมาพร้อมกับทรัฟเฟิลบางๆ ตัวหอยเซลล์อย่างหวานกินคู่กับทรัฟเฟิลอย่างฟินเลย ระหว่างเคี้ยวนั้นเราจะได้กลิ่นอ่อนๆของเลม่อนด้วยแหละ
ต่อกันรัวๆด้วยคอร์สสามเมนู Pan-roasted sea bass
( Spanish sea bass fillet, roasted pumpkin, chorizo, tomato confit and qinger)
เนื้อปลากะพงขาวที่นำเข้าจากสเปนมาแบบแน่นๆกิวหนังกรอบสุกกำลังดีกินคู่กับฟักทองบอลแถมตัดเลี่ยนด้วยมะเขือเทศดอง เห้ยยทำไมเข้ากันแบบบอกไม่ถูกชอบฟักทองที่รอบด้วยอัลมอนด์เคี้ยวแล้วให้ความรู้สึกแบบกรุบๆดี
เมนูนี้เชฟจะเสิร์ฟไอศกรีมราสเบอร์รี่พร้อมโยเกิร์ตรสธรรมชาติ เพื่อล้างปากจะได้ไม่มีกลิ่นคาวของปลาเวลาไปกินเมนูต่อไปค่ะ รสชาติเปรี้ยวๆ หวานๆ กำลังดีค่ะ อร่อยจนกินไปสองเลย555
คอร์สที่สี่สายเนื้ออย่างเราไม่ควรพลาดดดดกับเมนู Tournedos Rossini
(Grain fed Australian beef tenderloin, foie qras escalope, potatoes and heirloom tomatoes, truffle sauce)
สเต็กเนื้อนำเข้าจากเนื้อออสเตรเลียความสุกแบบมีเดียมแรร์ เนื้อกึ่งสุกกึ่งดิบ แบบพอดีเนื้อนุ่มโอ๊ยยดีงามมากๆมาคู่กับทรัฟเฟิลสดสไลด์บางๆ และฟัวกราเจ้าเก่าเจ้าเดิมที่ไม่มีกลิ่นเลยแม้แต่น้อย ราสน้ำซอสแล้วกินเข้ากันมากเมนูนี้ลงตัวสุดๆ
สายเนื้อห้ามพลาดเลยกับคอร์สที่สี่ เป็นเมนูปิดท้ายที่ประทับมาก…ก็เนื้อมันอร่อยอ่า
มาถึงคอร์สสุดท้ายของหวานของค่ำคืนนี้ก็คือเมนู Chocolate fondant
( warm chocolate fondant with praline and tuile )
สายหวานอย่างเราบอกได้เลยว่าดีงามอีกแล้วเป็นจานสุดท้ายที่ประทับใจจริงๆ เซตช็อกโกแลตลาวา แต่เดี๋ยวก่อนปกติแล้วช็อกโกแลตลาวามักจะมาพร้อมไอศกรีมวนิลา แต่ที่นี่ไม่ค่ะมาพร้อมช็อกโกแลตที่ให้ความรู้สึกคล้ายๆนามะ และครีมทีรามิสุเห็นเท่านั้นแหละ รีบตักกินเค้กช็อกโกแลตแถมคำตามด้วยทั้งสองอย่างโอ๊ยลงตัวสุดๆค่ะ ตบมืออออ ชนะเลิสเลยจนจานสุดท้ายจริงๆ
เมื่อท้องเราอิ่มแล้วก็ออกสำรวจรอบๆดีก่า เอาภาพตอนกลางคืนของร้านมาให้ดูด้วย เป็นร้านอาหารที่โรแมนติกมากๆได้เห็นไฟสวยๆมุมสูงของกรุงเทพในยามค่ำคืน
ยืนดูเชฟรังสรรค์อาหารให้เราทานก็ได้ อาหารทั้งหมดว่ากันว่าทุกจานทุกเมนูเป็นโฮมเมดทั้งหมด
ตรงนี้เป็นห้องทำขนมหวาน ซึ่งเราก็จะเห็นการทำอาหารจนถึงขั้นตอนการจัดจาน
อย่างที่บอกตั้งแต่แรกเลยว่าทุกจานคุณภาพของวัตถุดิบได้ถูกคัดสรรค์มาอย่างดี แม้แต่น้ำมันมะกอกหรือเกลือที่ใช้ปรุงอาหารก็มีส่วนผสมของทรัฟเฟิลอาหารทุกคอร์สที่เราได้กินจึงออกมาอร่อยมากจริงๆค่ะ แถมยังถูกสร้างอย่างพิถีพิถันโดยเชฟทั้ง 7 ท่าน ที่มีประสบการณ์ในร้านอาหารระดับมิชลินสตาร์
และหากใครที่มาทานที่ร้านแล้วชอบผลิตภัณฑ์ทรัฟเฟิลทางร้านมีโซนMerchandising ให้เราได้เลือกช้อปปิ้งซื้อสินค้าที่ผลิตจากทรัฟเฟิลแท้ๆโดยแบรนด์อูบานี นำเข้าจากประเทศอิตาลีกลับบ้านไปปรุงอาหารรับประทานเองอีกด้วย
ทั้งหมดที่เราได้ทานราคาอยู่ที่ 3,900++ 5 คอร์ส ฟังจากราคาแล้วบางคนคิดว่าราคาสูง แต่เราว่าถ้าหากกำลังมองหาร้านอาหารสไตล์อิตาเลี่ยนแบบ Fine dinning และวัตถุดิบดีแถมมีทรัฟเฟิลเป็นส่วนประกอบหลักของอาหารแล้วล่ะก็เราว่าที่ URBANI TRUFFLE BAR & RESTAURANT ราคาไม่แรงจนเกินไปและได้กินอาหารที่วัตถุดิบเลือกมาอย่างพิเศษแน่นอนค่ะ
ใครสนใจที่อยากลองทานแนะนำให้โทรไปสอบถามทางร้านตามเบอร์นี้เลย 02-2331990-1, 081-1331337, 081-8155570 หรือจะเข้าเว็ปดูรายละเอียดก่อนก็ได้ www.urbanithailand.com ไปทานแล้วมาแชร์ให้ฟังกันบ้างนะคะ
[SR] ร้านอาหารวิวดีย่านสาทร URBANI TRUFFLE BAR & RESTAURANT
สวัสดีเพื่อนๆ วันนี้เราจะมาแชร์ประสบการณ์ดีๆที่ได้รับเกียรติจากทางร้าน URBANI TRUFFLE BAR & RESTAURANT ให้เราได้มาลองชิมอาหารที่ร้านกันเลยทีเดียว ร้านตั้งอยู่ที่ตึกสาทรแสควร์ ชั้น 39 ติดกับตึกมหานคร เป็นอาหารสไตล์อิตาเลี่ยนค่ะ แบบ Fine dinning ซึ่งวัตถุดิบหลักคือ Truffle จากประเทศอิตาลีนั้นเอง ตอนแรกที่ได้ยินว่าวัตถุดิบหลักคือ Truffle เรารีบตอบตกลงแบบไม่ลังเลเลยเพราะชอบกลิ่นของ Truffle อยู่แล้วเป็นเอกลักษณ์ดีค่ะ เรามาทานเมื่อวันที่ 8 มิถุนายนที่ผ่านมานี่เองพาแฟนมาดินเนอร์ใต้แสงเทียน อิอิ
ถึงร้านประมาณ 5 โมงกว่าๆ ก็สำรวจร้าน สอบถามเรื่องต่างๆ โน่นนี่นั่นตามประสาคนอยากรู้อยากเห็นแหละค่ะ การตกแต่งร้านเรียบหรูโทนสีน้ำตาลอบอุ่น ภายในร้านแบ่งเป็น 3 โซน คือโซนห้องอาหาร โซนVip และโซนบาร์ อาหารสำหรับโซนบาร์เน้นอาหาร Raw fish ลักษณะคล้าย Chef Table โดยที่เชฟจะดูแลลูกค้าเสิร์ฟอาหารต่อหน้าทำให้เห็นกันไปเลย พร้อมนั่งดื่มชิลๆ ที่นี่เค้ามีไวน์จากทั่วทุกมุมโลกให้เลือกสรรมากกว่า 200 รายการเลยวันนี้เราจะพาไปดูในโซนของร้านอาหารกันค่ะ
มาดูโต๊ะที่เราเลือกกันดีกว่ามุมนี้สวยและเหมาะกับพาแฟนมาออกเดทในวันพิเศษสุดๆค่ะ มุมที่ร้านทุกโซนจะมองเห็นวิวทั้งร้านเลยไม่ต้องห่วงจ้า ได้กินข้าวพร้อมมองวิวแสงสีสวยๆของกรุงเทพแน่นอน ท้องเริ่มร้องแล้วสั่งอาหารกันเลยดีกว่าที่นี่จะมีทั้งหมด 2 เซต เซตแรกราคา 3,900++ มาทั้งหมด 5 คอร์ส และเซตที่สองราคา 5,500++ มาทั้งหมด 7 คอร์ส เราเลือกเซตแรกจะมีมาทั้งหมด 5 คอร์ส
เมื่อท้องเราอิ่มแล้วก็ออกสำรวจรอบๆดีก่า เอาภาพตอนกลางคืนของร้านมาให้ดูด้วย เป็นร้านอาหารที่โรแมนติกมากๆได้เห็นไฟสวยๆมุมสูงของกรุงเทพในยามค่ำคืน
ทั้งหมดที่เราได้ทานราคาอยู่ที่ 3,900++ 5 คอร์ส ฟังจากราคาแล้วบางคนคิดว่าราคาสูง แต่เราว่าถ้าหากกำลังมองหาร้านอาหารสไตล์อิตาเลี่ยนแบบ Fine dinning และวัตถุดิบดีแถมมีทรัฟเฟิลเป็นส่วนประกอบหลักของอาหารแล้วล่ะก็เราว่าที่ URBANI TRUFFLE BAR & RESTAURANT ราคาไม่แรงจนเกินไปและได้กินอาหารที่วัตถุดิบเลือกมาอย่างพิเศษแน่นอนค่ะ ใครสนใจที่อยากลองทานแนะนำให้โทรไปสอบถามทางร้านตามเบอร์นี้เลย 02-2331990-1, 081-1331337, 081-8155570 หรือจะเข้าเว็ปดูรายละเอียดก่อนก็ได้ www.urbanithailand.com ไปทานแล้วมาแชร์ให้ฟังกันบ้างนะคะ
Pantip : https://ppantip.com/profile/4319193
FB : https://www.facebook.com/TeepakteerakTraveler/
IG : https://www.instagram.com/teepakteerak_travel/
SR - Sponsored Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ SR โดยที่เจ้าของกระทู้
ข้อมูลเพิ่มเติม
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น