จะมาเล่าประสบการณ์ที่เหมือนฝันกับการได้ร่วมโครงการ (life is mine ss2) ทำหน้าให้เปลี่ยนเป็นคนดูดีด้วยศัลยกรรมของโรงพยาบาลชั้นนำจากเกาหลี โดยผมมีนัดต้องไปทำ ตา จมูก ที่เกาหลี ในวันที่ 16-29 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2561 ที่ผ่านมา การเดินทางครั้งนี้ต้องขอบอกก่อนเลยว่าเป็นครั้งแรกที่ได้ออกมาเที่ยวต่างประเทศด้วย ความตื่นเต้นเลยเยอะเป็นพิเศษ ได้เที่ยวด้วยได้ทำหน้าด้วยฟินสุดๆเลยล่ะครับ ใครๆก็อยากดูดีจริงมั้ย ครั้งนี้ผมเลยฟาแฟนไปดูแลพยาบาลเป็นพิเศษด้วย ต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยถ้ารูปประกอบน้อยเพราะ ถ่ายรูปไม่เก่งเลยมีรูปไม่ค่อยเยอะครับ พึ่งสึกมาจากการเป็นพระด้วย หน้าก็จะดูตลกๆหน่อยนะครับ นั่งเครื่องบิน 5 ช.ม. แปบเดียวถึงเพราะง่วงสะสมมาหลายวันด้วย
พอถึงก็ตาสว่างพอดีเลย อากาศหนาวมาก ช่วงเดือนกุมภา วันแรกที่ถึง -4องศา แหนะหนาวมาก
พี่ๆคนไทยที่โรงพยาบาลดีมากๆโทรถามเราตลอดว่าเราถึงไหนติดขัดตรงไหนบ้าง เอาใจใส่ดีมากๆ ทำให้รู้เลยว่าการไปทำศัลยกรรมเกาหลีไม่ใช่เรื่องยากเลย มันคุ้มค่ากับการทำโดยแทบไม่ต้องคำนึงถึงเรื่องแก้เลยด้วยซ้ำ
มาเข้าเรื่องกันเลยดีกว่า
ผมเผื่อเวลาก่อนวันผ่าตัดไป 2 วัน ทำให้มีเวลาเที่ยวแค่2วันแต่ก็คุ้มค่า(สนุกกับการกินเวอร์) พี่ที่โรงพยาบาลพามาเลี้ยงข้าว แนะนำที่ท่องเที่ยวสนุกมากๆ
วันที่ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2561 ตื่นเต้นและกังวลมากเพราะต้องไปโรงพยาบาลแต่เช้าเพื่อวางแผน เอ็กเรย์ ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ เข้าพบแพทย์ ผ่าตัดตอนบ่ายวันนั้นเลย ตอนแรกกลัวมากแต่เพราะมีพี่คนไทยอยู่ด้วยตลอดเลยทำให้ไม่รู้สึกกังวลอะไร การผ่าตัดละเอียดมาก ขั้นตอนเยอะมาก แต่ความปลอดภัย การเอาใจใส่ มันทำให้เรารู้สึกได้เลยว่ามันจะต้องออกมาดี เพราะเค้าตั้งใจเป็นเคสๆไป วันนึงจะรับได้ไม่กี่ท่าน กรรมวิธีมีความละเอียดทำให้ เข้าใจเลยว่า ทำไมศัลยกรรมต้องมา จบที่เกาหลี  เพราะเค้าดีจริงๆ การผ่าตัดผ่านไป 6 ช.ม. ทำนานมาก อ่อ!!!!!!ลืมบอกไปว่าผมทำจมูกใส่ซิลิโคนได้น้อยเพราะมีเนื้อน้อยปลายน้อย แถมยังมีฮัมพ์ เลยทำให้คุณหมอต้องวางแผนให้หน้าออกมาดูดีที่สุดคือการนำกระดูกอ่อนซี่โครง ย้ำ กระดูกอ่อนซี่โครง เหมือนจะน่ากลัวแต่จริงๆไม่เพราะว่าคุณหมอท่านเก่งเรื่องนี้มาก เป็นเทคนิคเฉพาะของทางเกาหลี ไม่มีผลกระทบใดๆ จะมีก็แต่รอยแผลเล็กๆใต้ราวนม นิดหน่อยเท่านั้น อีหนึ่งอย่างที่ประทับใจคือการทำ จมูกกับทำตานั้นใช้หมอคนละคนกันเพราะคุณหมอเกาหลีแต่ละท่านเก่งไม่เหมือนกันเพราะฉะนั้น ตากับจมูกผมก็จะใช้หมอคนละคนกันแต่เก่งไม่แพ้กันทั้งหมอจมูกและหมอตาใจดีมากเค้าใส่ใจถามคำถามความต้องการอธิบายความเป็นจริงดีมากๆ
มีล่ามคนไทยคอยแปลทุกอย่างให้ฟัง (ทุกอย่างจริงๆ)
รูปบนนี้คือรูปหน้าก่อนที่จะไปทำที่เกาหลี (เอามาให้ดูเปรียบเทียบ)
มาถึงโรงพยาบาลแล้วนี่เป็นรูปโรงพยาบาลครับ
ให้คำปรึกษาก่อนผ่าตัดมีล่ามไทยตลอด
มีการสแกนเอ็กซเรย์อย่างละเอียดเพื่อวิเคราะห์แก้ไขใบหน้า
หลับไม่รู้เรื่องอะไรเลย
หลังจากนั้นก็กลับมาพักฟื้นที่ห้อง วันแรกเจ็บมาก แต่ด้วยอากาศเย็นทำให้แผลหายไวและยุบบวมเร็วมาก วันแรกก็อาจจะนอนทุลักทุเลไปนิด55555 ช่วงแรกต้องใช้หมอนรองคอ เจ็บแต่ก็ตื่นเต้นอยากหายอยากเที่ยวไวๆ

มาดูพัฒนาการในแต่ละวันกันครับ โดยหมอนัดเอาผ้าก๊อซตออกวันที่3 และตรวจความเรียบร้อยแผล เอาที่แปะจมูกตัดไหมออกในวันที่7ของการผ่าตัด
วันที่1
วันที่2
วันที่3
วันที่4
วันที่5
วันที่6
วันที่7 มารับการตัดไหมและถอดเทปแปะจมูกออก
วันที่8
นี่คือวันที่อยู่ที่เกาหลีนะครับ
ระหว่างพักฟื้นหมอเกาหลีจะไม่เหมือนหมอไทยคือเค้าไม่ห้ามให้กินอะไรเลย กินได้ทั้งหมด เราก็เลยจัดบุฟเฟ่ปูดองซะเลย อร่อยมากๆ มากจริงๆ

หลังจากกลับจากเกาหลี ที่สุดแสนจะประทับใจจากทั้งที่พัก อาหาร ล่าม โรงพยาบาล ขอบอกเลยว่าตอนแรกกะจะเก็บประสบการณ์ไว้คนเดียว แต่คิดว่าบอกต่อดีกว่าเพราะใครๆก็อยากจะดูดีขึ้นผมเคยผ่านมาก่อน ผมก็ขอเป็นกำลังใจให้ใครทุกคนที่อยากสวยหล่อลองมองศัลยกรรมเกาหลีเป็นทางเลือกอีกสักทาง เจ็บไม่กี่วันแต่ผลลัพท์ออกมาดีก็คุ้มค่าที่จะแลกมัน ลองมาดูผลลัพท์ที่ผ่านไป 1และ2เดือน หลังจากทำศัลยกรรมเกาหลีนะครับ ดีไม่ดีขึ้นอยู่กับวิจารณญาณ
1เดือนหลังทำ

2เดือนหลังทำ

รูปมีน้อยเพราะถ่ายรูปไม่เก่งไม่ค่อยได้ถ่ายรูปยังไงก็ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย หวังว่าประสบการณ์ที่นำมาเล่าอาจจะมีประโยชน์กับใครสักคนใดคนหนึ่งไม่มากก็น้อย