จากกระทู้แรกที่เคยได้เกริ่นเอาไว้ว่า หยกเป็น ผู้โชคดีจากกิจกรรม
LIFE IN MINE ที่ได้มาทำศัลยกรรมแบบอยู่ฟรีกินฟรีใช้ชีวิตที่เกาหลีถึง 2 เดือน ขออนุญาตแนบลิ้ง :
http://ppantip.com/topic/35675255
มาถึงสัปดาห์ที่หยกรอคอยมานานแสนนาน สัปดาห์นี้หยกต้องขึ้นเขียงผ่าตัดแล้วแฮร่
คิวทำจมูกวันที่ 8 /11 ช่วงเวลาบ่าย 2
รูป
ก่อน ทำศัลยกรรม
การเตรียมตัวก่อนศัลยกรรมของหยก
งดน้ำ + อาหาร อย่างน้อย 8 ชั่วโมง งดยาและอาหารเสริมต่างๆและพักผ่อนให้เพียงพอค่ะ
นาทีแรกที่พบคุณหมอ
เป็นวินาทีที่ตื่นเต้นมากๆเลย หยกนั่งรอคุณหมอจนมือไม้สั่นพอคุณหมอเข้ามาปั้ปก็หยิบปากกาเมจิกมาขีดๆเขียนๆบนหน้าหยก แล้วถามว่าอยากได้ทรงไหนเป็นพิเศษรึเปล่า หยกบอกว่าอยากได้ที่รับกับหน้าเราก็พอ ไม่มีแบบใดๆทั้งสิ้น คุณหมอพยักหน้าหงิกๆ เราคุยกันประมาณ 20 นาทีค่ะ ได้ความว่า จมูกเดิมของหยกมีลักษณะเบี้ยวที่บริเวณแกนจมูกไม่มีสัน บริเวณกลางจมูกมีขนาดใหญ่ ปลายจมูกมีเนื้อเยอะแต่ไม่เป็นทรงทำให้ดูหน้าแก่ คุณหมอจึงออกแบบให้ใหม่โดย
เพิ่มความสูงของสันจมูกขึ้น 3 เซ็นติเมตร เพื่อให้รับกับหน้าผาก (เป็นคนหน้าผากกว้างและสูง) ส่วนกระดูกจมูกที่เบี้ยวคุณหมอบอกว่าจะ
จัดกระดูกให้ใหม่ เพื่อให้จมูกตรงขึ้นกว่าเดิม
เหลากระดูก เพิ่มเติมช่วงกลางจมูกเพื่อให้ดูเรียวยาว
เก็บปีกจมูก โดยการเย็บ และนำกระดูกหลังหูมาใช้เสริมบริเวณปลายเพื่อให้สโลปรับกับใบหน้า หยกก็พยักหน้าหงิกๆหมอว่าไงหนูก็ว่าแบบนั้นแหละค่ะ หยกถือคติที่ว่าเชื่อคุณหมอแล้วจะสวยเอง 55555555555
นั้งรออีกสักพักคุณหมออีกท่านก็เข้ามาออกแบบตาให้หยกค่ะ คุณหมอเอาไม้มาวัดความหนาของเนื้อแล้วก็ให้หยกจ้องตาหลับตามองตามมือวนไปวนมาประมาณ 10 นาทีได้ เล่นเอาปวดตากันไปเลย ได้ความว่าเนื้อบริเวณตาหยกน้อย หลบในตาไม่เท่ากัน
คุณหมอจะแก้โดยการเย็บตาสองชั้นแบบ 5 จุด ให้พูดเสร็จพลางเอาปากกาเมจิกมาวาดพร้อมบ่นพึมพำ หลังจากที่คุยกันเสร็จคุณหมอก็เดินมาตบบ่าให้กำลังใจพร้อมกับบอกว่า แล้วเจอกันนะ คือเอิ่มมดูชิวเนอะคุณหมอ
สรุปสั้นๆว่า
จมูก
- ใส่ซิลิโคนตรงสันจมูกให้สูงขึ้น 3 เซ็น
- จัดกระดูกตรงสันและกลางใหม่ (ตะไบกระดูก)
- นำกระดูกหลังหูมาเสริมปลายจมูก
- เย็บปีกจมูก
ตา
- เย็บตาสองชั้นแบบ 5 จุด
ขึ้นเขียง
หยกขึ้นไปรอที่ห้องพักฟื้นที่ทางโรงพยาบาลจัดไว้ให้ นั้งคุยกับพี่จูมิน (ล่ามของทางโรงพยาบาล) อย่างสนุกสนาน พอนาฬิการ้องบอกเวลาบ่าย 2 เป๊ะๆ พยาบาลก็เดินเข้ามาพร้อมกับส่งชุดให้หยกเปลี่ยนก่อนเข้าห้องผ่าตัด หลังจากที่หยกเปลี่ยนชุดเสร็จแล้วพยาบาลก็เดินพาหยกเข้าไปที่ห้องผ่าตัด ในห้องเป็นห้องกว้างๆค่ะเหมือนในซีรีย์เกาหลีเครื่องไม้เครื่องมือเยอะแยะเต็มไปหมด พยาบาลเปิดเพลงฟังกันชิวชิว นั้งเช็ดเครื่องมือหัวเราะคิกคัก หยกเอนตัวลงบนเตียงผ่าตัด รำพึงในใจ นี่จะผ่าแล้วจริงดิ ความรู้สึกตอนนี้ไม่กลัวอะไรเลยค่ะ มันดูผ่อนคลายไปซะหมด อาจจะเป็นเพราะว่าพยาบาลที่นี่สวย (?) 5555555 พยาบาลเอา
สำลีชุบแอลกอฮอลเช็ดทะลวงไปในรูจมูก (ใช้คำว่าทะลวงคะเพราะนางเช็ดได้ลึกมากน้ำยาลงคอกันไป กลืนน้ำลายดังเอื้อกๆ ) พอเช็ดเสร็จแล้วก็ทำการโกนขนในรูจมูกคะ จักจี้มากเสียงเครื่องมือดังคลื่นๆๆๆๆๆๆ ลืมตามาอีกทีก็มีสายน้ำเกลืออยู่ที่แขนขวาแล้วไม่รู้ว่าแทงเข็มไปตอนไหนไม่เห็นเจ็บเลย หลังจากทำความสะอาดเสร็จพี่จูมินก็เข้ามาคุยเล่น รู้สึกตัวอีกทีก็ได้ยินเสียงคลื่นๆ แว๊บแรกคิดเลยค่ะ ว่าแล้วต้องตื่นมาตอนคุณหมอกำลังทำจมูกแน่ๆ ภาวนาให้ตัวเองหลับๆไปซักที อยากตื่นมาตอนคุณหมอทำทุกอย่างเสร็จแล้วอะแงๆ แล้วก็หลับไปอีกรอบ ตื่นขึ้นมาอีกทีมีความรู้สึกว่าใครมาขเย่าแขน หยกก็ลุกขึ้นจากเตียงแบบมึนๆแล้วเดินออกไปที่ห้องพักฟื้นใกล้ๆ ใช่ค่ะอ่านไม่ผิด
หยกลุกขึ้นเองหลังจากการผ่าตัดแล้วเดินมาที่ห้องพักฟื้นเลย (ห้องผ่าตัดกับห้องพักฟื้นห่างกันแค่ประตูกั้น) ความรู้สึกหลังทำทันที ไม่เจ็บไม่ปวดไม่รู้สึกอะไรเลยค่ะ อาจจะมีอาการตึงๆที่บริเวณหูแล้วก็จมูกนิดหน่อยนอกนั้นปกติดี
นี่เป็น
รูปหลังผ่าตัดทันที
พี่จูมินแอบกระซิบว่าคุณหมอหยุดให้ยาสลบกลางทางเพราะเราดิ้นแล้วก็ร้อง หยกเลยรู้สึกตัวตอนคุณหมอเหลากระดูกอยู่
ข้อห้ามหลังจากผ่าตัด (ทันที)
- ห้ามหลับค่ะ !! เพราะเดี๋ยวจะหลับยาวหลับลืม
- ห้ามกินน้ำทันที ต้องเว้นระยะนิดหน่อยก่อนจิบค่ะ
เวลาผ่าตัด
- ใช้เวลา 5 ชั่วโมงในการผ่าตัด ตา + จมูกค่ะ
ยาที่เกาหลี
โรงพยาบาลศัลยกรรมไม่มีสิทธิที่จะออกยาให้ เราต้อง
นำใบสั่งยาไปซื้อเอง ยาที่คุณหมอให้มาเป็นแผงๆแบบนี้ มี 2 ชุด กินตามเลข 1 - 2 เวลาเช้าเย็นจนหมดแล้วต่อด้วยยาแบบกล่อง
เช้าวันที่ 1 หลังการผ่าตัด
อาการบวมเริ่มมาค่ะ ทางโรงพยาบาลให้เจลมา
ประคบบริเวณดวงตาและโหนกแก้ม อาการเจ็บไม่มีเลย (ความรู้สึกเจ็บขึ้นอยู่กับความอดทนของแต่ละคนด้วยส่วนหนึ่ง)มีแต่อาการตึงๆบริเวณจมุกที่กวนใจนิดหน่อย บวกกับการหายใจทางปากที่ยังไม่ชินซักทีเลยทำให้ไม่อยากอาหารเท่าที่ควร
การดูแลตัวเองในช่วงแรก
ไม่ควร ทานน้ำมากจนเกินไปนะค่ะถ้าเป็นไปได้เน้นจิบเล็กๆก็พอ เพราะการกินน้ำมากเกินไปอาจจะทำให้เกิดอาการบวมที่ใบหน้าได้
เน้นทาน ซุปฟักทองคะ ช่วยได้ดีมากๆๆ
การนอนหยก
เน้นนอนหมอนสูง ท่ากึ่งนั่งกึ่งนอนลำบากหน่อยแต่ทนนิดนึงนะสาวๆ
เช้าวันที่ 2 หลังการผ่าตัด
มีอาการบวมบริเวณโหนกแก้มเพราะหยกจัดกระดูกจมูกใหม่เลยระบมนิดหน่อย ค่อนข้างแปลกใจในเรื่องของตาเหมือนกันคะ เหมือนยุบลงเล็กน้อยและไม่ค่อยบวมเท่าไหร่ (เคยเห็นเพื่อนทำที่ไทยบวมมาก)
เช้าวันนี้หยกรับบทหนักนิดหน่อยค่ะ เพราะตอนเช้าต้องเข้าปรึกษาคุณหมอเรื่อง
ศัลยกรรมหน้าอก และช่วงบ่ายก็เข้าผ่าตัด
ก่อนเข้าผ่าตัดหยกต้องทำ 3D สแกนซะก่อน
ข้อดีของ 3D สแกน คือ
จะ
เห็นภายในของเรา ได้ชัดเจน เช่นความผิดปกติของซี่โครง ขนาดของหน้าอกที่แท้จริง ในกรณี หน้าอกเล็กไม่เท่ากัน เพื่อใช้ประกอบการตัดสินใจในการเลือกซิลิโคนของคุณหมอ การทำ 3D สแกน
สามารถจำลองการใส่ซิลิโคนของเรา ด้วยค่ะว่าจะออกมาในรูปแบบไหน ถ้าเราใส่ซิลิโคนใหญ่เกินไป เจ้าตัว 3D สแกน จะขึ้น OVER HEAT ว่าใส่ไม่ได้
การเข้าปรึกษาคุณหมอเรื่องหน้าอกเป็นอะไรที่อายมากๆสำหรับหยก เพราะเราต้องเปิดหน้าอกให้คุณหมอดูฮื่อๆ คุณหมอทำการวัดความหนาของเนื้อบนริเวณหน้าอกพร้อมกับเอาปากกาเมจิกมาขีดๆวาดๆตำแหน่งการใส่ซิลิโคน และเริ่มคุยเรื่องซิลิโคน สรุปความว่า คุณหมอจะผ่าตัดผ่านกล้องบริเวณใต้รักแร้ และฐานหน้าอกหยกมีเนื้ออยู่แล้วแต่บริเวณช่วงบนหน้าอกหายไปทั้งสองข้างไม่เท่ากัน เนื้อบางอาจจะใส่ไม่ได้เยอะ ดังนั้นควรใส่ซิลิโคนแบบกลมจึงดีกว่า แล้วถามหยกว่าอยากได้ใหญ่ขนาดไหน ส่วนตัวหยกอยากได้ขนาดพอดีตัวค่ะไม่ใหญ่ไปไม่เล็กไปอยากใส่เสื้อผ้าให้สวยๆ มากกว่า ไม่รู้จะใหญ่ไปทำไม (หัวเราะ) คุณหมอพยักหน้าอย่างหงิกๆแบบเข้าใจพร้อมกับหยิบซิลิโคนมาให้หยกเลือกแล้วลองจับว่าชอบแบบไหน เหมือนเดิมคะหยกก็บอกว่าเอาแบบที่คุณหมอเลือกให้ สรุปคือหน้าอกข้างซ้ายใส่ 260 cc ข้างขวาใส่ 240 cc (คัพบี) พอคุยกันเสร็จคุณหมอก็บอกว่าเจอกันที่ห้องผ่าตัดนะ
สรุปหน้าอก
- ผ่าตัดผ่านกล้องบริเวณรักแร้ไม่มีเลือดไหล
- ใช้ซิลิโคลนแบบกลม
- ข้างซ้าย 260 cc ข้างขวา 240 cc
รูปหลังทำทันที หยกหายใจทางจมูกไม่ได้ระดับออกซิเจนในร่างกายน้อยเลยต้องใช้เครื่องช่วยหายใจช่วยในระยะแรก
นั่งพักประมาณชั่วโมงครึ่งก็แวะทานข้าวแถวโรงพยาบาลแล้วก็กลับบ้าน ใช่ค่ะกลับบ้านเดินขึ้นรถไฟฟ้าเป็นสิบสถานีบวกกับการเดินเข้าคอนโดอีกสิบนาที ระยะเวลาในการเดินทางประมาณ 2 ชม. แบกทั้งเฝือกจมูกทั้งเฝือกหน้าอกเดินไปทั้งอย่างนั้น
เวลา
ใช้เวลา
ผ่าตัดประมาณ 2 ชั่วโมง
ความเจ็บ
เต็ม 10 หยกให้ 3 ค่ะไม่น่ากลัวอย่างที่คิด
มีอาการเสียวท้องตอนลุกขึ้นนั่งและนอน เหมือนต้องใช้กำลังพยุงตัวเองให้มากกว่าเดิม
อันนี้เป็นรูป
เฝือก ที่โรงพยาบาลรัดให้ค่ะแน่นมากประมาณ 3 ชั้น + กับการหายใจทางปากรู้สึกเหนื่อยไม่ใช่เล่นเลย เราต้อง ใส่เฝือกแบบนี้
ประมาณ 7 วันก่อน ค่ะเพื่อให้ซิลิโคลนคงตัวและกันกระแทก
ขออนุญาตอัพเดตรูปวันต่อวันไว้ด้านล่างนะคะเพราะเขียนไม่พอแฮ้ะๆ
[SR] 60 วันจากเด็กที่ไม่ใช่ติ่งเกาหลีแต่ดันโชคดีได้มาอยู่ฟรีกินฟรีแถมศัลยกรรมฟรีที่เกาหลี ! #2
คิวทำจมูกวันที่ 8 /11 ช่วงเวลาบ่าย 2
รูป ก่อน ทำศัลยกรรม
การเตรียมตัวก่อนศัลยกรรมของหยก
งดน้ำ + อาหาร อย่างน้อย 8 ชั่วโมง งดยาและอาหารเสริมต่างๆและพักผ่อนให้เพียงพอค่ะ
นาทีแรกที่พบคุณหมอ
เป็นวินาทีที่ตื่นเต้นมากๆเลย หยกนั่งรอคุณหมอจนมือไม้สั่นพอคุณหมอเข้ามาปั้ปก็หยิบปากกาเมจิกมาขีดๆเขียนๆบนหน้าหยก แล้วถามว่าอยากได้ทรงไหนเป็นพิเศษรึเปล่า หยกบอกว่าอยากได้ที่รับกับหน้าเราก็พอ ไม่มีแบบใดๆทั้งสิ้น คุณหมอพยักหน้าหงิกๆ เราคุยกันประมาณ 20 นาทีค่ะ ได้ความว่า จมูกเดิมของหยกมีลักษณะเบี้ยวที่บริเวณแกนจมูกไม่มีสัน บริเวณกลางจมูกมีขนาดใหญ่ ปลายจมูกมีเนื้อเยอะแต่ไม่เป็นทรงทำให้ดูหน้าแก่ คุณหมอจึงออกแบบให้ใหม่โดย เพิ่มความสูงของสันจมูกขึ้น 3 เซ็นติเมตร เพื่อให้รับกับหน้าผาก (เป็นคนหน้าผากกว้างและสูง) ส่วนกระดูกจมูกที่เบี้ยวคุณหมอบอกว่าจะ จัดกระดูกให้ใหม่ เพื่อให้จมูกตรงขึ้นกว่าเดิม เหลากระดูก เพิ่มเติมช่วงกลางจมูกเพื่อให้ดูเรียวยาว เก็บปีกจมูก โดยการเย็บ และนำกระดูกหลังหูมาใช้เสริมบริเวณปลายเพื่อให้สโลปรับกับใบหน้า หยกก็พยักหน้าหงิกๆหมอว่าไงหนูก็ว่าแบบนั้นแหละค่ะ หยกถือคติที่ว่าเชื่อคุณหมอแล้วจะสวยเอง 55555555555
นั้งรออีกสักพักคุณหมออีกท่านก็เข้ามาออกแบบตาให้หยกค่ะ คุณหมอเอาไม้มาวัดความหนาของเนื้อแล้วก็ให้หยกจ้องตาหลับตามองตามมือวนไปวนมาประมาณ 10 นาทีได้ เล่นเอาปวดตากันไปเลย ได้ความว่าเนื้อบริเวณตาหยกน้อย หลบในตาไม่เท่ากัน คุณหมอจะแก้โดยการเย็บตาสองชั้นแบบ 5 จุด ให้พูดเสร็จพลางเอาปากกาเมจิกมาวาดพร้อมบ่นพึมพำ หลังจากที่คุยกันเสร็จคุณหมอก็เดินมาตบบ่าให้กำลังใจพร้อมกับบอกว่า แล้วเจอกันนะ คือเอิ่มมดูชิวเนอะคุณหมอ
จมูก
- ใส่ซิลิโคนตรงสันจมูกให้สูงขึ้น 3 เซ็น
- จัดกระดูกตรงสันและกลางใหม่ (ตะไบกระดูก)
- นำกระดูกหลังหูมาเสริมปลายจมูก
- เย็บปีกจมูก
ตา
- เย็บตาสองชั้นแบบ 5 จุด
ขึ้นเขียง
หยกขึ้นไปรอที่ห้องพักฟื้นที่ทางโรงพยาบาลจัดไว้ให้ นั้งคุยกับพี่จูมิน (ล่ามของทางโรงพยาบาล) อย่างสนุกสนาน พอนาฬิการ้องบอกเวลาบ่าย 2 เป๊ะๆ พยาบาลก็เดินเข้ามาพร้อมกับส่งชุดให้หยกเปลี่ยนก่อนเข้าห้องผ่าตัด หลังจากที่หยกเปลี่ยนชุดเสร็จแล้วพยาบาลก็เดินพาหยกเข้าไปที่ห้องผ่าตัด ในห้องเป็นห้องกว้างๆค่ะเหมือนในซีรีย์เกาหลีเครื่องไม้เครื่องมือเยอะแยะเต็มไปหมด พยาบาลเปิดเพลงฟังกันชิวชิว นั้งเช็ดเครื่องมือหัวเราะคิกคัก หยกเอนตัวลงบนเตียงผ่าตัด รำพึงในใจ นี่จะผ่าแล้วจริงดิ ความรู้สึกตอนนี้ไม่กลัวอะไรเลยค่ะ มันดูผ่อนคลายไปซะหมด อาจจะเป็นเพราะว่าพยาบาลที่นี่สวย (?) 5555555 พยาบาลเอา สำลีชุบแอลกอฮอลเช็ดทะลวงไปในรูจมูก (ใช้คำว่าทะลวงคะเพราะนางเช็ดได้ลึกมากน้ำยาลงคอกันไป กลืนน้ำลายดังเอื้อกๆ ) พอเช็ดเสร็จแล้วก็ทำการโกนขนในรูจมูกคะ จักจี้มากเสียงเครื่องมือดังคลื่นๆๆๆๆๆๆ ลืมตามาอีกทีก็มีสายน้ำเกลืออยู่ที่แขนขวาแล้วไม่รู้ว่าแทงเข็มไปตอนไหนไม่เห็นเจ็บเลย หลังจากทำความสะอาดเสร็จพี่จูมินก็เข้ามาคุยเล่น รู้สึกตัวอีกทีก็ได้ยินเสียงคลื่นๆ แว๊บแรกคิดเลยค่ะ ว่าแล้วต้องตื่นมาตอนคุณหมอกำลังทำจมูกแน่ๆ ภาวนาให้ตัวเองหลับๆไปซักที อยากตื่นมาตอนคุณหมอทำทุกอย่างเสร็จแล้วอะแงๆ แล้วก็หลับไปอีกรอบ ตื่นขึ้นมาอีกทีมีความรู้สึกว่าใครมาขเย่าแขน หยกก็ลุกขึ้นจากเตียงแบบมึนๆแล้วเดินออกไปที่ห้องพักฟื้นใกล้ๆ ใช่ค่ะอ่านไม่ผิด หยกลุกขึ้นเองหลังจากการผ่าตัดแล้วเดินมาที่ห้องพักฟื้นเลย (ห้องผ่าตัดกับห้องพักฟื้นห่างกันแค่ประตูกั้น) ความรู้สึกหลังทำทันที ไม่เจ็บไม่ปวดไม่รู้สึกอะไรเลยค่ะ อาจจะมีอาการตึงๆที่บริเวณหูแล้วก็จมูกนิดหน่อยนอกนั้นปกติดี
นี่เป็น รูปหลังผ่าตัดทันที
พี่จูมินแอบกระซิบว่าคุณหมอหยุดให้ยาสลบกลางทางเพราะเราดิ้นแล้วก็ร้อง หยกเลยรู้สึกตัวตอนคุณหมอเหลากระดูกอยู่
ข้อห้ามหลังจากผ่าตัด (ทันที)
- ห้ามหลับค่ะ !! เพราะเดี๋ยวจะหลับยาวหลับลืม
- ห้ามกินน้ำทันที ต้องเว้นระยะนิดหน่อยก่อนจิบค่ะ
เวลาผ่าตัด
- ใช้เวลา 5 ชั่วโมงในการผ่าตัด ตา + จมูกค่ะ
ยาที่เกาหลี
โรงพยาบาลศัลยกรรมไม่มีสิทธิที่จะออกยาให้ เราต้อง นำใบสั่งยาไปซื้อเอง ยาที่คุณหมอให้มาเป็นแผงๆแบบนี้ มี 2 ชุด กินตามเลข 1 - 2 เวลาเช้าเย็นจนหมดแล้วต่อด้วยยาแบบกล่อง
เช้าวันที่ 1 หลังการผ่าตัด
อาการบวมเริ่มมาค่ะ ทางโรงพยาบาลให้เจลมา ประคบบริเวณดวงตาและโหนกแก้ม อาการเจ็บไม่มีเลย (ความรู้สึกเจ็บขึ้นอยู่กับความอดทนของแต่ละคนด้วยส่วนหนึ่ง)มีแต่อาการตึงๆบริเวณจมุกที่กวนใจนิดหน่อย บวกกับการหายใจทางปากที่ยังไม่ชินซักทีเลยทำให้ไม่อยากอาหารเท่าที่ควร
การดูแลตัวเองในช่วงแรก
ไม่ควร ทานน้ำมากจนเกินไปนะค่ะถ้าเป็นไปได้เน้นจิบเล็กๆก็พอ เพราะการกินน้ำมากเกินไปอาจจะทำให้เกิดอาการบวมที่ใบหน้าได้
เน้นทาน ซุปฟักทองคะ ช่วยได้ดีมากๆๆ
การนอนหยก เน้นนอนหมอนสูง ท่ากึ่งนั่งกึ่งนอนลำบากหน่อยแต่ทนนิดนึงนะสาวๆ
เช้าวันที่ 2 หลังการผ่าตัด
มีอาการบวมบริเวณโหนกแก้มเพราะหยกจัดกระดูกจมูกใหม่เลยระบมนิดหน่อย ค่อนข้างแปลกใจในเรื่องของตาเหมือนกันคะ เหมือนยุบลงเล็กน้อยและไม่ค่อยบวมเท่าไหร่ (เคยเห็นเพื่อนทำที่ไทยบวมมาก)
เช้าวันนี้หยกรับบทหนักนิดหน่อยค่ะ เพราะตอนเช้าต้องเข้าปรึกษาคุณหมอเรื่อง ศัลยกรรมหน้าอก และช่วงบ่ายก็เข้าผ่าตัด
ก่อนเข้าผ่าตัดหยกต้องทำ 3D สแกนซะก่อน
ข้อดีของ 3D สแกน คือ
จะ เห็นภายในของเรา ได้ชัดเจน เช่นความผิดปกติของซี่โครง ขนาดของหน้าอกที่แท้จริง ในกรณี หน้าอกเล็กไม่เท่ากัน เพื่อใช้ประกอบการตัดสินใจในการเลือกซิลิโคนของคุณหมอ การทำ 3D สแกน สามารถจำลองการใส่ซิลิโคนของเรา ด้วยค่ะว่าจะออกมาในรูปแบบไหน ถ้าเราใส่ซิลิโคนใหญ่เกินไป เจ้าตัว 3D สแกน จะขึ้น OVER HEAT ว่าใส่ไม่ได้
การเข้าปรึกษาคุณหมอเรื่องหน้าอกเป็นอะไรที่อายมากๆสำหรับหยก เพราะเราต้องเปิดหน้าอกให้คุณหมอดูฮื่อๆ คุณหมอทำการวัดความหนาของเนื้อบนริเวณหน้าอกพร้อมกับเอาปากกาเมจิกมาขีดๆวาดๆตำแหน่งการใส่ซิลิโคน และเริ่มคุยเรื่องซิลิโคน สรุปความว่า คุณหมอจะผ่าตัดผ่านกล้องบริเวณใต้รักแร้ และฐานหน้าอกหยกมีเนื้ออยู่แล้วแต่บริเวณช่วงบนหน้าอกหายไปทั้งสองข้างไม่เท่ากัน เนื้อบางอาจจะใส่ไม่ได้เยอะ ดังนั้นควรใส่ซิลิโคนแบบกลมจึงดีกว่า แล้วถามหยกว่าอยากได้ใหญ่ขนาดไหน ส่วนตัวหยกอยากได้ขนาดพอดีตัวค่ะไม่ใหญ่ไปไม่เล็กไปอยากใส่เสื้อผ้าให้สวยๆ มากกว่า ไม่รู้จะใหญ่ไปทำไม (หัวเราะ) คุณหมอพยักหน้าอย่างหงิกๆแบบเข้าใจพร้อมกับหยิบซิลิโคนมาให้หยกเลือกแล้วลองจับว่าชอบแบบไหน เหมือนเดิมคะหยกก็บอกว่าเอาแบบที่คุณหมอเลือกให้ สรุปคือหน้าอกข้างซ้ายใส่ 260 cc ข้างขวาใส่ 240 cc (คัพบี) พอคุยกันเสร็จคุณหมอก็บอกว่าเจอกันที่ห้องผ่าตัดนะ
สรุปหน้าอก
- ผ่าตัดผ่านกล้องบริเวณรักแร้ไม่มีเลือดไหล
- ใช้ซิลิโคลนแบบกลม
- ข้างซ้าย 260 cc ข้างขวา 240 cc
รูปหลังทำทันที หยกหายใจทางจมูกไม่ได้ระดับออกซิเจนในร่างกายน้อยเลยต้องใช้เครื่องช่วยหายใจช่วยในระยะแรก
นั่งพักประมาณชั่วโมงครึ่งก็แวะทานข้าวแถวโรงพยาบาลแล้วก็กลับบ้าน ใช่ค่ะกลับบ้านเดินขึ้นรถไฟฟ้าเป็นสิบสถานีบวกกับการเดินเข้าคอนโดอีกสิบนาที ระยะเวลาในการเดินทางประมาณ 2 ชม. แบกทั้งเฝือกจมูกทั้งเฝือกหน้าอกเดินไปทั้งอย่างนั้น
เวลา
ใช้เวลาผ่าตัดประมาณ 2 ชั่วโมง
ความเจ็บ
เต็ม 10 หยกให้ 3 ค่ะไม่น่ากลัวอย่างที่คิด
มีอาการเสียวท้องตอนลุกขึ้นนั่งและนอน เหมือนต้องใช้กำลังพยุงตัวเองให้มากกว่าเดิม
อันนี้เป็นรูป เฝือก ที่โรงพยาบาลรัดให้ค่ะแน่นมากประมาณ 3 ชั้น + กับการหายใจทางปากรู้สึกเหนื่อยไม่ใช่เล่นเลย เราต้อง ใส่เฝือกแบบนี้ ประมาณ 7 วันก่อน ค่ะเพื่อให้ซิลิโคลนคงตัวและกันกระแทก
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น