[SR] รีวิวประสบการณ์ศัลยกรรมที่เกาหลี การเปลี่ยนแปลงครั้งแรกในชีวิต

สวัสดีค่ะ ชื่อโอ๋ค่ะ เป็นครั้งแรกของการรีวิวของโอ๋เลย อยากจะมาเล่าประสบการณ์จริงให้กับเพื่อน ๆ คนไหนที่สนใจอยากจะไปทำศัลยกรรม เพื่อเป็นการตัดสินใจได้มากขึ้น ถ้ามีข้อผิดพลาดประการใดขออภัยด้วยนะคะ 

เหตุผลที่อยากไปทำศัลยกรรม : 
- ตา : โอ๋เป็นคนมีปัญหาเรื่องตามาโดยตลอด ไม่ว่าจะตา 3 ชั้น ตาปรือดูเหมือนคนง่วงนอนตลอดเวลา และมีภาวะกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง ทำให้ดูหน้าเศร้าอีกด้วย 
- จมูก : จริง ๆ แล้วเป็นคนมีจมูกที่โด่งเป็นทุนเดิมอยู่แล้วแต่มีฮัมพ์พร้อมทั้งเอียง ทำให้หน้าดูแข็งไม่อ่อนหวาน 
- ใบหน้า : ใบหน้าดูโทรมและตอบ ใครที่ยังไม่เห็นภาพไปชมภาพกันก่อนเลย 

ภาพนี้แต่งหน้าก็มีนะ


ใครเห็นก็คงบอกว่าไปทำทำไมแต่งหน้าก็ช่วยได้ แต่ด้วยความที่อยากมีใบหน้าที่เด็กลงและพอไม่แต่งหน้าขอให้มีหน้าตาที่สดใสกว่าที่เป็นอยู่ตอนนี้ เลยตัดสินใจว่าชั้นจะต้องดูดีมากขึ้น!!! และสิ่งที่คิดขึ้นมาคือการศัลยกรรม 

เริ่มแรกโอ๋หาข้อมูลจากอินเทอร์เน็ตไม่ว่าจะเฟซบุ๊ก ไอจีต่าง ๆ หรือรีวิวของที่เขาไปทำกัน เคยถามหมอที่ไทยซึ่งเคสของโอ๋เป็นเคสที่ยากทั้งตาและจมูก ซึ่งราคาที่ถามหมอดัง ๆ ที่ไทยราคาไม่ต่างจากที่เกาหลีเลย จึงตัดสินใจว่าอยากหน้าเด็กลงสวยแบบละมุนต้องที่เกาหลีสิ! จึงได้ไปเสิร์ชเจอเอเจนซี่เกี่ยวกับศัลยกรรมเกาหลี ชื่อว่า K-Beauty Maker โอ๋เลยปรึกษาเขาว่าเรามีปัญหาที่ได้เล่าไป แล้วเขาก็ให้เราส่งรูปให้เขาดูทั้งมุมหน้าตรง มุม 45 องศาฯ และมุมด้านข้าง เพื่อเขาจะได้วิเคราะห์ว่าเราจะต้องทำอะไรบ้าง เหมาะกับโรงพยาบาลอะไร เพราะเอเจนซี่จะดิวกับโรงพยาบาลของเกาหลีหลายที่ รายการทำศัลยกรรมของโอ๋คือ ตา จมูก และฉีดไขมัน ได้ทำที่โรงพยาบาลท็อปเฟส topface plastic surgery ซึ่งเมื่อลองเปรียบเทียบราคาแล้วที่นี่ราคาไม่สูงมาก โรงพยาบาลมีความน่าเชื่อถือเปิดมาแล้ว 10 ปี อยู่ใจกลางเมือง และที่สำคัญคุณหมอมีประสบการณ์สูง เลยตัดสินใจทำที่นี่ ก่อนที่จะไปก็มีการนัดแนะต่าง ๆ พี่ ๆ เขามีการ จองตั๋วกับที่พักให้ซึ่งสะดวกสบายมาก ๆ 

เตรียมตัวยังไง : 
สิ่งที่เตรียมมีดังนี้
1. ยาใบบัวบกแคปซูล ช่วยลดบวม 
2. หมอนรองคอ อันนี้ต้องมีเพราะเราจะนอนราบไม่ได้เลย ต้องนั่งนอนตลอดตั้งแต่หลังผ่าตัดจนถึงตัดไหม  
3. เสื้อผ้าที่เป็นกระดุมหน้า เพื่อจะได้ไม่ต้องถอดและใส่ลำบาก
4. โจ๊กซอง เลือกที่โซเดียมน้อย ๆ เพราะระหว่างที่ทำเขาจะไม่ให้กินเค็มและรสจัด
5. เซฟรูปที่เราอยากได้ไปด้วย ชอบคนไหนจัดไป...
6. พาสปอร์ต อันนี้ห้ามลืมเด็ดขาด
7. โรงพยาบาลจะมีเอกสารรายละเอียดการผ่าตัดเผื่อตอนผ่านตม.เขาขอดู
8. เสื้อผ้าต่าง ๆ ก่อนที่จะไปโอ๋ก็ทำการจัดกระเป๋าเตรียมเสื้อผ้าที่จะไปอยู่ที่นู่นเกือบ 10 วัน พอดีช่วงที่โอ๋ไปเป็นช่วงหน้าร้อนพอดีไม่ต้องเตรียมอะไรมากเอาชุดที่ใส่สบาย ๆ แบบที่ไทยไปได้เลย

วันที่ออกเดินทางไปถึงเกาหลีที่โรงพยาบาลก็จัดรถรับส่งจากสนามบินไปยังที่พักซึ่งสะดวกสบายมาก ๆ ซึ่งที่พักของโอ๋อยู่แถวซินชาชื่อว่า โพลาริส เกสต์เฮาส์ (Polaris GuestHouse) ใช้เวลาเดินทางไปโรงพยาบาลไม่เกิน 10 นาที 




วันปรึกษา
เมื่อมาถึงที่โรงพยาบาลท็อปเฟสเป็นโรงพยาบาลที่อยู่ในตึกชั้น 4 แถวสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินอัพกูจอง ทางออกที่ 3 พอไปถึงข้างในดูสะอาดตามาก พนักงานสวยทุกคนเลย จะมีพนักงานมาสอบถามประวัติต่าง ๆ ว่าเคยทำศัลยกรรมอะไรมาบ้าง แพ้ยาไหม เป็นต้น เสร็จแล้วก็จะได้เจอคุณหมอ คุณหมอชื่อว่าคุณหมอซิม แจซอน (คุณหมอหน้าเด็กมากกกก) คุณหมอถนัดทั้งเรื่องศัลยกรรมตา จมูก และฉีดไขมัน มีประสบการณ์กว่า 15 ปี การผ่าตัดของโอ๋ในครั้งนี้คุณหมอซิมจะเป็นผู้ผ่าตัดให้ทั้งหมด




รายการทำศัลยกรรม
- ตา แก้ไขชั้นตา มัดกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง 
- จมูก เหลาฮัมพ์ ตอกฐาน ยืดผนังในโพรงจมูก ปรับจมูกให้สั้นลง ใช้กระดูกอ่อนหลังหูร่วมด้วย 
- ใบหน้า ฉีดไขมันร่วมกับทำ PRP (คือ การฉีดไขมันหน้าร่วมกับเกล็ดเลือดเข้มข้น (PRP) ของตัวเอง ช่วยฟื้นฟูสภาพผิวและทำให้ไขมันอยู่ตัวนานยิ่งขึ้น) 
 
สำหรับใครที่กลัวว่าจะฟังไม่รู้เรื่องอย่าซีเรียสนะ เพราะมีพี่ล่ามอยู่ตลอดเวลาคอยแปลให้สบายใจได้ เมื่อคุยกันเรียบร้อยแล้วก็นัดแนะที่จะผ่าตัดในวันพรุ่งนี้ วันนี้ก็กลับไปที่พักมาเกาหลีทั้งทีคงไม่พลาดของอร่อย และช็อปปิ้ง เพราะก่อนผ่าตัดต้องงดน้ำงดอาหาร 8 ชั่วโมงก่อนผ่าตัด อยากกินอะไรก็จัดไปก่อนเลย และต้องพักผ่อนให้เพียงพอด้วยนะ แต่เอาเข้าจริงคืนนั้นตื่นเต้นจนเกือบทำให้นอนไม่หลับเลยทีเดียว ต้องคอยข่มตา555


วันผ่าตัด
ก่อนผ่าตัดเขาก็ให้เราไปที่ห้องพักคนไข้เพื่อเก็บของจะมีล็อกเกอร์ส่วนตัว เสร็จแล้วก็เปลี่ยนเป็นชุดคนไข้แล้วไปล้างหน้าแปรงฟันบ้วนปากให้สะอาด พร้อมทั้งเครื่องประดับ เช่น ต่างหู นาฬิกา สร้อย เป็นต้น หลังจากนั้นไปถ่ายรูปก่อนผ่าตัดทุกมุมเพื่อจะได้วิเคราะห์เป็นรอบสุดท้าย 


ก่อนผ่าตัดมีการตรวจร่างกาย เมื่อเรียบร้อยแล้วก็ถึงเวลาพบคุณหมอ คุณหมอได้อธิบายว่าจะทำอะไรบ้าง ซึ่งโอ๋ก็บอกความต้องการของเราว่าอยากได้แบบไหน อย่างเช่น ตาขอเป็น 2 ชั้นที่พอดีไม่เล็กจนเกินไป เพราะเราอยากได้พื้นที่ในการแต่งตา ซึ่งคุณหมอจะทำการกรีดยาวมัดกล้ามเนื้อตา แต่จะไม่มีการกรีดเปิดหัวตาและหางตาเพราะโอ๋เป็นคนตากว้างอยู่แล้ว ส่วนจมูกคุณหมอจะทำการเหลาฮัมพ์ตอกฐานด้านข้างให้ดูเล็กลง ซึ่งวิธีทำจะเป็นแบบโอเพ่น (Open Rhinoplasty) เพราะจะสามารถแก้ไขปัญหาของจมูกได้หมด ซึ่งจมูกเดิมจะมีการเอียงด้วยคุณหมอก็จะแก้ให้ โอ๋ก็ย้ำกับคุณหมอว่าไม่เอาโด่งมากและคุณหมอก็บอกว่างั้นเอาสูงเท่าเดิม อาจจะมีซิลิโคนบาง ๆ วางตรงสันจมูก ส่วนปลายจมูกต้องดูก่อนว่าการยืดผนังกั้นจมูกจะพอกับความสูงที่ต้องการไหม ถ้าไม่พออาจจะต้องใส่กระดูกที่หลังหูเพิ่ม ส่วนที่ใบหน้าก็จะมีการฉีดไขมันร่วมกับ PRP ซึ่งจะดูดไขมันมาจากต้นขาด้านใน ส่วนที่จะฉีดก็มีตรงหน้าผาก หน้าแก้ม ร่องแก้มและคาง แล้วคุณหมอก็นำเมจิกมาวาดที่ใบหน้า และอีกสักพักก็เตรียมตัวเข้าห้องผ่าตัด ก่อนเข้าห้องผ่าตัดตื่นเต้นมากๆๆๆๆๆๆๆ ไม่คิดว่าตัวเองจะมาทำศัลยกรรมถึงที่นี่ ใจนึงก็กลัวอีกใจนึงก็เอาวะมาถึงที่แล้วจะถอยได้ไง ซึ่งมันเป็นการผ่าตัดใหญ่ครั้งแรกของเราเลย ได้แต่ภาวนาว่าขอให้การผ่าตัดครั้งนี้ผ่านพ้นไปได้ด้วยดี และแล้วก็ถึงเวลาผ่าตัด....

ประสบการณ์ในห้องผ่าตัด 
ห้องที่เดินเข้าไปจะเป็นห้องปลอดเชื้อสภาพเหมือนในหนังเลย มีไฟดวงใหญ่ ๆ มีอุปกรณ์เครื่องมือการแพทย์มากมาย และมีพยาบาล 3-4 คน พร้อมพี่ล่ามเผื่อเรามีปัญหาจะได้พูดคุยได้ ที่นี่ใช้เป็นวิธีวางยานอนหลับ เขาก็ให้เรานอนลงที่เตียงและทำการเจาะสายน้ำเกลือ วัดชีพจร และเอาเลือดของเราไปเพื่อที่จะไปทำ PRP มีการเอาเชือกมามัดแขนขาสงสัยกลัวเราจะดิ้นมั้งนะ และมีการทำความสะอาดตรงที่จะดูดไขมันตรงต้นขาตอนนั้นคือโป๊มาก แอบเขิล555 ส่วนจมูกก็มีการเล็มขนจมูกให้เตียนพร้อมทั้งมัดผมให้เรียบร้อย หลังจากนั้นก็เริ่มหลับไป 

เริ่มต้นศัลยกรรมตาก่อนในขณะที่เรากำลังเบลอยาจะต้องมีสติเพราะตอนทำตาคุณหมอจะให้ลืมตาหลับตาตลอดเวลา  และมีการฉีดยาชาทั้งตา-จมูกเจ็บนิด ๆ ตอนนั้นรู้สึกว่าคุณหมอเย็บชั้นตาลึกมากมันรู้สึกเลยว่ามีการปลิ้นตาด้านในด้วย พอทำตาเสร็จคุณหมอก็มาทำจมูกต่อหลังจากนั้นเราก็สลบไม่รู้เรื่องเลย จำได้แค่ว่าตอนนั้นฝันว่าอะไรก็ไม่รู้ รู้อีกทีเสร็จแล้ว 

พยาบาลก็จะปลุกให้เราตื่น ปลุกแรงมากกก พอตื่นความรู้สึกเหมือนคนเมา เสียงแหบ คอแห้งมีเสมหะตลอดเวลา ตามีความพล่ามัวมองไม่ชัดรู้สึกเหมือนมีน้ำอะไรอยู่ที่ตา และที่ลำบากคือมีสำลียัดอยู่ตรงจมูกทั้งสองข้างทำให้ต้องหายใจทางปาก เมื่อออกมาจากห้องผ่าตัดเขาก็ให้เราไปที่ห้องพักฟื้นซึ่งเป็นเก้าอี้เพราะเขาไม่อยากให้เรานอน และห้ามกินน้ำเดี๋ยวจะอ้วกเพราะตอนนี้มีความมึนยาอยู่ เสร็จแล้วพยาบาลก็มาฉีดยาลดบวมให้ ซึ่งเคสของเรามันบวมมาก หน้าเอียงไปข้างนึงเลย จนพี่ล่ามตกใจว่าทำไมบวมขนาดนี้เหมือนทำโครงหน้ามา อาจจะเป็นเพราะเลือดออกเยอะทำให้อาการบวมมีมาก 


เมื่อนั่งสักพักอาการเริ่มดีขึ้นจึงไปเปลี่ยนเสื้อผ้าซึ่งที่โรงพยาบาลเขาจะมีใบสั่งซื้อยามาให้และไปซื้อยาที่ร้านขายยา ที่เกาหลีจะไม่มีการจ่ายยาให้คนไข้คนไข้ต้องไปซื้อเอง ซึ่งอันนี้ไม่ต้องห่วงเพราะพี่ที่เป็นเอเจนซี่ก็ดูแลพาไปซื้อยาด้วย ตอนที่จะกลับเราก็ตกใจว่า 5 โมงแล้วหรอ เพราะเราเข้าไปในห้องผ่าตัดก็ 11 โมงซึ่งใช้เวลาในการผ่าตัดเกือบ 6 ชั่วโมงหรือเนี่ย!!! นานมาก ยาที่ไปซื้อก็มียากินแบบแผงต่อชุด ต้องกินทั้งเช้า กลางวัน เย็น หลังอาหารห้ามลืมเด็ดขาด ส่วนยาทาจะเป็นขี้ผึ้งทาบริเวณไหมที่ตาและจมูกพร้อมทั้งคัตตอนบัตแบบฆ่าเชื้อ และยังมียาหยอดตาเพราะคนทำตามาก็จะมีขี้ตาหรือเมือกที่ตา ทางโรงพยาบาลจะมีน้ำฟักทองให้ และคู่มือการดูแลตัวเองด้วย



ชื่อสินค้า:   รีวิวศัลยกรรม เกาหลี
คะแนน:     

SR - Sponsored Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ SR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - จ่ายเงินซื้อเอง โดยได้รับส่วนลดหรือสิทธิพิเศษจากเจ้าของสินค้าเพื่อแลกกับการรีวิว
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างแต่ได้รับผลประโยชน์อย่างอื่น เช่น บัตรกำนัล ค่าเดินทางตามจริง
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่