เรื่องเงินๆ ทองๆ ไม่เข้าใครออกใคร เล่าถึงที่มาการเริ่มปล่อยเงินกู้ก่อน เราเคยมีช่วงยากลำบากในชีวิตช่วงนึง จากนั้นก็จับผลัดจับผลู งานที่ทำ ทำรายได้ดี
จนได้ทำกิจการใหม่ๆ หลายอย่างและเป็นไปได้ดีมาก ณ เวลานั้นมีเพื่อนมาขอยืมเงินเรื่อยๆ แล้วก็ลามต่อไปเป็นเพื่อนของเพื่อน คนรู้จักของเพื่อนของเพื่อน ช่วงนั้นลำบากใจมาก เค้ามายืมเวลาไม่ให้ เค้าก็จะโกรธ พอให้ก็ต้องตามเก็บ ตามทวง เบื่อ ก็เลยคุยกับสามีว่า ปล่อยกู้เลยดีกว่า สามีเห็นด้วยเราก็โอเค

ปล่อยกันเองในหมู่คนรู้จักเท่านั้น คนนั้นรู้จักคนนี้บอกต่อๆ มา เราก็มาตั้งกฏเหล็กจากประสบการณ์ของตัวเอง เวลาที่ตัวเองลำบากแล้วอยากได้เงินไปทำอะไรสักอย่าง เรารู้สึกอย่างไร เป็นอย่างไร ส่งได้อย่างไร ก็เอาตรงนั้นมาตั้งกฏเหล็ก 5 ข้อ สำหรับการปล่อยกู้ นั่นก็คือ

1. จะไม่ปล่อยกู้ให้ญาติ เป็นเด็ดขาด ถ้าญาติมาขอกู้ ก็จะถามว่าเอาเท่าไหร่ เอาไปทำอะไร เป็นญาติกันก็ต้องคุยกันได้ เล่าได้ว่าเอาไปทำอะไรบ้าง แล้วเราก็จะ "ให้" ไปตามความเหมาะสม เช่นจะเอาไปซื้อรถ ดาวน์แล้วผ่อน ดาวน์ สามแสน เราก็ให้ไป ห้าหมื่นแล้วบอกว่า "ให้" "ช่วย" และบอกว่าช่วยได้ครั้งเดียวนะ ให้เลยไม่ต้องเอามาคืน ถ้าเจอญาติดีๆ เค้าจะเกรงใจ มาครั้งเดียวไม่มาอีก เผลอๆ ไม่รับด้วย ถ้าเจอญาติไม่ดี เค้าจะมาเรื่อยๆ ทุกครั้งที่เค้ามา ก็จะบอกว่าเคยช่วยไปแล้ว ช่วยอีกไม่ได้ ช่วยได้ครั้งเดียว ญาติที่ไม่ดีเราไม่ต้องเกรงใจเพราะเค้าก็ไม่เกรงใจเรา ก็จะพูดแค่คำนั้นๆ ทุกครั้งที่เค้ามาขอ สามสี่ทีเค้าก็จะไม่กล้ามาขออีกแล้ว

2. คนที่มากู้ต้องเป็นคนรู้จัก เช่น เพื่อนของเพื่อนสนิท เพื่อนของญาติ ลูกค้าคู่ค้าของเพื่อนของญาติ ต้องมีที่มาที่ไป ไม่ใช่เป็นใครก็ไม่รู้ หาต้นตอไม่ได้ เก็บเงินประกันเท่าจำนวนที่ต้องส่งสองเดือนก่อนทุกครั้ง โดยไม่หักจากยอด ถ้าเค้าไม่มีเงินเลยหรือหาไม่ได้ อนุมานได้ว่าวันข้างหน้าก็จะเก็บยาก ยกเว้นเค้ามีทรัพย์อย่างอื่นมาค้ำประกัน ไม่เอาคนค้ำ เพราะจะกลายเป็นไปสร้างความเดือดร้อนให้อีกคน

3. ดอกเบี้ยต้องไม่แพง ส่งต่อเดือนต้องเอาที่เค้าไม่ตึง เราคิดที่ 3-5% ต่อปี แล้วหารจำนวนเดือน ก็ถามเค้าเลยว่า ส่งไหวที่เดือนละเท่าไหร่ เราจะเจอคนสองประเภท ก็คือคนที่พูดความจริง กับคนที่พูดโกหก คนที่พูดโกหก จะดูได้ง่ายๆ ก็คือ มักจะบอกว่าส่งได้เดือนละเยอะๆ ตัวเองมีรายได้เยอะมาก แต่ช่วงนี้ติดขัดแค่นั้น จะคิดดอกเท่าไหร่ก็ได้ จะส่งเท่าไหร่ก็ได้ ขอให้ได้เงินไปหมุนก็พอ พวกนี้มีแนวโน้มไว้ก่อนว่าล่มชัวร์ ส่วนคนที่พูดความจริง มักจะอธิบายว่ารายได้ หาได้เท่าไหร่ต่อเดือน ส่งได้เท่าไหร่ เราก็พิจารณาว่ามันเกินตัวเค้าไปมั้ย หรือเชื่อใจพอจะให้ส่งยาวๆ หรือเปล่า และไม่ปล่อยเกินกฏหมายกำหนด

4. ไม่มีการเก็บหนี้โหดหรือทวง เราจะบอกลูกหนี้เสมอ ว่าเราจะไม่ทวง แต่ถ้าขาดส่ง 1 ทีหรือเลท กู้กับเราอีกไม่ได้นะ เรามักจะปล่อยให้เค้าเลทสักครึ่งเดือนค่อยโทรไปถาม ถ้าเค้าเลื่อน ก็ปล่อยให้เค้าเลื่อนและถามตรงวันกับที่เค้านัด ถ้าเค้าเลื่อนหลายๆ ที เค้าก็รู้สึกแย่ที่จะต้องเลื่อน เราก็จะบอกว่าทยอยมาก็ได้ เดี๋ยวมันไปชนอีกเดือนจะเยอะ แต่ก็ต้องให้เวลาเค้า เพราะบางคนเวลาช้อท ช้อทนานเป็นครึ่งปี แต่ไม่มีการทวงหนี้ มีแต่ให้เค้าเกรงใจ ถึงจะได้เงิน

5. เงินเล็กน้อย ดอกเล็กน้อยก็คือเงิน แม้ว่าจะทำงานอย่างอื่นได้เงินเยอะกว่า แต่ถ้าปล่อยกู้แล้ว ก็ต้องมองแค่การปล่อยกู้ อย่าเอาไปเปรียบเทียบกับงานประเภทอื่นของเราที่ได้เงินเยอะกว่า เพราะจะทำให้รู้สึกว่าไม่ได้อะไรจากการปล่อยกู้เลย เรามักจะมองหาโอกาสเวลาที่เดือดร้อน โอกาสที่จะทำให้ผ่านช่วงชีวิตไปได้ เราจึงมักจะให้โอกาสคนที่มองหาสิ่งเหล่านั้น เพื่อให้เค้าผ่านช่วงชีวิตไปได้ โดยไม่กลายเป็นภาระของเค้าซะเอง ให้เค้าเต็มใจที่จะจ่าย ยินดีที่เราให้ และให้โอกาสเมื่อเค้ายังตั้งตัวไม่ได้เสมอ

กฏเหล็กทั้ง 5 ข้อนี้ ช่วยให้เราไม่มีปัญหาในการปล่อยกู้เลย และเก็บได้ทุกครั้งจนครบ ไม่เคยขาดเลย แต่จะคุ้มมากคุ้มน้อย ถ้าเทียบกับธุรกิจอย่างอื่นๆ ของเราเรียกว่ากำไรน้อยมาก แต่เราไม่ได้ทำธุรกิจเดียว เราทำเยอะแยะมากมาย สิ่งนี้ก็ถือเป็นธุรกิจอย่างนึงด้วย สิ่งที่ได้มาหลังจากนี้คือ connection ในวงกว้างไปเรื่อยๆ ทหาร ตำรวจ ข้าราชการ พนักงานธนาคาร พนักงานบริษัทต่างๆ เจ้าของธุรกิจหลายๆ ประเภท มันคือ connection ทางอ้อม ที่เรารู้สึกว่าคุ้มมากกว่าดอกเบี้ยค่ะ