กลับมาแล้วจ้า ~ ตอนแรกว่าจะเขียนแค่กระทู้เดียว จากการที่เราไปเป็นช่างภาพบนเรือสำราญมา แต่รู้สึกว่าติดลม อยากลองวิเคราะห์งานที่ตัวเองทำ แล้วก็ฟังความเห็นเพื่อนๆด้วย เลยตั้งอีกซักกระทู้แล้วกัน
สำหรับคนที่อยากอ่านกระทู้แรก
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ จากผู้หญิงที่ถ่ายรูปไม่เป็น สะเออะไปเป็นช่างภาพเรือสำราญ !
https://ppantip.com/topic/37727644
ตอนนี้เราเลยอยากลองวิเคราะห์ดูทั้งจากรายได้ของแผนกเรา และเหตุผลที่ว่าทำไมมันถึงยังทำรายได้ได้อยู่
เราเป็นหนึ่งในทีมช่างภาพเรือสำราญ ของเรือ Carnival ซึ่ง Carnival มีเรือทั้งหมด 26 ลำ แต่ละลำก็จะแบ่งเป็นคลาสและมีขนาดที่ต่างกันในแต่ละคลาส
เรือบางลำมีช่างภาพ ( Photographer) ประมาณ 11-13 คน แต่เรือขนาดใหญ่ก็มีช่างภาพ 20-30 คนต่อ 1 ลำ
นอกจากงานเดือนที่เราได้แล้ว เราจะได้โบนัสจากการทำยอดขายภาพ ซึ่งบริษัทจะตั้ง target ไว้ไม่เท่ากันในแต่ละครูส
เรือลำขนาดเล็กบางครูสอาจจะตั้ง target ไว้แค่ 40,000- 60,000 USD ต่อครูส แต่เรือขนาดใหญ่อาจจะตั้งไว้ที่ 100,000-130,000 USD ต่อครูส (ประมาณ 3 ล้านกว่าบาท)
เรือแต่ละลำก็วิ่งต่างกัน เช่นบางลำ ครูส 7 วัน บางลำ ครูส 5 วัน แล้วแต่เรืออีก
แต่โดยทั่วไปแล้วพวกเราในทีมต้องขายภาพให้ได้ถึง target ถ้าเราต้องการโบนัสที่จะได้เพิ่มนอกจากเงินเดือนในแต่ละครูส
เห็น Target สูงขนาดนี้ แต่ทุกครูสเราทำโบนัสแตกได้ หรือบางครูสโบนัสไม่แตก แต่ยอดก็ไกล้เคียงกับ target ที่บริษัทตั้งไว้เสมอ
นึกภาพครูส 7 วันพวกเราในทีมถ่ายภาพและขายภาพกันได้ 3 ล้านบาท 1 เดือนก็ 12 ล้านบาท ต่อเรือ 1 ลำ นี่เป็นเหตุผลที่แผนก Photo department ถือเป็นแผนกที่ทำเงินอันดับต้นๆภายในเรือสำราญ
เราเลยมาลองวิเคราะห์ดูว่า ทำไมคนถึงยังซื้อภาพที่พวกเราถ่าย
ในยุคที่ทุกคนมี Smart phone ที่สามารถถ่ายรูปได้ แถมยังแต่งภาพได้สวยด้วยแอพต่างๆ หุ่นเพรียว ตาโต ผิวขาว เสกได้ดังใจ
หรือกล้องฟรุ้งฟริ้ง MRL , DSLR หลายๆคนก็มี แต่ทำไมลูกค้าถึงยังซื้อภาพบนเรือสำราญ ซึ่งราคาภาพก็ไม่ใช่ว่าจะถูกๆเลย ราคาภาพมีตั้งแต่ 15 USD-30 USD ต่อ 1 ภาพ แล้วแต่ว่าเป็นภาพถ่ายชนิดใด เช่น ภาพใน Dining room , Fun shot , Portrait , Gangay เป็นต้น
ในเมื่อทุกคนเองก็สามารถใช้มือถือถ่ายรูปให้กันและกันเองได้ แต่ทำไมลูกค้าหลายคนยังตัดสินใจซื้อภาพ ?
พอคิดได้ดังนี้เราก็เลยลองตั้งกระทู้เพื่อวิเคราะห์ดูค่ะ
ซึ่งก็จะเป็นการวิเคราะห์ตามความคิดเรานะคะ
อ่านให้สนุกหรือถ้ามีความคิดเห็นเพิ่มเติมก็ลองถกกันในประเด็นนี้ได้นะคะ
กระทู้วิเคราะห์ -ทำไมช่างภาพเรือสำราญถึงยังขายภาพได้หลายล้านบาทต่อเดือน ?
สำหรับคนที่อยากอ่านกระทู้แรก
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ตอนนี้เราเลยอยากลองวิเคราะห์ดูทั้งจากรายได้ของแผนกเรา และเหตุผลที่ว่าทำไมมันถึงยังทำรายได้ได้อยู่
เราเป็นหนึ่งในทีมช่างภาพเรือสำราญ ของเรือ Carnival ซึ่ง Carnival มีเรือทั้งหมด 26 ลำ แต่ละลำก็จะแบ่งเป็นคลาสและมีขนาดที่ต่างกันในแต่ละคลาส
เรือบางลำมีช่างภาพ ( Photographer) ประมาณ 11-13 คน แต่เรือขนาดใหญ่ก็มีช่างภาพ 20-30 คนต่อ 1 ลำ
นอกจากงานเดือนที่เราได้แล้ว เราจะได้โบนัสจากการทำยอดขายภาพ ซึ่งบริษัทจะตั้ง target ไว้ไม่เท่ากันในแต่ละครูส
เรือลำขนาดเล็กบางครูสอาจจะตั้ง target ไว้แค่ 40,000- 60,000 USD ต่อครูส แต่เรือขนาดใหญ่อาจจะตั้งไว้ที่ 100,000-130,000 USD ต่อครูส (ประมาณ 3 ล้านกว่าบาท)
เรือแต่ละลำก็วิ่งต่างกัน เช่นบางลำ ครูส 7 วัน บางลำ ครูส 5 วัน แล้วแต่เรืออีก
แต่โดยทั่วไปแล้วพวกเราในทีมต้องขายภาพให้ได้ถึง target ถ้าเราต้องการโบนัสที่จะได้เพิ่มนอกจากเงินเดือนในแต่ละครูส
เห็น Target สูงขนาดนี้ แต่ทุกครูสเราทำโบนัสแตกได้ หรือบางครูสโบนัสไม่แตก แต่ยอดก็ไกล้เคียงกับ target ที่บริษัทตั้งไว้เสมอ
นึกภาพครูส 7 วันพวกเราในทีมถ่ายภาพและขายภาพกันได้ 3 ล้านบาท 1 เดือนก็ 12 ล้านบาท ต่อเรือ 1 ลำ นี่เป็นเหตุผลที่แผนก Photo department ถือเป็นแผนกที่ทำเงินอันดับต้นๆภายในเรือสำราญ
เราเลยมาลองวิเคราะห์ดูว่า ทำไมคนถึงยังซื้อภาพที่พวกเราถ่าย
ในยุคที่ทุกคนมี Smart phone ที่สามารถถ่ายรูปได้ แถมยังแต่งภาพได้สวยด้วยแอพต่างๆ หุ่นเพรียว ตาโต ผิวขาว เสกได้ดังใจ
หรือกล้องฟรุ้งฟริ้ง MRL , DSLR หลายๆคนก็มี แต่ทำไมลูกค้าถึงยังซื้อภาพบนเรือสำราญ ซึ่งราคาภาพก็ไม่ใช่ว่าจะถูกๆเลย ราคาภาพมีตั้งแต่ 15 USD-30 USD ต่อ 1 ภาพ แล้วแต่ว่าเป็นภาพถ่ายชนิดใด เช่น ภาพใน Dining room , Fun shot , Portrait , Gangay เป็นต้น
ในเมื่อทุกคนเองก็สามารถใช้มือถือถ่ายรูปให้กันและกันเองได้ แต่ทำไมลูกค้าหลายคนยังตัดสินใจซื้อภาพ ?
พอคิดได้ดังนี้เราก็เลยลองตั้งกระทู้เพื่อวิเคราะห์ดูค่ะ ซึ่งก็จะเป็นการวิเคราะห์ตามความคิดเรานะคะ
อ่านให้สนุกหรือถ้ามีความคิดเห็นเพิ่มเติมก็ลองถกกันในประเด็นนี้ได้นะคะ