สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 9
ผมไม่แน่ใจว่า จขกท ให้บริษัทจัดหาคู่ใช่หรือไม่ เดานะครับ เท่าที่อ่าน จขกท ผมก็เป็นคนหนึ่งที่ทำงานสาย IT และเคยมีประสบการณ์การใช้บริษัทจัดหาคู่แบบนี้ หรือ บริษัทแม่สื่อต่างๆ ตอนนั้น เป็นช่วงเวลาที่ผมคิดอะไรไม่รู้ จึงเดินดุ่มๆ เข้าไปบริษัทจัดหาคู่ หรือ บริษัทแม่สื่อ อาจจะโดนกดดันทางครอบครัว และทั้งเพื่อนๆ ซึ่งตอนนั้นทำงานแบบไม่มีเวลาเลย คนคุยด้วยยังไม่มีเลย ตอนนั้น T-T จึงคิดจะลองใช้บริการดูว่าเป็นอย่างไร ค่าบริการแพงไม่ใช่เล่นครับ แต่ลองดู .... ไม่ลองไม่รู้ ผมไปออกเดทครั้งแรก โดยมีบริษัทจัดหาคู่ หรือ บริษัทแม่สื่อ พวกนี้ Screen ให้ระดับหนึ่ง ทั้ง Profile ทั้งอุปนิสัย บริษัทจัดหาก็ได้แจ้งมาว่า น่าจะเจอคนหนึ่งที่น่าจะ match กัน แนะนำให้ออกเดท เพื่อพูดคุยและทำความรู้จักกัน ซึ่งจากการที่ผมออกเดท ครั้งแรก น้องเขามีอายุค่อนข้างน้อยกว่าผมมาก คิดในใจว่าคงไม่รอด และจากที่ทานข้าวและพูดคุยกัน และขับรถไปส่งน้องเขา รับรู้ความรู้สึกของตัวเอง เลยว่า สำหรับผมไม่ OK แต่น้องเขาไม่ได้ทำอะไรไม่ดีนะ แต่ร็สึกว่า ไปด้วยกันไม่ได้เลย ทั้งแนวความคิด และอะไรต่ออะไรหลายๆ อย่าง จึงไม่คิดสานความสัมพันธ์ต่อ และดูจากภายนอก น้องเขาก็ไม่ค่อย OK กับผมด้วย
ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ผมกลับมานั่งคิดทบทวน อะไรต่างๆ สำหรับผม การจัดหาคู่แบบนี้ มันอาจจะไม่เหมาะสำหรับผม แล้วถ้าคุณจิตใจไม่เข้มแข็งพอ อาจจะเฟลในตัวเองได้ แต่สำหรับบางคนอาจจะเหมาะก็ได้ เพราะเห็นหลายๆคู่ ก็ประสบความสำเร็จ แต่ผมมีความรู้สึกโดยส่วนตัวว่า การออกเดท มันต้องสบายๆ ไม่ร็สึกกดดันมากจนเกินไป และ ไม่จำเป็นต้อง keep look อะไรให้มากมายนัก ที่สำคัญเลย คือแนวความคิด และการพูดคุย ตรงนี้สำคัญมาก ที่ผมคิดนะ ถ้าคุยกันแล้วมันคลิ๊กกัน ไม่นานครับ ที่จะสานความสัมพันธ์หรือพัฒนาความสัมพันธ์ต่อไป แต่ถ้าไม่คลิ๊กกัน ก็ลำบาก จนปัจจุบันนี้ จะมีก็มีครับ ไม่มีก็ไ่ม่เป็นไร บางทีการเจอคนที่ใช่สำหรับเรา มันก็ยากเหลือเกิน แต่สำหรับบางคนก็ไม่ยาก ดังนั้นการจัดหาคู่แบบนี้ หลังจากลองแล้ว สำหรับผมไม่ OK แต่ถ้าเริ่มต้นจากการพูดคุยกันธรรมดา และมีช่วงจังหวะ ที่ทำให้ผมเข้าหาในการพูดคุยกัน เพื่อทำให้อีกฝ่ายรู้ว่า เราสนใจตัวเธอนะ ผมคิดว่า ผมน่าจะทำได้ดีกว่านี้ และเป็นธรรมชาติกว่านี้ .....
ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ผมกลับมานั่งคิดทบทวน อะไรต่างๆ สำหรับผม การจัดหาคู่แบบนี้ มันอาจจะไม่เหมาะสำหรับผม แล้วถ้าคุณจิตใจไม่เข้มแข็งพอ อาจจะเฟลในตัวเองได้ แต่สำหรับบางคนอาจจะเหมาะก็ได้ เพราะเห็นหลายๆคู่ ก็ประสบความสำเร็จ แต่ผมมีความรู้สึกโดยส่วนตัวว่า การออกเดท มันต้องสบายๆ ไม่ร็สึกกดดันมากจนเกินไป และ ไม่จำเป็นต้อง keep look อะไรให้มากมายนัก ที่สำคัญเลย คือแนวความคิด และการพูดคุย ตรงนี้สำคัญมาก ที่ผมคิดนะ ถ้าคุยกันแล้วมันคลิ๊กกัน ไม่นานครับ ที่จะสานความสัมพันธ์หรือพัฒนาความสัมพันธ์ต่อไป แต่ถ้าไม่คลิ๊กกัน ก็ลำบาก จนปัจจุบันนี้ จะมีก็มีครับ ไม่มีก็ไ่ม่เป็นไร บางทีการเจอคนที่ใช่สำหรับเรา มันก็ยากเหลือเกิน แต่สำหรับบางคนก็ไม่ยาก ดังนั้นการจัดหาคู่แบบนี้ หลังจากลองแล้ว สำหรับผมไม่ OK แต่ถ้าเริ่มต้นจากการพูดคุยกันธรรมดา และมีช่วงจังหวะ ที่ทำให้ผมเข้าหาในการพูดคุยกัน เพื่อทำให้อีกฝ่ายรู้ว่า เราสนใจตัวเธอนะ ผมคิดว่า ผมน่าจะทำได้ดีกว่านี้ และเป็นธรรมชาติกว่านี้ .....
Fiddle Fig ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 6511773 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 6388123 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 4600447 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 6336650 ถูกใจ, tomiko ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 4690522 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 5628004 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 825795 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 5493900 ถูกใจรวมถึงอีก 32 คน ร่วมแสดงความรู้สึก
ความคิดเห็นที่ 3
ผมทำงานสาย IT ก็เจอว่าเพื่อนผมจำนวนมากที่ยังโสดก็เป็นอย่างคนแรกจริงๆคือพูดไม่เก่งดูไม่มั่นใจไม่กล้าสบตาคู่สนทนาเลยทำให้สานสัมพันธ์ไม่ได้ จริงๆตัวผมเองก็โสดมานานจนอายุเข้าสามสิบช่วงครึ่งหลังถึงได้เจอกับแฟน แต่หลักๆเมื่อพิจารณาดูตามที่คนรอบตัวเคยบอกก็เห็นด้วยว่ามีส่วนจริงมากๆคือผมค่อนข้างจะเลือกมากเลยไม่ถูกใจคบใครจริงจังซักที
ไม่ใช่ว่าผมจะคอยจ้องหาจับผิดเพื่อหาคนที่ดีที่สุดนะแต่จะเป็นประมาณว่าถ้าคุยๆไปแล้วรู้สึกว่าต้องพยายามคุยไม่ได้อยากจะคุยจริงๆผมก็จะหยุดเลย เป็นคนที่เชื่อในความรู้สึกของตัวเองมากๆว่าถ้าเกิดความรู้สึกที่ไม่เป็นธรรมชาติไม่เป็นตัวเองแล้วจะไม่พยายามไปต่อทันทีและไม่เผื่อว่าดูๆไปก่อนแล้วอาจจะรู้สึกดีมากขึ้นในภายหลัง
เพราะฉะนั้นช่วงที่โสดมานานๆผมก็จะเคยคุยเคยเดทกับผู้หญิงไม่น้อยเหมือนกันแต่ก็ไม่ได้เป็นแฟนกับใครเลย
ไม่ใช่ว่าผมจะคอยจ้องหาจับผิดเพื่อหาคนที่ดีที่สุดนะแต่จะเป็นประมาณว่าถ้าคุยๆไปแล้วรู้สึกว่าต้องพยายามคุยไม่ได้อยากจะคุยจริงๆผมก็จะหยุดเลย เป็นคนที่เชื่อในความรู้สึกของตัวเองมากๆว่าถ้าเกิดความรู้สึกที่ไม่เป็นธรรมชาติไม่เป็นตัวเองแล้วจะไม่พยายามไปต่อทันทีและไม่เผื่อว่าดูๆไปก่อนแล้วอาจจะรู้สึกดีมากขึ้นในภายหลัง
เพราะฉะนั้นช่วงที่โสดมานานๆผมก็จะเคยคุยเคยเดทกับผู้หญิงไม่น้อยเหมือนกันแต่ก็ไม่ได้เป็นแฟนกับใครเลย
สมาชิกหมายเลข 4600447 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 6336650 ถูกใจ, jamzkub ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 4881591 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 1311716 ถูกใจ, ครอบครัวเรารักกัน ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 1683664 ถูกใจ, okb ถูกใจ, ความเหงาล้อมเราไว้หมดแล้ว ถูกใจ, อิฐมอญ ถูกใจรวมถึงอีก 10 คน ร่วมแสดงความรู้สึก
ความคิดเห็นที่ 4
คิดว่า จขกท คงชอบคนแทคแคร์เก่งมากกว่า เพราะส่วนใหญ่ ผช ถ้าชอบใครเจอกันครั้งสองครั้ง ส่วนใหญ่จะเกร็งไปไม่ค่อยเป็น ความไม่เป็นตัวของตัวเองจะสูงมาก 555 ต้องสนิทกันสักระยะจึงจะพอเดานิสัยจริงๆได้ว่าจะไปต่อหรือจะพอ คิดว่าทุกอย่างมันต้องใช่เวลา(ไม่ต้องนาน) บางคนมองแค่ภายนอกไม่น่าสนใจ แต่รู้จักกันไปสักพักจะรู้สึกดีก็ได้ เช่น ผมกับแฟนตอนแรกคุยกันแรกๆไม่รู้เรื่องเลย ด้วยความที่ผมชอบเลยไม่คุยแต่เน้นในทางปฎิบัติและจริงใจมากกว่า ปัจจุบันผมก็ไม่ค่อยได้คุยเช่นกัน นั่งฟังเขาพูดอย่างเดียว 555
สมาชิกหมายเลข 6511773 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 4600447 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 825795 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 1311716 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 2147781 ถูกใจ, noksamui ถูกใจ, okb ถูกใจ, สไมลีย์ซีซ่า ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 1305596 ถูกใจ, มีชื่อที่ดีกว่านี้ไหม? ถูกใจรวมถึงอีก 9 คน ร่วมแสดงความรู้สึก
แสดงความคิดเห็น
แชร์ประสบการณ์และข้อสังเกตจากการเดทกับผู้ชาย 30+ โปรไฟล์ดี แต่ทำไมไม่มีแฟน
วันนี้ขอแชร์ประสบการณ์และตั้งข้อสังเกต จากที่ จขกท.ได้ไปเดทกับผู้ชาย 30+ โปรไฟล์ดี มาให้ฟังกันค่ะ
ในที่นี้ หลายคนก็อาจจะเคยสงสัยกันนะคะ ว่าทำไมผู้ชาย 30+ โปรไฟล์ดี ทำไมถึงยังไม่มีแฟนสักที
ลองมาดูจากคนที่ จขกท.ได้พบเจอพูดคุยในระหว่างการเดท จากการรับประทานอาหารประมาณ 2 ชั่วโมง และดูจากมุมมองของ จขกท.กันนะคะ
- หน้าที่การงาน อยู่ในระดับหัวหน้างานของสายงาน IT ใช้ชีวิตไม่หวือหวา
เวลาในแต่ละวันจึงมีเพียงที่ทำงานและที่บ้านเท่านั้น จึงไม่ค่อยได้พบปะกับใคร และไม่มีโอกาสได้ติดต่อทำความรู้จักกับเพศตรงข้ามสักเท่าไร
- ลักษณะภายนอก เป็นผู้ชายบุคลิกกลางๆ หน้าตาธรรมดา ไม่มีอะไรโดดเด่น และไม่เป็นที่น่าจับตามอง บางทีอาจจะดูหงอๆเสียด้วยซ้ำ
- การพูดจา ค่อนข้างเงียบ ประหยัดคำพูด พูดไม่เก่ง และไม่มีจังหวะชั้นเชิงในการต่อบทสนทนา บางครั้งพยายามสร้างมุกตลกให้เฮฮา แต่กลายเป็นมุกแป้ก
- มุมมองของ จขกท รู้สึกว่าคุณคนนี้ขาดเสน่ห์ และไม่น่าสนใจ ทั้งที่จริงๆแล้ว เขาอาจเป็นคนดี นิสัยดี แต่เพราะเวลาที่จำกัดในการออกเดทและทานอาหารด้วยกันเพียงครั้งเดียว
ทำให้ จขกท ตอบกลับกับทางแม่สื่อว่าไม่ขอสานต่อค่ะ
- หน้าที่การงาน อยู่ในระดับผู้บริหารของบริษัทชื่อดัง เวลาส่วนใหญ่มีแต่งานและงาน เคยผ่านการแต่งงานและหย่าร้างกับภรรยา เนื่องจากปัญหาด้านทัศนคติและการใช้ชีวิตคู่ไม่ตรงกัน
ซึ่งประเด็นหย่าร้างนี้ ไม่เป็นปัญหาสำหรับ จขกท ค่ะ ตอนที่แม่สื่อติดต่อมา จึงตกลงรับนัดกับคุณคนนี้ไป
- ลักษณะภายนอก เป็นผู้ชายรูปร่างท้วม หน้าตาขรึมๆ ท่าทางเคร่งเครียดจริงจังตลอดเวลา
- การพูดจา ลักษณะเป็นคนมั่นใจในตัวเองมาก ชอบพูดแต่เรื่องตัวเอง เล่าประวัติตั้งแต่สมัยเรียนมัธยม จบเกียรตินิยมจากมหาวิทยาลัยชั้นนำ และเล่าถึงความสำเร็จต่างๆนานาในการทำงาน
บางครั้งเขาก็ยิงคำถามมาห้วนๆ ตรงๆเกี่ยวกับเรื่องส่วนตัวที่ไม่ค่อยเป็นการให้เกียรติในกรณีของคนที่เพิ่งทำความรู้จักกัน
- มุมมองของ จขกท ลักษณะบทสนทนาเหมือนกำลังถูกสัมภาษณ์งาน จนรู้สึกอึดอัด และไม่มีความผ่อนคลาย ไม่เป็นตัวของตัวเอง
เมื่อสิ้นสุดการเดท จขกท.ก็บอกกับทางแม่สื่อว่ายังไม่โอเคค่ะ
จะว่าไปแล้ว ในการออกเดทและเริ่มทำความรู้จักกันในเวลาจำกัดแบบนี้
ก็คล้ายกับการสัมภาษณ์งานนะคะ ทั้งสองฝ่ายต้องพิจารณาคัดกรองกันและกัน ว่าคู่เดทคนนี้ ทำให้รู้สึกดี รู้สึกประทับใจ และอยากจะสานต่อความสัมพันธ์หรือไม่
ดังนั้น ในมุมมองของ จขกท.นอกจากคำว่าโปรไฟล์ดีแล้ว ในที่นี้คือควรต้องมีเคมีที่เข้ากันด้วยค่ะ เช่น พูดคุยกันถูกคอ มีความลื่นไหลในการสนทนา ไม่เกิด dead air จนอึดอัดเกินไป ฯลฯ
และนอกจากนี้ บุคลิก, มนุษยสัมพันธ์, และความมีปฏิสัมพันธ์ ก็มีความสำคัญในการทำความรู้จัก และสร้างความคุ้นเคยด้วยเหมือนกันค่ะ
ก่อนที่จะไปถึงการพัฒนาความสัมพันธ์ได้ การนำเสนอตัวตน และเริ่มทำความรู้จัก ก็สำคัญไม่น้อยนะคะ
ที่เล่ามานี้ เป็นเพียงมุมมองของเจ้าของกระทู้ที่นำมาเล่าสู่กันฟังนะคะ
กระทู้นี้ ไม่ใช่จะเอาคู่เดทมานินทาในเชิงเสียหายนะคะ ตัวจขกท.เองก็ไม่ใช่ว่าจะดีเลิศเลออะไร ในมุมมองกลับกัน ผู้ชายเหล่านั้นก็อาจจะพิจารณาและตัดสิน จขกท.ด้วยก็ได้ค่ะ
ขอบคุณที่แวะเข้ามาอ่าน และร่วมแสดงความเห็นค่ะ