เมื่อครอบครัวของแฟน ฐานะไม่ดีและยังใช้เงินเกินตัว ใช้เงินไม่เป็น

สวัสดีครับ กระทู้นี้เป็นกระทู้แรกในชีวิตที่โพสพันทิปครับ  และเป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้นครับ

ผมกับแฟนคบกันมาได้สักระยะหนึ่งประมาณหนึ่งปี ตอนนี้อายุสามสิบทั้งคู่ครับ  
ผมทราบดีตั้งแต่แรกแล้วว่าแฟนไม่ใช่คนฐานะดี แต่เขาเป็นคนขยันครับ ไม่ขี้เกียจ
และก็นิสัยเข้ากันได้สบายใจ ก็เลยรับได้และก็คบกันมา

หลังจากคบไปสักพักก็ได้ไปพบที่บ้านแฟนครับ   แรกๆก็ไม่คิดมากอะไรครับ  
เค้าจะมีความเป็นอยู่ยังไงก็ไม่ได้ซีเรียสครับเพราะผมเป็นคนอยู่ง่ายๆสบายๆ  บ้านหลังเล็กบ้านเอื้ออาทรก็อยู่ได้ครับ  

แต่พอเวลาผ่านไปแฟนเริ่มเล่าเรื่องที่บ้านให้ฟังครับ ว่าแม่ของเขาเป็นคนแบบนี้นะ  ใช้เงินไม่เป็น เคยเอาเงินเก็บตัวเองไปให้คนอื่นกู้ ไม่มีเงินเก็บเลยสักบาท
หาเงินไม่ได้แต่ใจใหญ่  เช่นเคยมีขอเงินแฟนผมไปให้เพื่อนของแม่แฟนยืมเงินหลายหมื่น และแน่นอนว่าไม่ได้คืนครับ  และยังมีอีกหลายกรณีที่เอาเงินไปทิ้งง่ายๆ   ถึงตอนนี้จะยังไม่เคยมีอะไรมากระทบผม  แต่สัญชาตญาณผมมันบอกว่าอนาคตถ้าแต่งไปมีแน่ๆ

แม่ยังไม่พอยังมีเรื่องพ่อครับ  พ่อแฟนก็ไม่ได้ทำงานครับทั้งที่อายุแค่ห้าสิบ  รอเงินจากลูกอย่างเดียว กิจกรรมของเขาคือชนไก่ กินเหล้าและขายของก๊องแก้งไม่ได้ตั้งใจทำเป็นชิ้นเป็นอัน  ที่สำคัญมีหนี้สินนอกระบบหลายแสนครับ  ซึ่งแฟนผมเป็นคนตามล้างหนี้ให้จนถึงทุกวันนี้ก็ยังไม่หมดแต่เห็นบอกว่าใกล้หมดแล้ว  

หลังจากทราบเรื่องเยอะขึ้น ตอนแรกผมก็คิดน้อยครับ ว่าครอบครัวแฟนก็ส่วนครอบครัวเค้าสิไม่เป็นไรหรอก คนเราเกิดมาต่างกัน  ถ้าวันนึงต้องช่วยครอบครัวเค้าเรื่องตัง เราก็คงจะช่วยเท่าที่จะช่วยได้  คงไม่มาทำให้ครอบครัวเราลำบากหรอก  ถึงครอบครัวเค้าจะไม่มีสมบัติอะไรติดตัวมาเลย แต่ถ้าเป็นคนขยัน ยังไงก็ยังสร้างเนื้อสร้างตัวได้  

แต่มันมีอยู่วันนึงที่ทำให้ผมตระหนักว่าควรจะคิดมากขึ้น เพราะวันนึงผมพาครอบครัวแฟนไปเลี้ยงข้าวครับ    แต่พวกเค้าดันพาญาติพาหลานมาด้วยหลายคน  
ทั้งที่ผมชวนแค่พ่อแม่แฟนเท่านั้น     หลังจากนั้นทุกๆคนสั่งอาหารแบบไม่ยั้งครับ  สั่งแบบแพงๆ   สั่งเหล้า สั่งเบียร์มากิน สั่งแบบไม่ถามผมสักคำ จนมื้อนั้นจ่ายเยอะมาก เยอะแค่ไหนขอไม่บอกครับแต่เอาง่ายๆมีกุ้งมังกร มีกั้ง และกุ้งตัวเท่าฝ่ามืออีกหลายโลครับ  และตอนจบแม่แฟนยื่นบิลมาให้ผมจ่ายคนเดียวครับ อาหารที่สั่งมาก็เยอะจนเหลือทิ้งครับ
      
(คือจริงๆผมเลี้ยงได้นะครับแพงกว่านี้ก็จ่ายได้ไม่ได้งกอะไรครับแค่อาหารมื้อเดียวจะเลี้ยงพ่อแม่แฟนบ้างก็ไม่แปลก แต่แบบนี้คือเยอะเกินไป)  

คือผมไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อนครับ  เคยไปทานอาหารกับบ้านแฟนเก่า  ทุกครั้งผมก็จะออกตังเลี้ยงพวกเค้าเหมือนกันครับ
แต่พ่อแม่เค้าจะปัดมือผมออกทันทีแล้วบอกว่าไม่ต้องออก เดี๋ยวแม่กับพ่อจ่ายเงินเองลูก   และวันไหนที่ผมยืนยันว่าจะเลี้ยงให้ได้ พวกเค้าก็ไม่เคยสั่งอาหารมั่วซั่วเยอะเกินจนเหลือทิ้งเลย มีแต่เกรงใจกันครับ    

วินาทีที่ผมจ่ายผมฉุกคิดขึ้นมาเลยครับ  อนาคตจะไม่จบแค่นี้แน่ๆ  ขนาดกินข้าวยังไม่เกรงใจขนาดนี้แล้ว ใช้เงินไม่เป็นขนาดนี้ เรื่องอื่นละ จะเป็นยังไง แบบนี้ไม่ใช่เค้าจน เพราะว่าเลือกเกิดไม่ได้ แต่เค้าจนเพราะนิสัยการใช้เงินของพวกเค้าเองแน่ๆ  ยังมีอีกหลายเรื่องครับที่เห็นแล้วรู้สึกว่าพวกเขาไม่มีวินัยการใช้เงินเลย

มันทำให้เห็นความแตกต่าง และเริ่มรู้สึกว่าอนาคตของเราจะเป็นยังไง  ตอนนั้นทำให้ผมเริ่มมีความกังวลแล้วครับ

ผมเริ่มหากระทู้ในพันทิป  เริ่มดูหลายๆปัจจัย เรื่องข้อกฏหมาย เรื่องหนี้สินก่อนสมรสและหลังสมรส อ่านเรื่องครอบครัวของคู่สมรสตามมาราวีสามีภรรยา ยิ่งทำให้คิดมากครับ

ถ้าเป็นผู้หญิงที่ผมคบเล่นๆไม่จริงจังอะไรผมคงไม่เครียดเพราะวันนึงก็คงเลิก  แต่กะแฟนคนนี้ผมจริงจังครับ   ก็เลยจะพยายามหาทางออกให้ได้

โอเคครับเรื่องราวคร่าวๆประมาณนี้ครับ  ต่อไปคือประเด็นที่ผมจะถามครับ

เอาเรื่องเกี่ยวกับกฏหมายก่อนนะครับ

- ทราบมาว่าสินสมรสคือเงินได้ที่มาระหว่างการสมรส    และเงินนั้นจะแบ่งครึ่งเป็นของทั้งสองฝ่าย  เงินนั้นรวมมรดก และหนี้ ด้วย แต่ถ้าเป็นกรณีนี้ละครับ

   1.1 หลังสมรสแล้ว กรณีแฟนผมรับมรดกมาจากพ่อของตนเอง   ในกรณีที่พ่อของแฟนผมไม่มีทรัพย์สินใดๆเลย มีแต่หนี้อย่างเดียว แฟนผมจะต้องรับผิดชอบหนี้นั้นด้วยไหมครับ  และเมื่อแฟนผมรับผิดชอบหนี้นั้นแล้ว ตัวผมจะต้องรับผิดชอบหนี้นั้นด้วยไหมครับ ?

   1.2 หลังสมรสแล้ว กรณีแฟนผมแอบไปกู้เงินมาเพื่อไปให้ครอบครัวเค้า โดยที่ผมไม่ได้ตกลงด้วยหรือไม่เห็นด้วย หนี้นั้นจะเป็นของผมด้วยหรือไม่ครับ


(ไม่ได้จะผลักภาระให้แฟนคนเดียวนะครับ แน่นอนว่าคนรักกันต้องช่วยเหลือกันยามลำบาก เธอลำบากผมก็ยินดีลำบากด้วย แต่เงินที่เราสองคนช่วยกันหามาลำบาก หามาเอาไว้สร้างครอบครัวใหม่  จะถูกคนที่ไม่รู้จักคุณค่าของเงินเอาไปถลุงง่ายๆ และถ้าหนี้มันหนักมากๆ และผมจะต้องมาเป็นหนี้จากครอบครัวแฟน และผมอาจจะต้องขอยืมแม่ และแม่ผมคงต้องลำบากมาช่วยจ่าย และผมจะไม่ยอมให้แม่มาเสียเงินเพราะหนี้ที่ผมเป็นคนก่อแน่ๆครับ)

   1.3 ผมมีมรดกจากที่บ้านอยู่เล็กน้อยไม่ได้มากมายอะไรครับ แต่พ่อผมทำงานหนักมากเพื่อเก็บเอาไว้ให้ผมเอาไว้สำรองเวลาฉุกเฉินของชีวิต ผมเห็นพ่อลำบากตั้งแต่เด็กๆ ทุกๆวัน ทำงานยันมืด ทุกวันนี้จะเจ็ดสิบแล้วก็ยังทำงานครับ  ท่านทำงานลำบากหนักมากจริงๆหนักเอาเบาสู้   ดังนั้นผมคงไม่เอามรดกที่พ่อผมลำบากหามา เอาไปให้พ่อของแฟนเอาไปถลุงใช้แบบไร้ค่าแน่นอนครับ  เงินก้อนนี้ผมจะเก็บเอาไว้ตามเจตนาพ่อ  คือไว้สำหรับมีคนในครอบครัวเจ็บป่วย สำหรับเลี้ยงหลาน  และส่งเสียหลานครับ

     คำถามคือ เงินมรดกของผม ตอนนี้ยังไม่น่าจะได้นะครับเพราะพ่อยังอยู่ ซึ่งกว่าจะได้คงอีกนาน ซึ่งคงหลังการสมรสแน่  เงินก้อนนี้จะต้องเอาไปแบ่งครึ่งกับภรรยาไหมครับ และถ้าหากไม่อยากให้แบ่งครึ่งจะต้องทำยังไงครับ ?  (ไม่ได้หวงภรรยานะครับ แต่เพื่อกันครอบครัวของภรรยา ที่เห็นว่ามีเงินก้อน แล้วจะเข้ามาวุ่นวาย)  

  1.4 ก่อนแต่งงานผมมีหุ้นอยู่ก้อนหนึ่งครับ  ขอสมมุตนะครับว่า  100,000 บาท ถ้าสมมุติว่าหุ้นตัวนี้ราคาขึ้นหลังจากแต่งงานไปแล้ว  เป็น 150,000 บาท ผมขายหุ้นตัวนั้นทิ้งและได้เงินมา 150000 บาท  150000 ที่ได้มาจากการซื้อขายหุ้นนั้นถือเป็นสินสมรสทั้งหมดหรือไม่ครับ หรือว่าเพียงแค่ 50000 บาทที่ได้มาเท่านั้นจะเป็นสินสมรสครับ ??    

ประเด็นกฏหมายจบแล้วต่อไปเป็นประเด็นเรื่องของจิตใจครับ

1. ผมควรพูดเรื่องเงินกับแฟนยังไงดี เพื่อไม่ให้เธอรู้สึกแย่ หรือเสียความรู้สึก
2. ผมจะปฏิเสธอย่างไรดี เมื่อครอบครัวของแฟนเข้ามาขอเงิน โดยไม่ให้ท่านเสียความรู้สึก
3. ผมควรบอกเหตุผลกับแฟนอย่างไรดี  เพราะคิดว่าถ้าแต่งงานจะขอแยกไปใช้ชีวิตเป็นครอบครัวเดี่ยว ไม่ข้องเกี่ยวกัน  ถ้าจะไปเยี่ยมพ่อแม่ก็ไปเยี่ยมเป็นครั้งๆไป ส่งเงินให้รายเดือน  ไม่อยากบอกเหตุผลที่ผมอยากแยกเพราะเรื่องครอบครัวของเธอ  ไม่อยากให้แฟนรู้สึกไม่ดี
4. ผมควรบอกกับแฟนอย่างไรดีให้เด็ดขาดเรื่องเงินมากกว่านี้ และให้มีลิมิตในการแบ่งเงินแก่ครอบครัวตนเอง
5. ผมรักแฟนและก็ไม่อยากเลิกครับ  การเลิกขอให้เป็นตัวเลือกสุดท้าย   ผมต้องการวิธีการป้องกันและรับมือ ไม่ว่าจะทางกฏหมายก็ดี  จิตวิทยาก็ดี เพื่อมาแก้ปัญหาเรื่องเงิน เอาแค่ไม่ต้องให้ที่บ้านเค้ามาเบียดเบียนกันเกินไปก็พอครับ จริงๆมีปัญหามาก็ช่วยเหลือกันได้แน่นอน  แต่ไม่ใช่ไปสร้างปัญหามาจากการไม่ไตร่ตรอง แล้วมาให้เราแก้  ควรทำอย่างไรดีครับ

ที่กล่าวมาอาจจะฟังดูใจแคบนะครับสำหรับบางคน แต่สำหรับผมมีวันนี้ได้ก็เพราะที่บ้านสอนให้รู้คุณค่าของเงิน บริหารเงินเป็น  แบ่งไว้ใช้ แบ่งไว้เก็บ แบ่งไว้เที่ยว แบ่งไว้กินอย่างเป็นสัดส่วน

การที่จะเอาเงินให้ใครสักคนไปใช้ในการพนัน กินเหล้าหรือเอาไปใช้อย่างฟุ่มเฟือย เอาไปใช้แบบมั่วซั่ว ต่อให้เป็นพ่อของภรรยา หรือพ่อแม่ผมเองก็ตาม ผมเสียดายทีจะให้ครับ สู้เอาไปบริจาคซื้อเครื่องมือการศึกษาให้เด็กยากไร้ดีกว่า

ผมว่าคนที่จนยังไม่น่ากลัวเท่าคนใช้เงินไม่เป็น เพราะคนที่ใช้เงินเป็น วันนึงก็จะไม่จน  

เชื่อว่ามีอีกหลายบ้านที่เป็นแบบนี้  แต่ละคนใช้วิธีอะไรบ้างครับแล้วทำอย่างไรครับ

เพิ่มเติมอีกนิดหน่อยเป็นปัจจัยในการให้คำแนะนำครับผม

แฟนผมมีพี่สาวครับ และเค้าทำธุรกิจ เงินหมุนหลักหลายแสนพอใช้ได้  และเป็นเสาหลักของครอบครัวอยู่ตอนนี้  ผมดูแล้วธุรกิจกำลังไปได้สวยเลยครับ ซึ่งถ้าไปได้สวย บ้านเค้าก็น่าจะพอปลดหนี้ได้ครับ แต่ผมก็ยังไม่รู้อนาคตครับ แต่ว่าผมเคยเจอเคสแบบนี้ครับ .

ผมมีแฟนคนนึงครับ พ่อเค้าเป็นพ่อค้าขายอาหารตามสั่ง  ผมก็เลิกกับแฟนคนนั้นเพราะที่บ้านของเค้าจน  ไม่มีการศึกษา และก็เพราะที่บ้านผมไม่ปลื้มด้วย  ต่อมาผ่านมาห้าปี  พ่อค้าขายอาหารตามสั่งกลายเป็นเจ้าของโรงแรม  

ตั้งแต่นั้นมาก็เลยคิดว่าบางทีเราอาจจะมองคนแค่ปัจจุบันเกินไปหรือป่าวทำนองนี้ครับ  ถ้าเป็นเมื่อก่อนคงไม่ลังเลเลยครับ ไม่ดีก็หาใหม่  แต่ตอนนี้แก่แล้วเจออะไรมาเยอะแล้ว จึงคิดเยอะครับ

ขอขอบคุณทุกคนที่ตอบกระทู้นะครับ  และขอขอบคุณทุกความคิดเห็นครับ
แก้ไขข้อความเมื่อ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 6
ขอถามนิดนึง ตอนพ่อแม่แฟนคุณพาญาติพี่น้องมาถล่มสั่งขนาดนั้น แฟนคุณมีปรามคนฝั่งเธอบ้างไหม ถ้านั่งเฉยๆ เราว่าแปลกเกินปกติไปมาก มันไม่ใช่แค่เรื่องใช้เงินไม่เป็น(เพราะไม่ใช่เงินตัวเอง) แต่เป็นเรื่องมารยาททางสังคม คือคนเราเกิดมาจนและหาเงินไม่เก่ง เราถือว่ายังคบกันได้ แต่ถ้าไม่มีความเกรงใจ หาช่องทางในการเอารัดเอาเปรียบด้วยนี่เราว่าน่ากลัวในการนับญาติมากเลยนะคะ
ความคิดเห็นที่ 3
ผมจะขอตอบเท่าที่ผมรู้นะครับ

ทางด้านกฎหมาย
1.1 แฟนคุณต้องรับผิดชอบหนี้สินนั้นครับ(แต่ก็ต้องดูด้วยว่าเป็นหนี้แบบไหน หนี้ในระบบหรือหนี้นอกระบบ...แต่แบบหลังนี้น่ากลัว ) แต่คุณไม่ต้องกลัวไปเพราะมันไม่ถึงว่าเป็นหนี้ร่วม คุณไม่จำเป็นต้องรับผิดชอบถึงแม้ว่าจะหย่ากันแล้ว

1.2 ต้องดูว่าเธอกู้เงินมาทำอะไร ถ้าคุณมีส่วนได้ส่วนเสียกับสิ่งที่ภรรยาคุณกู้มามันจะถือว่ากลายเป็นหนี้รวมในทันที(ถึงแม้ว่าคุณจะไม่ได้รับรู้การกู้นี้ก็ตาม)

1.3 มรดกของคุณคุณมีสิทธิ์ขาดแต่เพียงผู้เดียว ไม่ต้องกลัวว่าภรรยาของคุณจะชุบมือเปิบเพราะมันถือว่าเป็นทรัพย์สินที่คุณได้มาด้วยความเสน่หาจากพ่อแม่ ตามกฎหมายถือว่าเป็นทรัพย์สินส่วนตัวไม่ใช่สินสมรส

1.4อันนี้ผมไม่ชัวร์  แต่คิดว่ากำไรที่ได้จากหุ้นต้องแบ่งให้ภรรยา เพราะถือว่าได้มาในระหว่างที่ยังสมรสกันอยู่ (แต่เงินต้นไม่ต้องให้)

ทางด้านจิตใจผมมีแค่ข้อเดียว
1.คุณควรที่จะเลิกครับ อย่าหาว่าผมมองในแง่ลบหรือว่าใจร้ายใจดำเลยนะครับ ผมมองดูแล้วปลายทางอนาคตของครอบครัวคุณมีแต่มืดมนครับ สุดท้ายยังไงก็ต้องจากกันอย่างแน่นอน เพราะในระหว่างที่คุณใช้ชีวิตคู่ร่วมกัน ไม่แฟนคุณก็พ่อแม่แฟนต้องมาขอยืมเงินคุณตลอดอย่างแน่นอน แล้วทีนี้พอคุณให้คุณก็มาทะเลาะกับแฟนคุณทีหลัง พอคุณไม่ให้คุณก็มีปัญหากับทางบ้านแฟนคุณจนมองหน้ากันไม่ติด สุดท้ายปลายทางของชีวิตคุณก็จะต้องมานั่งร้องไห้เมื่อเห็นว่าครอบครัวของคุณพังทลายเพราะเรื่องเงินๆทองๆพวกนี้  

ผมอยากให้คุณคิดสักนิดนึง เวลาผู้หญิงมีปัญหากับแฟนไม่ว่าจะเรื่องอะไรเขายังมีสิทธิ์ทิ้งคนเก่าเพื่อไปหาคนใหม่ที่ดีกว่าได้เลย ดังนั้นคุณจึงไม่จำเป็นต้องแคร์สายตาใครถ้าคุณจะถอยออกมาแล้วหาคนที่ดีที่สุดสำหรับคุณ และที่สำคัญ ไม่มีใครได้อะไรดั่งใจไปเสียทุกเรื่องหรอกนะครับ

ผมฝากไว้แค่นี้ล่ะครับ ยังไงก็สู้ๆนะครับ(กอดปลอบ)
ความคิดเห็นที่ 23
ครอบครัวภรรยาผมก็คล้ายๆแบบนี้ครับ พ่อใช้เงินไม่เป็น หาได้เท่าไหร่ก็ใช้หมด ไม่มีการบริหารเงิน แต่ภรรยาผมไม่เป็น เพราะเคยเห็นตัวอย่างที่ไม่ดีมาเยอะ

ครอบครัวผมหาเงินได้เยอะ (เดือนนึง7หลัก)​ แต่ก็ยังประหยัดอยู่ ตอนเช้าออกไปตลาดซื้อของมาทำกินเอง วันอาทิตย์ถึงออกไปทานข้าวนอกบ้านกัน แต่ก็เป็นมื้อราคาไม่สูงมาก 1000-2000 ทานกัน7คน

ผมเคยคุยกับแฟนก่อนแต่งงานแล้วว่า บ้านแฟนมีปัญหาอะไรเกี่ยวกับเรื่องการเงิน เราจะไม่เข้าไปยุ่ง เพราะเคยช่วยไปหลายครั้งแล้วก็ไม่มีอะไรดีขึ้น มีครั้งหนึ่งที่น้องชายแฟนประสบ​อุบัติเหตุ​ เสียชีวิต แฟนผมก็ใช้เงินเก็บจัดงานศพไปหลายแสน ซองในงานและเงินที่ได้จากประกัน พ่อแฟนเก็บไว้ไม่เอามาช่วยงานศพ แฟนผมก็ไม่ได้ว่าอะไรเพราะก็คิดว่าเดี๋ยวพ่อก็เอาไว้ใช่จ่ายในบ้าน สุดท้ายพ่อเอาไปดาวน์รถยนต์มือสอง โดยให้เหตุผลแค่ว่าอยากได้

ก่อนแต่งแฟนผมมีคุยกับผมว่าจะซื้อบ้านไว้ให้พ่อแม่อยู่ เพราะว่าหลังจากแต่งไปแล้ว คงไม่มีโอกาศได้ดูแลพ่อแม่ และครอบครัวแฟนก็เช่าบ้านอยู่ แกบอกว่าไม่อยากให้พ่อแม่เช่าอยู่แล้ว และจะรับผิดชอบค่าน้ำไฟให้ พ่อแม่แค่ทำงานนิดๆหน่อย ไว้เป็นค่าอาหารก็พอ ผมก็เห็นด้วย สุดท้ายไปได้บ้านมาหลังนึง ผมช่วยค่าตกแต่งไปล้านกว่าบาท รวมๆแล้วหลังนี้ประมาณ5ล้าน ก็ทยอยผ่อนไป จนเหลือยอดหนี้ไม่เยอะ แฟนผมก็ชวนพ่อแม่มาอยู่ แกก็ไม่ยอมมา บอกว่าไม่ชินพื้นที่ แต่ก็มาแวะมาหาบ้าง จนสุดท้ายผมกับแฟนตกลงจะแต่งงานกัน ก็มีหารือกับทางผู้ใหญ่ฝั่งแฟนเรื่องสินสอด และแฟนผมจะเอาสินสอดไปปิดยอดบ้านที่เหลือทั้งหมด และยกบ้านให้พ่อแม่อยู่ โดยที่แฟนผมจะย้ายเข้าบ้านผมแทน

ฟังดูไม่มีปัญหา​อะไร วันแต่ง (ผมหมั้นกับแต่งวันเดียวกัน)​ ช่วงเช้าผมเอาสินสอดไปให้ตามตกลง พอช่วงระหว่างงานหมั้นกับแต่ง พ่อแม่แฟนหายไปพร้อมสินสอด พอแฟนผมโทรไปถาม แกบอกว่าเอาไปเข้าธนาคารแล้ว และกลับคำว่าแกไม่ต้องการบ้าน แกจะเอาเงินสด โดยมีการวางแผนมาแล้วว่าจะมาหักคอเอากลางงานแบบนี้ พร้อมทั้งบอกกับแฟนผมว่า แฟนผมอกตัญญู​ ไม่เคยเลี้ยงดูที่บ้าน แกพร้อมจะตัดพ่อตัดลูก แกขอแค่เงินสดก้อนนี้ และไม่ต้องมายุ่งเกี่ยวกันอีก และงานแต่งช่วงเย็นแกก็ไม่มา

สุดท้ายบ้านที่จะตั้งใจสร้างให้แกอยู่ตอนนี้ขายไปแล้ว ได้มา5ล้านกว่าๆ ผมให้แฟนเก็บไว้เป็นทุนสำรอง ส่วนพ่อแม่แฟน หลังๆมีโทรมาหาบ้าง แต่แฟนผมก็ไม่ค่อยอยากรับสายเท่าไหร่ ผมก็บอกกับแฟนว่า ถ้าพ่อแม่มีปัญหาเรื่องเงิน เราคงช่วยอะไรไม่ได้แล้ว คนที่บริหารเงินไม่เป็น มีเงินเท่าไหร่มันก็ไม่พอ แต่ถ้าวันไหนมีปัญหาเรื่องสุขภาพ เราค่อยไปช่วย แต่จะเลี่ยงการให้เป็นเงินสด
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่