แชร์ประสบการณ์แพ้อาหารจนเอาชีวิตเกือบไม่รอดถึง 2 ครั้ง

สวัสดีค่ะ ตามหัวข้อกระทู้เลยคือเราต้องการแชร์ประสบการณ์เพราะความเหลือทนกับคนรอบข้าง
เราเป็นโรคภูมิแพ้มาตั้งแต่เด็ก แต่ยังไม่เคยแพ้อาหารอะไรเลยค่ะ

จนตอนอยู่ ม.5 แม่เราไปทำงานที่เมืองนอก ฝากลูก ๆ ไว้กับยาย
ตอนนั้นยายหวังดีค่ะ เอารังผึ้งที่มีน้ำผึ้งผสมอยู่ด้วย ที่คนชอบเอามาย่างให้หอมแล้วรับประทาน
คนแก่ในหมู่บ้านเชื่อว่าเป็นยาดีค่ะ ทำให้ร่างกายแข็งแรง

หลังกินข้าวเย็นเสร็จ เราก็กินรังผึ้งค่ะ กัดเข้าไปมีตัวอ่อนแตกในปากเลยค่ะ ตอนนั้นก็รู้สึกว่ามัน ๆ อร่อยดีค่ะ

ผ่านไปไม่ถึง 15 นาที เราหายใจไม่ออก รู้สึกแน่นหน้าอกมาก วิ่งไปบอกพี่สาวค่ะ พี่สาวก็ไม่สนใจเลยตอนนั้น มีแค่น้าชายที่สนใจพาเราไปหาหมอ โชคดีมาก ๆ ค่ะ ที่บ้านและโรงพยาบาลไม่ไกลกันมาก 15 นาทีถึง

พอถึงโรงพยาบาล เป็นช่วงค่ำแล้ว เราสติหลุดไปแล้วค่ะ
น้ามาเล่าให้ฟังว่าเราหมดสติ พยาบาลเลยเลิกซักประวัติและเรียกแพทย์ด่วน
แพทย์เวรโทร.ตามคุณหมอที่มีอายุท่านหนึ่งมาค่ะ ตอนนั้นเราอยู่ ICU แล้ว

น้าบอกว่าหมอวิ่งมาแบบกางเกงขาสั้น เสื้อกล้าม รองเท้าไม่สวมเลยค่ะ (หมอผู้ชายทั้งคู่)
เราไม่รู้ว่าผ่านไปนานแค่ไหนค่ะ แต่มีช่วงที่ได้สติ มีที่ครอบช่วยหายใจ และได้ยินหมอกับพยาบาลคุยกันว่าพยายามให้เรามีสตินะ

พอเราเริ่มหายใจสะดวกขึ้น พยาบาลก็เข้ามาช่วยล้างท้องให้ค่ะ นอนห้อง ICU 1 คืนแล้วออกมานอนห้องธรรมดา 1 คืน
เป็นประการณ์เกือบไม่ได้หายใจบนโลกนี้อีกแล้ว จำขึ้นใจเลยค่ะ กินอะไรต้องระวัง

ผ่านมาอีกปี เรากินไข่มดแดงค่ะ เป็นยำไข่มดแดง อาการเหมือนแพ้ครั้งแรกไม่มีผิดเลยค่ะ
ตอนที่แพ้แม่เราก็อยู่ด้วย พาไปหาหมอ พยาบาลที่ซักประวัติหัวเราะกันใหญ่เลยค่ะ

“เกิดในอีสานมาสี่สิบปี ยังไม่เคยเห็นใครแพ้ไข่มดแดง มันไม่จริงหรอก”

พอดีเราอยู่ที่ชัยภูมิค่ะ เกิดอีสานโดยแท้ แต่จะว่าไป ชาวทะเลแพ้กุ้งมีออกถมไปนี่คะ ทำไมเราแพ้ไข่มดแดงผิดตรงไหน
แม่บอกว่าหมอบ่นพยาบาลเลยค่ะ เราเข้าอีหลอบเดิม ล้างท้องและเครื่องช่วยหายใจ แต่ไม่ต้องนอน ICU

เป็นสองครั้งที่เราไม่ได้สติไปเลยนะคะ ยังไม่รวมการแพ้เมล็ดมะม่วงหิมพานต์ ถั่วอัลมอลล์ กะบก พวกที่กินแล้วจะมัน ๆ นี่จะไม่ได้เลยค่ะ
ไม่ถึงกับ ICU แต่หายใจไม่ออก

พอขึ้นมหา’ลัย แม่ห่วงมากค่ะ เข้ามาเรียนในกรุงเทพฯ กลัวเรากินอะไรมั่ว ๆ แล้วแพ้
ยิ่งตอนรับน้องนะคะ รุ่นพี่นี่ทำให้เราโดนทุกคนเกลียดเลยค่ะ ว่าเรื่องมาก ทำให้เพื่อนในรุ่นลำบาก เพราะมีคนในรุ่น(หมายถึงเรา) กบฎ ไม่ทำตามคำสั่ง เราเลยตัดสินใจไม่ร่วมการรับน้องในวันถัด ๆ ไปอีกเลย ตายมาคนที่เสียคือคนในครอบครัว เราเลยเลิกแคร์

จนบัดนี้ มาเจอในครอบครัวของแฟน ตอนแรกก็ไม่เข้าใจการแพ้อาหารค่ะ เราเคยกินน้ำเย็นตาโฟแล้วหายใจไม่ออก ไม่รู้แพ้อะไร ปกติน้ำใสกินได้ เขาก็เหมือนไม่เชื่อค่ะ จนแม่เรามาพูดเรื่องเราแพ้อาหารเกือบตายถึง 2 รอบ เลยเข้าใจขึ้นบ้างเล็กน้อย
แต่ยัง “ถ้ามันแพ้ก็ต้องเอาชนะมันให้ได้สิ” เราเบื่อคำนี้ค่ะ แต่โชคดีแฟนเข้าใจ เขาจะกันเราจากการปฎิเสธอาหารพวกนี้จากครอบครัวเขาได้

เราเคยแซวกับแม่ค่ะ แม่ห่วงเรามาก กลัวเราตายเพราะของกิน เราเลยบอกแม่ว่า ถ้าหนูตายแม่ก็ได้เป็นเศรษฐีไง
แม่บอกว่า ตอนนี้เป็นได้ที่ไหนล่ะ ตายเพราะแพ้อาหาร ประกันไม่จ่ายซักบาท ฮ่า ๆ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่