http://www.share2trade.com/index.php?route=content/content&path=9&content_id=2899
จะว่าไปแล้ว BEAUTY เป็นหุ้นที่โตตลอดนับแต่เข้าตลาดหุ้นมา ราคาขึ้นไปทำไฮใหม่ที่ 23.70 บาท เมื่อวันที่ 30 เม.ย. 2561 ก่อนจะโดนเทขายตลอด ความน่ากลัวอยู่ที่ราคาลงแรง แต่วอลุ่มไม่มากเท่าไหร่ จะมีก็เมื่อวานนี้ เล่นกดลงมาต่ำสุด 13.70 บาท แต่ก็มีแรงซื้อสู้กลับขึ้นมาปิดที่ 15.70 บาท ได้ หลังผู้บริหารออกโรงชี้แจงถึงกระแสข่าวลือต่างๆ นานา รวมไปถึงเรื่องเครื่องหมาย อย. คำถามคือ เขาเข้าตลาดมานานหลายปีแล้ว ทำไมถึงมีข่าวเรื่องนี้ และยังมีบางข่าวเป็นเรื่องเดิมๆ อีก
ย้อนกลับไปปีที่แล้ว ราคาหุ้นขึ้นไปทำไฮที่ 12.60 บาท 3 รอบ คือ เมื่อวันที่ 6 ม.ค. และ 11-12 ม.ค. ยืนไม่ได้ ผ่านไม่ได้ ราคาก็ค่อยๆ ถอยลงไปที่ 9.05 บาท ในวันประชุมผู้ถือหุ้น (น่าจะจำไม่ผิด) ก่อนจะชี้แจงว่าไม่มีอะไร แต่มีการออกบทวิเคราะห์ทุบหุ้นของโบรกเกอร์รายหนึ่ง หลังจากนั้นราคาหุ้นก็ค่อยๆ ดีดตัวขึ้น แต่การลงทุนในครั้ง ยังไม่ได้ลงต่ำสุดเหมือนเมื่อวันที่ 9 ธ.ค. 2559 ที่ลงไปที่ 7.70 บาท เมื่อทุกอย่างคลี่คลาย และไตรมาส 2 เป็นจุดเริ่มต้นของผลประกอบการที่เริ่มเติบโต ทำให้ราคาหุ้นเริ่มดีตัวขึ้น
อาการของ BEAUTY ในช่วงนั้น ไม่น่ากลัวเหมือนครั้งนี้ เพราะวันนี้ในตลาดหุ้นทุกคนมองว่า "มีคู่แข่ง" หลัง DDD เข้ามาในตลาด ทั้งที่ในความเป็นจริง คนละกลุ่มลูกค้ากัน และความหลากหลายก็แตกต่างกัน และที่สำคัญการเทรดของ DDD กับ BEAUTY ค่าพีอีก็แตกต่าง ราคาหุ้นของ DDD จะแพงกว่า หากเปรียบเทียบกัน
เมื่อราคาหุ้นเริ่มเหวี่ยงตัวแรง พร้อมๆ กับการขายหุ้นบิ๊กล็อตออกของ "กลุ่มหมอสุวิน ไกรภูเบศ" รอบล่าสุด รวมๆ แล้ว หลังราคาหุ้นปรับเพิ่มขึ้นอย่างร้อนแรง พบว่ากลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่ทยอยขายหุ้นออกมาตลอดตั้งแต่นำหุ้นเข้าจดทะเบียนในปี 55 จากสัดส่วนถือหุ้นรวม 70.83% เหลือเพียง 25.91% ณ สิ้นปี 60
หุ้น BEAUTY เข้าซื้อขายเมื่อวันที่ 12 ธ.ค. 2555 โดยมีผู้ถือหุ้นใหญ่คือ "กลุ่มหมอสุวิน ไกรภูเบศ" ประกอบไปด้วยบุคคล 7 ราย ถือหุ้นรวมกันกว่า 70.83% หลังจากเข้าซื้อขายได้เพียง 1 ปี สัดส่วนถือหุ้นของ "กลุ่มนายสุวิน ไกรภูเบศ" ลดลงเหลือ 68.33% ณ สิ้นปี 56 จากการขายหุ้นทั้งหมดของ "นางชญาน์ณัณท์ เขื่อนพันธ์" ณ สิ้นปี 57 สัดส่วนถือหุ้นของกลุ่มฯ ลดลงเหลือ 48.56% จากการขายหุ้นของ "ธัญญาภรณ์ ไกรภูเบศ" ผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับ 2 ในขณะนั้น ออกมาถึง 11.41% และผู้ถือหุ้นใหญ่อื่นๆในกลุ่มรวม 8.36% และสิ้นปี 58 "กลุ่มหมอสุวิน ไกรภูเบศ" ก็เหลือสัดส่วนถือหุ้นเพียง 37.59% จากการขายหุ้นของ "สุวิน ไกรภูเบศ" ผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับ 1 ออกมาอีก 8.2% และผู้ถือหุ้นใหญ่รายอื่นในกลุ่ม 2.77%
สิ้นปี 2560 "กลุ่มนายสุวิน ไกรภูเบศ" เหลือผู้ถือหุ้นเพียง 2 ราย สัดส่วนถือหุ้นรวม 25.91% แบ่งเป็น "สุวิน ไกรภูเบศ" ถือหุ้น 17.45% และ "ธัญญาภรณ์ ไกรภูเบศ" 8.46% ล่าสุด 2 ผู้ถือหุ้นใหญ่ แจ้งขายหุ้นบิ๊กล็อตรวม 140,000,000 หุ้น คิดเป็น 4.66% ให้แก่นักลงทุนสถาบันในประเทศและจากต่างประเทศ รวมถึงนักลงทุนบุคคลรายใหญ่ที่ราคา 18.80 บาทต่อหุ้น ทำให้เหลือสัดส่วนถือหุ้นรวมเพียง 21.23% เมื่อวันที่ 13 มีนาคม 2561 เก็บเงินเข้ากระเป๋าไปอีก 2,632 ล้านบาท
คำถามที่นักลงทุนสงสัยคือ BEAUTY เริ่มตึงตัวหรือยัง และสะท้อนการเติบโตไปแล้วหรือยัง แนวโน้มการเติบโตเริ่มชะลอตัวหรือไม่ โดยเฉพาะนับจากนี้ไป จะยังสามารถรักษาระดับอัตราการเติบโตได้อีกหรือไม่ จากฐานกำไรที่สูงในอดีต มาวันนี้ จะสามารถรักษาฐานดังกล่าวได้หรือไม่
ไม่ได้บอกว่าไม่ดี แต่อัตราการเติบโตของกำไรสุทธิที่เริ่มชะลอตัวลงจากฐานที่สูงในอดีต น่าจะเป็นลักษณะนี้มากกว่า เลยทำให้นักลงทุนเกิดความวิตกกังวล
ตรงนี้ถือเป็นเรื่องปกติ แต่ที่ไม่ปกติก็คือ กระแสข่าวเรื่องสต็อกปลอม ออกไปตั้งบริษัทในต่างประเทศแล้วสร้างคำสั่งซื้อปลอมเข้ามาหรือเปล่า ขายดีจริงหรือ..?
จะว่าไปแล้ว กระบวนการเล่นข่าวถล่ม BEAUTY ไม่ใช่เพิ่งมี และเป็นเรื่องเดิมๆ แต่ที่ไม่เหมือนเดิม เป็นการคอนเฟิร์มว่าข่าวดังกล่าวเป็นจริง คือการขายหุ้นออกมามากมาย จนทำให้ราคาหุ้นหลุดทางสัญญาณเทคนิค เลยทำให้เกิดการขายตาม จะว่าไป คล้ายๆ กับ SUPER แต่น่าจะเป็นละกลุ่มกัน แม้รูปแบบและสไตล์จะเหมือนๆ แถมผสมโรงกับการปรับพอร์ทของนักลงทุนสถานบัน ซึ่งถือหุ้นตัวนี้เยอะมาก น่าจะมีการปรับพอร์ทบ้าง
หมอสุวิน ยืนยันว่า สินค้ามี อย.ครบ จดแจ้งถูกต้อง ตรวจสอบได้ เพราะสั่งผลิตสินค้ากับ Supplier ที่มีมาตรฐาน และได้รับการับรองจาก อย. และมีปรีมาณสินค้าเพียงพอต่อการจำหน่ายในทุกช่องทางการจัดจำหน่าย "เรื่องจีน" การขายสินค้าแบบ Wholesales ไปประเทศจีนผ่าน Distributor 2 รายเป็นออเดอร์ที่เกิดขึ้นจริง คำสั่งซื้อล็อตแรกเข้ามาแล้ว และได้ส่งมอบสินค้า และชำระค่าสินค้าเป็นเงินสดเข้ามายังบริษัทเรียบร้อยแล้วในสัดส่วนมากกว่า 90% ของมูลค่าออเดอร์ทั้งหมด มีสินค้าของ BEAUTY บนเว็บไซต์ในเดือนมิ.ย.ปีนี้ แน่นอน
สำคัญ BEAUTY ยังมีแผนที่จะเซ็นต์สัญญากับ Distributor รายที่ 3 ภายในสัปดาห์หน้า สำหรับรายได้จาก Distributor รายที่ 3 คาดว่าจะเริ่มรับรู้รายได้ในไตรมาส 3 ปีนี้ ซึ่งรวมๆ แล้วสัดส่วนรายได้จากจีน "หมอสุวิน" คาดว่าจะอยู่ที่ 14-15 % ของรายได้ทั้งหมด ทั้งหมดนี้ มาพร้อมกับการทำงานจริงๆ กับผู้บริหารคนใหม่ ที่เคยอยู่เบื้องหลัง แล้วมาทำงานเบื้องหน้า จะมาตกม้าตายกับเรื่องข่าวลือๆ ที่ออกมา มันก็กระไรอยู่
เมื่อมีขบวนการปล่อยข่าวทุบหุ้น พร้อมๆ กับแรงรับกลับ สะท้อนให้เห็นว่า มีคนอยากให้หุ้นลง และได้พยายามหลายครั้งแล้ว ทำให้ราคาเหวี่ยงแรงมากๆ แต่หลุดรอบนี้ ต้องไปดูว่า บรรดาผู้ลงทุนสถาบันปรับพอร์ทเรียบร้อยหรือยัง จะกลับมาอยู่กับหุ้นตัวนี้อีกหรือไม่ ถ้าไม่ราคาจะไปลำบากหน่อย เพราะถ้ามีการขายออกจำนวนมากๆ ผู้ถือหุ้นรายย่อย หรือ Free Float เยอะๆ โอกาสขึ้นก็ยาก แต่ถ้ายังอยู่ในสายตาของนักลงทุนสถาบัน ก็มีโอกาสจะได้เห็นราคาหุ้นกลับไปได้
คำถามเรื่อง "เน่าในหรือเปล่า" คำตอบนี้ ต้องย้อนกลับไปในหลายๆ ปี ที่มีนักลงทุนเรืองนามระดับโลกอย่าง "มาร์ค โมเบียส" ประธานกองทุนเทมเปิลตัน ของฮ่องกง ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุน และเป็นผู้มีอิทธิพลต่อการลงทุนในตลาดเกิดใหม่ โดยเฉพาะตลาดหุ้นไทย เป็นตัวการันตีเรียบร้อยแล้ว ถ้าเน่าในจริงๆ เขาคงไม่เข้าไปซื้อ
ส่วนจะขายออกหรือยัง ตอบลำบาก เพราะระยะ 3-5 ปีที่ตั้งใจไว้ ว่ากันตามตรง แม้จะยังไม่ครบ ก็ต้องมาดูว่า จากราคาต้นทุน 4-5 บาท มาถึงปัจจุบัน กี่เท่าตัว ถ้าเน่าใจจริงๆ คนๆ นี้ จะไม่เสี่ยงลงทุนด้วย หรือไม่ย่างกรายเข้ามาด้วยซ้ำ
เมื่อมีกระบวนการปล่อยข่าวทุบหุ้น แล้วเก็บข้อง ผสมโรงกับการปรับพอร์ทของนักลงทุนสถาบัน แน่นอนว่า "โอกาสจะมาถึงมือรายย่อยหรือไม่" คงจะไม่สามารถฟันธงได้ขนาดนั้น แต่อยากจะบอกว่า เมื่อมันมาแล้ว ก็ต้องฉวยโอกาสอย่างมีกลยุทธ์ นั่นคือ ซื้อแล้ว ก็ต้องตั้งจุดคัทเอาไว้ด้วย "ข่าวดี แต่เชิงจิตวิทยา และความกลัว" มักจะอยู่ด้วยกันคือ "ไม่เชื่อ" เมื่อความกลัวเข้าครอบงำ "แรงยุ ส่งเสริม อารมณ์" บางครั้งอาจจะทำให้พลาดโอกาสดีๆ ไป
ส่วนเรื่องปล่อยข่าวทุบหุ้น มีอยู่ประจำอยู่แล้วในโลกโซเซี่ยล ก็ขึ้นอยู่กับว่า คุณจะเชื่อเขาไม่หรือ หรือมองวิกฤติเป็นโอกาสได้หรือเปล่า ถ้าทำได้ คุณก็จะเป็นนักฉวยโอกาสในตลาดหุ้นเก่งอีกคนหนึ่ง "ความสำเร็จและพลัง จงอยู่กับทุกคน"
โชคดีครับ
///////////////
ขอบคุณบทความจาก www.facebook.com/Share2Trade/
http://www.share2trade.com
#DDD #SUPER #BEAUTY
BEAUTY เน่าในหรือเปล่า? : โดย มิตร กัลยาณมิตร เว็บ Share2Trade
จะว่าไปแล้ว BEAUTY เป็นหุ้นที่โตตลอดนับแต่เข้าตลาดหุ้นมา ราคาขึ้นไปทำไฮใหม่ที่ 23.70 บาท เมื่อวันที่ 30 เม.ย. 2561 ก่อนจะโดนเทขายตลอด ความน่ากลัวอยู่ที่ราคาลงแรง แต่วอลุ่มไม่มากเท่าไหร่ จะมีก็เมื่อวานนี้ เล่นกดลงมาต่ำสุด 13.70 บาท แต่ก็มีแรงซื้อสู้กลับขึ้นมาปิดที่ 15.70 บาท ได้ หลังผู้บริหารออกโรงชี้แจงถึงกระแสข่าวลือต่างๆ นานา รวมไปถึงเรื่องเครื่องหมาย อย. คำถามคือ เขาเข้าตลาดมานานหลายปีแล้ว ทำไมถึงมีข่าวเรื่องนี้ และยังมีบางข่าวเป็นเรื่องเดิมๆ อีก
ย้อนกลับไปปีที่แล้ว ราคาหุ้นขึ้นไปทำไฮที่ 12.60 บาท 3 รอบ คือ เมื่อวันที่ 6 ม.ค. และ 11-12 ม.ค. ยืนไม่ได้ ผ่านไม่ได้ ราคาก็ค่อยๆ ถอยลงไปที่ 9.05 บาท ในวันประชุมผู้ถือหุ้น (น่าจะจำไม่ผิด) ก่อนจะชี้แจงว่าไม่มีอะไร แต่มีการออกบทวิเคราะห์ทุบหุ้นของโบรกเกอร์รายหนึ่ง หลังจากนั้นราคาหุ้นก็ค่อยๆ ดีดตัวขึ้น แต่การลงทุนในครั้ง ยังไม่ได้ลงต่ำสุดเหมือนเมื่อวันที่ 9 ธ.ค. 2559 ที่ลงไปที่ 7.70 บาท เมื่อทุกอย่างคลี่คลาย และไตรมาส 2 เป็นจุดเริ่มต้นของผลประกอบการที่เริ่มเติบโต ทำให้ราคาหุ้นเริ่มดีตัวขึ้น
อาการของ BEAUTY ในช่วงนั้น ไม่น่ากลัวเหมือนครั้งนี้ เพราะวันนี้ในตลาดหุ้นทุกคนมองว่า "มีคู่แข่ง" หลัง DDD เข้ามาในตลาด ทั้งที่ในความเป็นจริง คนละกลุ่มลูกค้ากัน และความหลากหลายก็แตกต่างกัน และที่สำคัญการเทรดของ DDD กับ BEAUTY ค่าพีอีก็แตกต่าง ราคาหุ้นของ DDD จะแพงกว่า หากเปรียบเทียบกัน
เมื่อราคาหุ้นเริ่มเหวี่ยงตัวแรง พร้อมๆ กับการขายหุ้นบิ๊กล็อตออกของ "กลุ่มหมอสุวิน ไกรภูเบศ" รอบล่าสุด รวมๆ แล้ว หลังราคาหุ้นปรับเพิ่มขึ้นอย่างร้อนแรง พบว่ากลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่ทยอยขายหุ้นออกมาตลอดตั้งแต่นำหุ้นเข้าจดทะเบียนในปี 55 จากสัดส่วนถือหุ้นรวม 70.83% เหลือเพียง 25.91% ณ สิ้นปี 60
หุ้น BEAUTY เข้าซื้อขายเมื่อวันที่ 12 ธ.ค. 2555 โดยมีผู้ถือหุ้นใหญ่คือ "กลุ่มหมอสุวิน ไกรภูเบศ" ประกอบไปด้วยบุคคล 7 ราย ถือหุ้นรวมกันกว่า 70.83% หลังจากเข้าซื้อขายได้เพียง 1 ปี สัดส่วนถือหุ้นของ "กลุ่มนายสุวิน ไกรภูเบศ" ลดลงเหลือ 68.33% ณ สิ้นปี 56 จากการขายหุ้นทั้งหมดของ "นางชญาน์ณัณท์ เขื่อนพันธ์" ณ สิ้นปี 57 สัดส่วนถือหุ้นของกลุ่มฯ ลดลงเหลือ 48.56% จากการขายหุ้นของ "ธัญญาภรณ์ ไกรภูเบศ" ผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับ 2 ในขณะนั้น ออกมาถึง 11.41% และผู้ถือหุ้นใหญ่อื่นๆในกลุ่มรวม 8.36% และสิ้นปี 58 "กลุ่มหมอสุวิน ไกรภูเบศ" ก็เหลือสัดส่วนถือหุ้นเพียง 37.59% จากการขายหุ้นของ "สุวิน ไกรภูเบศ" ผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับ 1 ออกมาอีก 8.2% และผู้ถือหุ้นใหญ่รายอื่นในกลุ่ม 2.77%
สิ้นปี 2560 "กลุ่มนายสุวิน ไกรภูเบศ" เหลือผู้ถือหุ้นเพียง 2 ราย สัดส่วนถือหุ้นรวม 25.91% แบ่งเป็น "สุวิน ไกรภูเบศ" ถือหุ้น 17.45% และ "ธัญญาภรณ์ ไกรภูเบศ" 8.46% ล่าสุด 2 ผู้ถือหุ้นใหญ่ แจ้งขายหุ้นบิ๊กล็อตรวม 140,000,000 หุ้น คิดเป็น 4.66% ให้แก่นักลงทุนสถาบันในประเทศและจากต่างประเทศ รวมถึงนักลงทุนบุคคลรายใหญ่ที่ราคา 18.80 บาทต่อหุ้น ทำให้เหลือสัดส่วนถือหุ้นรวมเพียง 21.23% เมื่อวันที่ 13 มีนาคม 2561 เก็บเงินเข้ากระเป๋าไปอีก 2,632 ล้านบาท
คำถามที่นักลงทุนสงสัยคือ BEAUTY เริ่มตึงตัวหรือยัง และสะท้อนการเติบโตไปแล้วหรือยัง แนวโน้มการเติบโตเริ่มชะลอตัวหรือไม่ โดยเฉพาะนับจากนี้ไป จะยังสามารถรักษาระดับอัตราการเติบโตได้อีกหรือไม่ จากฐานกำไรที่สูงในอดีต มาวันนี้ จะสามารถรักษาฐานดังกล่าวได้หรือไม่
ไม่ได้บอกว่าไม่ดี แต่อัตราการเติบโตของกำไรสุทธิที่เริ่มชะลอตัวลงจากฐานที่สูงในอดีต น่าจะเป็นลักษณะนี้มากกว่า เลยทำให้นักลงทุนเกิดความวิตกกังวล
ตรงนี้ถือเป็นเรื่องปกติ แต่ที่ไม่ปกติก็คือ กระแสข่าวเรื่องสต็อกปลอม ออกไปตั้งบริษัทในต่างประเทศแล้วสร้างคำสั่งซื้อปลอมเข้ามาหรือเปล่า ขายดีจริงหรือ..?
จะว่าไปแล้ว กระบวนการเล่นข่าวถล่ม BEAUTY ไม่ใช่เพิ่งมี และเป็นเรื่องเดิมๆ แต่ที่ไม่เหมือนเดิม เป็นการคอนเฟิร์มว่าข่าวดังกล่าวเป็นจริง คือการขายหุ้นออกมามากมาย จนทำให้ราคาหุ้นหลุดทางสัญญาณเทคนิค เลยทำให้เกิดการขายตาม จะว่าไป คล้ายๆ กับ SUPER แต่น่าจะเป็นละกลุ่มกัน แม้รูปแบบและสไตล์จะเหมือนๆ แถมผสมโรงกับการปรับพอร์ทของนักลงทุนสถานบัน ซึ่งถือหุ้นตัวนี้เยอะมาก น่าจะมีการปรับพอร์ทบ้าง
หมอสุวิน ยืนยันว่า สินค้ามี อย.ครบ จดแจ้งถูกต้อง ตรวจสอบได้ เพราะสั่งผลิตสินค้ากับ Supplier ที่มีมาตรฐาน และได้รับการับรองจาก อย. และมีปรีมาณสินค้าเพียงพอต่อการจำหน่ายในทุกช่องทางการจัดจำหน่าย "เรื่องจีน" การขายสินค้าแบบ Wholesales ไปประเทศจีนผ่าน Distributor 2 รายเป็นออเดอร์ที่เกิดขึ้นจริง คำสั่งซื้อล็อตแรกเข้ามาแล้ว และได้ส่งมอบสินค้า และชำระค่าสินค้าเป็นเงินสดเข้ามายังบริษัทเรียบร้อยแล้วในสัดส่วนมากกว่า 90% ของมูลค่าออเดอร์ทั้งหมด มีสินค้าของ BEAUTY บนเว็บไซต์ในเดือนมิ.ย.ปีนี้ แน่นอน
สำคัญ BEAUTY ยังมีแผนที่จะเซ็นต์สัญญากับ Distributor รายที่ 3 ภายในสัปดาห์หน้า สำหรับรายได้จาก Distributor รายที่ 3 คาดว่าจะเริ่มรับรู้รายได้ในไตรมาส 3 ปีนี้ ซึ่งรวมๆ แล้วสัดส่วนรายได้จากจีน "หมอสุวิน" คาดว่าจะอยู่ที่ 14-15 % ของรายได้ทั้งหมด ทั้งหมดนี้ มาพร้อมกับการทำงานจริงๆ กับผู้บริหารคนใหม่ ที่เคยอยู่เบื้องหลัง แล้วมาทำงานเบื้องหน้า จะมาตกม้าตายกับเรื่องข่าวลือๆ ที่ออกมา มันก็กระไรอยู่
เมื่อมีขบวนการปล่อยข่าวทุบหุ้น พร้อมๆ กับแรงรับกลับ สะท้อนให้เห็นว่า มีคนอยากให้หุ้นลง และได้พยายามหลายครั้งแล้ว ทำให้ราคาเหวี่ยงแรงมากๆ แต่หลุดรอบนี้ ต้องไปดูว่า บรรดาผู้ลงทุนสถาบันปรับพอร์ทเรียบร้อยหรือยัง จะกลับมาอยู่กับหุ้นตัวนี้อีกหรือไม่ ถ้าไม่ราคาจะไปลำบากหน่อย เพราะถ้ามีการขายออกจำนวนมากๆ ผู้ถือหุ้นรายย่อย หรือ Free Float เยอะๆ โอกาสขึ้นก็ยาก แต่ถ้ายังอยู่ในสายตาของนักลงทุนสถาบัน ก็มีโอกาสจะได้เห็นราคาหุ้นกลับไปได้
คำถามเรื่อง "เน่าในหรือเปล่า" คำตอบนี้ ต้องย้อนกลับไปในหลายๆ ปี ที่มีนักลงทุนเรืองนามระดับโลกอย่าง "มาร์ค โมเบียส" ประธานกองทุนเทมเปิลตัน ของฮ่องกง ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุน และเป็นผู้มีอิทธิพลต่อการลงทุนในตลาดเกิดใหม่ โดยเฉพาะตลาดหุ้นไทย เป็นตัวการันตีเรียบร้อยแล้ว ถ้าเน่าในจริงๆ เขาคงไม่เข้าไปซื้อ
ส่วนจะขายออกหรือยัง ตอบลำบาก เพราะระยะ 3-5 ปีที่ตั้งใจไว้ ว่ากันตามตรง แม้จะยังไม่ครบ ก็ต้องมาดูว่า จากราคาต้นทุน 4-5 บาท มาถึงปัจจุบัน กี่เท่าตัว ถ้าเน่าใจจริงๆ คนๆ นี้ จะไม่เสี่ยงลงทุนด้วย หรือไม่ย่างกรายเข้ามาด้วยซ้ำ
เมื่อมีกระบวนการปล่อยข่าวทุบหุ้น แล้วเก็บข้อง ผสมโรงกับการปรับพอร์ทของนักลงทุนสถาบัน แน่นอนว่า "โอกาสจะมาถึงมือรายย่อยหรือไม่" คงจะไม่สามารถฟันธงได้ขนาดนั้น แต่อยากจะบอกว่า เมื่อมันมาแล้ว ก็ต้องฉวยโอกาสอย่างมีกลยุทธ์ นั่นคือ ซื้อแล้ว ก็ต้องตั้งจุดคัทเอาไว้ด้วย "ข่าวดี แต่เชิงจิตวิทยา และความกลัว" มักจะอยู่ด้วยกันคือ "ไม่เชื่อ" เมื่อความกลัวเข้าครอบงำ "แรงยุ ส่งเสริม อารมณ์" บางครั้งอาจจะทำให้พลาดโอกาสดีๆ ไป
ส่วนเรื่องปล่อยข่าวทุบหุ้น มีอยู่ประจำอยู่แล้วในโลกโซเซี่ยล ก็ขึ้นอยู่กับว่า คุณจะเชื่อเขาไม่หรือ หรือมองวิกฤติเป็นโอกาสได้หรือเปล่า ถ้าทำได้ คุณก็จะเป็นนักฉวยโอกาสในตลาดหุ้นเก่งอีกคนหนึ่ง "ความสำเร็จและพลัง จงอยู่กับทุกคน"
โชคดีครับ
///////////////
ขอบคุณบทความจาก www.facebook.com/Share2Trade/
http://www.share2trade.com
#DDD #SUPER #BEAUTY