ธุรกิจเครื่องสำอาง กำลังชะลอตัว?
ในหลายปีที่ผ่านมา
ธุรกิจที่เป็นดาวรุ่ง หนึ่งในนั้นคือ เครื่องสำอาง
สำหรับในตลาดหุ้น ก็มีหลายบริษัทที่ทำธุรกิจนี้
และกรณีศึกษาที่น่าสนใจก็คือ
บริษัท บิวตี้ คอมมูนิตี้ จำกัด (BEAUTY)
บริษัทนี้ขายเครื่องสำอางในนาม Beauty Buffet, Beauty Cottage
ในช่วงที่ผ่านมาบริษัทมีมูลค่าเติบโตขึ้นแบบก้าวกระโดด
ปี 2015 อยู่ที่ 17,250 ล้านบาท
ปี 2016 อยู่ที่ 35,100 ล้านบาท
ปี 2017 อยู่ที่ 62,457 ล้านบาท
มูลค่าบริษัทเพิ่มขึ้นถึง 262% ในระยะเวลาเพียงแค่ 3 ปี
อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่าธุรกิจเครื่องสำอางที่เติบโตเร็วกำลังจะเริ่มชะลอตัวลง
เพราะขณะนี้มูลค่าของบริษัท BEAUTY กลับลดลงมาอยู่ที่ 21,000 ล้านบาทเท่านั้น คิดเป็นการลดลงถึง 66%
ถ้าเรามาดูอัตรากำไรสุทธิของบริษัท BEAUTY
ปี 2015 อัตรากำไรสุทธิ 22%
ปี 2016 อัตรากำไรสุทธิ 25%
ปี 2017 อัตรากำไรสุทธิ 33%
แปลว่า ทุกครั้งที่ขายสินค้า 100 บาท จะกลายเป็นกำไรสุทธิ 22 ถึง 33 บาท ซึ่งถือว่าอยู่ในระดับที่สูงเมื่อเทียบกับอุตสาหกรรมอื่น
แต่เมื่อมีอัตรากำไรดี ก็ทำให้มีหลายคนอยากเข้ามาในอุตสาหกรรมนี้
สิ่งที่เกิดขึ้นตามมาก็คือ การตัดราคาของสินค้าเพื่อแข่งขัน และลุกลามไปจนถึงลดต้นทุนด้วยการไม่ทำตามกฎเกณฑ์และข้อบังคับให้ถูกต้องตามกฎหมาย
เวลาผ่านไป.. เรื่องนี้ก็ได้เดินทางมาถึงจุดจบ
ในปี 2561 สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เริ่มมีการปราบปรามผลิตภัณฑ์สุขภาพ และเครื่องสำอางที่ผิดกฎหมายอย่างเข้มงวด ส่งผลให้ผู้บริโภคมีความระมัดระวังในการซื้อสินค้ามากขึ้น
ในขณะเดียวกันสินค้าที่ถูกส่งออกไปต่างประเทศ ก็โดนการตรวจสอบที่เข้มงวดขึ้น และทำให้ใช้เวลานานกว่าที่สินค้าจะถูกนำเข้าต่างประเทศ
เมื่อสินค้าถูกส่งออกไปได้ช้าลง ก็ตามมาด้วยยอดขายที่ลดลง
ผลประกอบการไตรมาสล่าสุด ไตรมาส 4 ปี 2561 ของบริษัท BEAUTY
รายได้ 657 ล้านบาท
ลดลง 40% จากไตรมาสเดียวกันของปีที่แล้ว
กำไรสุทธิ 124 ล้านบาท
ลดลง 70% จากไตรมาสเดียวกันของปีที่แล้ว
เราจะเห็นว่าทั้งรายได้และกำไรของบริษัทหดตัวลงอย่างรุนแรง
อย่างไรก็ตามนี่ไม่ใช่สาเหตุทั้งหมดของผลประกอบการที่หดตัวในครั้งนี้
อีกหนึ่งประเด็นสำคัญที่เรารู้กัน นั้นก็คือ นักท่องเที่ยวจีน..
ซึ่ง BEAUTY เองก็เป็นหนึ่งในบริษัทที่สินค้าได้รับความนิยมในหมู่คนจีน ซึ่งได้รับผลกระทบจากจำนวนนักท่องเที่ยวที่ลดลงในช่วงปลายปีที่แล้ว
พอเรื่องเป็นแบบนี้ หลังประกาศผลการดำเนินงาน
หุ้นของ BEAUTY ก็ตกลงกว่า 15% ภายในวันเดียว
หุ้น BEAUTY เคยทำราคาสูงสุดที่ 23.70 บาทเมื่อต้นปีที่แล้ว
แต่ตอนนี้หุ้น BEAUTY มีราคาอยู่ที่ 6.95 บาท ลดลงมากถึง 70%
ปิดท้ายด้วยข้อมูลที่น่าสนใจ
หลายคนคงอยากรู้ว่าเครื่องสำอางที่ขายกันมีต้นทุนสินค้าเท่าไร
ในปี 2561
รายได้ของ BEAUTY คือ 3,466.61 ล้านบาท
ต้นทุนขายจะเป็น 1,201.65 ล้านบาท
หรือ คิดเป็น 34.7% นั่นเอง..
———————-
โดย ลงทุนแมน
อ่านเรื่องหลากหลาย จากผู้เขียนเก่งๆ หลายท่าน ในแอป blockdit ได้ที่ blockdit.com
ธุรกิจเครื่องสำอาง กำลังชะลอตัว?
ธุรกิจเครื่องสำอาง กำลังชะลอตัว?
ในหลายปีที่ผ่านมา
ธุรกิจที่เป็นดาวรุ่ง หนึ่งในนั้นคือ เครื่องสำอาง
สำหรับในตลาดหุ้น ก็มีหลายบริษัทที่ทำธุรกิจนี้
และกรณีศึกษาที่น่าสนใจก็คือ
บริษัท บิวตี้ คอมมูนิตี้ จำกัด (BEAUTY)
บริษัทนี้ขายเครื่องสำอางในนาม Beauty Buffet, Beauty Cottage
ในช่วงที่ผ่านมาบริษัทมีมูลค่าเติบโตขึ้นแบบก้าวกระโดด
ปี 2015 อยู่ที่ 17,250 ล้านบาท
ปี 2016 อยู่ที่ 35,100 ล้านบาท
ปี 2017 อยู่ที่ 62,457 ล้านบาท
มูลค่าบริษัทเพิ่มขึ้นถึง 262% ในระยะเวลาเพียงแค่ 3 ปี
อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่าธุรกิจเครื่องสำอางที่เติบโตเร็วกำลังจะเริ่มชะลอตัวลง
เพราะขณะนี้มูลค่าของบริษัท BEAUTY กลับลดลงมาอยู่ที่ 21,000 ล้านบาทเท่านั้น คิดเป็นการลดลงถึง 66%
ถ้าเรามาดูอัตรากำไรสุทธิของบริษัท BEAUTY
ปี 2015 อัตรากำไรสุทธิ 22%
ปี 2016 อัตรากำไรสุทธิ 25%
ปี 2017 อัตรากำไรสุทธิ 33%
แปลว่า ทุกครั้งที่ขายสินค้า 100 บาท จะกลายเป็นกำไรสุทธิ 22 ถึง 33 บาท ซึ่งถือว่าอยู่ในระดับที่สูงเมื่อเทียบกับอุตสาหกรรมอื่น
แต่เมื่อมีอัตรากำไรดี ก็ทำให้มีหลายคนอยากเข้ามาในอุตสาหกรรมนี้
สิ่งที่เกิดขึ้นตามมาก็คือ การตัดราคาของสินค้าเพื่อแข่งขัน และลุกลามไปจนถึงลดต้นทุนด้วยการไม่ทำตามกฎเกณฑ์และข้อบังคับให้ถูกต้องตามกฎหมาย
เวลาผ่านไป.. เรื่องนี้ก็ได้เดินทางมาถึงจุดจบ
ในปี 2561 สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เริ่มมีการปราบปรามผลิตภัณฑ์สุขภาพ และเครื่องสำอางที่ผิดกฎหมายอย่างเข้มงวด ส่งผลให้ผู้บริโภคมีความระมัดระวังในการซื้อสินค้ามากขึ้น
ในขณะเดียวกันสินค้าที่ถูกส่งออกไปต่างประเทศ ก็โดนการตรวจสอบที่เข้มงวดขึ้น และทำให้ใช้เวลานานกว่าที่สินค้าจะถูกนำเข้าต่างประเทศ
เมื่อสินค้าถูกส่งออกไปได้ช้าลง ก็ตามมาด้วยยอดขายที่ลดลง
ผลประกอบการไตรมาสล่าสุด ไตรมาส 4 ปี 2561 ของบริษัท BEAUTY
รายได้ 657 ล้านบาท
ลดลง 40% จากไตรมาสเดียวกันของปีที่แล้ว
กำไรสุทธิ 124 ล้านบาท
ลดลง 70% จากไตรมาสเดียวกันของปีที่แล้ว
เราจะเห็นว่าทั้งรายได้และกำไรของบริษัทหดตัวลงอย่างรุนแรง
อย่างไรก็ตามนี่ไม่ใช่สาเหตุทั้งหมดของผลประกอบการที่หดตัวในครั้งนี้
อีกหนึ่งประเด็นสำคัญที่เรารู้กัน นั้นก็คือ นักท่องเที่ยวจีน..
ซึ่ง BEAUTY เองก็เป็นหนึ่งในบริษัทที่สินค้าได้รับความนิยมในหมู่คนจีน ซึ่งได้รับผลกระทบจากจำนวนนักท่องเที่ยวที่ลดลงในช่วงปลายปีที่แล้ว
พอเรื่องเป็นแบบนี้ หลังประกาศผลการดำเนินงาน
หุ้นของ BEAUTY ก็ตกลงกว่า 15% ภายในวันเดียว
หุ้น BEAUTY เคยทำราคาสูงสุดที่ 23.70 บาทเมื่อต้นปีที่แล้ว
แต่ตอนนี้หุ้น BEAUTY มีราคาอยู่ที่ 6.95 บาท ลดลงมากถึง 70%
ปิดท้ายด้วยข้อมูลที่น่าสนใจ
หลายคนคงอยากรู้ว่าเครื่องสำอางที่ขายกันมีต้นทุนสินค้าเท่าไร
ในปี 2561
รายได้ของ BEAUTY คือ 3,466.61 ล้านบาท
ต้นทุนขายจะเป็น 1,201.65 ล้านบาท
หรือ คิดเป็น 34.7% นั่นเอง..
———————-
โดย ลงทุนแมน
อ่านเรื่องหลากหลาย จากผู้เขียนเก่งๆ หลายท่าน ในแอป blockdit ได้ที่ blockdit.com