SCC ประกาศงบ 28 ต.ค. นี้ กำไรส่อหดตัว 3 ปีซ้อน

กระทู้สนทนา
นักวิเคราะห์คาดกำไร Q3/62และทั้งปีส่อแววหดตัวต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 เมื่อเทียบ YoY พร้อมหั่นประมาณการกำไร-ราคาเป้าหมายลงอีกรอบ เหลือต่ำสุด 340 บาท 

    
ราคาหุ้น บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) หรือ SCC เช้านี้ทำสถิติต่ำสุดในรอบ 7 ปีที่ 351 บาท โดยราคาหุ้นที่ดิ่งลงนี้ยังมีน้ำหนักกดดัชนี SETมากสุดเป็นอันดับ 2 และปิดการซื้อขายภาคเช้าที่ 355 บาท ลดลง 10 บาท หรือ 2.74% มูลค่าการซื้อขาย 1.57 พันล้านบาท 
 
SCC บิ๊กแคปกลุ่มวัสดุก่อสร้าง เป็นโฮลดิ้งคอมพานีที่ลงทุนใน 3 ธุรกิจหลัก ได้แก่ ธุรกิจซีเมนต์และผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง ธุรกิจเคมีคอลส์ และธุรกิจแพคเกจจิ้ง โดย SCC มีมาร์เก็ตแคปราว 4.38 แสนล้านบาท ใหญ่สุดอันดับ 1 ในกลุ่ม 
 
กำไรของ SCC เริ่มย่อตัวลง 2 ปีติดในปี 2559-2561 จาก 5.6 หมื่นล้านบาท ,5.5 หมื่นล้านบาท และ 4.4 หมื่นล้านบาท ตามลำดับ โดยเฉพาะปี 2561 ที่กำไรหดตัวถึง 18.70% มากกว่าปี 2560 ที่หดตัวเพียง 1.86% YoY เนื่องจากผลการดำเนินงานของธุรกิจเคมิคอลส์ลดลง แต่ธุรกิจแพคเกจจิ้งมีผลงานดีขึ้น 
 
 
*เช้าวันนี้หุ้น SCC ลงแรงต่ำสุดในรอบ 7 ปีมาอยู่ที่ 351 บาท นับจากราคาต่ำสุดครั้งก่อนที่ 346 บาทในเดือน ต.ค.ปี 2555 คาดตลาดกังวลงบไตรมาส 3/62 ที่จะหดตัวลงตามการอ่อนตัวของธุรกิจปิโตรเคมี ธุรกิจซีเมนต์และผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง จึงหั่นประมาณการ โดย SCC จะประกาศงบรายไตรมาสในวันจันทร์ที่ 28 ต.ค.นี้
 
*ทั้งนี้ หากพิจารณากำไรไตรมาส 3 ของ SCC จะพบว่าปรับตัวลดลง 2 ปีซ้อนเมื่อเทียบ YoYจากที่เคยทำได้ 1.40 หมื่นล้านบาทในปี 2559 ลดเหลือ 1.18 หมื่นล้านบาทในปี 2560 และ 9.47 พันล้านบาทในปี 2561 ขณะทีไตรมาส 3/62 ตลาดคาดการณ์กำไรจะลดลงในช่วง 19-27% YoY  
 
บล.กรุงศรี คาดกำไร Q3/62อยู่ที่ราว 7,000-7,500 ล้านบาท ทรงตัว QoQแต่ลดลงประมาณ 25% YoY จากการหดตัวของธุรกิจปิโตรฯ ซึ่งได้รับผลกระทบจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก  
 
บล.ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี อ้าง Bloomberg consensusคาดกำไร SCC ไว้ที่ 7,686 ล้านบาทลดลง 18.9% YoY และเพิ่มขึ้น 9.1% QoQ ราคาเป้าหมาย 430 บาท   
 
บล.เคทีบี (ประเทศไทย) แนะนำ "ขาย" พร้อมหั่นราคาเป้าหมายเหลือ 340 บาทจากเดิม 450 บาท (อิง SOTP) คาดกำไรสุทธิ Q3/62อยู่ที่ 6,948 ล้านบาท -27% YoY และ -1% QoQ จาก 1) ธุรกิจปิโตร เคมีที่ยังอ่อนแออย่างต่อเนื่อง 2) ธุรกิจซีเมนต์และผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง ที่ยังอ่อนตัวจากกลุ่มผู้ประกอบการอสังหาฯ ที่ชะลอการเปิดโครง 3) ส่วนแบ่งรายได้ที่ลดลง จึงได้ปรับลดประมาณการกำไรสุทธิปี 2562 ลดลง 16% เหลือ 32,931 ล้านบาท และปี 2020 ลง 24% เหลือ 33,256 ล้านบาท  
 
บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) ปรับประมาณการกำไรสุทธิปี 2562-2563 ลง 16%-20% ตามลำดับ บนสมมุติฐาน 1) ส่วนต่างราคาปิโตรเคมี HDPE-Naphtha ลง 3-22% เป็น 515-455 ดอลลาร์/ตัน ตามลำดับ 2) อัตราการเติบโตของยอดขายธุรกิจปูนซีเมนต์-วัสดุก่อสร้างลง 150-200 bpsเหลือโต 1-1.5% ส่งผลให้คาดการณ์กำไรสุทธิปี 2562-2563 อยู่ที่ 3.5 หมื่นล้านบาท (-22% YoY)และ 3.6 หมื่นล้านบาท (+2% YoY)ตามลำดับ และปรับราคาเหมาะสมใหม่เป็น 370 บาท
 
อย่างไรก็ตาม ด้วยทิศทางกำไรปี 2563 ที่ยังไม่มีสัญญาณฟื้นตัวที่ชัดเจน มองว่าหุ้นยังขาดความน่าสนใจการเข้าลงทุน
 
*ภาพรวมของ SCC ในปีนี้กำไรมีแนวโน้มหดตัวต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 ส่วนปีหน้ายังต้องลุ้นการฟื้นตัว แต่ด้วยสถานการณ์เศรษฐกิจที่ผันผวน ยอดขายปูนยังคงอิงกับภาวะเศรษฐกิจ ที่สำคัญคือธุรกิจปิโตรเคมีที่มีสัดส่วนกำไรมากที่สุดยังคงอยู่ในแนวโน้มขาลง โอกาสที่เราจะเห็น SCC มีกำไรโตเป็นเลข 2 หลักเหมือนในอดีตคงไม่ง่ายนัก ราคาหุ้นที่ร่วงลงต่ำสุดในรอบ 7 ปี จะเป็นจุดต่ำสุดหรือยัง จึงยากที่จะคาดการณ์ได้ 

ที่มา https://www.efinancethai.com/HotStocks/HotStockMain.aspx?id=RklYTkhZaUptcUk9&security=SCC

—————————————————————-

หุ้นใหญ่เสียด้วย 

ปล.พวกผลตอบแทน สวัสดิการพนักงานยังดีเหมือนแต่ก่อนปะครับ สมัยผม คนที่เก่งๆ (ส่วนใหญ่ก็ ฬ)ใครได้เข้าทำงานที่นี้ถือว่าเท่ห์มากสวัสดิการดีเยี่ยม

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่