.. ขออนุญาติยกบทความของครูบาอาจารย์ท่านหนึ่งมาทั้งหมด ...
การที่เทวดามาเกี่ยวข้องกับมนุษย์นั้นก็ใช่ว่าจะต้องลงทรงเสมอไป ..
เพราะนั่นมิใช่ภารกิจที่แท้จริงของท่าน !
การมาร่วมสร้างบารมีของท่านมีหลากหลายวิธี และท่านสามารถเข้าสนดลใจผู้คนที่มีวาสนาร่วมมากมาย ผู้ปฏิบัติสมาธิภาวนาที่สื่อกับเทวดาและได้รับการชี้แนะให้ประกอบบุญกุศลก็มีอยู่มากมาย บางครั้งก็มาเข้าฝันบอก แรกๆอาจไม่เชื่อหรือไม่แน่ใจ .. แต่เมื่อเกิดจริงขึ้นบ่อยครั้ง สุดท้ายก็ต้องเชื่อและปฏิบัติตาม หรือบางรายท่านมาข้องเกี่ยวบังคับในระยะแรกๆ ท่านก็สอนสั่งให้ประพฤติปฏิบัติ สอนให้เรียนรู้จนใช้การได้ท่านก็จะปล่อยให้ทำหน้าที่ไปตามสติปัญญาของตนไป ไม่ต่างอะไรกับเราไปเรียนวิชาจนจบแล้วออกมาทำงานได้นั่นแหละ !
การทำงานของบุคคลหลายท่านหลายคนล้วนมีเหล่าโอปปาติกะคอยเกื้อกูลส่งเสริมอยู่เบื้องหลังมากมายก่ายกอง และไม่เห็นจะต้องลงทรงกันเสียที่ไหน แม้แต่พระสงฆ์องค์เจ้าหลายรูปก็ได้เทวดาช่วยสงเคราะห์ชักนำ มาทั้งในนิมิตฝันและนิมิตจากปฎิบัติภาวนา เวลาทำเครื่องรางของขลังก็อัญเชิญเทวดาและครูบาอาจารย์ในโลกทิพย์มาช่วยอย่างที่เรารู้ๆกัน ..
ปัญหาจึงไม่ได้อยู่ที่เทวดามีหรือไม่ เกี่ยวข้องกับมนุษย์หรือเปล่า แต่อยู่ที่ความอยาก ความบ้า ความหลง ของคนมากกว่าอย่างอื่น
อยากบอกว่า แม้เทวดาก็ยังบอกว่า..
" ทำตัวเองให้ยกระดับเป็นเทวดาด้วยเทวธรรมดีกว่าไหม มัวนั่งรอให้เทวดามาเข้าทรงเพื่ออะไร
เอาศีล สมาธิ ปัญญามาอบรมตนเองให้เหนือเทวดาก็ยังได้..ปัญหาจึงอยู่ที่จะทำหรือไม่เท่านั้น "
พวกที่โดนบังคับจริงๆน่ะ .. ล้วนแต่มีกรรมทั้งนั้น และเบื่อหน่ายกับการเป็นข้ารับใช้จนน้ำตาเรี่ยรายกันมาทั้งชีวิต และวันที่หมดวาระกรรม จบสิ้นการบังคับ นั่นแหละคือการพบความสุขในอิสรภาพอย่างแท้จริง .. แต่มีคนบางจำพวกพยายามวิ่งเข้าหาอย่างรู้เท่าไม่ถึงการณ์ คิดว่าเท่คิดว่าดีซะงั้น พ่อแม่คนไหนก็อยากให้ลูกเติบโตและพึ่งพาตัวเองได้ ..
จะอยากให้ลูกถูกด่าประนามให้อายสังคมกระนั้นหรือ ?
ความรู้ท่านมีเยอะแยะ ความสามารถท่านก็มโหฬาร .. มีวิธีสอนมีวิธีนำพาผู้คนสร้างบารมีมากมายจะมาทำเพี้ยนๆให้คนด่าทำไม
เทวดาก็จะต่างกันกับพ่อแม่ตรงไหน .. ดีก็ดีที่ปัญญาท่าน .. ที่ต้องสอนลูกให้ฉลาดคิด ฉลาดทำ .. ใช่จะมานั่งทำอะไรให้คนด่าทั้งร่างทั้งองค์กันทั้งเมืองแบบที่เห็น .. ?
มีแต่พวกเสียจริตเท่านั้นแหละที่ทำอย่างนั้น !
#ที่พูดเพราะสงสารเทวดาน่ะ
กระแส "ร่างทรง" กำลังมาแรง .. วันนี้ขอพูดแทน เทพ เทวา
การที่เทวดามาเกี่ยวข้องกับมนุษย์นั้นก็ใช่ว่าจะต้องลงทรงเสมอไป .. เพราะนั่นมิใช่ภารกิจที่แท้จริงของท่าน !
การมาร่วมสร้างบารมีของท่านมีหลากหลายวิธี และท่านสามารถเข้าสนดลใจผู้คนที่มีวาสนาร่วมมากมาย ผู้ปฏิบัติสมาธิภาวนาที่สื่อกับเทวดาและได้รับการชี้แนะให้ประกอบบุญกุศลก็มีอยู่มากมาย บางครั้งก็มาเข้าฝันบอก แรกๆอาจไม่เชื่อหรือไม่แน่ใจ .. แต่เมื่อเกิดจริงขึ้นบ่อยครั้ง สุดท้ายก็ต้องเชื่อและปฏิบัติตาม หรือบางรายท่านมาข้องเกี่ยวบังคับในระยะแรกๆ ท่านก็สอนสั่งให้ประพฤติปฏิบัติ สอนให้เรียนรู้จนใช้การได้ท่านก็จะปล่อยให้ทำหน้าที่ไปตามสติปัญญาของตนไป ไม่ต่างอะไรกับเราไปเรียนวิชาจนจบแล้วออกมาทำงานได้นั่นแหละ !
การทำงานของบุคคลหลายท่านหลายคนล้วนมีเหล่าโอปปาติกะคอยเกื้อกูลส่งเสริมอยู่เบื้องหลังมากมายก่ายกอง และไม่เห็นจะต้องลงทรงกันเสียที่ไหน แม้แต่พระสงฆ์องค์เจ้าหลายรูปก็ได้เทวดาช่วยสงเคราะห์ชักนำ มาทั้งในนิมิตฝันและนิมิตจากปฎิบัติภาวนา เวลาทำเครื่องรางของขลังก็อัญเชิญเทวดาและครูบาอาจารย์ในโลกทิพย์มาช่วยอย่างที่เรารู้ๆกัน ..
ปัญหาจึงไม่ได้อยู่ที่เทวดามีหรือไม่ เกี่ยวข้องกับมนุษย์หรือเปล่า แต่อยู่ที่ความอยาก ความบ้า ความหลง ของคนมากกว่าอย่างอื่น
อยากบอกว่า แม้เทวดาก็ยังบอกว่า..
เอาศีล สมาธิ ปัญญามาอบรมตนเองให้เหนือเทวดาก็ยังได้..ปัญหาจึงอยู่ที่จะทำหรือไม่เท่านั้น "
พวกที่โดนบังคับจริงๆน่ะ .. ล้วนแต่มีกรรมทั้งนั้น และเบื่อหน่ายกับการเป็นข้ารับใช้จนน้ำตาเรี่ยรายกันมาทั้งชีวิต และวันที่หมดวาระกรรม จบสิ้นการบังคับ นั่นแหละคือการพบความสุขในอิสรภาพอย่างแท้จริง .. แต่มีคนบางจำพวกพยายามวิ่งเข้าหาอย่างรู้เท่าไม่ถึงการณ์ คิดว่าเท่คิดว่าดีซะงั้น พ่อแม่คนไหนก็อยากให้ลูกเติบโตและพึ่งพาตัวเองได้ .. จะอยากให้ลูกถูกด่าประนามให้อายสังคมกระนั้นหรือ ?
ความรู้ท่านมีเยอะแยะ ความสามารถท่านก็มโหฬาร .. มีวิธีสอนมีวิธีนำพาผู้คนสร้างบารมีมากมายจะมาทำเพี้ยนๆให้คนด่าทำไม
เทวดาก็จะต่างกันกับพ่อแม่ตรงไหน .. ดีก็ดีที่ปัญญาท่าน .. ที่ต้องสอนลูกให้ฉลาดคิด ฉลาดทำ .. ใช่จะมานั่งทำอะไรให้คนด่าทั้งร่างทั้งองค์กันทั้งเมืองแบบที่เห็น .. ?
มีแต่พวกเสียจริตเท่านั้นแหละที่ทำอย่างนั้น !
#ที่พูดเพราะสงสารเทวดาน่ะ